วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รูปภาพการท่องเที่ยวภาคใต้

การท่องเที่ยวภาคใต้สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้



หาดทรายแก้ว
- หาดทรายแก้ว เป็นหาดทรายที่สวยงามมากแห่งหนึ่งด้วยทิวทัศน์ชายทะเลที่มีหาดทรายยาวเกือบ 3 กิโลเมตรทรายเม็ดละอียดขาวเด่น ชายหาดกว้างเหมาะที่จะเล่นน้ำ ร่มรื่นด้วยแนวสนทะเลหลังหาดเป็นลำคลองเล็กๆทอดขนานไปกับทะเลถัดไปเป็นรีสอร์ทหรูซึ่งจัดภูมิทัศน์ได้สวยงามกลมกลืนกับธรรมชาตินับเป็นหาดทรายชายทะเลที่เพียบพร้อมสำหรับการพักผ่อนชมความสวยงามของธรรมชาติ หรือค้างคืนในบรรยากาศริมทะเลจะเป็นค่ำคืนที่แสนสุขคืนหนึ่งในชีวิตทีเดียว



หาดมหาราช
- หาดมหาราช หาดทรายชายทะเลที่สงบ ร่มรื่น และมีความเป็นส่วนตัวมาก หาดทรายขาวน้ำไม่ลึกมาก สามารถเล่นน้ำได้ดี ริมชายหาดร่มรื่นด้วยทิวสน มีการจัดแต่งเป็นที่พักผ่อน ที่ชมทิวทัศน์ ให้ความสะดวกในการพักผ่อนที่กลมกลืนกับธรรมชาติพอสมควร ด้านหลังแนวหาดเป็นสวนหย่อมและเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ประทับยืนหันหน้าออกสู่ทะเล มีที่พัก ร้านอาหาร ให้บริการนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนนอนฟังเสียงคลื่นลม ชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสุขใจ



อุทยานนกน้ำคูขุด
- อุทยานนกน้ำคูขุด อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา ท้องที่ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ เป็นแหล่งพักพิง ถิ่นอาศัยของบรรดานกน้ำอพยพและประจำถิ่นที่สำคัญ จากการสำรวจพบว่ามีนกอาศัยอยู่ถึง 219 ชนิด ซึ่งจะพบมากในช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคมของทุกปี บริเวณที่ทำการฯมีเรือบริการนำชมนกตามแหล่งที่มีนกชุกชุมเช่นที่เกาะโคบและ ท่าหิน นอกจากเที่ยวชมนกน้ำแล้ว ทิวทัศน์โดยรอบก็สวยงามโดยเฉพาะในยามเย็นภาพอาทิตย์อัศดงสวยงามมากเมื่อม องจากที่นี้ ภายในบริเวณที่ทำการมีร้านอาหารและบ้านพักบรรยากาศดีให้บริการนักท่อง เที่ยวด้วย



หาดใหญ่
- หาดใหญ่ เมืองศูนย์กลางการค้าและการลงทุนของภาคใต้ตอนล่างเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และสำนักงานภาคของกิจการค้าและบริการมากมายทั้งด้านการเงิน การสื่อสาร การขนส่ง การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม หาดใหญ่มีพื้นที่บางส่วนติดต่อกับประเทศมาเลเซียจึงเป็นเมืองค้าชายแดนที่สำคัญเป็นสวรรค์ของนักช้อป มีตลาดสันติสุขเป็นแหล่งสินค้าไอที เครื่องใช้ไฟฟ้ากล้องถ่ายรูป นาฬิกา จำหน่ายในราคาถูกมีตลาดกิมหยงเป็นแหล่งของกินของใช้ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศย่านการค้าของหาดใหญ่จึงคึกคักอยู่ตลอดเวลา จากตัวเมืองหาดใหญ่จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่เด่นอยู่บนเขาคอหงษ์ เมื่อขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปแล้วยังจะได้ชมทิวทัศน์ของเมืองหาดใหญ่ด้วยถัดลงมาเล็กน้อยเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมขาวเด่นเป็นที่สักการะของชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่เชิงเขาเป็นสวนสาธารณะ ที่มีภูมิทัศน์สวยงามตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ เป็นที่พักผ่อนของชาวหาดใหญ่และอำเภอใกล้เคียง




หาดเก้าเส้ง
- หาดเก้าเส้ง ทางตอนใต้ของชายทะเลเมืองสงขลาเป็นหาดทรายที่ต่อเนื่องมาจากหาดชลาทัศน์ ถึงโค้งอ่าวเล็กๆที่มีหมู่บ้านชาวประมงไปสุดปลายหาดที่โขดหินสูงคล้ายภูเขา สีของเม็ดทรายที่เก้าเส้งไม่ขาวมากนัก แต่ภาพรวมของหาดนี้สร้างความโดดเด่นไม่น้อยกว่าที่อื่น ทั้งจากธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวประมงของที่นี่ที่นอกจากยืนหยัดในอาชีพชาว ประมงท้องถิ่นท่ามกลางชุมชนเมือง และยังเป็นแหล่งสร้างเรือกอและ เรือประมงพื้นบ้านที่มีลวดลายสีสันสวยงาม



หาดชลาทัศน์
- หาดชลาทัศน์ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องมาจากหาดสมิหลาโดยมีแหลมสมิหลาเป็นจุดแบ่ง จึงมีความคล้ายคลึงกันและมีบรรยากาศร่วมกันกับสมิหลา หาดชลาทัศน์มีหาดทรายที่ขาวสะอาด เล่นน้ำได้ตลอดแนว ชายหาดที่เป็นแนวตรงและร่มรื่นด้วยทิวสนทะเล มีทางเดินเท้าและทางจักรยาน จึงเป็นที่ออกกำลังกายที่มีผู้นิยมมาก จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่วงเวียนทางตอนเหนือของถนนเลียบหาดมีปฏิมากรรมรูปคน นั่งอ่านหนังสืออยู่กลางวงเวียน ความเพียบพร้อมของสถานที่ ทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงปรากฎภาพของการทำกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการพักผ่อน เล่นน้ำ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา มีพร้อมที่หาดชลาทัศน์แห่งนี้



แหลมสมิหลา
- หาดสมิหลา ชายทะเลเมืองสงขลาซึ่งเปรียบเสมือนห้องรับแขกธรรมชาติที่ต้อนรับผู้มาเยือนเรื่อยมาจนปัจจุบันหาดสมิหลาอยู่ทางตอนเหนือของชายทะเลเมืองสงขลาถัดจากแหลมสนอ่อนทอดยาวไปจรดแหลมสมิหลาที่อยู่ท้ายหาดทางด้านใต้ เป็นชายหาดสวยงามน่าเดินเล่นทรายขาวละเอียด น้ำไม่ลึกมาก เล่นน้ำได้ดี ตลอดแนวจัดเป็นสถานที่พักผ่อนทางวิ่งออกกำลังกาย จุดชมวิวที่มีทิวทัศน์ของเกาะหนู เกาะแมวเป็นฉากหลังมีปฏิมากรรมรูปนางเงือกนั่งอยู่บนโขดหิน อันเป็นสัญลักษณ์ของสมิหลาพร้อมด้วยรูปปั้นแมวและหนูที่บอกเล่าตำนานของเกาะหนูเกาะแมวเป็นที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวตั้งใจมาเยือนเมื่อมาถึงจังหวัดสงขลา



น้ำตกฉัตรวาริน
- น้ำตกฉัตรวาริน อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดีไปประมาณ 6 กิโลเมตรครับ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของปาล์มบังสูรย์ซึ่งเป็นปาล์มที่สวยงาม และมีอยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยครับ



น้ำตกปาโจ
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกปาโจ
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ตั้งอยู่บริเวณบ้านปาโจ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าบูโดที่มีน้ำไหลตลอดปี มีน้ำตก 4 ชั้น ชั้นแรกมีขนาดใหญ่และสวยที่สุด สายน้ำไหลตกจากลานผาหินกว้าง สูงประมาณ 60 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ ในช่วงฤดูฝนน้ำตกปาโจจะยิ่งงดงามตระการตาด้วยปริมาณน้ำมหาศาล สภาพป่าบริเวณนี้เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น กะลอ หลุมพอ ฯลฯ ตามพื้นป่ามีหวาย ปาล์ม หลากหลายชนิด สัตว์ที่พบเห็นง่ายได้แก่ ค่างแว่นถิ่นใต้ นกกาฝากท้องสีส้ม เป็นต้น



น้ำตกโตนงาช้าง
- น้ำตกโตนงาช้างเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของภาคใต้และของจังหวัดสงขลา น้ำตกโตนงาช้างมี 7 ชั้นชั้นที่มีชื่อเสียงมี่สุดคือโตนงาช้างซึ่งเป็นชั้นที่ 3 ของน้ำตกซึ่งสายน้ำตกแยกออกเป็นสองสายคล้ายงาช้างน้ำตกโตนงาช้างนี้อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างมีการจัดสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้บริการนักท่องเที่ยวมีทางเดินศึกษาธรรมชาติและเที่ยวชมน้ำตกชั้นต่างๆหากจะชมน้ำตกให้ครบทุกชั้นต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้



น้ำตกห้วยหลวง
- น้ำตกห้วยหลวง (น้ำตกบักเตว) ตั้งอยู่กลางป่าสมบูรณ์ไหลตกจากหน้าผาสูง 45 เมตร ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และงดงามที่สุดของภาคอีสานตอนล่าง ไหลตกจากหน้าผาสูงชัน ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ และลานหินหาดทราย ด้านล่างมีบันไดทางลงจากศาลาชมทิวทัศน์สู่น้ำตกด้านล่าง นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกทลายแห่ง เช่น น้ำตกเกิ้งแม่ฟอง น้ำตกถ้ำบอน น้ำตกจุ๋มจิ๋ม น้ำตกห้วยทรายใหญ่ (แก่งอีเขียว) เป็นต้น



น้ำตกเจ็ดสี
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกเจ็ดสี
- ตั้งอยู่ในเขต วนอุทยานภูผาวัว น้ำตกเจ็ดสี อยู่บริเวณลำห้วยช้าง ท้องที่บ้านขุมขี้ยาง มีโขดหินน้อยใหญ่วางเรียงตัวสลับทับซ้อนกันตามแนวทางไหลของน้ำตามลำห้วย มีน้ำไหลเกือบตลอดปี รอบๆน้ำตกเป็นป่าเบญจพรรณ



น้ำตกเกริงกระเวีย
- น้ำตกเกริงกระเวียน ซึ่งอยู่เลยทองผาภูมิ ไปทางสังขละบุรี ๓๒ กิโลเมตร และน้ำตกไดช่องถ่อง ซึ่งต้องเดินทาง จากน้ำตก เกริงกระเวียน ไปอีก ๒ กิโลเมตร แล้วแยกซ้าย ไปน้ำตกอีก ๖ กิโลเมตร



น้ำตกลำปลอก
- น้ำตกลำปลอก ใช้เส้นทางเดียวกันกับน้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ ถึง กิโลเมตรที่ 30 มีทางแยกเข้าน้ำตก เป็นที่ตั้งของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองลำปลอก ใช้สำหรับหมู่บ้านในละแวกนั้นครับ



น้ำตกตาดเลาะ
- น้ำตกตาดเลาะ : ตั้งอยู่ห่างตัวเมืองสาละวันมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 28 กิโลเมตร ตาดเลาะเป็นน้ำตกที่เกิดจากสายน้ำเซเซไหลลัดเลาะผ่านหมู่บ้านลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ชาวบ้านจึงเรียกว่า ตาดเลาะ เป็นน้ำตกที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในลาว และจำหน่ายกระแสไฟฟ้ามายังเมืองไทย ตัวน้ำตกสูง 10 เมตร จุดเด่นอยู่ที่สายน้ำที่ไหลผ่านชั้นของตัวน้ำตกลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ สามารถเล่นน้ำได้มีจุดนั่งชมวิวทิวทัศน์ และสามารถเดินเข้าไปชมน้ำตกจาดรังซึ่งอยู่ด้านบนของน้ำตกตาดเลาะได้ บริเวณนี้มีที่พักหลายแห่งไว้ให้บริการจะเปิดในรูปแบบของเรือนพักที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย เช่น Sayse Tad Lo Guesthouse&Resort เป็นรีสอร์ทที่สวยมาก โทร. (856 34) 211886, 020 564 2489




น้ำตกลานเลี้ยงม้า
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกลานเลี้ยงม้า
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติลานสาง อยู่ตอนต้นของลำห้วยลานสางถัดจากน้ำตกผาลาดประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยกลางเว้าเป็นช่องว่างประมาณ 6 เมตร กระแสน้ำที่ไหลมาตามลำห้วยลานสาง เมื่อไหลถึงเนินเตี้ยๆ น้ำจะไหลมาตามช่องหินซึ่งแคบเล็กลง น้ำจะถูกบีบจนมีระดับน้ำสูงขึ้นพุ่งผ่านยอดน้ำตก ด้วยเสียงของน้ำที่ไหลจากที่สูงตกลงสู่แอ่งน้ำโดยไม่กระทบกับก้อนหิน จนเกิดเป็นเสียงดังต่างจากน้ำตกผาลาด รอบๆ บริเวณน้ำตกดูมืดครึ้มไปด้วยเรือนยอดของพรรณไม้นานาชนิดที่ขึ้นอยู่ตลอดแนวน้ำตก เหนือตัวน้ำตกมีสะพานไม้เพื่อเป็นทางเชื่อมไปยังลานหินอีกฟากหนึ่ง และเป็นเส้นทางที่นำไปสู่เส้นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติจากน้ำตกลานเลี้ยงม้าไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
เมื่อครั้งในอดีตมีตำนานเล่าว่าน้ำตกแห่งนี้เคยเป็นที่หยุดพักไพร่พลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งเสด็จยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ครั้งที่สอง จึงก่อเกิดเป็นตำนานความเป็นมาของลานสางจวบจนปัจจุบัน



น้ำตกกรุงชิง
- น้ำตกกรุงชิง ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง กิ่งอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาว จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ที่มาของชื่อ กรุงชิง มาจากพรรณไม้ชนิดชนิดหนึ่งในตระกูลปาล์ม ชื่อว่า "ต้นชิง" ที่มีอยู่มากมายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง
จากที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้า เพื่อเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตก โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ (ไป-กลับ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) เส้นทางบางช่วงเป็นทางลาดชัน แต่ก็ไม่มากนัก สามารถเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้อย่างสะดวก
น้ำตกกรุงชิง ประกอบไปด้วยน้ำตก 6 ชั้น มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป อันได้แก่ หนามมัดแพ หนานฝนแสนห่า หนานปลิว หนานโจร หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน ชั้นที่มีความสวยงามมากที่สุดคือ หนานฝนแสนห่า มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร กระแสนน้ำไหลผ่านทิ้งตัวลงมาสู่เบื้องล่าง ซึ่งเป็นแอ่งน้ำตรงจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้



น้ำตกหลี่ผี
- น้ำตกหลี่ผี หรือ ตาดสัมพะมิตร ตั้งอยู่ที่ดอนคอน เป็นน้ำตกหลี่ผี ที่ไหลผ่าน กลางแม่น้ำโขง ไหลรวมกันมา จนรวมกันเป็นแรงแม่น้ำกระทบ เกาะ หรือที่เรียกว่า มหานที สี่พันดอน แก่งหินต่าง ๆ อันเกิดจากพื้นของแม่น้ำโขง ได้เกิดการยุบตัวลง เป็นหลุม และเกิดผาสูง ประมาณ 15 ถึง 20 เมตร ทำให้สายน้ำที่ไหลตกลงมาเป็น กระแสน้ำ ที่เชี่ยวกราก เปรียบเสมือนดั่ง กังหันแห่งสายน้ำ ที่มีแรงกระทบของสายน้ำ อย่างแรง คำว่า หลี่ผี แปลว่า หลี่ เป็นเครื่องมือจับปลาของชาวลาว และผี ก็ คือ ศพ ของคนที่ได้ตกน้ำตาย จากแม่น้ำโขง จะมาตก และติด กับ หลี่ ของ ชาวบ้านที่ หาปลาแถว ๆ นี้ รวมกัน เป็น หลี่ผี นับตั้งแต่นั้นมา น้ำตกแห่งนี้ จึงมีนาม ว่า น้ำตกหลี่ผี



น้ำตกเพ็ญพบใหม่
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกเพ็ญพบใหม่
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกผ่านผาหินรูปโค้ง ในหน้าหนาว ใบเมเปิ้ลที่อยู่บริเวณริมน้ำตกจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำยามแดดสาดส่องผ่านลงมาจะเป็นสีแดงจัดตัดกับสีเขียวขจีของตะไคร่น้ำตามโขดหิน ลำธารวังกวางเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ น้ำตกโผนพบ ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมป์เปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทยในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรก เมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาว ก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ



น้ำตกหวงกั่วสู้
- น้ำตกหวงกั่วสู้ นับเป็นดินแดนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน และเป็นน้ำตกแห่งเดียวในโลกที่เราสามารถยืนอยู่ข้างหลังน้ำตกและ ยื่นมือไป สัมผัสกับน้ำตกได้ น้ำตกหวงกั่วสู้ตั้งอยู่ในเขตทัศนียภาพน้ำตกหวงกั่วสู้ มีน้ำตก ต่างๆทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก18แห่งตั้งกระจัดกระจายอยู่ใน บริเวณนี้ แต่น้ำตกหวงกั่วสู้มีขนาดใหญ่ที่สุด ระดับน้ำของน้ำตกหวงกั่วสู้มีความแตกต่างกันสูงถึง74เมตร เท่ากับความสูงของตึกกว่า20ชั้น น้ำไหลเชี่ยวกรากลงสู่สระน้ำซีหนิวที่ อยู่ใต้หน้าผา เหมือนกับพลิกคว่ำแม่น้ำและทะเล เสียงน้ำกระทบกับก้อนหินดังกึกก้อง บริเวณรอบข้างน้ำตกมี เมฆหมอกที่มีแสงสีเรืองรองลอยอยู่ทั้งปี แม้ยืนอยู่ในบริเวณที่ห่าง ไกลน้ำตกถึง5-60เมตร เสื้อผ้าก็ยังจะถูกน้ำสาดจนเปียกได้ แม้น้ำตกหวงกั่วสู้จะมีปริมาณน้ำและขนาดน้อยกว่าหรือเล็กกว่า น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของโลกก็ตาม แต่น้ำตกหวง กั่วสู้มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในถ้ำ เพื่อชมน้ำตกจากด้านหลังได้ ถ้ำนี้พอดีอยู่ระดับกลางๆของน้ำตก มีความยาวทั้งหมดกว่า100เมตรและคู่ขนานไปกับน้ำตก
ภายในถ้ำมี ช่องหน้าต่าง6ช่อง มองออกไปข้างนอก ไม่เพียงแต่มองเห็นน้ำตกที่ไหลเชี่ยวลงสู่พื้นที่ข้างล่างอย่างใกล้ชิด จากด้านหลังของน้ำตกเท่านั้น ยังเอามือไปจับน้ำตกได้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่หาดูได้ยากในโลก




น้ำตกสุนันทา
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกสุนันทา
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขานัน เป็นน้ำตกที่มีหลายชั้นซึ่งสวยงามมาก เกิดจากคลองปากเจา มี 3 ชั้น น้ำตกชั้นที่ 1 เป็นชั้นที่สูงที่สุด มีความสูงประมาณ 70 เมตร และเป็นชั้นที่สวยงามมากที่สุด ตั้งอยู่ที่บ้านปากเจา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 บริเวณกิโลเมตรที่ 110 ประมาณ 15 กิโลเมตร



น้ำตกไพรวัลย์
- น้ำตกไพรวัลย์ ตั้งอยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ตำบลคลองเฉลิม เส้นทางเข้าใช้เส้นทางจากบ้านคลองหมวยไปตามถนนตำบลลำสินธุ์-บ้านกงหรา (ทางหลวงหมายเลข 4122) ประมาณ 20 กิโลเมตร มีทางเข้าน้ำตกอยู่ทางทิศตะวันตกเป็นทางลูกรังระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความงดงามตามธรรมชาติเงียบสงบ และร่มเย็น อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดบริเวณน้ำตกมีลานจอดรถและ ร้านอาหารไว้บริการด้วยครับ



ลานประตูผา
- ศาลเจ้าพ่อประตูผา
ตำนานเจ้าพอประตูผา เต่าตี่ปี้หนานฮู้มา เปิ้นเป็นทหารเอกของเจ้าหลวงลิ้นก่าน เจ้าหลวงเวียงหละกอน มีตำแหน่งตี่พญามือเหล็ก เปิ้นได้สร้างวีรกรรมสละจีวิตจ่วยเจ้าหลวงลิ้นก่านจากกองทัพพม่า เมื่อปี๋ใด พ.ศ. ใด จ๋ำบ่าได้แล้ว พม่าได้ยกกองทัพลุกเมืองหละปูนกาว่าเจียงแสนก่บ่าแน่ใจ๋ (แต่ปี้หนานกึดว่าน่าจะเป็นเมืองเจียงแสน เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิประเทศแล้ว เพราะตี่ประตูผาเป็นช่องเขาแคบจากเจียงฮายกับพะเยาเพื่อผ่านเข้าไปยังเวียงหละกอน)
- เรื่องนี้เป็นตำนานเวียงหละกอน (ลำปาง) ซึ่งในอดีตเป็นรัฐอิสระมีกษัตริย์ (เจ้าหลวง) ปกครอง ในรัชสมัยของเจ้าหลวงลิ้นก่าน พม่าต้องการขยายอิทธิพลเข้ามาในเขตแดนล้านนาแห่งนี้ จึงยกทัพมาเพื่อรุกรานเวียงหละกอน เจ้าหลวงลิ้นก่านได้ยกทัพออกไปต้านทัพพม่าที่ประตูผา เมื่อกองทัพทั้งสองปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างเสียรี้พลเป็นเป็นจำนวนมาก กองทัพเวียงหละกอนเสียที เจ้าหลวงลิ้นก่านถูกทหารพม่าล้อมไว้ตรงถ้ำประตูผา พญามือเหล็กได้พาทหารเข้าสู้รบเพื่อปกป้องเจ้าหลวงของตนจนสุดความสามารถ เพื่อประวิงเวลารอกองทัพหนุนจากเวียงหละกอนมาช่วย จนทหารในกองทัพถูกทหารพม่าฆ่าตายจนหมดสิ้น เหลือแต่พญามือเหล็กเพียงคนเดียว พญามือเหล็กยังคงยืนถืออาวุธขวางปากถ้ำต่อสู้กับทหารพม่าเป็นสามารถตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น สามารถฆ่าทหารพม่าตายลงเป็นจำนวนมาก จนทหารพม่าไม่สามารถผ่านเข้าไปในถ้ำที่ซ่อนของพระเจ้าลิ้นก่านได้แม้แต่คนเดียว
- ในที่สุดพญามือเหล็กได้เหนื่อยเจียนจะขาดใจตาย ก่อนจะตายยังมีจิตสำนึกได้ว่าหากตนเองล้มลงเมื่อใดแล้ว ทหารพม่าที่เหลือจะต้องเข้าไปทำร้ายเจ้าหลวงของตนเป็นแน่แท้ จึงไม่ยอมล้มลงเด็ดขาด และต่อสู้กับทหารพม่าต่อไปจนตัวเองขาดใจตายทั้งที่ยังยืนถืออาวุธจังก้าอยู่อย่างนั้น ส่วนทหารพม่าที่เหลืออยู่ก็เข็ดขยาดไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อสู้ด้วย ได้แต่ล้อมเอาไว้จนกระทั่งกองทัพหนุนของเวียงหละกอนยกตามมาช่วย พม่าจึงได้ยอมถอยทัพหนีกลับไปเนื่องจากกำลังที่เหลืออยู่ไม่สามารถจะสู้รบได้ เมื่อพม่าเลิกทัพกลับไปแล้วเจ้าหลวงลิ้นก่านได้พบว่า พญามือเหล็กได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยที่ยังยืนถืออาวุธยืนจังก้าพิงผนังหน้าปากถ้ำไว้ ทำเวียงหละกอนรอดพ้นจากการรุกรานของพม่าได้ เจ้าหลวงลิ้นก่านได้สรรเสริญยกย่องวีรกรรมของพญามือเหล็ก โดยยกย่องให้เป็นเจ้าพ่อประตูผานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นี่คือวีรกรรมอันกล้าหาญของเจ้าพ่อประตูผา พญามือเหล็กทหารเอกของเจ้าหลวงลิ้นก่านแห่งเวียงหละกอน กระทรวงกลาโหมได้อัญเชิญนามมาตั้งเป็นค่ายรบพิเศษประตูผา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารตราบจนปัจจุบัน



ธารสายหมอก
- อุทยานแห่งชาติตาดหมอก ชื่อนี้หลายคนๆอาจจะไม่คุ้นเคยนัก แต่สำหรับพวกเราในครั้งนี้ นั้นคือจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะเดินทางออกไปค้นหาคำตอบ อุทยานแห่งชาติตาดหมอก อุทยานฯที่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเขาค้อ มากนัก แต่กับได้รับความนิยมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง เดิมทีพวกเราไม่เคยคาดฝันว่าก่อนในการเดินทางครั้งนี้ แต่หากด้วยความต้องการด้านความแปลกใหม่และหลีกหนีความวุ่นวาย จำเจจากสถานที่ ที่มีชื่อเสียงต่างๆ หลบตัวซ่อนกายลงใน สักที่ใดที่หนึ่ง ที่ซึ่งมีความหมายและเปี่ยมล้นไปด้วยความงดงาม เราเลือกช่วงเวลาเดินทาง ในช่วงปิดภาคเรียนสั้นๆ แม้จะเป็นระยะเวลาที่ไม่นานนัก แต่ก็ไม่วายที่จะทำให้เรารอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ ให้เวลานี้มาถึงโดยเร็ว ในความจริงแล้วที่นี่ นับว่าใหม่กับพวกเรามาก ทั้งข้อมูลพื้นที่และการเดินทาง เราจึงต้องพยายามหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะพอหาได้ ทั้งจาก internet และนิตยสารท่องเที่ยว
- และเมื่อวันเวลามาถึง เราออกเดินทางโดยมีกระบะ cab เป็นพาหนะในการเดินทาง ที่จะนำพาพวกเราทั้ง 7 ชีวิตไปสู่ ณ จุดหมายปลายทางอย่างสวัสดิภาพ เรามุ่งหน้าออกจาก จ.มหาสารคาม ตั้งแต่เวลาเช้าตรู่ เข้าสู่ จ.ขอนแก่น ไปตามทางหลวงหมายเลข12 ผ่าน อ.ชุมแพ อ.น้ำหนาว ถึงยังแยก อ.หล่มสัก เราตัดเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 21 เพื่อมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบูรณ์
- ขับวกไปวนมา (หลงทางบ้าง ตามประสามือใหม่) ไม่นานนักเราก็มาถึงยังทางขึ้นไปยังตัวอุทยานฯ กันจนได้ พร้อมระยะทางที่ยังคงเหลืออีก 19 กม. ที่ยังรอคอยให้เราไปค้นหา รถเริ่มพาเราไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ พร้อมกับภาพทิวทัศน์ที่ปรากฏ ณ สองข้างทาง ภาพไผ่และกล้วย จำนวณมากขึ้นเรียงรายยังบริเวณไหล่เขา สลับกับต้นไม้อีกนานาพันธุ์ บ่งบอกความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศในตัวตนได้อย่างชัดเจน กม.ที่7 จากทางขึ้นของอุทยานฯ เป็นจุดที่ชมทิวทัศน์ ตัวเมืองเพชรบูรณ์ได้อย่างงดงาม ยามเมื่อนัยน์ตามองผ่านทะลุสายหมอกลงไปยัง ทิวทัศน์ที่อยู่ ณ เบื้องล่าง
- เวลาประมาณบ่าย 4 โมงเย็น รถก็พาเรามาหยุดอยู่ ณ จุดบริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติตาดหมอก นับว่าเป็นช่วงเวลาในเดินทางที่นานพอสมควร เมื่อติดต่อขอกางเต้นท์และจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่รอช้าที่จะไปจัดการกับที่พัก เพื่อแข่งกันแสงสุดท้ายของวัน ที่ค่อนข้างเหลือน้อยเต็มที่ บรรยากาศบริเวณ ณ จุดพื้นที่กางเต้นท์ นับว่าสวยงามและได้บรรยากาศที่โดนใจดีทีเดียว ภาพลำธารใหลรินเอื่อยอยู่ไม่ไกลจากจุดกางเต้นท์มากนัก จนสามารถได้ยินเสียงกระแสน้ำได้อย่างชัดเจน และม่านเขาที่ตั้งตระหง่านแลดูเป็นแฉกหลัง จึงอดใจไม่ได้ที่จะขอเก็บภาพความงดงามนี้ ผ่านเสียงชัตเตอร์บันทึกลงในห่วงแห่งความทรงจำเสียหน่อย
- ค่ำคืนนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบายดีที่เดียว เสียงกระแสน้ำในลำธารยังคงได้ยินชัดเจนมากขึ้น เมื่อความมืดเคลือบคลานเข้ามาปกคลุม สายหมอกเริ่มจับตัวกันหนามากขึ้น เข้ามาบดบังสัมผัส การรับรู้ทางสายตาในทันใด และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็พลันเกิดขึ้น เมื่อเหล่าผีเสื้อกลางคืนนับร้อยต่างเข้ามาจับจองพื้นที่แทบทุกย่อมหญ้า บ้างก็บินมาจับบริเวณชายเต้นท์ บ้างก็บินมาจับที่รองเท้า รวมไปถึงยังอุกรณ์แคมป์ปิ้ง นับว่าเป็นภาพที่งดงามสุดที่จะหาคำบรรยายได้ที่เดียว เสมือนหนึ่งความงดงามที่บริสุทธิ์ย่อมจะมีสิ่งที่งดงามซ่อนเร้นอยู่เสมอ และหลังจากนี้เราคงจะซ่อนกายไปกับความเงียบสงบของสายธารและขุนเขา หากแต่แสงแห่งวันใหม่ส่องประกายขึ้นมาอีกครั้ง







น้ำตกเขาชะเมา
- น้ำตกเขาชะเมา หรือน้ำตกคลองน้ำใส น้ำตกที่สวยงามมีสายน้ำใสสะอาดไหลตลอดทั้งปี จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า น้ำตกคลองน้ำใส แอ่งน้ำตกชั้นแรกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง เพียง 300 เมตร
ธารน้ำตกกำเนิดจากยอดเขาชะเมาไหลมาเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ลดหลั่นเป็นน้ำตกถึง 8 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามโดดเด่นแตกต่างกัน ตามชื่อเรียกของแต่ละชั้นคือ วังหนึ่ง วังมัจฉา วังมรกต วังไทรงาม ผากล้วยไม้ ช่องแคบ หกสาย และผาสูง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปที่ยวชมได้ทุกชั้นของน้ำตกเขาชะเมา ตามเส้นทางเดินเท้าตั้งแต่ชั้นที่ 1-8 ระยะทางประมาณ 2,650 เมตร
นักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานได้ในบริเวณที่ทางอุทยานจัดไว้ ไม่สามารถนำอาหารและขวดบรรจุน้ำทั้งขวดแก้วและขวดพลาสติกเข้าไปในบริเวณชั้นน้ำตก และผู้ที่จะขึ้นไปเที่ยวถึงชั้นที่ 8 ควรเตรียมกระติกน้ำไปด้วย



น้ำตกพริว จันทบุรี
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ จากตัวเมืองจันทบุรีขับรถออกมาที่ถนนสุขุมวิท ตรงกิโลเมตร ที่ 346 มีทางแยกซ้ายไปน้ำตกพลิ้ว 2 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีเนื้อที่ทั้งหมด 134.5ตาราง กิโลเมตร ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปีพ.ศ. 2518 สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งมีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เช่น ขนุนป่า กระท้อนป่า พิมเสน ขึ้นอยู่ทั่วไป ที่พักมี-บ้านพัก 3 หลัง พักได้หลังละ 8 คน ราคาหลังละ 600-800บาทและค่ายพักแรมพักได้ 20-50 คน ราคาหลังละ 200-500 บาท ติดต่อรายละเอียดได้ที่ กอง อุทยานแห่งชาติโทร. 5790529, 5794842 สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกพลิ้ว มี 3 ชั้น จากทางขึ้นไป 200เมตร มี อลงกรณ์เจดีย์ อยู่ทางขวามือเป็นเจดีย์ศิลาแลง รัชกาลที่ 5 โปรดให้พระยา จันทบุรีเป็นแม่กองสร้าง เมื่อ พ.ศ.2419 นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้ ๆ กัน ยังมีปิรามิดอีกแห่งหนึ่งชื่อ "ปิรามิดพระนางเรือล่ม" หรือ "สถูปพระนาง-เรือล่ม" เป็นที่บรรจุพระอังคารของพระนางเจ้า-สุนันทากุมารี รัตน์ (พระนางเรือล่ม) ซึ่งเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อพ.ศ.2417 ในธารน้ำตกมีปลาพลวงอาศัยอยู่เป็น จำนวนมากน้ำตกพริ้ว-จันทบุรี
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ จากตัวเมืองจันทบุรีขับรถออกมาที่ถนนสุขุมวิท ตรงกิโลเมตร ที่ 346 มีทางแยกซ้ายไปน้ำตกพลิ้ว 2 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีเนื้อที่ทั้งหมด 134.5ตาราง กิโลเมตร ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปีพ.ศ. 2518 สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งมีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เช่น ขนุนป่า กระท้อนป่า พิมเสน ขึ้นอยู่ทั่วไป ที่พักมี-บ้านพัก 3 หลัง พักได้หลังละ 8 คน ราคาหลังละ 600-800บาทและค่ายพักแรมพักได้ 20-50 คน ราคาหลังละ 200-500 บาท ติดต่อรายละเอียดได้ที่ กอง อุทยานแห่งชาติโทร. 5790529, 5794842 สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกพลิ้ว มี 3 ชั้น จากทางขึ้นไป 200เมตร มี อลงกรณ์เจดีย์ อยู่ทางขวามือเป็นเจดีย์ศิลาแลง รัชกาลที่ 5 โปรดให้พระยา จันทบุรีเป็นแม่กองสร้าง เมื่อ พ.ศ.2419 นอกจากนี้แล้วบริเวณใกล้ ๆ กัน ยังมีปิรามิดอีกแห่งหนึ่งชื่อ "ปิรามิดพระนางเรือล่ม" หรือ "สถูปพระนาง-เรือล่ม" เป็นที่บรรจุพระอังคารของพระนางเจ้า-สุนันทากุมารี รัตน์ (พระนางเรือล่ม) ซึ่งเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อพ.ศ.2417 ในธารน้ำตกมีปลาพลวงอาศัยอยู่เป็น จำนวนมาก
- น้ำตกที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน เที่ยวได้สะดวก เพราะรถเข้าถึง ในฤดูผลไม้ นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวสวนผลไม้ต่างๆ และแวะมาท่องเที่ยวน้ำตกเพราะสวนผลไม้ต่างๆ อยู่ในเขตอำเภอเมืองใกล้กับที่ตั้งของตัวน้ำตก นอกจากน้ำตกพลิ้วแล้ว ยังมีน้ำตกอีกมากมาย หลายแห่งให้เที่ยวชม ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีพื้นที่ครอบคลุม อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง อำเภอมะขาม ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง น้ำตกพลิ้ว : เป็นน้ำตก 3 ชั้น โอบล้อมด้วยผืนป่าไม้ ชั้นที่ 3 หรือชั้นล่างสุดมีขนาดสูงที่สุด และนักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวชมที่ชั้นนี้ สายน้ำตกลงผ่านซอกหลืบผาหิน เป็นร่องลงสู่แอ่งน้ำกว้าง เป็นแอ่งน้ำสีมรกตมีปลาพลวงอาศัยอยู่มากมาย และเป็นปลาเชื่องสามารถลงเล่นน้ำที่แอ่งนี้ได้



เขาสอยดาว จันทบุรี
- ข้อมูลทั่วไป น้ำตกเขาสอยดาว
- อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว น้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 4 กิโลเมตร มี 16 ชั้น บริเวณธารน้ำตกมีผีเสื้อจำนวนมากเหมาะสำหรับการดูผีเสื้อและศึกษาพรรณไม้ ซึ่งพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวนั้นมีสภาพป่าดงดิบที่สมบูรณ์ สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน โดยมียอดเขาสูง 2 ยอด คือ ยอดสอยดาวเหนือและสอยดาวใต้ ความสูงของยอดสูงสุดคือ ยอดสอยดาวใต้ อยู่ที่ประมาณ 1,675 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์เป็นต้นกำเนิดของธารน้ำหลายสาย ไหลตกลงมาเป็นน้ำตกเขาสอยดาวขนาดใหญ่ ท่ามกลางป่าลึกที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปชม ตลอดเส้นทางเดินชมน้ำตกมีทั้งความงามและความตื่นเต้นท้าทาย เช่น ชั้นน้ำตกที่ต้องปีนผาไปตามรากไทรสูงราว 20 เมตร กระทั่งถึงน้ำตกชั้นบนสุดซึ่งมีขนาดสูงใหญ่ งดงามยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นน้ำตกได้ถึงชั้นที่ 9 ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินขึ้นเกือบ 2 ชั่วโมง ส่วนชั้นที่ 10–16 ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ใช้เวลาเดินอีก 1 ชั่วโมง บริเวณน้ำตกมีบ้านพักรับรองบริการนักท่องเที่ยว
- นอกจากนี้ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าน้ำตกเขาสอยดาว ยังมี เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ชื่อเส้น “ลีลาไทร” เริ่มจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์น้ำตกเขาสอยดาว ระหว่างเส้นทางจะพบพูพอน ไลเคน ไทร ยางแดง โป่งธรรมชาติ แต่ละเส้นทางจะมีคำบรรยายเขียนไว้ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร
สถานที่พัก
- ทางเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าน้ำตกเขาสอยดาว มีบริการบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 3 หลัง พักได้ 10-50 คน ในกรณีที่นำเต็นท์มาเองเสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ ราคา 30 บาท/คน/คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อำเภอเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี 22180 โทร. 0 1384 5164 หรือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น., วันเสาร์ เวลา 09.00-15.30 น. หรือ

เป็นน้ำตกภาคกลางที่สายที่สุดในโลกก็ว่าได้



น้ำตกขุนพอง
- เป็นน้ำตกที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และเป็นน้ำตกใหญ่ที่สุดบนภูกระดึง อยู่ทางทิศตะวันตก เกิดจาก ลำธารหลายสายที่ไหลมารวมกัน ได้แก่ วังกวาง ธารสวรรค์ ธารพระองค์ และธารถ้ำสอ เป็นน้ำตกที่อยู่ในป่าดงดิบ ในส่วนของป่าปิด จึงเที่ยวได้เฉพาะช่วงฤดูแล้งเท่านั้น คือตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมิถุนายน และ ต้องทำเรื่องขออนุญาตพร้อมขอเจ้าหน้าที่นำทางด้วย การเดินเท้าเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกจะต้องเดินผ่านป่าสนและป่า ดงดิบ ระยะทางราว 10 กิโลเมตร ในช่วงฤดูหนาว ต้นเมเปิลจะเปลี่ยนสีใบจากเขียวเป็นแดง ร่วงหล่นทั่วบริเวณ น้ำตก อันเป็นที่มาของภาพงดงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของภูกระดึง โดยเมเปิลจะเปลี่ยนสีและผลัดใบในช่วงต้น เดือนธันวาคม
- นอกจากน้ำตกขุนพองแล้ว บนที่ราบยอดภูกระดึงยังมีน้ำตกอื่น ๆ ให้เที่ยวชมอีกหลายแห่งด้วยกัน เช่น น้ำตกวัง กวาง น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกโผนพบ และน้ำตกหงษ์ทอง เป็นต้น น้ำตกเหล่านี้ มีความ สวยงาม มีธารน้ำใสเย็นและปลอดภัยในการลงเล่นน้ำ นักท่องเที่ยวควรมีเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวบนภูกระดึง อย่างน้อย 3 วัน จึงจะคุ้มค่ากับการเดินฝ่าความสูงชันขึ้นไป และหากจะเดินทางไปเพื่อชมน้ำตก ควรไปในช่วงหลัง ฤดูฝน คือประมาณเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นน้ำตกจะไม่ค่อยมีน้ำ
- อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะปิดช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายนทุกปี เพราะการเดินทางค่อนข้าง ลำบาก และเพื่อให้ธรรมชาติฟื้นตัวกลับมาสดชื่นอีกครั้งหนึ่ง




น้ำตกแก่งซอง
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกแก่งซอง
- น้ำตกแก่งซอง อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 12 กม.45 มีขนาดใหญ่กว่าน้ำตกสกุโณทยาน มีร้านค้า บ้านเรือนต่าง ๆ ตั้งอยู่ริมน้ำตก น้ำตกปอย และ สวนป่ากระยาง ระหว่าง กม. ที่ 59-60 ทางหลวงหมายเลข 12 มีทางแยกไปน้ำตกปอยอีก 2 กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสวนป่ากระยาง ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นน้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงาม สภาพโดยรอบร่มรื่นเหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และในบริเวณสวนป่ายังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้ที่สนใจ และมีบริการบ้านพักสำหรับประชาชนทั่วไป (รายละเอียด ดูในใบแทรกข้อมูลที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก)



น้ำตกแก่งโสภา
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกแก่งโสภา
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดจากลำห้วยเข็กใหญ่ไหลผ่านหน้าผาขนาดใหญ่ลดหลั่นกันประมาณ 3 ชั้น และไหลผ่านไปตามแก่งหินอีกหลายแก่ง ตั้งอยู่ระหว่างกิโลเมตรที่ 71-72 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ซึ่งจะมีทางแยกเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร




น้ำตกผาเสื่อ
อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ มีพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่วนอุทยานถ้ำปลา และวนอุทยาน น้ำตกผาเสื่อ ท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ปายฝั่งขวา ท้องที่อำเภอเมืองและกิ่งอำเภอปางมะผ้า และด้วยเทือกเขาสูงสลับ ซับซ้อน แนวเทือกเขาจะทอดยาวตามแนวเหนือใต้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ที่สวยงามเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-ผาเสื่อ มีเนื้อที่ประมาณ 488 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 305,000 ไร่
น้ำตกผาเสื่อ เกิดจากลำแม่น้ำสะงา เป็นน้ำตกสูงประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 15 เมตร ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำไหลเต็มหน้าผากว้างทำให้มีรูปร่างคล้ายเสื่อ จึงเรียกว่า “น้ำตกผาเสื่อ” ในฤดูแล้งจะมีน้ำน้อย ทำให้เห็นหินที่สวยงามเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ




น้ำตกแม่ยะ
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วยแม่ยะ ไหลลดหลั่นลงมาถึง 30 ชั้น รวมความสูงประมาณ 260 เมตร จนกล่าวกันว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศ ในช่วงฤดูฝนสายน้ำตกจะแผ่กว้างถึง 100 เมตร ฤดูแล้งปริมาณน้ำอาจลดน้อยลง แต่สายน้ำตกจะใสสะอาดกว่า น้ำตกแม่ยะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เมื่อเข้าสู่ถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ได้ประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร



น้ำตกบ้านบ่อหวี
- น้ำตกบ้านบ่อหวี
เป็นน้ำตกขนาดกลางเพิ่งพบใหม่ มี 7 ฃั้น มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ทางเข้าผ่านหมู่บ้าน และวัดบ้านบ่อหวี ไปอีก ประมาณ 2 กม. มีถนนลาดยางตลอดถึงทางเข้าตัวน้ำตก มีลานจอดรถจากนั้นเดินเท้าประมาณ 150 เมตร จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 สายน้ำมีความใสมากกว่าน้ำตกเก้าโจน เหนือขึ้นไปบนน้ำตกจะเป็นชายแดนไทย-พม่า มีฐานทหารรักษาการอยู่ นายทหารผู้หนึ่งเล่าให้ thai-tour ฟังว่าบนตะเข็บชายแดนนี้สามารถเดินเชื่อมไปถึงเขากระโจมได้ ขึ้นถึงน้ำตกชั้นที่ 7 ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 45 นาที



น้ำตกบ้านบ่อหวี
- น้ำตกบ้านบ่อหวี
เป็นน้ำตกขนาดกลางเพิ่งพบใหม่ มี 7 ฃั้น มีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ทางเข้าผ่านหมู่บ้าน และวัดบ้านบ่อหวี ไปอีก ประมาณ 2 กม. มีถนนลาดยางตลอดถึงทางเข้าตัวน้ำตก มีลานจอดรถจากนั้นเดินเท้าประมาณ 150 เมตร จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 สายน้ำมีความใสมากกว่าน้ำตกเก้าโจน เหนือขึ้นไปบนน้ำตกจะเป็นชายแดนไทย-พม่า มีฐานทหารรักษาการอยู่ นายทหารผู้หนึ่งเล่าให้ thai-tour ฟังว่าบนตะเข็บชายแดนนี้สามารถเดินเชื่อมไปถึงเขากระโจมได้ ขึ้นถึงน้ำตกชั้นที่ 7 ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 45 นาที



น้ำตก 9 ชั้น
น้ำตกเก้าชั้น ( เก้าโจน )
อยู่ที่บ้านห้วยผาก ตำบลสวนผึ้ง
อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี



น้ำตกห้วยยาง
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก และอำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ซึ่งได้รวมจุดเด่นรอบๆ วนอุทยานน้ำตกห้วยยางผนวกเข้าด้วยกัน ซึ่งได้แก่ น้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่พร้อมด้วยป่าเขา น้ำตก ชายหาด รวมมี เนื้อที่ประมาณ 100,625 ไร่ หรือ 161 ตารางกิโลเมตร



น้ำตกทอทิพย์
- จังหวัดเพชรบุรี
- เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
น้ำตกทอทิพย์มีทั้งหมด 9 ชั้น น้ำตกทอทิพย์ " การเดินทางไปน้ำตกทอทิพย์ของผม เริ่มที่พะเนินทุ่งแคมป์ 13.00 น. และกลับถึงพะเนินทุ่งแคมป์ 18.00 น. รวมแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง ( เดินเท้าไปกลับ 3 ชั่วโมง อยู่ที่น้ำตกประมาณ 1 ชั่วโมง และเดินทางไปน้ำตก + กลับพะเนินทุ่งอีก 1 ชั่วโมง )น้ำตกทอทิพย์ " จากจุดชมวิวกิโลเมตรที่ 36 อีกประมาณ 500 เมตร จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินเท้าสู่ น้ำตกทอทิพย์ บริเวณนี้จะเป็นลานจอดรถ ถ้าท่านไม่แน่ใจว่ารถของท่านมีกำลังดีหรือไม่ ให้ท่านจอดรถไว้บริเวณจุดชมวิวกิโลเมตรที่ 36 เพราะทางลงไปลานจอดรถค่อนข้างชัน ความชันประมาณ 60 องศา ( ขาขึ้นรถของเพื่อนผมเกือบขึ้นไม่ได้ ) จากลานจอดรถเป็นจุดสิ้นสุดถนน จากนี้ไปเราต้องเดินเท้าไปยังน้ำตกทอทิพย์ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ... ขาไปเป็นทางลงเขา เดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็จะถึงน้ำตกชั้นที่ 5 เดินลงไปอีกประมาณ 5 - 10 นาที ก็จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 สำหรับชั้นอื่นๆ ไม่มีทางเดินลงไป เป็นทางลาดชันและค่อนข้างรก จึงสามารถชมน้ำตกได้แค่ 2 ชั้น ... ขากลับ เป็นทางขึ้นเขา ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ... ขอบอก ทาก ชุมมากๆ บางครั้งแกะที่เท้าซ้ายยังไม่เสร็จเลย มันก็กัดเข้าที่เท้าขวา ... หากท่านจะเข้าไปชมน้ำตกในหน้าฝน ควรเตรียมการป้องกันทากให้ดี เช่น ถุงกันทาก ตะไคร้หอม อื่นๆ แต่ท่านอย่าคิดนะครับว่า ทาก จะกัดท่านเฉพาะที่เท้า ตาตุ่ม หรือว่าที่น่อง เพราะว่าผมโดนกัดเข้าที่ท้องแขนด้านใน แล้วก็ที่โคนขาด้านนอก เหนือหัวเข่าขึ้นมาประมาณ 1 คืบ บางครั้งเจ้าหน้าที่บอกว่ามันกัดที่คอก็มี เพราะทากกัดเราจะไม่รู้สึกนะครับว่ามันกัด ( ผมกับเพื่อนโดนกันมาคนละ 2 ที่ครับ เลือดไหลเยอะเชียวละ ) ... ถ้าทากกัดแล้ว ท่านดึงมันออกมาแล้วเลือดไหล ไม่ต้องนำกระดาษทิชชูไปเช็คนะครับ ปล่อยให้เลือดแข็งตัวเอง เพราะถ้าท่านยิ่งเช็ด เลือดจะยิ่งไหลนะครับ




น้ำตกไทรโยคน้อย
- น้ำตกไทรโยคน้อย หรือน้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่สวย อีกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี ในฤดูฝน จะมีน้ำตกลงมา เต็มหน้าผา ส่วนฤดูแล้ง จะไม่ มีน้ำ แต่บริเวณน้ำตก ก็ยังคงสภาพธรรมชาติ ที่สวยงาม ร่มรื่น น้ำตกเขาพัง อยู่ริมถนนสาย กาญจนบุรี - ไทรโยค - ทองผาภูมิ ห่างจากตัวเมือง ๔๒ กิโลเมตร



น้ำตกห้วยขมิ้น
- น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นน้ำตกที่มีความงดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกหินปูน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากผืนป่าต้นน้ำแม่น้ำแควใหญ่ หรือแม่กลอง มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ เมื่อเริ่มเดินทางจาเขื่อนศรีนครินทร์ จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเช่น น้ำตกเอราวัณ เขื่อนศรีนครินทร์ ถ้ำพระธาตุ เดี๋ยวเส้นทางรถยนต์ค่อนข้างดี อีกไม่กี่ปีข้างหน้าคงจะเป็นทางราดยางทั้งหมดน้ำตกห้วยขมิ้น ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ ห่างจากกาญจนบุรีประมาณ 108 กิโลเมตร น้ำตกห้วยขมิ้นมีสภาพสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ป่านานาชนิด น้ำตกแบ่งออกเป็นหลายชั้น แต่ละชั้นมีความสูงและความงดงามต่างกันไป อุทยานฯ ได้ทำทางเดินเท้าสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ การเดินทางไปน้ำตกห้วยขมิ้นโดยทางรถยนต์ จะใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-เอราวัณ ผ่านถ้ำพระธาตุห้วยพุมุด (วัดพุมุด) เข้าถึงบริเวณน้ำตกรวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร ควรใช้รถสภาพดีมีกำลังขับเคลื่อนสูง หรือจะเช่ารถสองแถวจากตัวเมืองหรือที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ หรือเดินทางทางเรือโดยลงเรือที่ท่าหม่องกระแทะหรือท่าเรือท่ากระดาน ซึ่งอยู่ห่างจากทางแยกเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 12 กิโลเมตร ในบริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว รายละเอียดติดต่อกองอุทยานแห่งชาติ โทร. 579-0529, 579-4842



น้ำตกไทรโยค
- น้ำตกไทรโยค หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "น้ำตกเขาโจน" เพราะน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผา สู่แม่น้ำแควน้อย แรงมาก ราวกับกระโจน ลงมา น้ำตกไทรโยค จะมีน้ำตลอดปี แต่น้ำจะแรงมาก ในฤดูฝน บริเวณน้ำตก เป็นที่ตั้งของ ที่ทำการอุทยาน แห่งชาติไทยโยค มีบ้านพัก และร้านอาหาร บริการแก่นักท่องเที่ยว ติดต่อขอรายละเอียด ได้ที่ โทร. ๕๗๙๐๕๒๙, ๕๗๘๔๘๔๒



น้ำตกเอราวัณ
- น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่น่าสนใจใกล้เมืองกรุงฯ มาก แต่กลายเป็นสิ่งที่เราผ่านเลยไป ทั้งที่เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามถึง 7 ชั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นชั้นน้ำตกหินปูน มีแอ่งน้ำเป็นสีเขียว มองเห็นหมู่ปลาแหวกว่าอยู่เป็นฝูงน้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงาม บนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ น้ำตกเอราวัณมีความยาว 2,000 เมตร ทั้งหมด 7 ชั้น อยู่ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร ขึ้นไปบนเส้นทางสายกาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ (ทางหลวงหมายเลข 3199) เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 56 แยกซ้ายข้ามสะพานเข้าตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงลานจอดรถแล้วเดินต่อไปอีก 500 เมตร จะถึงน้ำตก สำหรับการเดินทางโดยรถประจำทาง มีรถออกจากสถานีขนส่งใกล้ที่ทำการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มายังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ทุกวัน ที่บริเวณน้ำตกเอราวัณมีบ้านพักของกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 579-0529, 579-4842




น้ำตกนางรอง
น้ำตกนางรอง เป็นน้ำตกที่คนนิยมไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก ด้วยระยะทาง 100 กิโลเมตรเศษๆ จากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก น้ำตกนางรองตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ ต.หินตั้ง อ.เมือง ห่างจากตัวเมืองนครนายกประมาณ 20 กิโลเมตร ตามทางหลวง 3049 เป็นน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆไม่สูงนัก แต่ละชั้นมีแอ่งให้ลงเล่นน้ำ เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่มีความสวยงานแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายกเมื่อขับรถเข้ามาที่น้ำตกทางซ้ายมือจะเป็นร้านขายของกิน ส่วนมากจะเป็นพวกไก่ย่าง ส้มตำ น้ำตก เครื่องดื่ม เมื่อลงจากรถก็แทบจะถึงน้ำตกนางรองแล้ว ส่วนมากจะนิยมมาปู่เสื่อนอน เล่นน้ำ ปิคนิคกินข้าวกัน




น้ำตกสาริกา
- น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา เดินทางจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๔๙ เป็นระยะทาง ๑๒ กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๐๕๐ อีก ๓ กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอดสาย น้ำตกสาริกาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง ๙ ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ ๒๐๐ เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำและมีน้ำมากในฤดูฝน ส่วนฤดูแล้งน้ำแห้ง บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีบริการห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมน้ำตกผู้ใหญ่คนละ ๒๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท
ในบริเวณใกล้เคียงกันมี “ถ้ำสาริกา” อาจารย์มั่น ภูริฑตฺโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมที่นี่ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๖๐-๒๔๖๓ สภาพเป็นเนินเขา ภายในบริเวณประกอบด้วยกุฏิของสงฆ์ เรือนบูชาหลวงปู่มั่น และโบสถ์ ซึ่งอยู่สุดทางเดินเท้าขึ้นเขา




น้ำตกห้วยยาง (เขาใหญ่)
- อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยางประกอบด้วยเทือกเขาสูงติดต่อกัน มีพื้นที่อยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ส่วนใหญ่จะเป็นเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-1,200 เมตร โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่เกิดจากสันเขากั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า ได้แก่ คลองอ่างทอง คลองแก่ง คลองทับสะแก คลองจะกระ คลองไข่เน่า คลองตาเกล็ด คลองห้วยยาง คลองห้วยมา และคลองหินจวง ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย และหินเป็นหินแกรนิตและหินลูกรัง ส่วนด้านทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ราบและชายทะเลอ่าวไทย



น้ำตกผากล้วยไม้
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ในห้วยลำตะคองเช่นเดียวกัน ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 7 กิโลเมตร สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์และทางเดินเท้า ทางเดินเริ่มจากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร โดยเดินเลียบไปตามห้วยลำตะคองที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่ร่มครึ้ม มีโอกาสพบนกหลายชนิด เช่น นกกางเขนน้ำหลังเทา นกกะรางคอดำ นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ ฯลฯ น้ำตกผากล้วยไม้มีลักษณะเป็นหน้าผาลดหลั่นกันลงมา สูงประมาณ 10 เมตร ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำกว้างมาก เหมาะสำหรับเล่นน้ำ ตามหน้าผาและคบไม้บริเวณน้ำตกพบกล้วยไม้นานาชนิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก กล้วยไม้ที่โดดเด่นที่สุด คือ หวายแดง ที่จะออกดอกสีแดงเป็นช่อยาวในช่วงหน้าร้อน



น้ำตกเหวสุวัต
- น้ำตกเหวสุวัต
อยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็น น้ำตกที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วๆ ไป น้ำตกเหวสุวัตนี้อยู่สุดถนนธนะรัชต์ หรือจะเดินเท้าต่อจากน้ำตกผากล้วยไม้ไปก็ได้ ประมาณ 3 กิโลเมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตรเศษ บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธาร เหมาะที่จะลงเล่นน้ำ แต่สำหรับฤดูฝนน้ำจะมากและไหลแรง ค่อนข้างเย็นจัด



น้ำตกเหวไทร
- น้ำตกเหวไทร อยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ทางใต้ ถัดไปจากน้ำตกเหวสุวัต ห่างจากน้ำตกเหวสุวัต ประมาณ 700 เมตร น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นหน้าผากว้างเต็มลำห้วย สูงประมาณ 5 เมตร ในฤดูฝนน้ำตกนี้จะไหลแรงเต็มหน้าผา สวยงามน่าชมมาก การเดินทางไปน้ำตกเหวไทรไปได้ 2 เส้นทาง คือ เดินเท้าต่อไปจากน้ำตกเหวสุวัต ระยะทางประมาณ 700 เมตร หรือ เดินเท้าจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปตามเส้นทางเดินเท้าสายกองแก้ว - เหวสุวัตก็ได้ ระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร ตามสองข้างทางเดินที่ผ่านไป จะมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สมุนไพร และเห็ดป่า เป็นต้น



น้ำตกเหวอีอ่ำ
- น้ำตกเหวอีอ่ำ ไหลผ่านที่ราบบนสันเขา จนมาถึงหน้าสูงชัน กว้างยาวตลอดลำคลอง ไหลทิ้งดิ่งลงหุบเขาด้านล่าง เราสามารถชมน้ำตกได้จากชั้นหน้าด้านบนได้เลย แต่ถ้าต้องการชมภาพน้ำตกให้เต็มตา ก็ไต่ลงหุบด้านล่าง ก็สามารถมองเห็นแนวหน้าน้ำตกกว้างใหญ่ของน้ำเหวอีอ่ำส่วนการเดินทางสู่น้ำตกเหวอีกอ่ำ ในเขตอำเภอประจันตคาม เมื่อมาถึงสี่แยกวงเวียนนเรศวร จากนั้นให้เลือกเส้นทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าประจันตคาม-กบินทร์บุรี วิ่งมาไม่ไกลมากนัก จนมาถึงบริเวณหลัก กม.ที่ 173 บ้านหนองหัวลิง จะมีทางแยกซ้าย เข้าน้ำตกธารทิพย์ ตรงเข้าไปราว 6 กม. ถึงหน่วยฯ ขญ.11 คลองเพกา ต่อจากนั้นจะเป็นที่ตรงไปน้ำตกธารทิพย์ เลยหน่วยฯ ไปไม่กี่ร้อยเมตร ก็พบทางแยกซ้ายมือ เข้าไปยังน้ำตกเหวอีอ่ำ มากล่าวถึงการท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีรูปแบบแตกต่างและหลากหลายแนว ที่แต่ละคนจะชื่นชอบ บางคนชอบขับขี่รถยนต์เพื่อการท่องเที่ยวมีหลายแบบบางเส้นทางก็มีลักษณะกึ่งออฟโรด ยานยนต์ที่ใช้ต้องเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่ไม่ถึงต้องกับแต่งรถเสียโก้หรู เอามาตรฐานขับเคลื่อนสี่ล้อเดิมๆ ก็พอแล้ว เลือกหาเส้นทางที่เราไปให้ถึงแบบสบาย อย่างเช่น น้ำตกเหวอีอ่ำ เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งของผืนป่าเขาใหญ่ อยู่ในพื้นที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจะมีความงดงามเฉพาะในช่วงหน้าฝนเท่านั้น




น้ำตกกองแก้ว
- ข้อมูลทั่วไป - น้ำตกกองแก้ว
- ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกเตี้ยๆ ที่เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมากเหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ใกล้บริเวณน้ำตกจะมีสะพานแขวนลำห้วยถึง 2 สะพาน ห้วยลำตะคอง เป็นแนวแบ่งเขต 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครนายกและจังหวัดนครราชสีมา น้ำตกแห่งนี้อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ ประมาณ 100 เมตร




น้ำตกเหวนรก
- น้ำตกเหวนรก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขตอำเภอปากพลี จากตัวเมืองเดินทางไปทางทิศตะวันออกตามถนนสุวรรณศร ถึงสี่แยกเนินหอมหรือวงเวียนนเรศวร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 3077 ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาใหญ่ไปจนถึง กม. ที่ 24 มีทางเดินเท้าไป น้ำตกเหวนรกอีก 2 กิโลเมตรครับ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร เมื่อน้ำไหลผ่านน้ำตกชั้นนี้ จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่สองและชั้นที่สามในลักษณะการไหลตก 90 องศา รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร ในฤดูฝนน้ำจะไหล แรงมากครับ