วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์

:: จังหวัดนครสวรรค์ ::

" เมืองสี่แคว แห่มังกร พักผ่อนบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ดปากน้ำโพ "


- จังหวัดนครสวรรค์ :: ข้อมูลทั่วไป

นครสวรรค์ หรือปากน้ำโพ เป็นเมืองชุมทางแม่น้ำ ที่สำคัญ เพราะเป็นจุดเริ่มต้น ของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นที่รวม ของลำน้ำปิง วัง ยม น่าน เปรียบประดุจ ประตูบ้านของภาคเหนือ เป็นเมืองน่าเที่ยว มีบึงบอระเพ็ด มีปลาเสือ รสอร่อยน่ารับประทาน

- จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่ 9597.7 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ มีป่าไม้อยู่ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออก แบ่งการปกครองออกเป็น 12 อำเภอ และ 2 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอลาดยาว อำเภอตาคลี อำเภอชุมแสง อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอท่าตะโก อำเภอพยุหะคีรี อำเภอไพศาล อำเภอหนองบัว อำเภอตากฟ้า อำเภอโกรกพระ อำเภอเก้าเลี้ยว และกิ่งอำเภอแม่วงก์ กิ่งอำเภอแม่เปิ่น

- อาณาเขต
ทิศเหนือ จดจังหวัดกำแพงเพชร และพิจิตร
ทิศตะวันออก จดจังหวัดเพชรบูรณ์ และลพบุรี
ทิศใต้ จดจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี และลพบุรี
ทิศตะวันตก จดจังหวัดตาก

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 056)
สำนักงานจังหวัด
221-018

ประชาสัมพันธ์จังหวัด
221-530

เทศบาลเมือง
222-452

ศาลากลางจังหวัด
226-871

ที่ทำการไปรษณีย์
221-963

สถานีรถไฟ
255-544

สถานีขนส่ง
221-544

สภ.อ.เมือง นครสวรรค์
221-109

ตำรวจท่องเที่ยว
1155

ตำรวจทางหลวง
296-184 , 296-182

ตู้ยามเขาเขียว
255-152

ตู้ยามน้ำอ้อย
341-511

ททท.สำนักงานภาคกลางเขต 7 จ.ลพบุรี
(036) 422-768-9

รพ.สวรรค์ประชารักษ์
228-686-7

รพ.เก้าเลี้ยว
299-134

รพ.พยุหะคีรี
341-755

รพ.หนองบัว
225-208

รพ.บรรพตพิสัย
279-028

รพ.ท่าตะโก
221-436

รพ.ตาคลี
261-756

รพ.ไพศาลี
259-014

รพ.ชุมแสง
282-223

รพ.โกรกพระ
226-203

รพ.ลาดยาว
271-345

รพ.ตากฟ้า
226-027




- จังหวัดนครสวรรค์ :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

- บึงบอระเพ็ด
เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ อยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสงในอดีตบึงบอระเพ็ดได้ชื่อว่าเป็น "ทะเลเหนือ" หรือ "จอมบึง" เพราะมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์อาศัยอยู่ประมาณ 148 ชนิด พืช 44 ชนิด มีพันธุ์สัตว์ที่หายาก ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินทร ปลาเสือตอ และในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมจะมีนกเป็ดน้ำจำนวนมากอพยพมาที่บึงแห่งนี้ พื้นที่บางส่วนได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดอยู่ในความดูแลของกองอนุรักษ์สัตว์ป่า กลางบึงมีตำหนักแพที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จแปรพระราชฐาน

- การเดินทางจากตัวเมืองนครสวรรค์ไปบึงบอระเพ็ด

โดยทางเรือ จากตลาดท่าน้ำเทศบาลเมืองนครสวรรค์ไปตามลำน้ำผ่านขึ้นไปทางเหนือ ประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงปากคลองเข้าบึงบอระเพ็ด เมื่อลอดใต้สะพานรถไฟเข้าไปก็จะถึงบริเวณบึง

- โดยรถยนต์ สามารถเข้าถึงบึงบอระเพ็ดได้ 2 ด้าน คือ

1. ทางด้านเหนือ เดินทางไปตามเส้นทาง สายนครสวรรค์-ชุมแสง ประมาณ 9 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาอีก 2 กิโลเมตร เข้าไปยัง "สถานีประมงบึงบอระเพ็ด" ภายในบริเวณสถานี มีบ่อเพาะพันธุ์ปลาและจระเข้ มีเรือหางยาวนำชมบึง

2. ทางด้านใต้ของบึงบอระเพ็ด จากตัวเมืองใช้เส้นทางสายนครสวรรค์-ท่าตะโก ประมาณ 20 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายอีก 4 กิโลเมตร ถึง "อุทยานนกน้ำ" หรือ "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด" ซึ่งจัดตั้งอยู่ในรูปของศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ในบริเวณที่ตั้งสำนักงานจัดเป็นสวนพักผ่อน มีนกหลายชนิดเลี้ยงไว้ในกรงให้ชม มีบ้านพักบริการ การเข้าพักต้องทำจดหมายติดต่อที่ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด อุทยานนกน้ำอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 60000 โดยเสียค่าบำรุงสถานที่ให้กับสำนักงาน

- ขณะนี้กรมประมงกำลังดำเนินการพัฒนาปรับปรุงบึงบอระเพ็ด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการประมง และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

- วัดจอมคีรีนาคพรต (วัดเขา)
อยู่บนยอดเขาบวชนาค ระหว่างเชิงสะพานเดชาติวงศ์และค่ายจิรประวัติ ตำนานกล่าวว่า เมื่อกองทัพพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในครั้งที่ 2 ได้แล้ว จึงร่วมกันสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อแสดงว่า นับถือพุทธศาสนาเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจในวัดได้แก่ รอยพระพุทธบาทจำลองและพระอุโบสถที่ชาวบ้านเรียกว่า “โบสถ์เทวดาสร้าง” ทุกๆ เดือน 12 ของปีจะมีงานนมัสการและปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลองนี้เรียกว่า “งานวัดเขา” ซึ่งนอกจากจะมีงานสมโภชน์แบบงานวัดทั่วไปแล้ว ยังมีการแข่งขันเรือยาวอีกด้วย เมื่อขึ้นไปอยู่บนยอดเขาบวชนาค และมองลงมาจะเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของสะพานเดชาติวงศ์ แม่น้ำเจ้าพระยา และเขากบ

- อุทยานสวรรค์
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่กลางเมืองนครสวรรค์มีผู้นิยมไปพักผ่อนหย่อนใจกันมาก มีเนื้อที่ 314 ไร่ ใกล้ทางแยกสายเชียงใหม่-พิษณุโลก ติดกับถนนสายเอเซีย อุทยานสวรรค์ประกอบด้วยหนองน้ำขนาดใหญ่ เรียกว่า "หนองสมบุญ" มีถนนวงแหวน 2 ชั้นล้อมรอบ ตรงกลางเป็นเกาะซึ่งมีเนื้อที่ 4 ไร่ มีสวนหย่อม สนามหญ้า น้ำพุ เวทีกลางแจ้ง น้ำตก ริมฝั่งน้ำภายในอุทยานจัดเป็นสวนสุขภาพ ด้านหน้าของสวนสาธารณะสร้างอย่างสวยงาม มีห้องน้ำ ห้องแต่งตัวบริการแก่นักท่องเที่ยว

- ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์-เจ้าแม่ทับทิม
ตั้งอยู่บริเวณชุมชนชาวปากน้ำโพ ริมฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ศาลแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะ และเป็นจุดรวมน้ำใจของชาวบ้าน รวมทั้งผู้สัญจรทางน้ำที่ผ่านไปมา

- วัดศรีสวรรค์สังฆาราม (วัดถือน้ำ)
ตั้งอยู่ที่ตำบลนครสวรรค์ ออกห่างจากตัวเมือง 4 กิโลเมตร ไปตามถนนพหลโยธิน (นครสวรรค์-กรุงเทพฯ) เข้าไปทางค่ายจิรประวัติ เป็นวัดเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับข้าราชการกระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยมีใบหอก ใบพาย มีดดาบสมัยโบราณ พระพุทธรูปทองคำปางปฐมเทศนาและพระพุทธรูปเนื้อเงินบรรจุอยู่ภายใน พระประธานในพระอุโบสถหลังเก่าประมาณอายุได้ 100 ปีเศษ ในปี พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์ เสด็จฯ มาทรงตัดลูกนิมิตพระอุโบสถหลังใหม่ วัดนี้ถือได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุด ที่มีคุณค่าแก่การศึกษาในทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่งแห่งหนึ่ง

- ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา
นครสวรรค์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้เนื่องจากแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ได้ไหลมาบรรจบกันที่ตำบลปากน้ำโพ บริเวณด้านหน้าเขื่อนในตัวเมือง ซึ่งเป็นจุดรวมของแม่น้ำทั้งสองสายดังกล่าว จะมองเห็นถึงความแตกต่างของสายน้ำทั้งสองได้อย่างชัดเจน กล่าวคือแม่น้ำน่านจะมีสีค่อนข้างแดง และแม่น้ำปิงจะเป็นสีค่อนข้างไปทางเขียว เมื่อมาบรรจบกันแล้วจึงค่อยๆ รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่ เป็นสายสำคัญของประเทศไทย ไหลผ่านจังหวัดต่างๆ ในภาคกลางไปจนถึงกรุงเทพมหานคร และออกอ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรปราการ มีความยาวประมาณ 370 กิโลเมตร

- นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเที่ยวทางเรือเพื่อชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแวะนมัสการหลวงพ่อโตที่วัดปากน้ำโพ (วัดทองธรรมชาติเหนือ) สามารถเช่าเรือจากท่าน้ำเจ้าพระยา โดยเสียค่าเช่าเรือประมาณ 180 บาท (ไปกลับ) เรือบรรทุกได้ 15 คน

- วัดเกรียงไกรกลาง
ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลเกรียงไกร ริมฝั่งแม่น้ำน่าน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 22 กิโลเมตร ตามถนนสายนครสวรรค์-ชุมแสง เป็นวัดเก่าแก่ มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ ภาพเขียนฝาผนังโบสถ์ เจดีย์เก่าและมณฑปพระพุทธบาท บริเวณวัดมีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของวัด มีเอกชนจัดทำฟาร์มเลี้ยงจระเข้อยู่ด้วย

- ถ้ำบ่อยา
เป็นถ้ำอยู่บนเขาที่หมู่บ้านหินก้อน ตำบลหนองกรวด อยู่ห่างจากตัวเมืองเป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตามถนนสายนครสวรรค์-ลาดยาว ทางแยกเข้าวัดถ้ำบ่อยา (วัดศรีอุทุมพร) ระยะทาง 6 กิโลเมตร จากบริเวณเชิงเขา มีบันไดขึ้นไปสู่ตัวถ้ำ ภายในถ้ำมีบริเวณกว้างขวางพอสมควร โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง ตอนแรกเป็นที่ตั้งพระประธานองค์ใหญ่ ช่วงที่ 2 อยู่ลึกเข้าไปข้างในเป็นทางตัน บริเวณนี้จะมีบ่อน้ำทิพย์ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นบ่อยาศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย ช่วงที่ 3 เป็นทางที่จะออกจากบริเวณถ้ำสู่ภายนอกได้ทางหนึ่ง ภายในบริเวณถ้ำนอกจากจะมีบ่อน้ำทิพย์อยู่ดังกล่าวแล้ว ยังมีหินย้อยตามธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งจะมองเห็นได้จากแสงไฟฟ้า ซึ่งมีให้ความสว่างอย่างเพียงพอภายในถ้ำ

- วัดวรนาถบรรพต (เขากบ)
เป็นวัดเก่าแก่ของนครสวรรค์ ตั้งอยู่บนยอดเขาและเชิงเขากบ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 185.50 เมตร มีทางขึ้น 2 ทางคือ ทางเดินขึ้นบันได จำนวน 437 ขั้น และอีกด้านหนึ่งมีถนนราดยางขึ้นสู่ยอดเขา ซึ่งมีโบราณวัตถุ อาทิ รอยพระพุทธบาทจำลอง เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสร้างสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี บริเวณเชิงเขามีเจดีย์ขนาดใหญ่สมัยสุโขทัย ซึ่งกรมศิลปากรได้จารึกประวัติศาสตร์ของวัด ไว้ที่ฐานของเจดีย์องค์นี้ด้วย วัดนี้ได้รับการยกย่องจากกรมการศาสนา และมหาเถรสมาคม ให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างเมื่อ พ.ศ. 2509 นอกจากนั้นในวัดยังมีรูปหล่อพระหลวงพ่อทอง อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดนครสวรรค์ ประดิษฐานอยู่ในวิหารข้างเจดีย์ใหญ่ด้วย บริเวณเนินเขาใกล้เคียง เป็นที่ตั้งของสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ ช่อง 3, 5, 7, 9 และ 11 จาก กรุงเทพฯ ไปสู่จังหวัดในภาคเหนือ

- วัดนครสวรรค์ (วัดหัวเมือง)
ตั้งอยู่ที่ถนนสวรรค์วิถี เป็นที่ประดิษฐานพระผู้ให้อภัยยิ่งหรือพระหันหลังให้กัน อยู่หลังโบสถ์วัดนครสวรรค์ด้านถนนเทพสิทธิชัย หันหน้าไปทางทิศตะวันออกองค์หนึ่ง อีกองค์หนึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ มีประวัติว่าชนชาติพม่าเป็นผู้สร้าง พม่าเคยยกทัพมาถึงเมืองนครสวรรค์ และได้สร้างพระพุทธรูปไว้เป็นอนุสรณ์ การหันหลังให้กัน อาจมีความหมายถึงการให้อภัย ไม่จองเวรจองกรรมกันอีกต่อไป และภายในโบสถ์วัดนครสวรรค์นั้น มีพระพุทธรูปนามว่า หลวงพ่อศรีสวรรค์ ประดิษฐานอยู่เป็นที่เคารพสักการะของชาวนครสวรรค์

- หอวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์
ตั้งอยู่ในบริเวณวิทยาลัยครูนครสวรรค์ ตำบลนครสวรรค์ เป็นอาคาร 2 ชั้น ทรงสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ตรีมุขที่สวยงาม เป็นศูนย์รวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรมของจังหวัด ภายในเป็นห้องนิทรรศการ แสดงการพัฒนาการทางวัฒนธรรมและแหล่งโบราณคดีต่างๆ นอกจากนี้ยังมีโรงละครขนาด 110 ที่นั่งจัดแสดงประเพณีศิลปวัฒนธรรม หอวัฒนธรรมนี้สร้างเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายน 2535 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2535


- จังหวัดนครสวรรค์ :: การเดินทาง

- ทางรถยนต์ส่วนตัว

จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงกิโลเมตรที่ 52 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่าน อยุธยา-อ่างทอง-สิงห์บุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี-นครสวรรค์ ระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 240 กิโลเมตร

- ทางรถโดยสารประจำทาง

บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ ทุกวัน รายละเอียดสอบถามได้ที่สถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 โทร. 936-3660, 936-3666

- ทางรถไฟ

มีขบวนรถไฟออกเดินทางจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ-สถานีนครสวรรค์ ทุกวัน รายละเอียดติดต่อหน่วยบริการเดินทาง โทร. 223-7010, 223-7020

ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอำเภอและกิ่งอำเภอต่างๆ

- อำเภอโกรกพระ 18 กิโลเมตร
- อำเภอบรรพตพิสัย 34 กิโลเมตร
- อำเภอลาดยาว 40 กิโลเมตร
- อำเภอชุมแสง 39 กิโลเมตร
- อำเภอเก้าเลี้ยว 20 กิโลเมตร
- อำเภอพยุหะคีรี 26 กิโลเมตร
- อำเภอท่าตะโก 45 กิโลเมตร
- อำเภอตาคลี 61 กิโลเมตร
- อำเภอไพศาลี 65 กิโลเมตร
- อำเภอหนองบัว 71 กิโลเมตร
- อำเภอตากฟ้า 73 กิโลเมตร
- กิ่งอำเภอแม่วงก์ 80 กิโลเมตร
- กิ่งอำเภอแม่เปิน 75 กิโลเมตร

- จังหวัดนครสวรรค์ :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

- อำเภอบรรพตพิสัย

- เขาหน่อ-เขาแก้ว
อยู่ริมทางหลวงสายพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์-กำแพงเพชร ในท้องที่ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย ระยะทางจากตัวจังหวัดประมาณ 45 กิโลเมตร และจากตัวที่ว่าการอำเภอบรรพตพิสัยประมาณ 18 กิโลเมตร เขาหน่อเป็นเขาหินปูนที่มีวัดเขาหล่ออยู่เชิงเขา มีบันไดขึ้นสู่ถ้ำบนยอดเขาและมีพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่อยู่ปากถ้ำ เมื่อครั้งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จภาคเหนือทางชลมารคสายแม่น้ำปิง เคยทรงประทับพักแรม ต่อมาจังหวัดได้สร้างพระบรมรูปไว้เป็นอนุสรณ์ บริเวณเชิงเขามีฝูงลิงจำนวนมาก คอยรับอาหารจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน นอกจากนี้เวลาเย็น จะมองเห็นฝูงค้างคาวที่อาศัยอยู่ตามถ้ำน้อยใหญ่ในภูเขาบินออกไปหากิน ดูเป็นสายยาวสีดำอยู่บนท้องฟ้า

- ส่วนเขาแก้ว อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน มีถ้ำหลายถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่ของค้างคาวมากมาย ในเวลาเย็นใกล้พลบค่ำฝูงค้างคาวจะพากันบินออกหากิน


- อำเภอตาคลี

- สระทะเล
ตั้งอยู่หลังโรงพยาบาลตาคลี ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 3 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัด 94 กิโลเมตร เป็นสวนสาธารณะ มีสระน้ำตามธรรมชาติ ทัศนียภาพสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่

- เขาถ้ำบุนนาค
ตั้งอยู่ที่ตำบลตาคลี ถนนเป็นลูกรังห่างจากอำเภอประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัด 80 กิโลเมตร ลักษณะที่ตั้งเป็นภูเขา ปากถ้ำสูงจากเชิงเขาประมาณ 25-30 เมตร ภายในถ้ำมีพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาทจำลอง มีปล่องให้แสงสว่างจากยอดเขาลงมา บรรยากาศในถ้ำไม่อับชื้นแต่เย็นสบายเพราะลมที่ลงมาตามปล่องภูเขาแล้วออกทางปากถ้ำ ที่เชิงเขาด้านปากถ้ำมีวัดถ้ำบุนนาค ที่กว้างขวางร่มเย็น

- จันเสนเมืองโบราณ
จันเสนเป็นตำบลแห่งหนึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดเป็นระยะทางประมาณ 95 กิโลเมตร ห่างจากตัวอำเภอ 9 กิโลเมตร โดยทางรถยนต์ ตามถนนหมายเลข 3196 สายลพบุรี-ตาคลี ตัดผ่านซึ่งสามารถไปเชื่อมต่อกับถนนหมายเลข 11 สายอินทร์บุรี-วังทอง และถนนหมายเลข32 สายเอเชียได้ และมีทางรถไฟผ่านสถานีจันเสนอีกทางหนึ่ง

- สำหรับส่วนที่เป็นเมืองโบราณอยู่ในบริเวณบ้านหมู่ที่ 2 ตำบลจันเสน มีบริเวณเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่มีมุมทั้งสี่เป็นรูปมนจนเกือบเป็นรูปกลม ล้อมรอบด้วยคูเมืองซึ่งกว้างประมาณ 20 เมตร ปัจจุบันยังมีสภาพเป็นที่ลุ่มมีน้ำขัง แต่ก็ยังเป็นร่องรอยพอมองเห็นเค้าคูเมืองได้อย่างชัดเจน มีความยาวประมาณ 800 เมตร ความกว้าง 700 เมตร คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่เศษ เนื่องจากบริเวณภายในคูเมืองดังกล่าว มีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่ราบนอกคูเมือง ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "โคกจันเสน"

ในบริเวณเมืองโบราณได้ขุดพบวัตถุโบราณหลายอย่าง คือ ของประเภทที่ทำด้วยดินเผา อาทิ พระพิมพ์ ดวงตรา ตุ๊กตา ประเภทที่ทำด้วยหิน ได้แก่ ฐานบัว ธรรมจักร ขวานหินขัด ประเภทที่ทำด้วยโลหะมี ตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ใบหอก เหล็ก ประเภทที่ทำด้วยสำริด มีพระโพธิสัตว์สำริดยืน ปัจจุบันโบราณวัตถุดังกล่าวเก็บรักษาไว้ที่วัดจันเสนและกรมศิลปากร

- วัดจันเสน
ตั้งอยู่ที่ตำบลจันเสน ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร หรือหากวัดโดยเส้นทางรถไฟ จากกรุงเทพฯ ตำบลจันเสนอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 174 วัดจันเสนอยู่หลังสถานีรถไฟประมาณ 500 เมตร นอกจากนี้ บริเวณวัดจันเสนยังมีพระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันเสน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมโบราณวัตถุต่างๆ ที่ขุดพบในเมืองโบราณอีกด้วย

- เขาพระเจดีย์ (เขากากซาก)
ตั้งอยู่ที่ตำบลตาคลี ถนนราดยางห่างจากอำเภอประมาณ 5 กิโลเมตร ห่างจากจังหวัด 80 กิโลเมตร เขาพระเจดีย์ (เขากากซาก) มีลักษณะเป็นเนินเขา ประกอบด้วยหินที่มีลักษณะสูงๆ ต่ำๆ เป็นเหลี่ยม ขรุขระ เป็นโพรง ไม่ราบเรียบเหมือนเขาอื่นๆ ไม่มีดินปนอยู่เลย ลักษณะของหินคล้ายกระดูกสัตว์ที่ตายหักทับถมกันมาเป็นเวลานาน มีถ้ำไม่ลึกมากอยู่ 1 ถ้ำ มีความงดงามพอประมาณเข้ากับลักษณะของหิน ที่ตีนเขามีวัดเขาพระเจดีย์


- อำเภอพยุหะคีรี

- บ้านโคกไม้เดน
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าน้ำอ้อย ห่างจากตัวเมือง 33 กิโลเมตร ตามถนนพหลโยธิน มีทางแยกเข้าบ้านโคกไม้เดน ระยะทาง 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่มีโบราณวัตถุซึ่งแสดงถึงเมืองเก่าแก่สมัยสุโขทัย ได้แก่ ซากกำแพงเนินดิน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้ขุดพบโบราณวัตถุเป็นรูปปั้นช้างพญาฉัททันต์ ซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี คำว่า "โคกไม้เดน" เป็นชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง ศิลปะโบราณที่บ้านโคกไม้เดน เช่น รูปปั้นต่างๆ ได้ถูกนำออกแสดงที่ต่างประเทศ โดยนักโบราณคดีชาวอเมริกันและออสเตรเลีย คนสมัยเก่าเรียกบ้านโคกไม้เดนว่า "เมืองบน" สร้างขึ้นในสมัยทวาราวดี ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11-16 (พ.ศ. 1000-1500) ตัวเมืองบนมีลักษณะเป็นรูปรีคล้ายหอยสังข์ ขนาดยาวประมาณ 250 เมตร กว้าง 600 เมตร คล้ายเมืองกำแพงนครปฐม เมืองเสมาจังหวัดนครราชสีมา และเมืองพญาแร่จังหวัดชลบุรี

- อำเภอหนองบัว

- เขาพระ
ตั้งอยู่ที่หมู่ 18 ตำบลหนองกลับ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 80 กิโลเมตร ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร ตามถนนสายหนองบัว-เหมืองแร่ สภาพเป็นถนนลูกรัง การคมนาคมยังไม่สะดวก แต่สามารถเดินทางไปได้ทุกฤดูกาล บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางเชียงแสน และรอยพระพุทธบาทที่ชาวบ้านนับถือมาก มีสวนหินขนาดกว้างประมาณ 50 ตารางวา มีถ้ำลึกประมาณ 30 เมตร กว้าง 2 เมตร เป็นที่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก และมีอ่างหินขนาดใหญ่รองรับน้ำฝนจากธรรมชาติ ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เขาพระนี้มีหินสีชมพูทั้งเขา ซึ่งทางราชการได้สงวนหวงห้ามการทำหินอ่อนโดยเด็ดขาด

- กิ่งอำเภอแม่วงก์

- อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
ป่าแม่วงก์เป็นรอยต่อของสองจังหวัดคือ กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ส่วนที่อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์เรียกว่า ป่าแม่วงก์-แม่เปิน ส่วนที่อยู่ในจังหวัดกำแพงเพชร เรียกว่า ป่าคลอง แม่วงก์-ป่าคลองขลุง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2530 ใช้ชื่อว่า "อุทยานแห่งชาติแม่วงก์" มีเนื้อที่ประมาณ 894 ตารางกิโลเมตร

- ทุ่งหินเทิน
ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลปางสวรรค์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 70 กิโลเมตร หรือจากอำเภอลาดยาวไปตามถนนลาดยางบ้านห้วยน้ำหอม ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นทุ่งหญ้าเชิงเขาที่มีกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งวางซ้อนกันอยู่หลายแห่งหลายรูปแบบ กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ในลักษณะที่สัมผัสกันเพียงเล็กน้อยเหมือนมีคนจับวาง นับเป็นสวนหินธรรมชาติที่สวยแปลกตา


- อำเภอตากฟ้า

- วัดถ้ำพรสวรรค์
ตั้งอยู่ที่ตำบลลำพยนต์ มีถนนราดยางระยะทางจากตัวจังหวัด 105 กิโลเมตร ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร ตามถนนสายตากฟ้า-โคกสำโรง บริเวณวัดสวยงามมีศาลาสมภพ ปลูกสร้าง 3 ชั้น อย่างทันสมัย ข้างหลังวัดมีถ้ำพรสวรรค์ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนแรกเป็นห้องเล็ก ตอนที่สองเป็นห้องใหญ่ มีพระพุทธรูปและสิ่งก่อสร้างทันสมัยอยู่มาก มีน้ำตกจำลอง มีสระน้ำตรงกลางถ้ำ พื้นถ้ำเทคอนกรีตหมด บรรยากาศเย็นสบาย ไม่มีค้างคาวอาศัยอยู่ ภายในถ้ำติดตั้งระบบไฟฟ้า และประปาอย่างพร้อมมูล

- อำเภอโกรกพระ

- เขื่อนวังรอ
ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ตำบลเนินศาลา ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 35 กิโลเมตร และห่างจากตัวอำเภอประมาณ 17 กิโลเมตร ตามถนนสายโกรกพระ-ทัพทัน ทางแยกเข้าเขื่อนวังรอระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังที่สภาพไม่ดีนัก เขื่อนเก็บน้ำวังรอมีทัศนียภาพที่สวยงาม ช่วยให้การเกษตรของเกษตรกรในอำเภอโกรกพระและอำเภอเมืองอุทัยธานี ตัวเขื่อนเป็นคอนกรีต สันเขื่อนเป็นคันดิน

- เขาถ้ำพระ
ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ตำบลเนินศาลา ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 38 กิโลเมตร ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 20 กิโลเมตร ตามถนนสายโกรกพระ-ทัพทัน ทางแยกไปเขาถ้ำพระระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อย และพระพุทธรูป ในเทศกาลสงกรานต์ประชาชนในท้องถิ่นจะนำดอกไม้ธูปเทียนไปนมัสการเป็นจำนวนมาก จากเชิงเขามีบันไดคอนกรีตประมาณ 100 ขั้น ขึ้นสู่ปากถ้ำ เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาสามารถมองเห็นภูมิประเทศที่สวยงามของอำเภอโกรกพระ


- จังหวัดนครสวรรค์ :: เทศกาล งานประเพณี

- งานประเพณีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากน้ำโพ
(จัดช่วงตรุษจีน) เป็นงานประเพณีดั้งเดิม ของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดนครสวรรค์ เนื่องในโอกาสฉลองวันตรุษจีน จะจัดให้มีขึ้นราวเดือนกุมภาพันธ์ ในงานจะมีการแห่มังกรทอง ซึ่งชาวจีนถือว่าเป็นเทพเจ้า ที่บันดาลคุณประโยชน์อย่างมากแก่มวลมนุษย์ จึงแห่แหนเพื่อแสดงความกตัญญู มีการเชิญเจ้าพ่อเจ้าแม่ตามศาลเจ้าต่างๆ มาร่วมขบวนด้วย ริ้วขบวนจะประกอบด้วยวงดุริยางค์ ขบวนธง ขบวนสิงโต ขบวนเจ้าพ่อเจ้าแม่ ขบวนมังกรทอง ฯลฯ แห่ไปตามถนนต่างๆ ในตัวเมือง การเชิดมังกรทองที่จังหวัดนครสวรรค์ มีชื่อเสียงมากในด้านความสวยงาม และการแสดงที่ตื่นเต้นเร้าใจ ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

- งานประเพณีบุญกำฟ้า บ้านวังรอ
จัดขึ้นหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่บ้านวังรอ ตำบลวังมหากร อำเภอท่าตะโก มักจะจัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 งานบุญกำฟ้า เป็นประเพณีโบราณของชาวไทพวนและไทโซ่ง ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของบ้านวังรอ ชาวพวนและโซ่งมีความเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และผี โดยเฉพาะ "ผีฟ้า" จึงมีงานทำบุญประจำปีด้วยมีความเชื่อถือว่าจะนำความสุขและความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชุมชน

- ประเพณีการแข่งเรือ
ในช่วงเทศกาลออกพรรษา จะมีงานปิดทองไหว้พระ วัดที่มีแม่น้ำไหลผ่านหรือวัดใกล้เคียงแม่น้ำ จะมีประเพณีการแข่งเรือยาว เป็นการแสดงออกถึงความสามัคคี และความสามารถของฝีพาย ที่นำเรือยาวของตนเข้าแข่งขัน งานวัดที่สำคัญ คือ งานปิดทอง ไหว้พระของวัดจอมคีรีนาคพรต ซึ่งเป็นงานวัดงานสุดท้ายประจำปี การแข่งเรือมีศูนย์กลางอยู่ที่วัดเกาะหงส์ ตำบลตะเคียน อำเภอเมือง

- งานประเพณีสงกรานต์ บ้านเขาทอง
ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหะคีรี เป็นงานประเพณีของตำบลเขาทอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชาวไทยเชื้อสายมอญอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แสดงออกถึงศิลปะวัฒนธรรม และการละเล่นพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครสวรรค์ เช่น รำพิษฐาน รำช้าเจ้าโลม เต้นกำรำเคียว การจับข้อมือสาว เข้านางสุ่ม ฯลฯ


- จังหวัดนครสวรรค์ :: ของฝาก ของที่ระลึก

- ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและสินค้าพื้นเมือง

- ผลิตภัณฑ์งาช้างแกะสลัก
ที่อำเภอพยุหะคีรี เป็นงานฝีมือที่น่าสนใจมาก มีทั้งเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงพระพุทธรูปและงาช้างแกะสลักทั้งอัน ในอำเภอพยุหะคีรีมีอยู่หลายร้าน

- ผลิตภัณฑ์หินอ่อน
มีผลิตเป็นของที่ระลึก เช่น แจกัน ที่เขี่ยบุหรี่ ที่เสียบปากกา ขัน มีร้านขายอยู่บริเวณเชิงเขากบ

- กุนเชียง
มีชื่อทั้งกุนเชียงหมู และกุนเชียงไก่ มีร้านขายอยู่ถนนจุฬามณี

- เครื่องจักสาน
เครื่องใช้ในครัวเรือน ของที่ระลึก เครื่องประดับตกแต่งมีอยู่บริเวณบ้านกลางแดด ตำบลกลางแดด อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์

- แหนมเนื้อ
มีทั้งประเภทห่อใบตองและใส่หลอดพลาสติกเป็นแท่งๆ มีร้านขายอยู่บริเวณถนนสวรรค์วิถี

- ขนมเปี๊ยะนมสด
เป็นขนมที่มีชื่อของจังหวัดนครสวรรค์ ร้านขายขนมเปี๊ยะนมสดอยู่บริเวณถนนสวรรค์วิถีมีหลายร้าน

- น้ำผึ้ง
จากตัวเมืองนครสวรรค์-อุทัยธานี ระยะทางราว 10 กิโลเมตรเศษ จะมีเพิงของชาวบ้านตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางขายรังผึ้ง (ผึ้งขนาดเล็กที่เรียกว่าตัวมิ้ม) และน้ำผึ้งซึ่งได้มาจากป่าแถบเขาทอง และเขาโยง หลังหมู่บ้านแถบนั้น

:: สารบัญเว็บไซท์ ::

:: ข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดนครสวรรค์ ::

สารบัญเว็บไซท์ > ท่องเที่ยว > ข้อมูล และสถานที่ท่องเที่ยว > ภาคเหนือ > นครสวรรค์

จำนวนเว็บไซท์ในหมวดนี้ : 4 [ แนะนำเว็บไซท์ได้ที่นี่ ]


จังหวัดนครสวรรค์
แนะนำข้อมูลทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท โรงแรม จังหวัดนครสวรรค์ แผนที่ การเดินทาง ร้านอาหาร เทศกาล งานประเพณี ของฝาก ประวัติความเป็นมา คำขวัญประจำจังหวัด
http://www.relaxzy.com/province/nakhonsawan/

จังหวัดนครสวรรค์
ข้อมูลหลากหลายเกี่ยวกับนครสวรรค์ สภาพทั่วไป การบริหารและการปกครอง ทรัพยากรธรรมชาติ การคมนาคม การท่องเที่ยว
http://www.nakhonsawan.go.th

นครสวรรค์ดอทคอม
รวบรวมข้อมูลแนะนำร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ ที่ประกอบธุรกิจอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ ง่ายต่อการค้น...
http://www.nakhon-sawan.com

สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์
แนะนำสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดประชาสัมพันธ์เขต 4 กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนต...
http://province.prd.go.th/nakhonsawan/



:: อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ และกิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร ตามเทือกเขาสูงชันก่อกำเนิดเป็นน้ำตกที่สวยงาม 4-5 แห่ง ทั้งเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีแก่งหินทำให้เกิดน้ำตกเล็กๆ ตามแก่งหินนี้ ตลอดจนมีหน้าผาที่สวยงามตามธรรมชาติ มีเนื้อที่ประมาณ 558.750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร

ด้วย นายสวัสดิ์ คำประกอบ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรีที่ นร 0104/9871 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2526 ถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์) ขอให้จัดพื้นที่ป่าแม่วงก์-แม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ซึ่งมีสภาพธรรมชาติและน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง สภาพป่าอุดมสมบูรณ์และเป็นป่าต้นน้ำลำธาร กำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 1290/2526 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2526 ให้นายชัยณรงค์ จันทรศาลทูล นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนินการสำรวจหาข้อมูล ปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกแม่กระสาหรือแม่กี ซึ่งสูงประมาณ 200 เมตร และหน้าผาต่างๆ สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจ ที่ กษ 0713/พิเศษ ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2526

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2528 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2528 เห็นชอบให้กำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองขลุงและป่าคลองแม่วงก์ในท้องที่ตำบลปางตาไว อำเภอคลองขลุง (ปัจจุบันเป็นอำเภอปางศิลาทอง) จังหวัดกำแพงเพชร และป่าแม่วงก์–แม่เปิน ในท้องที่ตำบลแม่เลย์ และตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ (ปัจจุบันเป็นตำบลแม่เลย์ อำเภอแม่วงก์ และตำบลแม่เปิน กิ่งอำเภอแม่เปิน) เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 104 ตอนที่ 183 ลงวันที่ 14 กันยายน 2530 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 55 ของประเทศ

:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกันอยู่ตามเทือกเขาถนนธงชัยลดหลั่นลงมาจนถึงพื้นราบ ประมาณ 40-50 ลูก ยอดที่สูงที่สุดคือ “ยอดเขาโมโกจู” สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,964 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ ส่วนพื้นที่ราบมีไม่มาก ส่วนใหญ่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ และเป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญ เช่น แร่ไมก้า


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
สภาพภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ในช่วงฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะอากาศค่อนข้างหนาวเย็น อันเนื่องมาจาก ลิ่มความกดอากาศสูง มาจากประเทศจีน แผ่ลงมาทางตอนใต้ เข้าสู่ประเทศไทยตอนบน และปกคลุมทั่วประเทศ ลมที่พัดสู่ประเทศไทยในฤดูนี้คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นจากเดือนมีนาคม - เดือนพฤษภาคม อากาศค่อนข้างร้อนจัดและมีฝนตกน้อย ทำให้สังคมพืชป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณผลัดใบ สำหรับฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคม มีปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,100 มิลลิเมตรต่อปี


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าทั่วไปของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ประกอบด้วย
ป่าเบญจพรรณ จะอยู่บริเวณที่ราบริมฝั่งห้วยและภูเขาที่ไม่สูงนัก พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ สัก เสลา ชิงชัน กระบก กระพี้เขาควาย มะค่าโมง งิ้วป่า ประดู่ป่า กาสามปีก ติ้ว ฯลฯ มีไผ่ชนิดต่างๆขึ้นอยู่หลายชนิด เช่น ไผ่ป่า ไผ่ไร่ ไผ่ซางนวล ไผ่รวก พืชพื้นล่าง เช่น หนามเค็ด ส้มเสี้ยว หนามคนฑา เป็นต้น

- ป่าเต็งรัง ขึ้นอยู่สลับกับป่าเบญจพรรณ พบในช่วงระดับความสูงตั้งแต่ 100-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง เหียง พลวง กราด มะเกิ้ม ประดู่ มะม่วงป่า มะค่าแต้ พะยอม มะขามป้อม สมอไทย ฯลฯ พืชพื้นล่างที่พบ เช่น ไผ่เพ็ก และปรง เป็นต้น

- ป่าดิบเขา พบขึ้นอยู่ในบริเวณที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300-1,500 เมตร พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ก่อใบเลื่อม ก่อเดือย ก่อลิ้น ก่อแอบ ทะโล้ จำปาป่า กะเพราต้น หนอนขี้ควาย กำลังเสือโคร่ง ดำดง กล้วยฤาษี และมะนาวควาย เป็นต้น

- ป่าดิบแล้ง ประกอบด้วย ยางแดง ยางนา กระบาก ตะเคียนหิน ปออีเก้ง สมพง กัดลิ้น มะหาด พลอง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไม้พุ่มและพืชพื้นล่างต่างๆ ที่ทนร่มอีกมากมายหลายชนิด เช่น เข็มขาว หนามคนฑา ว่าน พืชหัวต่างๆ อีกทั้งกล้วยไม้ต่างๆ อีกมากมาย

- ทุ่งหญ้า พบกระจัดกระจายไปตามป่าประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ เกิดจากการทำลายป่าของชาวเขาเผ่าต่างๆ ที่เคยอยู่อาศัยในพื้นที่ สังคมพืชที่ขึ้นทดแทนในพื้นที่ได้แก่ หญ้าคา หญ้านิ้วหนู เลา สาบเสือ พง แขมหลวง มะเดื่อ ไมยราบเครือ ไมยราบต้น ลำพูป่า หว้า ติ้วแดง งิ้วป่า มะเดื่อหอม เป็นต้น

เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีอาณาเขตติดต่อกับ ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งสัตว์สามารถใช้เส้นทางเดินติดต่อกันได้ ได้แก่ สมเสร็จ เลียงผา กระทิง ช้างป่า เสือโคร่ง เสือดาว หมีควาย หมีหมา ชะนีธรรมดา ค่างหงอก ลิงกัง อ้นเล็ก กระรอกบินเล็กแกมขาว ค้างคาวปากย่น ไก่ป่า เหยี่ยวรุ้ง นกแว่นสีเทา นกกก นกเงือกกรามช้าง นกปรอดเหลืองหัวจุก นกเขาใหญ่ นกกะเต็นอกขาว นกจาบคาเคราน้ำเงิน นกแซงแซวสีเทา เต่าหก เต่าเหลือง เหี้ย ตะกวด งูเห่า งูแมวเซา ฯลฯ

:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
ตู้ ปณ.29 อ. คลองลาน จ. กำแพงเพชร 62180
โทรศัพท์ : 0 5576 6027, 0 5576 6024

- รถยนต์
จากจังหวัดนครสวรรค์ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ถึงอำเภอขลุงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1242 ไปประมาณ 40 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1072 ไปอีก 10 กิโลเมตร จะพบสี่แยกคลองลาน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1117 ถนนคลองลาน-อุ้มผางประมาณ 15 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์


:: แหล่งท่องเที่ยว ::
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานไว้ให้บริการเพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่น บริเวณปากคลองแม่กระสา ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 17 กิโลเมตร ได้จัดเป็นสถานที่กางเต็นท์เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาพักได้สัมผัสความสมบูรณ์ของป่าดิบชื้นและพรรณไม้ป่านานาพันธุ์ และเป็นจุดพักก่อนเดินทางไปชมน้ำตกแม่เรวา ยอดเขาโมโกจู น้ำตกแม่กระสา และน้ำตกแม่กี นอกจากนี้ ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดให้มีทางเดินศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง คือ

1) เริ่มต้นจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เดินลัดเลาะลำน้ำคลองขลุงไปสิ้นสุดที่ผาคอยนาง รวมระยะทาง 1.4 กิโลเมตร
2) เริ่มต้นจากหลังป้ายอุทยานแห่งชาติ เดินผ่านสวนสัก ป่าเบญจพรรณ และมีทางแยกไปแวะชมน้ำตกเล็กๆ ชื่อ ธารบุญมี แล้วมาสิ้นสุดที่จุดเริ่มต้น รวมระยะทาง 3 กิโลเมตร
3) เริ่มต้นจากหลังป้ายอุทยานแห่งชาติ แล้วมาพบกับเส้นทางที่ 2 ที่น้ำตกธารบุญมี ตลอดเส้นทางเป็นทางขึ้นเขาลงเขา มีจุดพักเป็นช่วงๆ รวมระยะทาง 7.4 กิโลเมตร

ผู้สนใจเดินตามเส้นทางเหล่านี้ต้องติดต่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน รายละเอียดการเข้าร่วม กิจกรรมการเดินป่าในแต่ละปี สามารถดูได้จากเมนูข่าว-กิจกรรม


:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกแม่กระสา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงที่สูงที่สุดในบริเวณนี้ มีความสูงกว่า 1,000 เมตร มีชั้นลดหลั่นถึง 9 ชั้น มีบางชั้นที่มีความสูงถึง 270 เมตร น้ำไหลแรงสวยงามตลอดปี อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 21 กิโลเมตร ต้องเดินเท้าเข้าไป ใช้เวลาเดินไปกลับ 3-4 วัน


- น้ำตกแม่รีวา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีแอ่งน้ำลักษณะเป็นอ่างกลมกว้างราว 30-40 เมตร รับสายน้ำที่ตกลงมาเป็นชั้นๆ มีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นที่ 3 มีความสูงที่สุดประมาณ 100 เมตร มีสภาพสวยงามมาก น้ำตกแม่เรวาอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 21 กิโลเมตร การเดินทางต้องเดินเท้าไปกลับ 3-4 วัน


- น้ำตกแม่กี เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 200 เมตร แบ่งเป็นชั้นๆ ถึง 9 ชั้น น้ำไหลเกือบตลอดปี การเดินทางต้องเดินเท้าไปกลับ 3 วัน น้ำตกแห่งนี้ได้รับคำกล่าวชมจากหนังสือ ASEAN MAGAZINE เมื่อปี พ.ศ. 2518 ว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในเอเซีย


- แก่งผาคอยนาง เป็นแก่งน้ำและแก่งหิน จากถนนคลองลาน-อุ้มผาง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 1,400 เมตร จะมีทางแยกเข้าไปอีก 400 เมตร จะถึงบริเวณแก่งหินขนาดใหญ่ที่มีลำน้ำคลองขลุงไหลผ่าน ซึ่งเป็นลำน้ำสายหนึ่งในหลายๆ สายที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง จากบริเวณแก่งเดินขึ้นไปตามลำน้ำอีกประมาณ 350 เมตร จะถึง น้ำตกผาคอยนาง น้ำตกขนาดเล็กที่เด่นและสะดุดตา มีน้ำตก 4 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 20 เมตร

นอกจากน้ำตกแล้วพื้นที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ก็ยังมีแก่งหินปูนมีน้ำไหลลดหลั่นเป็นชั้นเหมาะแก่การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนในเวลากลางวันและเป็นที่ชมทิวทัศน์ พักรับประทานอาหาร ในบรรยากาศท่ามกลางหุบเขาอันร่มรื่นเย็นสบาย
บริเวณแก่งผาคอยนางนี้ นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักแรมได้


- จุดชมทิวทัศน์ กม.57-115 ตลอดเส้นทางคลองลาน-อุ้มผาง ระหว่างกิโลเมตรที่ 57 - 115 มีจุดชมทิวทัศน์หลายแห่ง เช่น จุดชมทิวทัศน์กิโลเมตรที่ 81 กิโลเมตรที่ 87 กิโลเมตรที่ 93 กิโลเมตรที่ 102 และกิโลเมตรที่ 115 แต่ละแห่งสามารถมองทัศนียภาพที่สวยงามมองเห็นทิวเขาไกลสุดสายตา และสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ โดยเฉพาะกิโลเมตรที่ 93 เป็นจุดที่มีความสูงที่สุดของถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง กิโลเมตรที่ 102 มีน้ำตกริมทางสวยงาม มี 4 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 90 เมตร


- ช่องเย็น (กม.93) เป็นจุดสูงสุดของถนนคลองลาน - อุ้มผาง และเป็นจุดสุดท้ายที่ยานพาหนะเข้าถึง มีความสูงประมาณ 1,340 เมตร จากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียล เนื่องจากบริเวณนี้เเป็นช่องเขาที่มีสายลมพัดผ่านตลอดเวลา จึงถูกขนานนามว่า “ช่องเย็น” ตามสภาพภูมิอากาศของพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากช่องเย็นมีสภาพอากาศที่เย็นและชื้น จึงพบพันธุ์ไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นบริเวณนี้ ได้แก่ กล้วยไม้ เฟิร์น มหัสดำ (Treefern) นอกจากนี้ช่องเย็นยังเป็นถิ่นอาศัยของนกหลากหลายชนิด จึงเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองไทย


- ยอดเขาโมโกจู ขุนเขาแห่งความหนาวเย็น ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจูจึงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแม่วงก์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 4-5 วัน แม้ระยะทางจะไกลและยากแก่การเข้าไปถึง แต่โมโกจูก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลายๆ คน ที่จะเก็บเป็นความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต


- น้ำตกนางนวล น้ำตกนางนวลเป็นน้ำตกขนาดกลางที่สวยงาม มีทั้งหมด 4 ชั้น จากช่องเย็นเดินเท้าไปตามถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง ประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วเดินลงเขา 200 เมตร จะถึงน้ำตก ผู้สนใจติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติที่ช่องเย็น


- น้ำตกเสือโคร่ง เป็นน้ำตกที่สวยงาม จากช่องเย็นเดินเท้าไปเส้นทางเดียวกับน้ำตกนางนวล โดยเดินต่อจากน้ำตกนางนวล ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตก


- บ่อน้ำอุ่น เป็นบ่อน้ำอุ่นที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติ น้ำอุ่นมีอุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส รัศมีความกว้างประมาณ 4 เมตร มีสัตว์ป่าชุกชุม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1.5 กิโลเมตร



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายไว้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว
- บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รองรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 150 คน
- บริเวณแก่งผาคอยนาง รองรับนักท่องเที่ยวได้ 150 คน
- บริเวณจุดชมวิวกิ่วกระทิง (ก.ม.81) รองรับนักท่องเที่ยวได้ 50 คน
- บริเวณช่องเย็น รองรับนักท่องเที่ยวได้ 150 คน
- บริเวณขุนน้ำเย็น รองรับนักท่องเที่ยวได้ 150 คน
- บริเวณแก่งลานนกยูง รองรับนักท่องเที่ยวได้ 50 คน
การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


- ที่จอดรถ มีลานจอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


- บริการอาหาร อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีร้านค้าสวัสดิการตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บริการอาหารตามสั่ง และของใช้ที่จำเป็น หากต้องการสั่งอาหารเป็นหมู่คณะหรือจำนวนมาก ต้องสั่งล่วงหน้า ส่วนบริเวณแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่มีร้านค้าและร้านอาหาร


- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.


- ระบบสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า มีใช้บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ส่วนบริเวณแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ยังไม่มีไฟฟ้าใช้

0 ความคิดเห็น: