วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี

:: จังหวัดสระบุรี ::

" พระพุทธบาทลือนาม แหล่งน้ำอุดม นมเนื้อมากมาย หลากหลายโรงงาน ถิ่นข้าวสารพันธุ์ดี
มีมะม่วงรสเลิศ งามบรรเจิดธรรมชาติ "

จังหวัดสระบุรี :: ข้อมูลทั่วไป

สระบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญในด้านโบราณสถานทางพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ ประเพณี และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 107 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปกลับได้ภายในวันเดียว สระบุรีจึงเป็นจังหวัดหนึ่งที่น่าท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้


สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปมีลักษณะดังนี้ ตอนเหนือ ตะวันออก และตอนกลาง ของจังหวัดเป็นป่า มีเนินเขาสลับที่ราบสูง ซึ่งเหมาะในการปลูกพืชไร่ ตอนใต้และตะวันตกส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบเหมาะในการทำนา แม่น้ำที่สำคัญมีเพียงสายเดียว คือแม่น้ำป่าสัก ซึ่งนับว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของจังหวัดสระบุรี โดยอาศัยน้ำใช้ในการเกษตรและประโยชน์อย่างอื่น แม่น้ำป่าสักไหลผ่านอำเภอมวกเหล็ก แก่งคอย อำเภอเมือง เสาไห้ ไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คิดเป็นความยาวประมาณ 105 กิโลเมตร นอกจากนั้นสระบุรียังมีคลองที่สำคัญๆ หลายสาย เช่น คลองรพีพัฒน์ คลองเริงราง คลองวิหารแดง และคลองเพรียว เป็นต้น

อาณาเขตและการปกครอง

สระบุรี มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดลพบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดปทุมธานี
ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมา และนครนายก
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สระบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 3,576.5 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 11 อำเภอ กับอีก 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย อำเภอหนองแค อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองแซง อำเภอมวกเหล็ก อำเภอบ้านหมอ อำเภอพระพุทธบาท อำเภอเสาไห้ อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด และกิ่งอำเภอวังม่วง


หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 036)

สำนักงานจังหวัดสระบุรี
211-458

ททท.สำนักงานภาคกลางเขต 6 จ.พระนครศรีอยุธยา
(035) 246-076-7

ตำรวจท่องเที่ยว
1155

ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.1 หินกอง
371-222 , 371-970

สถานีตำรวจ
211-014

สถานีรถไฟ
211-091

ไปรษณีย์จังหวัด
223-490

รพ.สระบุรี
223-811 , 211-624

รพ.พระพุทธบาท
266-166 , 266-111

รพ.หนองแค
371-260 , 371-575

รพ.แก่งคอย
244-611 , 377-300

รพ.หนองแซง
221-080

รพ.บ้านหมอ
201-171 , 201-381

รพ.มวกเหล็ก
341-560




จังหวัดสระบุรี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

สวนพฤกษศาสตร์พุแค
ตั้งอยู่ที่ตำบลพุแค บนถนนสายสระบุรี-ลพบุรี (ถนนพหลโยธิน) ห่างจากอำเภอเมืองสระบุรีประมาณ 17 กิโลเมตร มีบริเวณกว้างขวาง ร่มเย็น และมีลำธารไหลผ่าน เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย (เขาสามหลั่น)

อนุสรณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ของกองทัพญี่ปุ่น (เขาแดง)
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น มีอาณาเขตติดต่อกับวัดพระพุทธฉายด้านทิศใต้ มีสิ่งปลูกสร้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทหารญี่ปุ่นได้สร้างไว้ มีโครงการจะปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงยุทโธปกรณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือนจำที่กักขังเชลยศึก

พระพุทธฉาย
ทางเข้าทางเดียวกับอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น ที่กิโลเมตร 102 และกิโลเมตร 104 มีทางแยกขวามือ มีป้ายบอกทางไปพระพุทธฉาย เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือ มีป้ายบอกชัดเจน เป็นวัดอยู่เชิงเขาปถวี ตำบลหนองปลาไหล มีรอยพระพุทธรูปอยู่บนชะง่อนผา มีบันไดขึ้นไปรอบๆ บริเวณ ร่มรื่นมากเหมาะเป็นที่พักผ่อน

ถ้ำศรีวิไล
ภายในถ้ำมีพระพุทธเนาวรัตน์ ศิลปะแบบสมัยเชียงแสน และยังมีหินงอก หินย้อย สวยงามมาก และสามารถเที่ยวชมทิวทัศน์ตามธรรมชาติ จะเห็นภูเขาสลับซับซ้อนสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำศรีวิไล ตำบลหน้าพระลาน ระยะทางห่างจากจังหวัด ประมาณ 22 กิโลเมตร

:: อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2521 สำนักงานป่าไม้เขตนครราชสีมา ได้สำรวจพื้นที่บริเวณน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เนื้อที่ที่สำรวจไว้เดิมมี 500 ไร่ แต่ต่อมาเอกชนออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินจำนวน 50 ไร่ จึงเหลือเนื้อที่อยู่เพียง 450 ไร่ และทำการสำรวจเพิ่มเติมป่าสงวนแห่งชาติดงพญาเย็นอีกประมาณ 487.5 ไร่ รวมเป็นเนื้อที่ที่จะผนวกประมาณ 937.5 ไร่ กรมป่าไม้ได้ทำการสำรวจลำห้วยมวกเหล็ก ซึ่งเป็นลำห้วยที่เกิดจากป่าเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไหลรวมกับแม่น้ำป่าสักที่ตำบลวังม่วง อำเภอมวกเหล็ก (ปัจจุบันคืออำเภอวังม่วง) จังหวัดสระบุรี เนื่องจากเป็นลำน้ำที่ไหลผ่านที่ราบสูงตอนบนของจังหวัดสระบุรี ผ่านทิวเขาสลับซับซ้อนของหุบเขา ซึ่งไม่สูงมากนัก จึงเป็นเหตุที่ทำให้เกิดน้ำตกชั้นเตี้ยๆเป็นจำนวนมาก แต่เป็นน้ำตกที่มีความงดงามตามธรรมชาติ ที่แปลกออกไปจากน้ำตกแหล่งอื่นๆ มองดูคล้ายกับสายน้ำที่ไหลผ่านสันเขื่อนที่มนุษย์สรรค์สร้างขึ้นไหลเป็นแนวกว้าง ประกอบกับเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำไหลตลอดปี กรมป่าไม้จึงได้ประกาศจัดตั้งเป็น “วนอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย” เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2523 อยู่ในท้องที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวาง-มวกเหล็ก แปลง 1 และป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพญาเย็น มีเนื้อที่ประมาณ 540 ไร่

ต่อมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มาตรวจเยี่ยมวนอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อยเมื่อเดือนมิถุนายน 2545 ได้เห็นการพัฒนาของวนอุทยาน ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงได้มอบนโยบายว่า “ควรจะขยายพื้นที่ตามลำธารเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยว และให้ทำการสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม โดยให้ศึกษาข้อมูลด้านนิเวศวิทยา และข้อมูลพื้ฐานในการจัดการในด้านต่างๆ ทั้งนี้เพื่อหาความเป็นไปได้ในการกำหนดพื้นที่และวางแผนการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ” สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้ว เห็นสมควรกำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวาง และป่ามวกเหล็ก แปลงที่ 1 อำเภอมวกเหล็ก และอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี รวมพื้นที่วนอุทยานน้ำตกเจ็ดสาวน้อย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เนื้อที่ประมาณ 17,540 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนสลับกับที่ราบ ลักษณะพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้งมีหน้าดินตื้น มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางอยู่ในช่วง 180-402 เมตร จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่บริเวณโชคชัยพัฒนา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 402 เมตร รองลงมาคือเทือกเขาที่อยู่ตอนกลางของพื้นที่ และเทือกเขาบริเวณบ้านดงน้ำฉ่า มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 386 และ 359 เมตร ตามลำดับ บริเวณเชิงเขาด้านทิศตะวันออกและทิศเหนือของพื้นที่ ติดคลองมวกเหล็กซึ่งมีน้ำไหลผ่านตลอดปี และไหลลงสู่แม่น้ำป่าสักที่อำเภอวังม่วง ส่วนบริเวณตอนกลางของพื้นที่มีลำห้วยเล็กๆ ไหลผ่าน ได้แก่ ห้วยแล้ง ซึ่งเป็นลำห้วยที่มีน้ำไหลเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
สภาพภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติ ได้รวบรวมข้อมูลจากการเก็บข้อมูลปริมาณน้ำฝน ของสถานีตรวจวัดอากาศมวกเหล็ก ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ประมาณ 10 กิโลเมตร และจากสถานีตรวจอากาศเกษตรปากช่อง ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ประมาณ 26 กิโลเมตร ปรากฏว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่บริเวณภาคกลางของประเทศไทย อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม ซึ่งมีระบบการพัดเวียนประจำเป็นฤดูกาล ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดพาเอาความชื้นจากทะเลและมหาสมุทรเข้ามา ทำให้เกิดฤดูฝน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดพาเอาความหนาวเย็นมาจากตอนเหนือของทวีปเอเชีย ทำให้เกิดฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปีได้ 1,191 มิลลิเมตร อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีเท่ากับ 26 oC


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าปลูก เนื่องจากแต่เดิมเป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทำลายมาก่อนและได้รับการปลูกป่าฟื้นฟู พื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตสวนป่าหลังเขา-ท่าระหัด จังหวัดสระบุรี และพื้นที่แปลงปลูกป่า ตามโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 บางพื้นที่เป็นป่าที่ฟื้นตัวตามธรรมชาติ พื้นที่โดยรอบทั้งหมดเป็นพื้นที่เกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย มีถนนล้อมรอบ จึงถูกตัดออกจากป่าอนุรักษ์แห่งอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ไม่มีผืนป่าธรรมชาติแห่งอื่นต่อเนื่องหรือใกล้เคียง ดังนั้นจึงไม่มีการแลกเปลี่ยนสายพันธุ์พืช และสัตว์ป่ากับป่าธรรมชาติ ความหลากหลายของพันธุ์พืช และสัตว์ป่าจึงมีค่อนข้างน้อย

สังคมพืชในอุทยานแห่งชาติสามารถแบ่งออกได้เป็น
ป่าดงดิบ จากการศึกษาพบว่า บริเวณที่เป็นป่าดงดิบธรรมชาติ จะพบได้เฉพาะบริเวณที่อยู่ติดลำห้วยมวกเหล็ก และขึ้นกระจายเป็นหย่อมๆ ตามแนวลำน้ำ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ โสกน้ำ ไคร้ย้อย มะแฟน ยางนา ตะเคียนทอง ยมหอม กระทิง สัตตบรรณ อบเชย มะเดื่อ สาธร เฉียงพร้านางแอ มะหาด ฯลฯ พันธุ์พืชที่ขึ้นในน้ำและที่ชื้นได้แก่ ไคร้น้ำ สันตะวา ดีปลีน้ำ บัวสาย เฟินก้านดำ กูดเขากวาง กกรังกา ตีนตุ๊กแก ไม้เถาได้แก่ นมตำเลีย สะบ้า กระเช้าผีมด แสลงพัน เครือออน บันไดลิง หวายชนิดต่างๆ พืชอิงอาศัย เช่น ข้าหลวงหลังลาย กระแตไต่ไม้ เอื้องกระเรกระร่อน เป็นต้น

ป่าเบญจพรรณ พบอยู่ในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าที่ฟื้นตัวเองตามธรรมชาติ มีไม้ชั้นบนที่สำคัญ คือ ประดู่ป่า สำโรง กะพี้ งิ้วป่า ตะคร้ำ หว้า แสมสาร มะเดื่อ ไม้ชั้นรองได้แก่ โมกหลวง ตีนนก แคหางค่าง ปีบ หนามคนทา หนามมะเค็ด ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบไผ่ป่า ไผ่คาย ขึ้นทั่วพื้นที่ ส่วนพืชพื้นล่างและพืชคลุมดิน ประกอบด้วยกล้าไม้ของไม้ชั้นรอง และไม้พุ่มเป็นส่วนใหญ่ และยังพบหญ้าคาขึ้นเป็นกลุ่มในบางพื้นที่

สัตว์ป่าที่สำรวจพบในอุทยานแห่งชาติประกอบด้วย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พบจำนวน 19 ชนิด ได้แก่ เลียงผา หมาจิ้งจอก หมาไม้ ชะมดเช็ด พังพอนธรรมดา ลิ่นพันธุ์มลายู อีเห็นข้างลาย อ้น เม่นใหญ่แผงคอสั้น กระต่ายป่า กระจ้อน กระเล็นขนปลายหูสั้น พญากระรอกบินหูแดง กระรอกหลากสี หนูพุกใหญ่ และหนูท้องขาว เป็นต้น มีนกชนิดต่างๆ ทั้งหมด 78 ชนิด แยกเป็นนกประจำถิ่น 54 ชนิด นกอพยพย้ายถิ่นตามฤดูกาล 23 ชนิด และนกอพยพผ่าน 1 ชนิด ได้แก่ เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ นกแอ่นตาล นกเด้าดินทุ่ง นกปรอดหัวสีเขม่า นกแซงแซวหงอนขน นกกระเต้นน้อยธรรมดา นกกระปูด นกจับแมลงสีฟ้า นกกางเขนดง นกแอ่นพง นกกระแตแต้แว้ด นกตะขาบทุ่ง นกสีชมพูสวน นกอีเสือสีน้ำตาล นกจาบคาหัวสีส้ม นกกินปลีอกเหลือง ไก่บ้าน นกหกเล็กปากแดง นกกวัก นกกะรางหัวขวาน ฯลฯ สัตว์เลื้อยคลาน สำรวจพบ 17 ชนิด ได้แก่ เต่านา กิ่งก่าเขาเล็ก กิ้งก่าบิน ตะกอง ตุ๊กแกบ้าน จิ้งจกหางหนาม จิ้งจกบ้าน จิ้งเหลนบ้าน ตะกวด เหี้ย งูเหลือม และงูเขียวพระอินทร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสำรวจพบ ผีเสื้อ จำนวน 48 ชนิด ได้แก่ ผีเสื้อถุงทองธรรมดา ผีเสื้อหนอนใบรักฟ้าใหญ่ ผีเสื้อปลายปีกส้มใหญ่ ผีเสื้อจิ๋วหนอนมะพร้าวธรรมดา และผีเสื้อหนอนพุทราธรรมดา ฯลฯ


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
หมู่ 9 บ้านแก่งหลุ ต.มวกเหล็ก อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี 18180
โทรศัพท์ : 0 3634 4416 โทรสาร : 0 3634 4416

รถยนต์
จังหวัดสระบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ตามถนนพหลโยธิน ระยะทาง 108 กิโลเมตร และตามทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือระยะทาง 113 กิโลเมตร จากตัวเมืองสระบุรีโดยใช้เส้นทางสายหลัก คือ ถนนมิตรภาพ ผ่านอำเภอแก่งคอยไปมวกเหล็ก ระยะทางจากตัวเมืองสระบุรี ถึงทางแยกเข้าสู่ทางหลวงสายมวกเหล็ก-หนองย่างเสือ ระยะทาง 41 กิโลเมตร จากทางแยกเข้าสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยระยะทาง 12 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ด้านขวาตรงข้ามวัดน้ำตกเจ็ดสาวน้อย


รถไฟ
การเดินทางโดยรถไฟ ต้องนั่งรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ รถจะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีสระบุรี สถานีแก่งคอย และสถานีมวกเหล็ก จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางสายสระบุรี - แก่งคอย - มวกเหล็ก ไปลงหน้าอุทยานแห่งชาติ


รถโดยสารประจำทาง
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางเส้นทางกรุงเทพ-สระบุรี หรือกรุงเทพฯ – ลพบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง รถจะไปจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งสระบุรี จากนั้นนั่งรถโดยสารสระบุรี-แก่งคอย – มวกเหล็ก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที รถจะไปจอดส่งผู้โดยสารที่หน้าอุทยานแห่งชาติ หรือโดยสารรถโดยสารเส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ลงที่ตลาด อ.ส.ค. จากนั้นต่อรถโดยสารประจำทางสายสระบุรี-แก่งคอย-มวกเหล็ก ไปลงหน้าอุทยานแห่งชาติ


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกชั้นเตี้ยๆ จำนวน 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงตั้งแต่ 2-5 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นเป็นธารน้ำตกกว้างคล้ายแก่งขนาดใหญ่ มีอ่างน้ำตื้นๆ หลายแห่งที่สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำตกชั้นที่สวยงามที่สุดคือชั้นที่ 4 ช่วงที่สวยงามที่สุดของน้ำตกจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายน เพราะน้ำใสและยังปลอดภัยแก่ผู้ลงเล่นน้ำเนื่องจากน้ำไม่เชี่ยวเหมือนในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม


ลำห้วยมวกเหล็ก ลำห้วยมวกเหล็กเป็นลำห้วยที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ตลอดสายน้ำที่ไหลผ่านในพื้นที่มีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร มีเกาะแก่งที่ไม่สูงมากนักลดหลั่นกันไป


อุโมงค์ต้นไม้ เป็นทิวทัศน์ที่มีความสวยงามแปลกตา อยู่บนทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2089 เส้นทางมวกเหล็ก-วังม่วง ทางทิศตะวันตกของพื้นที่ อุโมงค์ต้นไม้เกิดจากต้นไม้ที่อยู่ริมสองข้างทาง ที่มีเรือนยอดโค้งเข้าหากันจนดูคล้ายอุโมงค์ ก่อให้เกิดความสวยงาม และความร่มรื่นแก่ผู้ที่ขับรถผ่านได้ตลอดวัน



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายไว้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ สถานที่กางเต็นท์มีเนื้อที่ประมาณ 800 ตารางเมตร มีเต็นท์ไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว หรือจะนำเต็นท์มากางเองก็ได้ และในบริเวณที่กางเต็นจะมีจุดที่สามารถก่อกองไฟได้


ที่จอดรถ มีลานจอดรถ ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


บริการอาหาร มีร้านขายอาหารไว้ให้บริการในบริเวณลานจอดรถ


ร้านขายเครื่องดื่ม/ร้านกาแฟ มีร้านขายเครื่องดื่มไว้ให้บริการในบริเวณลานจอดรถ


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนไปท่องเที่ยว ในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ



จังหวัดสระบุรี :: การเดินทาง

จังหวัดสระบุรีมีการคมนาคมติดต่อระหว่างกรุงเทพฯ และระหว่างอำเภอต่างๆ สะดวกรวดเร็ว การเดินทางจากกรุงเทพฯ-สระบุรี สามารถไปได้ทั้งทางรถไฟและรถยนต์

ทางรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (มิตรภาพ) ถึงจังหวัดสระบุรี มีรถโดยสารประจำทาง บขส. ขึ้นจากสถานีขนส่งสายเหนือ รถออกทุกๆ 15 นาที รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ โทร. 936-3660, 936-3666

ทางรถไฟ

จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) มีรถไฟผ่านสระบุรีวันละหลายขบวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง รายละเอียดสอบถามได้ที่หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010, 223-7020

ระยะทางระหว่างจังหวัดสระบุรี ไปจังหวัดใกล้เคียง

สระบุรี-นครราชสีมา 152 กิโลเมตร
สระบุรี-นครนายก 58 กิโลเมตร
สระบุรี-ปราจีนบุรี 86 กิโลเมตร
สระบุรี-ลพบุรี 46 กิโลเมตร

จังหวัดสระบุรี :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

อำเภอพระพุทธบาท

วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ที่ตำบลขุนโขลน ห่างจากตัวจังหวัดสระบุรีประมาณ 28 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายก่อนถึงอำเภอพระพุทธบาทเข้าไป 1 กิโลเมตร ปูชนียสถานที่สำคัญคือ "รอยพระพุทธบาท" ที่ประทับไว้ในแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต หรือเขาสัจจพันธคีรี ลักษณะของรอยพระบาทคล้ายเท้าคน กว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว ค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรอยพระบาทตามลักษณะ 108 ประการ จึงโปรดให้สร้างมณฑปชั่วคราวครอบรอยพระบาทไว้ ต่อมาได้มีการสร้างต่อเติมกันอีกหลายสมัย

ลักษณะของพระมณฑป เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีซุ้มบันแถลงประดับทุกชั้น มีเสาหานย่อมุมไม้สิบสองปิดทองประดับกระจกรับโดยรอบ ฝาผนังด้านนอกปิดทองประดับกระจกเป็นรูปเทพพนม และมีพุ่มข้าวบิณฑ์ บานประตูพระมณฑปเป็นงานศิลปกรรมประดับมุกชั้นเยี่ยมของเมืองไทย ทางขึ้นพระมณฑปเป็นบันไดนาคสามสาย คงจะหมายถึง บันไดเงิน บันไดทอง และบันไดแก้ว ที่ทอดลงจากสวรรค์ หัวนาคที่เชิงบันไดหล่อด้วยทองสำริด เป็นนาค 5 เศียร บริเวณรอบมณฑปมีระฆังแขวนเรียงราย เพื่อให้ผู้ที่มานมัสการได้ตีเป็นการแผ่ส่วนกุศลแก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย พระอุโบสถและพระวิหารต่างๆ ที่อยู่รายรอบ ล้วนสร้างตามแบบศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา และตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์

นอกจากนี้ ในบริเวณวัดยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระพุทธบาท ซึ่งเป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุอันมีค่ายิ่ง อาทิ เช่น เครื่องทรงของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เครื่องลายครามสังคโลก เครื่องทองสำริดโบราณ ศาสตราวุธโบราณ รอยพระพุทธบาทจำลอง ยอดมณฑปพระพุทธบาทเก่า พัดยศของพระสมัยต่างๆ และท่อประปาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ในปีหนึ่งๆ จะมีประชากรเป็นจำนวนมากจากทุกสารทิศไปนมัสการรอยพระพุทธบาทด้วยความเลื่อมใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท ซึ่งปกติจัดให้มีปีละ 2 ครั้ง คือตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จนถึงแรม 1 ค่ำ และตั้งแต่ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 4 จนถึงแรม 1 ค่ำ

บ่อพรานล้างเนื้อ
ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงพระพุทธบาท มีลักษณะเป็นบ่อหินขนาดย่อม ภายหลังได้มีการเปลี่ยนแปลงก่อเสริมปากบ่อขึ้น ที่บริเวณปากบ่อมีรอยเข่าคน ใกล้กับบริเวณบ่อนี้มีหินลาดและมีหลุมลึกลงไป มีขนาดเท่ากระป๋องนม น้ำที่ไหลจากหลุมนี้ถือกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีประวัติเล่ากันว่าพรานบุญผู้พบรอยพระบาทเป็นผู้นำเนื้อมาล้างที่บ่อ โดยคุกเข่าและก้มลงล้างเนื้อในบ่อ ส่วนหลุมขนาดกระป๋องนมนั้น คือรอยปักหอกของพรานบุญ ซึ่งมีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา

สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก
เป็นสถานที่รักษาคนไข้ติดยาเสพติดที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาโปร่งปราบ ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท ห่างจากตัวเมืองสระบุรีไปตามเส้นทางถนนพหลโยธิน ประมาณ 25 กิโลเมตร สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอกนี้ แม่ชีเมี้ยน ปานจันทร์ เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2500 ต่อมาเมื่อแม่ชีเมี้ยนสิ้นชีวิตลง หลวงพ่อจำรูญ ปานจันทร์ ซึ่งเป็นหลานได้เป็นผู้ปฏิบัติภารกิจสืบต่อมา และได้รับรางวัล "แมกไซไซ" เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2518


อำเภอมวกเหล็ก

สวนรุกขชาติมวกเหล็ก
อยู่ห่างจากสระบุรี 37 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามถนนมิตรภาพ ทางเข้าซ้ายมือ ตรงข้ามกับร้ายขายผลิตภัณฑ์ ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) สวนรุกขชาตินี้อยู่ในเนื้อที่ 375 ไร่ อยู่กึ่งกลางระหว่างอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีกับอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีลำธารซึ่งมาจากต้นน้ำในป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำป่าสัก และเป็นเส้นกั้นเขตระหว่างสองจังหวัดนี้ บริเวณสองฟากของลำธารมีสะพานแขวนที่ดูหวาดเสียวแต่ปลอดภัย สำหรับท่านที่สนใจต้นไม้ดอกไม้ สามารถขอพันธุ์ไม้ได้ฟรี จากศูนย์เพาะชำกล้าไม้นครราชสีมา (มวกเหล็ก)

น้ำตกสาวน้อยหรือน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
ทางเข้าทางเดียวกับน้ำตกมวกเหล็ก เป็นทางราดยางต่อไปอีก 9 กิโลเมตร เป็นน้ำตกหลายชั้น ธรรมชาติงดงามมีบริเวณเล่นน้ำกว้างขวาง และร่มรื่นกว่าน้ำตกมวกเหล็ก

ถ้ำดาวเขาแก้ว
เป็นถ้ำมีจุดสีแดง สีดำ และสีน้ำตาลเกาะติดบนเพดานฝาผนังบริเวณถ้ำ มีหินงอกหินย้อย เมื่อถูกแสงไฟจะส่องประกายสวยงามมาก และยังมีฝูงค้างคาวพักอาศัยอยู่ภายในถ้ำเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่หมู่ที่ 10 ตำบลลำพญากลาง อำเภอมวกเหล็ก จากเชิงเขาถึงปากถ้ำ ต้องปีนเขาขึ้นไปประมาณ 90 เมตร ระยะทางห่างจากจังหวัดประมาณ 75 กิโลเมตร


อำเภอแก่งคอย

ผาเสด็จ
เป็นหน้าผาที่รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาประทับเมื่อคราวสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. 2438 อยู่ริมทางรถไฟหมู่ที่ 5 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย รัชกาลที่ 5 ได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธย จปร. และ สผ. ไว้ ณ หน้าผาแห่งนี้ ระยะห่างจากจังหวัดสระบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร ไปตามถนนมิตรภาพประมาณ 25 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายตรงบริเวณโรงเรียนบ้านซับบอนไปตามถนนลูกรังประมาณ 5 กิโลเมตร

ถ้ำพระโพธิสัตว์ และถ้ำธรรมทัศน์
เป็นถ้ำที่มีภาพจำหลักรูปพระโพธิสัตว์ ศิลปะแบบสมัยทวารวดีและสถานที่บูชาจตุรพิมาน พระเจดีย์ทรงลังกา และยังมีหินงอกหินย้อย ตลอดจนบริเวณถ้ำยังเป็นแหล่งธรรมชาติมีพันธุ์ไม้ต่างๆ นานาชนิด สร้างความร่มรื่นสวยงามมาก ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ หมู่ที่ 10 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย ระยะทางห่างจากจังหวัดประมาณ 32 กิโลเมตร (ตามทางหลวงหมายเลข 2) มุ่งสู่จังหวัดนครราชสีมาประมาณ 15 กิโลเมตร มีป้ายขวามือเขียนว่า "วัดถ้ำโพธิสัตว์" เลี้ยวขวาตามทางราดยางประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางลูกรังอีกประมาณ 9 กิโลเมตร ผ่าน "สำนักสงฆ์เจ้านาคราช" ไปสุดทางที่ "วัดถ้ำพระโพธิสัตว์"

ถ้ำพระธาตุเจริญธรรม
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ถ้ำพระธาตุบ่อปลา" บริเวณภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยตามธรรมชาติที่สวยงามมาก และมีพระพุทธรูปปางสะดุ้งมาร เป็นศิลปะแบบสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่บริเวณวัดถ้ำพระธาตุเจริญธรรม ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย ระยะห่างจากจังหวัดประมาณ 22 กิโลเมตร (ตามทางหลวงหมายเลข 2)

พระพุทธบาทน้อย
เป็นรอยพระพุทธบาทจำลอง ลึกลงไปในดินกว้าง 1 ศอกเศษ ยาว 3 ศอก ตั้งอยู่ในบริเวณวัดพระพุทธบาทน้อย ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาหินปูน มีทัศนียภาพสวยงามแปลกตา ห่างจากตัวจังหวัดสระบุรีประมาณ 20 กิโลเมตร ไปตามถนนมิตรภาพ เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอแก่งคอย ข้ามสะพานอดิเรกสาร เลี้ยวซ้ายไปตามถนนอดิเรกสาร เลี้ยวขวาไปตามถนนสองคอน-พระบาทน้อย-พุแค ประมาณ 7.5 กิโลเมตร ถึงวัดพระพุทธบาทน้อย

การล่องแม่น้ำป่าสัก
ในอำเภอแก่งคอยสายแม่น้ำป่าสัก มีทัศนียภาพตามธรรมชาติตลอดริมฝั่งแม่น้ำสวยงาม รวมทั้งมีเขาตามแนวตลอดเส้นทางล่องแก่งที่แปลกตา คล้ายรูปสัตว์ต่างๆ สามารถพักค้างคืนที่หาดผาหมีที่มีบริเวณกว้าง 2 ไร่เศษ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่อำเภอแก่งคอย หรือติดต่อโรงแรมศุภาลัยป่าสักรีสอร์ท โทร. (036) 220066 กรุงเทพฯ โทร. 260-2223-6

จังหวัดสระบุรี :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

อำเภอเสาไห้

เสาร้องไห้
เป็นเสาไม้ใหญ่ตั้งอยู่ในศาลาโบสถ์วัดสูง ห่างจากที่ว่าการอำเภอเสาไห้ 500 เมตร มีประชาชนไปเคารพบูชากันมาก ถือกันว่าเป็นเจ้าแม่ เพราะสิ่งของที่นำไปบูชาเป็นของสตรีทั้งสิ้น มีประวัติเล่ากันสืบมาว่า เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ ได้มีการเกณฑ์เสาจากหัวเมืองต่างๆ เพื่อคัดเสาที่มีลักษณะงดงาม เพื่อจัดเป็นเสาเอก มีเสาต้นหนึ่งลักษณะงดงามมากจึงได้ส่งล่องลงมาตามลำน้ำป่าสัก แต่มาช้าไปเล็กน้อยได้มีการคัดเลือกไปก่อนแล้ว จึงได้เป็นเสารอง ซึ่งถ้าเสาต้นนี้มาทันก็ต้องได้เป็นเสาเอกอย่างแน่นอน เพราะมีลักษณะใหญ่และสวยงามมาก เสาต้นนี้จึงเกิดเสียใจลอยทวนน้ำขึ้นมา และมาจมลง ณ ตำบลนี้ พอตกเวลากลางคืนชาวบ้านได้ยินเสียงร้องไห้ จึงได้ให้ชื่อตำบลนี้ว่า ตำบลเสาร้องไห้ ปัจจุบันเป็นอำเภอเสาไห้

วัดเขาแก้ววรวิหาร
ตั้งอยู่ตำบลต้นตาล ทางฝั่งขวาของแม่น้ำป่าสัก เมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จประภาสหัวเมือง เมื่อเสด็จมาถึงอำเภอเสาไห้ได้โปรดให้ประทับพลับพลาบริเวณท่าหินลาด หน้าวัดเขาแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่สวยงาม เงียบสงบ จึงโปรดเกล้า ให้บูรณะปฏิสังขรณ์ เสร็จแล้วโปรดให้สถาปนาเป็นอารามหลวง มีคำเล่าลือกันว่าในวันดีคืนดีจะเห็นดวงแก้วสุกสว่างเหนือวิหารวัดเขาแก้วเสมอ ถือว่าเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุในองค์พระเจดีย์ วัดเขาแก้ววรวิหาร

วัดสมุทรประดิษฐาราม
ตั้งอยู่ที่ตำบลสวนดอกไม้ ฝั่งขวาของแม่น้ำป่าสัก เป็นอารามหลวงมีภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถสวยงามมาก ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปีจะมีการแข่งขันเรือยาวประเพณี

บึงโง้ง
ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า เป็นแหล่งน้ำทางธรรมชาติมีเนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ สามารถเก็บกักน้ำได้ตลอดทั้งปี มีทัศนียภาพสวยมาก ถือเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ขณะนี้ทางราชการได้ส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง

บึงวัดเพชร
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านยาง เป็นแหล่งน้ำทางธรรมชาติมีเนื้อที่ประมาณ 53 ไร่ มีทัศนียภาพสวยงาม


อำเภอวิหารแดง

เจดีย์พระคุณแม่
เป็นเจดีย์รูปทรงคล้ายพระปฐมเจดีย์ ภายในโดมมีรอยพระพุทธบาทจำลอง และรูปดอกบัวมีฐานรองรับ ล้อมรอบด้วยพระประจำวัน เจดีย์พระคุณแม่แห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อให้กุลบุตรกุลธิดาระลึกถึงและตอบแทนพระคุณแม่ ตั้งอยู่บริเวณวัดคลองใหม่ ตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง ระยะทางห่างจากจังหวัดประมาณ 42 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งสู่กรุงเทพฯ ผ่านหินกองและตลาดหนองแค ก่อนถึงสะพานรพีพัฒน์มีทางแยกซ้ายมือบอกทางเข้าวัดคลองใหม่ เลี้ยวซ้ายผ่านที่ว่าการอำเภอหนองแค ประมาณ 15 กิโลเมตร

อำเภอหนองแค

สวนนกตำบลไผ่ต่ำ
ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 17 กิโลเมตร อยู่บริเวณบ้านลุงต้อม เหมือนแม้น อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านเลขที่ 1 หมู่ 6 ตำบลไผ่ต่ำ อำเภอหนองแค บนเส้นทางพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 84 ซ้ายมือมีป้าย "วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม" (ไผ่ต่ำ) เลี้ยวซ้ายประมาณ 800 เมตร บริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงนกพันธุ์ต่างๆ อาทิ นกเอี้ยงดำ นกกางเขน นกเขา นกกวัก นกกาน้ำเล็ก นกแขวก และนกกระยาง โดยฝูงนกเหล่านี้จะออกหากินตั้งแต่เช้าตรู่ และจะบินกลับรังในตอนเย็นใกล้ค่ำ ป่าไผ่บริเวณนี้มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงนกมากกว่า 50 ปี


อำเภอบ้านหมอ

เมืองขีดขิน
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เสนาราชนคร" ปัจจุบันเหลือเพียงเนินดินล้อมรอบ ตรงกลางเป็นโคกสูงเรียกว่า "โคกปราสาท" นอกจากนี้ยังเคยมีผู้ขุดพบพระพุทธรูปนาคปรกได้ที่บริเวณท่าน้ำ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นท่าน้ำสำหรับกษัตริย์

เมืองขีดขินนี้ ชาวบ้านเล่ากันต่อๆ มาว่าเป็นเมืองเมื่อครั้งพระรามมาปราบพนาสูร และได้ประทานที่ดินให้แก่หนุมานและสุครีพ หนุมานครองกรุงละโว้ (ลพบุรี) สุครีพครองเมืองเสนาราชนครหรือขีดขิน

จังหวัดสระบุรี :: เทศกาล งานประเพณี

ประเพณีตักบาตรดอกไม้
นับว่าเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดสระบุรี และมีแห่งเดียวของประเทศไทย โดยถือเอาวันเข้าพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี จะมีประชาชนผู้เฒ่า ผู้แก่ และคนหนุ่มสาวทั่วไป ต่างพากันไปทำบุญตักบาตรเนื่องในวันเข้าพรรษาที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ซึ่งตามประเพณีชาวพุทธทั้งหลาย เมื่อเสร็จจากการทำบุญตักบาตรในตอนเช้าแล้ว ประชาชนโดยทั่วไปก็จะพากันไปเก็บดอกไม้ชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายต้นกระชายหรือต้นขมิ้น มีสีสันเป็นดอกสีเหลืองหรือสีขาวเรียกว่า "ดอกเข้าพรรษา" ซึ่งดอกไม้ชนิดนี้ชอบขึ้นตามไหล่เขา และจะมีเฉพาะช่วงเข้าพรรษา โดยจะมีการตักบาตรดอกไม้ในตอนบ่ายของวันเข้าพรรษา บริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท

ประเพณีเจ้าพ่อเขาตก
เป็นงานประเพณีประจำปี หรือเรียกว่า "งานแห่เจ้าพ่อเขาตก" โดยในงานนี้จะมีการแสดงอภินิหารต่างๆ ของเจ้าพ่อเขาตก ควบคู่กันไปกับการกระทำพิธีลุยไฟ แห่สิงโตล่อโก๊ะ และการแสดงงิ้ว ส่วนมากชาวจีนที่เป็นลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศจะเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 รวม 4 วัน เป็นประจำทุกปี บริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท

ประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว
พระเขี้ยวแก้ว ชาวพุทธเชื่อกันว่าเป็นฟันของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 จะมีการจัดงานของชาวอำเภอพระพุทธบาท โดยอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากพิพิธภัณฑ์วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ออกแห่ฉลองรอบเมืองพระพุทธบาท โดยมีความเชื่อว่า หากมีการแห่พระเขี้ยวแก้วแล้วจะสามารถบันดาลให้ประชาชนชาวพระพุทธบาทได้รับความร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายดีกันทั่วหน้า เป็นการจัดงานประจำปีของอำเภอพระพุทธบาท

ประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท
รอยพระพุทธบาทค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ได้มีการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ ปัจจุบันรอยพระพุทธบาทตั้งอยู่ ณ บริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท ในปีหนึ่งๆ จะมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางไปนมัสการด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ได้กำหนดให้มีการจัดงานนมัสการปีละ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือน 3 รวม 15 วัน ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 8 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือน 4 รวม 8 วัน

ประเพณีกำฟ้า
จัดให้มีขึ้นในวันสุกดิบ (วันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 3) จะมีการละเล่นพื้นเมือง เช่น เล่นสะบ้า ชนไก่ เผาข้าวหลาม ฯลฯ ส่วนในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 จะมีการทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ ข้าวปั้น เล่าประวัติบรรพบุรุษ ฯลฯ โดยจัดงานที่ตำบลไผ่หลิ่ว อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี เป็นประจำทุกปี

ประเพณีสงกรานต์สรงน้ำเสานางตะเคียนวัดสูง
อำเภอเสาไห้ จัดให้มีประเพณีสงกรานต์สรงน้ำเสานางตะเคียน (เสาร้องไห้) เป็นประจำทุกปี ณ บริเวณหน้าอุโบสถ วัดสูง ตำบลเสาไห้ ในวันที่ 23 เมษายนของทุกปี มีการทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและปิดทองเสานางตะเคียน

การแข่งขันเรือยาวประเพณีลุ่มน้ำป่าสัก
อำเภอเสาไห้ จัดให้มีการแข่งขันเป็นประเพณี ณ บริเวณท่าน้ำหน้าที่ว่าการอำเภอเสาไห้ทุกปี โดยในวันเสาร์-อาทิตย์ สุดท้ายของเดือนกันยายน โดยเชิญเรือยาวจากจังหวัดต่างๆ แบ่งเป็นประเภทของเรือเป็น 4 ประเภท เข้าแข่งขันหาผู้ชนะเลิศ ถือว่าเป็นการอนุรักษ์ประเพณีของท้องถิ่นอย่างหนึ่ง

จังหวัดสระบุรี :: ของฝาก ของที่ระลึก

สระบุรี มีสินค้าพื้นเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อเป็นของฝากหรือของกำนัลได้หลายอย่าง มีวางขายอยู่ตามตลาด และร้านค้าทั่วไปในเมืองสระบุรี สินค้าประเภทแรกที่หาได้ง่าย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก และบริษัทเอกชนต่างๆ เนื้อหวาน เนื้อเค็ม กระหรี่พัฟ มะม่วงหนองแซง ส้มเขียวหวาน แตงโม น้อยหน่า ดอกกะหล่ำปลี สินค้าประเภทต่อมาคือ สินค้าพื้นเมืองประเภทงานฝีมือ ได้แก่ เครื่องจักสาน ผ้าทอพื้นเมือง ตำบลต้นตาล และตำบลท่าช้าง อำเภอเสาไห้ ครกหิน ผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง สินค้าประเภทอุตสาหกรรม คือ ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์หินอ่อน กระเบื้องกระดาษกระเบื้องเคลือบและโมเสค

:: สารบัญเว็บไซท์ ::

:: ข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดสระบุรี ::

สารบัญเว็บไซท์ > ท่องเที่ยว > ข้อมูล และสถานที่ท่องเที่ยว > ภาคกลาง > สระบุรี

ผลการค้นหา : [ แนะนำเว็บไซท์ได้ที่นี่ ]


จังหวัดสระบุรี
แนะนำข้อมูลทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท โรงแรม จังหวัดสระบุรี แผนที่ การเดินทาง ร้านอาหาร เทศกาล งานประเพณี ของฝาก ประวัติความเป็นมา คำขวัญประจำจังหวัด
http://www.relaxzy.com/province/saraburi/

จังหวัดสระบุรี
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสระบุรี ประวัติความเป็นมา สัญลักษณ์และคำขวัญจังหวัด เขตการปกครอง ทรัพยากรธร...
http://www.saraburi.go.th

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี
แนะนำสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี ข้อมูลบุคคลและสำนักงาน ข่าวสารประชาสัมพันธ์ ข่าวประจำจัง...
http://www.prd.go.th/prsaraburi

จังหวัดสระบุรี
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดสระบุรี คำขวัญ ตราประจำจังหวัด ประวัติ อาณาเขต แผนที่ ข้อมูลแหล่งท่อง...
http://travel.sanook.com/central/saraburi/

ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี
ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางท่องเที่ยว แพคเกจทัวร์ ร้านอาหาร โรง...
http://www.saraburitourism.com

น้ำตกไร่กุสุมา จังหวัดสระบุรี
น้ำตกไร่กุสุมา มีบริการห้องพักหลายรูปแบบ พร้อมห้องประชุมสัมมนา ตลอดจนภัตตราคารหรู อาหารอร่อย
http://www.raikusuma.com

สระบุรีซิตี้ดอทคอม
ชุมชนชาวสระบุรี ศูนย์รวมข่าวสารจังหวัดสระบุรี กระดานข่าว ประกาศ สนทนาพบปะพูดคุย แหล่งศึกษาหาความร...
http://www.saraburicity.com

ฟาร์มจระเข้ สวนสัตว์ สระบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสระบุรี ภายในฟาร์มเปิดเป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อน ศึกษาค้นคว้าวิจัย ชีวิตส...
http://www.wonderlandandzoo.com

ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอมวกเหล็ก
รวมข้อมูล ข่าวสาร แหล่งท่องเที่ยว ในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
http://www.muaklek.in.th

ทัวร์สระบุรี
ให้บริการข้อมูลรายละเอียดการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี
http://www.toursaraburi.com

ที่นี่ มวกเหล็ก
ข้อมูลเกี่ยวกับอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ประวัติอำเภอ แหล่งท่องเที่ยว เพลงประจำอำเภอ หน่วยราชการ
http://www.muaklek.net

วังแก้วปาร์คฮิลล์ รีสอร์ท
บริการบ้านพักตากอากาศ รับจัดประชุม สัมมนา จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในโอกาสต่างๆ ในจังหวัดสระบุรี
http://www.wangkeaw2u.5u.com

อิงเขาโฮมสเตย์
ตั้งอยู่เลขที่ 91 หมู่ 8 (กม. 10 ทางไปอุโมงค์ต้นไม้) ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
http://www.ingkhao.thiewthai.com

อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย
อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแก่งคอย อำเภอหนองแค อำเภอวิหารแดง และ...
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=112&lg=1

ไร่องุ่น ปภัสรา
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดสระบุรี มีไร่องุ่น ฟาร์มม้าและนกกระจอกเทศ
http://www.papassara.com

ที่นี่มวกเหล็ก
รีสอร์ท ค่ายลูกเสือ วิทยุชุมชน ห้องพัก โรงแรม บ้านพัก สถานที่ท่องเที่ยว
http://www.teeneemuaklek.com

:: อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น (พระพุทธฉาย) ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแก่งคอย อำเภอหนองแค อำเภอวิหารแดง และอำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ป่าเขาสามหลั่นอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ สภาพธรรมชาติป่าเขา น้ำตกที่สวยงาม โดยเฉพาะน้ำตกเขาสามหลั่น ซึ่งนักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี ทางคมนาคมสะดวกสบาย สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปกลับได้ในวันเดียว อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น มีเนื้อที่ประมาณ 27,856.25 ไร่ หรือ 44.57 ตารางกิโลเมตร

แต่เดิมอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น ได้รับการจัดตั้งเป็นวนอุทยานน้ำตกสามหลั่น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพระฉายทั้งหมด มีเนื้อที่ 24 ตารางกิโลเมตร ในความรับผิดชอบของป่าไม้เขตสระบุรี ต่อมาเมื่อกรมป่าไม้จัดตั้งกองอุทยานแห่งชาติขึ้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2517 จึงได้โอนวนอุทยานน้ำตกสามหลั่นมาขึ้นกับกองอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในอดีตป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นได้ใช้พื้นที่นี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ ทำหลุมหลบภัย มีการตัดไม้ ทำฟืน ทำถ่านหุงหาอาหาร และทำถนน ทำให้ป่าธรรมชาติบางส่วนถูกทำลายลง ในปี พ.ศ. 2503 จึงได้เริ่มทำการปลูกป่าทดแทนให้สภาพป่าฟื้นตัวขึ้นมา และเมื่อได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติทำให้สภาพป่าฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น

ต่อมา ในปี 2519 กรมป่าไม้ได้ให้กองอุทยานแห่งชาติ พิจารณาป่าพระฉาย กำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติจึงให้วนอุทยานน้ำตกสามหลั่นไปทำการสำรวจ ซึ่งวนอุทยานน้ำตกสามหลั่นได้มีหนังสือรายงานผลการสำรวจว่า บริเวณป่าพระฉายเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สภาพป่าสมบูรณ์ดี มีน้ำตกที่สวยงาม และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด เหมาะที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2519 เห็นสมควรให้กำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าพระฉายและน้ำตกสามหลั่น ในท้องที่ตำบลหนองนาก ตำบลห้วยทราย ตำบลโคกแย้ อำเภอหนองแค ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมืองสระบุรี ตำบลบ้านลำ ตำบลคลองเรือ อำเภอวิหารแดง และตำบลห้วยแห้ง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 85 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 27 ของประเทศ

ต่อมาในปี 2543 อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมราชการและได้แนะนำว่า ควรเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นเป็น อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย โดยกรมป่าไม้พิจารณาแล้วเพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และสภาพของพื้นที่ จึงเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น เป็นอุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พิจารณาชื่ออุทยานแห่งชาติให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับจุดเด่น และศักยภาพที่สำคัญของพื้นที่ที่จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ จึงเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย เป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน เป็นเทือกเขาสูงที่วางตัวตามแนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ มีที่ราบแคบๆ ระหว่างหุบเขาอยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติ ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ เขาครก มีความสูงประมาณ 329 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นตัวเมืองสระบุรี และอำเภอใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน ป่าแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกหลายแห่ง เป็นต้นน้ำลำธารที่ไหลไปหล่อเลี้ยงไร่นาของราษฎรที่อยู่ใกล้เคียง สภาพของดินเป็นดินเหนียวและดินร่วนปนทราย หินชั้นล่างเป็นพวกหินดินดาน


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
สภาพภูมิอากาศในเขตอุทยานแห่งชาติสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูร้อน จะร้อนอบอ้าวระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ฤดูฝนจะมีฝนตกชุก ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน และฤดูหนาวอากาศเย็นสบาย ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย 28oC มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,200 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนได้ตลอดปี


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ แดง ประดู่ พลวง เต็ง รัง ตะเคียนทอง มะค่า ตะแบก เป็นต้น และพันธุ์ไม้อื่นๆ ที่ทำการสำรวจไว้กว่า 800 ชนิด ส่วนไม้พื้นล่างเป็นพวกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ ตลอดจนหวาย และกล้วยไม้ เป็นต้น

สำหรับสัตว์ที่มีอาศัยอยู่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น ไก่ฟ้า ไก่ป่า เก้ง กระจง ลิง หมูป่า กระรอก กระแต และนกชนิดต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ซึ่งคาดว่าจะสูญพันธุ์ ไปแล้ว


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น (พระพุทธฉาย)
ตู้ ปณ.10 ต.หนองปลาไหล อ. เมืองสระบุรี จ. สระบุรี 18000
โทรศัพท์ : 0 3622 5171-2 โทรสาร : 0 3622 5172

รถยนต์
จากกรุงเทพฯ เดินทางไปยังจังหวัดสระบุรี ตามถนนพหลโยธิน ก่อนถึงจังหวัดสระบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร ก่อนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 102 มีทางกลับรถ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3042 ประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3046 ประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 110 กิโลเมตร


รถโดยสารประจำทาง
เดินทางโดยรถประจำทางไปยังจังหวัดสระบุรี แล้วเหมารถรับจ้างไปยังอุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกสามหลั่น เป็นลานหินกว้างวางเรียงซ้อนกันเป็นสามชั้น ลดหลั่นกันอย่างละชั้นสูงประมาณ 5 เมตร ในบริเวณน้ำตกมีโต๊ะ ม้านั่ง ไว้สำหรับนั่งเล่น ชมน้ำตก ชมธรรมชาติ เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ มีเส้นทางเดินป่าน้ำตกสามหลั่น-อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณลานอเนกประสงค์ ผ่านน้ำตกสามหลั่น อ่างเก็บน้ำเขาสามหลั่น อ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล น้ำตกแผงม้า อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง ไปสิ้นสุดบริเวณที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พฉ.1 (ซับปลากั้ง)


น้ำตกโพธิ์หินดาด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 400 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียวไม่ใหญ่นัก มีลานหินกว้างและต้นโพแผ่กิ่งก้านสาขา


น้ำตกโตนรากไทร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 400 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ตกลงมาจากหน้าผาหินสูงประมาณ 7 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มี เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติน้ำตกโตนรากไทร-น้ำตกสามหลั่น ระยะทางประมาณ 2,500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 90 นาที โดยมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ผ่านน้ำตกโตนรากไทร อ่างเก็บน้ำเขาสามหลั่น น้ำตกสามหลั่น ไปสิ้นสุดบริเวณลานอเนกประสงค์ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


น้ำตกรอยเกือกม้า น้ำตกนางโจน น้ำตกโกรกอีเว่อ น้ำตกแผงม้า และน้ำตกเขาแดง น้ำตกรอยเกือกม้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก บริเวณลานหินมีร่องรอยคล้ายเกือกม้ากระจายอยู่ทั่วบริเวณ

น้ำตกนางโจน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก บนหน้าผาหิน 2 ชั้น สูงประมาณ 4 เมตร สายน้ำตกลงสู่แองน้ำเบื้องล่าง

น้ำตกโกรกอีเว่อ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีความสูงพอประมาณ

น้ำตกแผงม้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4.5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนดเล็ก มีความสูงประมาณ 10 เมตร สายน้ำตกลงสู่อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง

น้ำตกเขาแดง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 800 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กมีความสูงประมาณ 4 เมตร สายน้ำตกลงสู่อ่างเก็บน้ำเขารวก


อ่างเก็บน้ำเขารวก อ่างเก็บน้ำเขารวก สร้างประมาณปี 2523 บริเวณริมอ่างเห็บน้ำมีบ้านพัก ศาลาอเนกประสงค์ รวมทั้งห้องน้ำ-ห้องสุขา และร้านค้าสวัสดิการ นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติยังได้จัดกิจกรรมนันทนาการไว้บริการได้แก่

เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ในเส้นทางเดินป่าเขาแดง-น้ำตกสามหลั่น ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที โดยมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณอ่างเก็บน้ำเขารวก ผ่านน้ำตกเขาแดง น้ำตกเขาสามหลั่น ไปสิ้นสุดบริเวณลานอเนกประสงค์ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

การพายเรือคายัคและจักรยานน้ำ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจบริเวณอ่างเก็บน้ำเขารวก


อ่างเก็บน้ำเขาสามหลั่น และอ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล อ่างเก็บน้ำเขาสามหลั่น และอ่างเก็บน้ำเขาไม้นวล ที่สร้างในปี 2523 เช่นเดียวกัน เป็นแหล่งน้ำที่มีทิวทัศน์ร่มรื่น และเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่า


อ่างเก็บน้ำซับปลากั้ง
สร้างเมื่อปี 2539 เป็นโครงการชลประทานขนาดเล็ก บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำมีทิวทัศน์สวยงาม และเป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคของราษฎรในท้องที่อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี


จุดชมทิวทัศน์บนยอดเขาครก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 3 กิโลเมตร มีความสูงประมาณ 329 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวจังหวัดสระบุรีและอำเภอใกล้เคียง



:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
อนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 (ถ้ำเขาแดง) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 2 กิโลเมตร สร้างโดยกองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นถ้ำที่ขุดเจาะลึกเข้าไปในภูเขา


ซากเจดีย์โบราณบนยอดเขาเรดาร์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 5 กิโลเมตร คาดว่าก่อสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันยังมีร่องรอยปรากฏอยู่


อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นอุโมงค์รถไฟชนิดรางเดียว มีความกว้างประมาณ 7 เมตร สูง 7 เมตร ยางประมาณ 1,197 เมตร สร้างเมื่อปี 2537 เป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยที่สร้างโดยคนไทย



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขารวก สามารถกางเต็นท์ได้ประมาณ 50-60 หลัง โดยมีสถานที่สำหรับจัดกิจกรรม โรงประชุม ห้องสุขาหญิง ห้องสุขาชาย และห้องอาบน้ำ การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ค่ายเยาวชน มีค่ายพักแรมสำหรับเยาวชนและนักท่องเที่ยว จำนวน 2 หลัง พักได้หลังละ 50-60 คน


ที่จอดรถ มีลานจอดรถ จำนวน 1 แห่ง สามารถจอดรถได้ ประมาณ 50 คัน


บริการอาหาร มีร้านอาหารอาหารสวัสดิการสำหรับบริการนักท่องเที่ยว และเยาวชนที่มาเข้าค่ายพักแรม


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.


อื่นๆ มีอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกด้านกิจกรรมนันทนาการทั้งทางบกและทางน้ำ ได้แก่ เรือคะยัค จักรยานน้ำ ห่วงยาง เสื้อชูชีพ เต็นท์ และจักรยาน


ระบบสาธารณูปโภค มีระบบไฟฟ้า ระบบประปา โทรศัพท์สาธารณะ


ทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติทั้งระยะใกล้และระยะไกล พร้อมเจ้าหน้าที่นำเดินป่า

0 ความคิดเห็น: