วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

:: จังหวัดกระบี่ ::

จังหวัดกระบี่ :: ข้อมูลทั่วไป

"หอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย รวยเกาะเพาะปลูกปาล์ม งามหาดทรายใต้ทะเลสวยสด มรกตอันดามัน"

จังหวัดกระบี่ :: ข้อมูลทั่วไป

กระบี่ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิมคือเมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตร ที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐาน เกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ว่า อาจมาจากความหมายที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมา เกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณ ก่อนที่จะสร้างเมือง อันเป็นที่มาของสัญลักษณ์จังหวัดกระบี่ในปัจจุบัน


ลักษณะภูมิประเทศ

กระบี่ ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ ที่อุดมไปด้วยป่าชายเลน สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวปนทรายและดินร่วน จึงเหมาะแก่การทำสวนยางพารา สวนปาล์ม สวนมะม่วงหิมพานต์ สวนกาแฟ สวนมะพร้าว บริเวณตัวเมืองมีแม่น้ำกระบี่ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามันที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ ยังมีคลอง ปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา

กระบี่ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ จึงมีเพียง 2 ฤดูเท่านั้น คือ ฤดูร้อนซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน และฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงธันวาคม


อาณาเขตติดต่อและการปกครอง

กระบี่ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครตามเส้นทางถนนเพชรเกษม (หมายเลข 4) ประมาณ 814 ก.ม. มีเนื้อที่ประมาณ 4,708 ตาราง ก.ม. โดยมีอาณาเขตดังนี้

ทิศเหนือ จดจังหวัดพังงาและสุราษฎร์ธานี
ทิศใต้ จดจังหวัดตรังและทะเลอันดามัน
ทิศตะวันออก จดจังหวัดตรังและนครศรีธรรมราช
ทิศตะวันตก จดจังหวัดพังงาและทะเลอันดามัน

จังหวัดกระบี่ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 6 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ ดังนี้คือ อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเขาพนม อำเภอคลองท่อม อำเภอปลายพระยา อำเภอลันตา อำเภออ่าวลึก กิ่งอำเภอลำทับ และกิ่งอำเภอเหนือคลอง


หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 075)

สำนักงานจังหวัดกระบี่
611-381

ททท.สำนักงานภาคใต้ เขต 4
(076) 211-036 , 212-213 , 217-138

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
612-740

ตำรวจทางหลวง (จ.พังงา)
(076) 411-350 , 411-942

สถานีตำรวจภูธร อ.เมือง
611-222

ไปรษณีย์จังหวัด
611-050

สถานีขนส่งจังหวัด
611-804

รพ.กระบี่
611-226 , 611-210

รพ.คลองท่อม
612-353

รพ.อ่าวลึก
612-288

รพ.เขาพนม
612-388

รพ.ปลายพระยา
612-975


:: โรงแรม เกาะลันตา ที่พัก เกาะลันตา ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะลันตา ที่พัก เกาะลันตา

ภูพระนาง รีสอร์ท แอนด์ สปา (Phu Pranang Resort & Spa) อ่าวนาง
Mild Bungalow อ่าวนาง
โรงแรม อ่าวนาง เทอเรส (Ao Nang Terrace Hotel) อ่าวนาง
อ่าวนาง เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Ao Nang Bay Resort & Spa) อ่าวนาง
ดวงใจ รีสอร์ท (Duang Jai Resort) อ่าวนาง
เอมเมอรัลด์ การ์เด้น รีสอร์ท (Emerald Garden Resort) อ่าวนาง
กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท (Krabi La Playa Resort) อ่าวนาง
พาวิลเลี่ยน ควีนส์ เบย์ (Pavilion Queen`s Bay) อ่าวนาง
ปกาสัย รีสอร์ท (Pakasai Resort) อ่าวนาง
กระบี่ ไทย วิลเลจ รีสอร์ท (Krabi Thai Village Resort) อ่าวนาง
ศรีสุขสันต์ รีสอร์ท (Srisuksant Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
บุรี ธารา รีสอร์ท (Buri Tara Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
อ่าวนางบุรี รีสอร์ท (Aonang Buri Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
อันดามณี บูติค รีสอร์ท (Andamanee Boutique Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
Chaya Resort Ao Nang, Nopparattara Beach
โรงแรม อลิส (Alis Hotel) Ao Nang, Nopparattara Beach
Krabi National Park Success Resort Ao Nang, Nopparattara Beach
อโยธยา สูทส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Ayodhaya Suite Resort & Spa) Ao Nang, Nopparattara Beach
เซ็นทรัล กระบี่ เบย์ รีสอร์ท (Central Krabi Bay Resort) Ao Nang, Phaiplong Beach
ดรีม การ์เด้น โฮสเตล (Dream Garden Hostel) Ao Nang, Phranang Bay
กระบี่ ซีวิว รีสอร์ท (Krabi Seaview Resort) Ao Nang, Phranang Bay
The Verandah Ao Nang, Phranang Bay
บลู วิลเลจ (Blue Village) Ao Nang, Phranang Bay
อ่าวนาง พาราไดซ์ รีสอร์ท (Aonang Paradise Resort) Ao Nang, Phranang Bay
ทิพา รีสอร์ท (Tipa Resort) Ao Nang, Phranang Bay
บ้านอ่าวนาง รีสอร์ท (Best Western Ban Ao Nang Resort) Ao Nang, Phranang Bay
โรงแรม อ่าวนาง เพรสซิเด้นท์ (Aonang President Hotel) Ao Nang, Phranang Bay
สมเกียรติ บุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา (Somkiet Buri Resort & Spa) Ao Nang, Phranang Bay
เดอะ บีช รีสอร์ท (The Beach Resort) Ao Nang, Phranang Bay
Tropical Herbal Spa & Resort Ao Nang, Phranang Bay
โวค รีสอร์ท แอนด์ สปา อ่าวนาง (Vogue Resort & Spa Ao Nang) Ao Nang, Phranang Bay
โรงแรม กระบี่ เฮอริเทจ (Krabi Heritage Hotel) Ao Nang, Phranang Bay
คลิฟ อ่าวนาง รีสอร์ท (Cliff Ao Nang Resort) Ao Nang, Phranang Bay
พระนาง เพลส (Phranang Place) Ao Nang, Phranang Beach
โรงแรม อ่าวนาง ซันเซท (Ao Nang Sunset Hotel) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง ซี ฟร้อนท์ ไทย รีสอร์ท (Ao Nang Sea Front Thai Resort) Ao Nang, Phranang Beach
Wannas Place (Andaman Sunset Resort) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง บีช รีสอร์ท (Ao Nang Beach Resort) Ao Nang, Phranang Beach
โรงแรม บีช เทอเรส (Beach Terrace Hotel) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง พริ้นซ์วิลล์ รีสอร์ท (Aonang Princeville Resort) Ao Nang, Phranang Beach
พระนาง อินน์ (Phra-Nang Inn) Ao Nang, Phranang Beach
กระบี่ รีสอร์ท (Krabi Resort) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง วิลล่า (Aonang Villa) Ao Nang, Phranang Beach
โกลเด้น บีช รีสอร์ท (Golden Beach Resort) Ao Nang, Phranang Beach
ไร่เลย์ พริ้นเซส รีสอร์ท แอนด์ สปา (Railay Princess Resort & Spa) Ao Nang, Railay Bay
ไดมอนด์ ไพรเวต รีสอร์ท (Diamond Private Resort) Ao Nang, Railay Bay East
แซนด์ ซี รีสอร์ท (Sand Sea Resort) Ao Nang, Railay Beach
ไร่เลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Railay Bay Resort & Spa) Ao Nang, Railay Beach
Ya Ya Resort Ao Nang, Railay Beach East
Sunrise Tropical Resort Ao Nang, Railay Beach East
รายาวดี รีสอร์ท (Rayavadee Resort) Ao Nang, Railey Beach
ต้นไทร เบย์ รีสอร์ท (Tonsai Bay Resort) Ao Nang, Tonsai Bay
Koh Jum Lodge Koh Jum / Koh Pu Island
ดรีมทีม บีช รีสอร์ท (Dream Team Beach Resort) Koh Lanta Yai, Ao Nui Bay
ลันตา มารีน ปาร์ควิว รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะลันตาใหญ่
บ้านลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะลันตาใหญ่
พระนาง ลันตา (Phra Nang Lanta) Koh Lanta Yai, Kantiang Beach
พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา (Pimalai Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Kantiang Beach
เขากวาง บีช รีสอร์ท (Kaw Kwang Beach Resort) Koh Lanta Yai, Kaw Kwang Beach
ทวินเบย์ รีสอร์ท (Twinbay Resort) Koh Lanta Yai, Kaw Kwang Beach
โอเชี่ยน วิว รีสอร์ท (Ocean View Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
Lanta Bee Garden Bungalows Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
ลันตา ไอส์แลนด์ รีสอร์ท (Lanta Island Resort) เกาะลันตาใหญ่
ลันตา เรสซิเด้น แอนด์ สปา (Lanta Residence & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
โกลเด้น เบย์ คอตเทจ (Golden Bay Cottage) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
อันดามัน ลันตา รีสอร์ท (Andaman Lanta Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
เซาเทิร์น ลันตา รีสอร์ท (Southern Lanta Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
D.R Lanta Bay Resort Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
ฮอลิเดย์ วิลล่า (Holiday Villa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
รอยัล ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Royal Lanta Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
พรีเมียร์ มายา รีสอร์ท (Best Western Premier Maya Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
ทวิน โลตัส รีสอร์ท แอนด์ สปา (Twin Lotus Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
Chada Beach Resort and Spa Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
Nice`n Easy House Koh Lanta Yai, Klong Kon Beach
Lanta Nice Beach Resort Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
ลันตา พาเลซ รีสอร์ท (Lanta Palace Resort & Beach Club) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
ลันตา อิลมาเร่ บีช รีสอร์ท (Lanta ilmare Beach Resort) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
Lanta White Rock Resort & Spa Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
ศรีลันตา (SriLanta) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
รวิวาริน รีสอร์ท แอนด์ สปา (Rawi Warin Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
มูนไลท์ เบย์ รีสอร์ท (Moonlight Bay Resort) Koh Lanta Yai, Klong Tok Beach
ลันตา การ์เด้น ฮิลล์ รีสอร์ท (Lanta Garden Hill Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Bay
ฌ เฌอ ทรอปิคาน่า ลันตา รีสอร์ท Koh Lanta Yai, Phra Ae Bay
Sayang Beach Bungalows Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
Gooddays Lanta Chalet & Resort Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
Freedom Estate Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลันตา ลอง บีช รีสอร์ท (Lanta Long Beach Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
Lanta Nakara Resort Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
มุก ลันตา บูติค รีสอร์ท แอนด์ สปา Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
รีแลกซ์ เบย์ รีสอร์ท (Relax Bay Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลันตา คาชัวรินา บีช รีสอร์ท (Lanta Casuarina Beach Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลันตา แซนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Lanta Sand Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลยานา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Layana Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach



:: โรงแรม เกาะพีพี ที่พัก เกาะพีพี กระบี่ ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะพีพี ที่พัก เกาะพีพี กระบี่

โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ (The Greenery Hotel) Krabi Town
โรงแรม บุญสยาม (Boonsiam Hotel) Krabi Town
โรงแรม กรีน เฮ้าส์ (Green House Hotel) Krabi Town
เทพรัตน์ ลอด์จ (Theparat Lodge) Krabi Town
มาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท (Maritime Park & Spa Resort) Krabi Town
Thip Residence Krabi, Ao Namao Beach
กระบี่ ทรอปิคอล เบย์ รีสอร์ท (Krabi Tropical Bay Resort) Krabi, Ao Namao Beach
La Venice Residence Krabi, Klong Muang Bay
อันดามัน ฮอลิเดย์ รีสอร์ท (Andaman Holiday Resort) Krabi, Klong Muang Beach
กระบี่ แซนด์ รีสอร์ท (Krabi Sands Resort) Krabi, Klong Muang Beach
Sofitel Phokeethra Krabi Krabi, Klong Muang Beach
เชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ท (Sheraton Krabi Beach Resort) Krabi, Klong Muang Beach
นาคามันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Nakamanda Resort & Spa) Krabi, Klong Muang Beach
ทับแขก ซันเซท บีช รีสอร์ท (Tup Kaek Sunset Beach Resort) Krabi,Tubkaak Beach
ทับแขก บูติค รีสอร์ท (Tubkaak Boutique Resort) Krabi,Tubkaak Beach
ภูเลบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Phulay Beach Resort & Spa) Krabi,Tubkaak Beach
พีพี ไอส์แลนด์ คาบาน่า โฮเต็ล (Phi Phi Island Cabana Hotel) Phi Phi Island - Ton Sai Beach
Araya Buri Resort Phi Phi Island, Laem Hin
พีพี เนเชอรัล รีสอร์ท (Phi Phi Natural Resort) Phi Phi Island, Laem Tong
พีพี เอราวัณ ปาล์ม รีสอร์ท (PP Erawan Palms Resort) Phi Phi Island, Laem Tong
ฮอลิเดย์ อินน์ พีพี ไอส์แลนด์ (Holiday Inn Phi Phi Island) Phi Phi Island, Laem Tong
ซีโวล่า (Zeavola) Phi Phi Island, Laem Tong
เบย์ วิว รีสอร์ท (Bay View Resort) Phi Phi Island, Leam Hin Beach
พีพี วิวพอยท์ รีสอร์ท (Phi Phi Viewpoint Resort) Phi Phi Island, Lo Dalam Beach
พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Pee Pee Island Village Beach Resort & Spa) Phi Phi Island, Loh Ba Gao Bay
พีพี โฮเต็ล (Phi Phi Hotel) Phi Phi Island, Ton Sai Beach
Phi Phi Banyan Villa Phi Phi Island, Ton Sai Beach



จังหวัดกระบี่ :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

ตัวเมืองกระบี่ เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีเขาขนาบน้ำที่เป็นจุดเด่นของเมืองคู่กับป่าชายเลนที่สมบูรณ์ เขียวชอุ่ม ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนู เพื่อเป็นการพักผ่อน และออกกำลังกาย หรือในช่วงเย็นแดดร่ม อากาศสบาย ๆ สามารถเดินเล่นรับลมพร้อม ๆ กับนั่งรับประทานอาหารเย็นได้ที่ตลาดโต้รุ่ง บริเวณท่าเรือเจ้าฟ้า และบริเวณตลาด ถนนมหาราช ก็มีอาหารพื้นเมืองให้รับประทาน ทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำพริก แกงไตปลา ไก่ทอดพื้นเมืองรสชาติกลมกล่อม และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามหาดหรือเกาะต่างๆ เช่น หาดไร่เลย์ อ่าวนาง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะจำ และเกาะสีบอยา สามารถลงเรือโดยสารหรือติดต่อเช่าเรือได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ในอำเภอเมือง

เขาขนาบน้ำ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ ๑๐๐ เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง ๑๕ นาที นอกจากนั่งเรือชมเขา และป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ แล้วยังสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำได้ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอีกด้วย แต่ปัจจุบันไม่หลงเหลืออยู่แล้ว สันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคน ที่อพยพมาตั้งหลักแหล่ง แต่ล้มตายลง เนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และสำหรับนักนิยมพายเรือแคนู บริเวณนี้เหมาะที่จะพายเรือแคนู เพราะมีธรรมชาติที่เขียวชอุ่มด้วยป่าชายเลนและน้ำนิ่ง สนใจสามารถติดต่อบริษัทเรือแคนู ในจังหวัดกระบี่ได้

นอกจากนั้นไม่ห่างจากเขาขนาบน้ำ จะมีชุมชนชาวเกาะกลาง ที่บนเกาะจะมีหอพิพิธภัณฑ์ และศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านแสดงเครื่องใช้ในสมัยโบราณ ของที่ระลึกฝีมือชาวบ้าน อาทิ เรือโทงเทง และจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน การทอผ้าฝ้าย การเลี้ยงปลาในกระชัง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือ จากท่าเรือเทศบาล บริเวณเขาขนาบน้ำ ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที ค่าเช่าเรือลำละ ๓๐๐ บาท

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีพื้นที่ ๒๔๒,๔๓๗ ไร่ เป็นพื้นน้ำประมาณ ๒๐๐,๘๔๙ ไร่ มีป่าไม้ ๓ ประเภท คือ ป่าดงดิบชื้น พบเห็นได้บริเวณเขาสูงชันบริเวณเขาหางนาค เขาอ่าวนาง ป่าชายเลน จะพบบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ คลองย่านสะบ้า และด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณสุสานหอย ๔๐ ล้านปี และป่าพรุ ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างสมบูรณ์ มีสัตว์ต่าง ๆ ที่พบในอุทยานฯ ได้แก่ นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง หมูป่า ลิง และค่าง สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว คือเดือนพฤษภาคม-เดือนเมษายน อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ

หาดนพรัตน์ธารา อยู่ห่างจากตัวเมือง ๑๗ กิโลเมตร ชายหาดมีความยาวเกือบ ๓ กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด กลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายทะเลยาวเหยียด เมื่อน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ นอกจากนั้นบริเวณชายหาด มีที่พักของอุทยานฯ บริการแก่นักท่องเที่ยว โทร. ๐ ๗๕๖๓ ๗๒๐๐ จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าไปตามชายหาดด้านทิศตะวันตก มีบังกะโลหลายแห่งให้บริการนักท่องเที่ยว ชายหาดบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่ชาวกระบี่นิยมไปเที่ยวพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์ ยังไม่มีถนนตัดเลียบชายหาด

สุสานหอย อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑๗ กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับ ทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว ๒ เซนติเมตร ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเล หุ้มเปลือกหอยใต้น้ำ จนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ ๔๐ เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้ จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว ๔๐ ล้านปี

อ่าวนาง อยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลระยะทาง ๖ กิโลเมตร เป็นชายหาดยาว มีที่พักร้านค้า บริษัทนำเที่ยว บริการหลายแห่ง ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนตระหง่าน จากอ่าวนางสามารถเช่าเรือไปเที่ยวชายหาดด้านทิศตะวันออกได้แก่ หาดไร่เล ซึ่งเป็นหาดทรายสีขาวละเอียด และ หาดถ้ำพระนาง ซึ่งมีถ้ำหินงอกหินย้อยและกิจกรรมปีนหน้าผาที่น่าตื่นเต้น ท้องทะเลในบริเวณอ่าวนางมีเกาะใหญ่น้อยกว่า ๘๓ เกาะ บางเกาะมีรูปร่างประหลาดคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก เกาะที่มีหาดทรายสวยงามและคนนิยมไปเที่ยวเล่นน้ำชมปะการังได้แก่ เกาะปอดะ เกาะหม้อ และเกาะทัพ

สำหรับค่าโดยสารเรือจากอ่าวนางไปยังหาดและเกาะต่าง ๆ เช่น อ่าวนาง-ไร่เล ใช้เวลา ๑๐ นาที ค่าโดยสารคนละ ๕๐ บาท อ่าวนาง-ถ้ำพระนาง ใช้เวลา ๑๕ นาที ค่าโดยสารคนละ ๕๐ บาท อ่าวนาง-เกาะปอดะ ใช้เวลา ๒๕ นาที ไป-กลับ ค่าโดยสารคนละ ๒๐๐ บาท อ่าวนาง-เกาะไก่ ไป-กลับ ใช้เวลา ๒๕ นาที ค่าโดยสารคนละ ๒๕๐ บาท อ่าวนาง-หมู่เกาะห้อง ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง ราคาค่าเรือลำละ ๑,๕๐๐ บาท สำหรับเวลากลางคืน อ่าวนาง-ไร่เลย์ ค่าโดยสารคนละ ๘๐ บาท สามารถเช่าเรือได้ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐–๑๙.๐๐ น.

การเดินทางไปอ่าวนางจากตัวเมืองกระบี่ นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถสองแถว ค่าโดยสาร ๒๐ บาท ใช้เวลาประมาณ ๔๕ นาที หรือหากต้องการเดินทางจากตัวเมืองกระบี่ไปยังหาดไร่เลย์โดยตรง สามารถโดยสารเรือได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลา ๔๕ นาที ค่าโดยสารคนละ ๗๐ บาท

หมายเหตุ: ราคาค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง

หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวนาง ห่างจากฝั่งประมาณ ๘ กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดของนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมได้เกือบตลอดปี และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุมมากนัก สามารถเช่าเรือได้จากบริเวณอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๒๕ นาที ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะเป็นที่ตั้งของเกาะทัพ เกาะหม้อ เกาะหัวขวาน เกาะไก่ ซึ่งมีสันทรายเชื่อมต่อกันสวยงามมองเห็นได้เวลาที่น้ำลง

หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากอำเภอเมือง ๔๒ กิโลเมตร เดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเสียงเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการังดอกไม้ทะเล และปลาหลากสีสันที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะ ๖ เกาะ คือ เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ เกาะบิดะนอก และเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละเกาะมีหาดทรายสวย
น้ำทะเลใส

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะพีพี

เกาะพีพีดอน มีพื้นที่ประมาณ ๒๘ ตารางกิโลเมตร จุดเด่นของเกาะคือ เวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงาม ติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัม อ่าวต้นไทรเป็นที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี และมีสถานที่พักและร้านค้าจำนวนมาก จากอ่าวต้นไทรสามารถเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ได้ เกาะพีพีดอนยังมีหาดทราย และอ่าวที่สวยงามกระจายอยู่รอบเกาะ บางแห่งมีที่พักบริการ เช่น หาดแหลมหิน หาดยาว อ่าวโละบาเทา ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลประมาณ ๑๕-๒๐ ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงมีธรรมชาติใต้ทะเลที่สวยงาม และบนหาดมีที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือเที่ยว หรือดำน้ำดูปะการังรอบเกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเลได้ ราคาประมาณ ๑,๕๐๐ บาทต่อลำต่อวัน

เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง ๖.๖ ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเล โดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ ๒๐ เมตร มีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ ๓๔ เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน ที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้ เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือ สามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้า หรือซ่อมแซมเรือได้


จังหวัดกระบี่ :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่าง ๆ

เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก มีหาดทรายสวยงาม และแนวปะการังซึ่งส่วนมาก เป็นแนวปะการังเขากวาง ทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของเกาะ บนเกาะมีสถานที่กางเต็นท์ สอบถามข้อมูลจากอุทยานฯ

การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีได้ทั้งจากกระบี่และภูเก็ต จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ ๒ เที่ยว เวลา ๑๐.๐๐ น. และ ๑๔.๓๐ น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา ๐๙.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๑๕๐ บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณสอง ชั่วโมงครึ่ง และมีเรือเร็วนำเที่ยวเช้าไปเย็นกลับ ออกจากอ่าวนาง เวลา ๐๙.๐๐ น. และกลับเวลา ๑๗.๐๐ น. ติดต่อโทร. ๐ ๗๕๖๓ ๗๑๕๒-๓ สำหรับบริษัท อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ จะมีเรือโดยสารออกจากท่าเรือเจ้าฟ้า เรือออกเวลา ๑๐.๐๐ น. และ ๑๔.๐๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๒๐๐ บาท สนใจสอบถามได้ที่ บริษัท เอ ดี วี จำกัด ถนนข้าวสาร โทร. ๐ ๒๒๘๑ ๑๔๖๓-๕ หรือ บริษัท อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ จำกัด โทร. ๐ ๗๕๖๓ ๐๔๗๑ ส่วนการเดินทางจากภูเก็ต มีเรือนำเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าไปเย็นกลับ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไปในตัวเมืองภูเก็ต

นอกจากนี้บริเวณอ่าวต้นไทรบนเกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยวตามชายหาดต่าง ๆ รวมถึงเกาะพีพีเลด้วย บริษัท พีพี แฟมิลี่ จำกัด โทร. ๐ ๗๕๖๑ ๒๔๖๓

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พ.พ.๔ (ทับแขก) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานฯ ใช้เส้นทางตามทางหลวง ๔๒๐๐ จนถึงสี่แยกคลองจิหลาด เลี้ยวซ้ายไปตามถนนหมายเลข ๔๐๓๔ ตรงไปถึงสามแยกบ้านหนองทะเล เลี้ยวซ้ายตรงไปบ้านคลองม่วง และเลี้ยวขวาอีกครั้งตรงไปที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯ ระยะทาง ๓๘ กิโลเมตร พื้นที่เป็นภูเขาที่สมบูรณ์ด้วยป่าไม้และสัตว์ป่า มีจุดชมวิวที่สวยงามคือหงอนนาค ซึ่งสามารถมองเห็น ทัศนียภาพของทะเลกระบี่ได้อย่างสวยงาม หน่วยพิทักษ์ฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง ๓.๗ กิโลเมตร ต้องมีคนนำทาง

ถ้ำเสด็จ อยู่ที่หมู่บ้านหนองกก ตำบลไสไทย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ ๗ กิโลเมตร ถ้ำเสด็จนี้ ชาวบ้านตั้งชื่อให้เป็นมงคลนาม เพราะเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๒ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถ้ำแห่งนี้ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อถ้ำนี้ว่า “ถ้ำเสด็จ” ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงาม

ถ้ำเสือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำเสือในตำบลกระบี่น้อย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข ๔) แล้วแยกซ้ายเข้าถนนราษฎรพัฒนา (ทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๗) ไปประมาณ ๙ กิโลเมตร เหตุที่ได้ชื่อว่า “ถ้ำเสือ” เพราะว่าบริเวณถ้ำด้านหน้าของทิวเขาอ่าวลูกธนูหรือที่เรียกว่า “เขาแก้ว” เคยมีเสือโคร่งขนาดใหญ่อาศัยอยู่และภายในถ้ำยังปรากฎหินธรรมชาติเป็นรูปอุ้งเท้าเสือ สภาพโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นสวนป่า แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีในหุบเขาคีรีวงศ์ และเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน จึงมีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อยอยู่มากมาย เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น บริเวณนี้นอกจากเป็นที่ตั้งของวัด ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบเครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดินป่า และเส้นทางขึ้นจุดชมวิวบนยอดเขา ไปตามบันไดสูง ๑,๒๗๒ ขั้นด้วย

ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์พืชสวนกระบี่ ตั้งอยู่ที่หมู่ ๑ ถนนเพชรเกษม ตำบลเขาคราม ใช้เส้นทางกระบี่-อ่าวลึก อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ ๒๐ กิโลเมตร เป็นศูนย์เพื่อรวบรวมพันธุ์พืชในท้องถิ่น ทดสอบพันธุ์พืชในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อผลิตและกระจายพืชพันธุ์ดีแก่เกษตรกร ภายในศูนย์จะมีไม้หลายพันธุ์ให้เที่ยวชม อาทิ หมากแดง ดาหลา จั๋ง เฮลิโทเนีย มะพร้าวน้ำหอม กล้วยไม้หลากสีสัน และดอกหน้าวัวกว่า ๖๐ พันธุ์ ที่มีสีสันแปลกตาสวยงาม เช่น พันธุ์มิโดริ ดอกจะสีเขียว พันธุ์มินาคีไวท์ ดอกสีขาว พันธุ์ทวิงโก้ ดอกสีชมพูอ่อน และพันธุ์โรยัล ฟรัช ดอกจะมีสีม่วง เป็นต้น นักท่องเที่ยวที่สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๕๖๑ ๒๙๑๓

สระแก้ว อยู่ในเขตสวนป่าตำบลเขาทอง ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๒๘ กิโลเมตร ตามเส้นทางกระบี่-ในสระ สระแก้วประกอบด้วยสระน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติถึง ๘ สระ ได้แก่ สระน้ำลอด สระเชิงเขา สระจระเข้ขาว สระน้ำทิพย์ สระน้ำคราม สระมรกต สระหุ้นแก้ง และสระน้อย

ป่าพรุท่าปอม คลองสองน้ำ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองจิก หมู่ที่ ๒ ตำบลเขาคราม ห่างจากตัวเมืองกระบี่ ๓๔ กิโลเมตร ตามเส้นทางถนนหลวงหมายเลข ๔ (กระบี่-อ่าวลึก) ประมาณหลักกิโลเมตรที่ ๑๒๖ เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร ป่าพรุท่าปอมเป็นป่าที่มีแหล่งน้ำสวยงามหลายแห่ง มีต้นกำเนิดจากแอ่งน้ำช่องพระแก้ว ซึ่งเป็นน้ำจืดใสสะอาด จนมองเห็นพื้นน้ำและรากไม้ป่าหลุมพี ไหลเอื่อย มาบรรจบกับป่าโกงกาง สู่ทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม จึงได้ชื่อว่าคลองสองน้ำ ภายในมีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทำด้วยไม้ระแนง บางช่วงมีเก้าอี้ไม้ ให้นักนิยมไพรผู้รักธรรมชาติ ได้นั่งพักชมทัศนียภาพสองข้างทาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม โทร. ๐ ๗๕๖๙ ๔๑๖๕


:: อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีเนื้อที่ครอบคลุมท้องที่อำเภออ่าวลึก อำเภอเขาพนม และอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เขาพนมเบญจาเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีไอหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ลำธาร น้ำตก ถ้ำต่าง ๆ และสัตว์ป่านานาชนิด มีเนื้อที่ประมาณ 31,325 ไร่ หรือ 50.12 ตารางกิโลเมตร

ความเป็นมา: จังหวัดกระบี่ ได้มีหนังสือที่ กษ 0009/11228 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2522 แจ้งว่า ตามที่ป่าไม้เขตนครศรีธรรมราชได้ทำการสำรวจป่าเขาพนมเบญจา เพื่อประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดกระบี่เห็นว่า เพื่อรักษาสภาพป่า ทิวทัศน์อันสวยงามตามธรรมชาติไว้ ควรจะได้จัดพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติ กองอุทยานแห่งชาติจึงได้เสนอกรมป่าไม้ตามหนังสือที่ กษ 0708/3577 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2522 พิจารณาให้ความเห็นชอบให้ดำเนินการสำรวจต่อไปได้ ทั้งเพื่อเป็นการสนองมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2522 ที่ให้รักษาป่าไว้โดยการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ

กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 2830/2522 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2522 ให้ นายสรรเพชญ ราคา เจ้าพนักงานป่าไม้ 2 ไปดำเนินการสำรวจและจัดตั้งป่าเขาพนมเบญจาให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ปรากฏว่า ป่าดังกล่าวมีสภาพสมบูรณ์มีเขาสูงชัน มีธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกหลายแห่ง หน้าผา ถ้ำต่างๆ ตามรายงานการสำรวจเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2523 กรมป่าไม้ได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 เห็นสมควรกำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาพนมเบญจาในท้องที่ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก ตำบลเขาดิน ตำบลเขาพนม อำเภอเขาพนม และตำบลเขาคราม ตำบลทับปริก ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 98 ตอนที่ 112 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 30 ของประเทศ


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
เป็นเทือกเขาที่เขียวชอุ่มสลับซับซ้อน มีหน้าผาสูงชัน ประกอบด้วยเขาพนมและเขาพนมเบญจา ซึ่งมียอดเขาสูงสุด 1,397 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้มีลักษณะเป็นแนวยาวตลอดจากเหนือจรดใต้ เป็นต้นกำเนิดแหล่งน้ำสายสำคัญที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในตัวเมืองกระบี่ ได้แก่ คลองกระบี่ใหญ่ ซึ่งไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เทือกเขาเหล่านี้มีลักษณะเป็นแนวยาวตลอดจากเหนือจรดใต้ ผ่านกลางอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น คลองโตน คลองกระบี่น้อย คลองพอทาก ห้วยสะเค ห้วยส้าน และห้วยไผ่


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาอยู่ในเขตมรสุมเมืองร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี ประกอบด้วย 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน และฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม จะมีฝนตกชุกในเดือนมิถุนายน-ตุลาคม


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
เนื่องจากป่าเขาพนมเบญจา เป็นป่าดิบชื้น ฝนตกชุกเกือบตลอดปี จึงมีไม้ที่สำคัญหลายชนิด คือ ตะเคียนทอง ยาง ตะแบก หลุมพอ จำปา สะตอป่า มะไฟป่า พืชพื้นล่าง ได้แก่ ปาล์ม หวาย เข็มป่า และไผ่ชนิดต่างๆ สำหรับสัตว์ป่านั้นยังชุกชุมอยู่มาก เพราะมีแหล่งน้ำและอาหารอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าทั่วไป ได้แก่ สมเสร็จ เลียงผา หมูป่า เสือดำ เสือลายเมฆ หมีควาย กระจง ค่าง ชะนี ลิงเสน หมาไน กระรอก ชะมด นางอาย นกกางเขนดง นกเงือก นกคุ้ม ไก่ฟ้า และไก่ป่า


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา
170 หมู่ที่ 4 ต.ทับปริก อ. เมืองกระบี่ จ. กระบี่ 81000
โทรศัพท์ : 0 7562 9013

รถยนต์
จากสามแยกบ้านตลาดเก่า จังหวัดกระบี่ ไปตามถนนศรีตรัง ระยะทาง 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางตลาดเก่า- บ้านห้วยโต้ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกห้วยโต้ กำเนิดจากเขาพนมเบญจา ตกจากหน้าผาสูง มี 11 ชั้น บางชั้นสูงประมาณ 70-80 เมตร มีแอ่งน้ำกว้างใสสะอาดเหมาะสำหรับเล่นน้ำ แอ่งน้ำแต่ละชั้นมีชื่อเรียกต่างกัน เช่น วังเทวดา วังชก และวังสามหาบ น้ำตกห้วยโต้ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 500 เมตร


น้ำตกห้วยสะเค ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 1.2 กิโลเมตร เป็นสายน้ำที่ตกจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 3 ชั้น และอยู่ใกล้กับน้ำตกห้วยโต้


ถ้ำเขาผึ้ง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 3 กิโลเมตร ภายในมีถ้ำย่อยๆ ซ่อนตัวอยู่ 5 ถ้ำ ถ้ำแรกคือ ถ้ำสุสานนก จะพบเห็นซากนกมากมายกระจัดกระจายตามพื้นถ้ำ เดินต่อไปผ่านลำน้ำภายในถ้ำที่สูงประมาณ 1 เมตร ลัดเลาะไปตามช่องต่างๆ จะมาพบ ถ้ำน้ำ ซึ่งมีระดับความสูงของน้ำประมาณเอว สามารถเดินเลี่ยงตามทางด้านบนได้ ซึ่งจะมาทะลุ ถ้ำนาง ที่มีความสวยงามของหินงอกหินย้อย เมื่อใกล้ถึงทางออกของถ้ำจะพบหินย้อยที่มีรูปร่างคล้ายดอกบัวขนาดใหญ่อยุ่บนผนังถ้ำ ถ้ำแห่งนี้จึงมีชื่อว่า ถ้ำบัว


เขาพนมเบญจา เดินเท้าต่อจากคอนางนอน ประมาณ 500 เมตร เป็นยอดเขาสูงถึง 1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเล บนยอดเขามีจุดชมทิวทัศน์มิตรไมตรี จากจุดนี้จะมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้กว้างไกล เส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาจะผ่านป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์หนาแน่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เช่น ตะเคียนทอง ยาง หลุมพอ ฯลฯ ผู้สนใจติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยนำทางได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


น้ำตกห้วยเนียง จากทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4037 ประมาณ 18 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พจ.1 (ห้วยเนียง) และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีขนาดเล็กแต่มีหลายชั้น เหมาะแก่การเดินศึกษาธรรมชาติ ดูนก และถ่ายภาพธรรมชาติ


น้ำตกบางสร้าน เดินทางจากทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4037 ประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พจ. 3 (บางสร้าน) แล้วเดินเท้าต่ออีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีหลายชั้นสวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เหมาะแก่การเล่นน้ำ ศึกษาธรรมชาติ พักผ่อน และถ่ายภาพธรรมชาติ


คอนางนอน เดินเท้าต่อจากน้ำตกบางสร้านอีกประมาณ 4 กิโลเมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอเขาพนม มีบรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน เนื่องจากมีลำน้ำขนาดเล็ก สามารถสัมผัสเมฆและสายหมอกได้ เหมาะแก่การเดินป่าระยะไกล ตั้งค่ายพักแรม ชมทัศนียภาพ เดินศึกษาธรรมชาติ และถ่ายภาพธรรมชาติ


บ่อน้ำผุด เป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติขนาดเล็ก มีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำตลอดเวลา สันนิษฐานว่า เกิดจากน้ำที่ซึมออกมาจากใต้ดิน ทำให้ที่แห่งนี้มีน้ำตลอดปี และไหลเป็นลำธารสู่ที่ต่างๆ


จุดชมทิวทัศน์ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 750 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเขาผึ้งและอำเภอเมืองกระบี่ได้ เหมาะแก่การชมทัศนียภาพ ถ่ายภาพ เดินศึกษาธรรมชาติ และดูนก


ทางเดินศึกษาธรรมชาติ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 200 เมตร มี 2 เส้นทาง ลักษณะเป็นทางเดินรอบ สามารถเดินต่อไปยังน้ำตกห้วยโต้ได้ ระยะเดินเท้าประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพป่ามีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเดินศึกษาธรรมชาติและดูนก


ลูกเขาช้าง เดินเท้าต่อจากคอนางนอนประมาณ 4.5 กิโลเมตร บริเวณพื้นที่เชิงลูกเขาช้าง เหมาะเป็นสถานที่กางเต็นท์ พักผ่อนชมธรรมชาติ และถ่ายภาพธรรมชาติ เนื่องจากมีสภาพเป็นที่ราบอยู่ติดกับป่าที่ราบต่ำและลำน้ำห้วยโต้



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายไว้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการในบริเวณอุทยานแห่งชาติ


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ที่จอดรถ มีลานจอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.


:: อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลอันดามัน ด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ ถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 242,437.17 ไร่ หรือ 387.90 ตารางกิโลเมตร

ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2520 ให้จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่รัฐบาลพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง สมควรอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวรต่อไป กองอุทยานแห่งชาติ จึงเสนอกรมป่าไม้ให้มีคำสั่งที่ 1261/2523 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2523 ให้ นายสันติ สีกุหลาบ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติทางทะเล ในท้องที่จังหวัดภูเก็ตและติดต่อจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจากการรายงานการสำรวจปรากฏว่า พื้นที่บริเวณเกาะพีพี และหมู่เกาะใกล้เคียง ระหว่างจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ มีความเหมาะสมที่จะจัดเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2524 และป่าไม้เขตนครศรีธรรมราชได้มีหนังสือที่ กส.0709(นศ)/269 ลงวันที่ 19 มกราคม 2525 แจ้งว่า ป่าบริเวณหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะใกล้เคียง รวมถึงหมู่เกาะพีพีในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีทิวทัศน์ และธรรมชาติสวยงาม เห็นสมควรจัดเป็นอุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่ง

กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 524/2525 ลงวันที่ 14 เมษายน 2525 ให้ นายสมจิตร สภาวรัตน์ภิญโญ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจ และจัดตั้งบริเวณหมู่เกาะพีพี และป่าบริเวณหาดนพรัตน์ธารา ท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติ และกองอุทยานแห่งชาติเห็นสมควร ทำการสำรวจบริเวณสุสานหอย 75 ล้านปี ท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ อีกแห่งหนึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวกัน ผลการสำรวจตามหนังสือรายงาน ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2525 สรุปได้ว่า พื้นที่ตามแหล่งต่างๆ มีความสวยงามเป็นพิเศษ มีลักษณะเด่นหลายแห่ง มีทิวทัศน์ทางทะเลสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

กองอุทยานแห่งชาติจึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และมีมติเห็นชอบเมื่อ 15 มิถุนายน 2525 ในการประชุมครั้งที่ 1/2525 โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินสุสานหอย 75 ล้านปี หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลหนองทะเล ตำบลอ่าวนาง ตำบลไสไทย และตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ประมาณ 243,725 ไร่ หรือ 389.96 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 100 ตอนที่ 160 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2526 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 47 ของประเทศไทย

ต่อมาได้ดำเนินการผนวกพื้นที่บริเวณสุสานหอย และเกาะใกล้เคียง เพิ่มจำนวน 12.17 ไร่ หรือ 0.02 ตารางกิโลเมตร ตามพระราชกฤษฎีกา เล่ม 113 ตอนที่ 65 ก ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2539 และต่อมาได้เพิกถอนพื้นที่บางส่วนในบริเวณเขาหางนาค ในท้องที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พื้นที่ 1,300 ไร่ หรือ 2.08 ตารางกิโลเมตร เพื่อใช้ในราชการกองทัพเรือ ตามพระราชกฤษฎีกา เล่ม 115 ตอนที่ 72ก ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2541 คงเหลือพื้นที่ทั้งหมด 387.90 ตารางกิโลเมตร

:: โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก บนเกาะพีพี ::
- โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ คาบาน่า - ซีโวล่า (Zeavola)
- Araya Buri Resort - เบย์ วิว รีสอร์ท
- พีพี เนเชอรัล รีสอร์ท - พีพี วิวพอยท์ รีสอร์ท
- พีพี เอราวัณ ปาล์ม รีสอร์ท - พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา
- ฮอลิเดย์ อินน์ พีพี ไอส์แลนด์ - พีพี โฮเต็ล
- Phi Phi Banyan Villa
- โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก บนเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ทั้งหมด


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
ประกอบด้วยพื้นที่ภาคพื้นดินบนชายฝั่ง ได้แก่ บริเวณเขาอ่าวน้ำเมา และป่าอ่าวนาง-หางนาค และหมู่เกาะต่างๆ ธรณีสัณฐานของพื้นที่เป็นเทือกเขามีความสูงชัน เรียงตัวยาวไปตามแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณชายฝั่งเป็นเขาสูงชัน ทางด้านตะวันตกมีความลาดชัน มากกว่าตะวันออก ธรณีสัณฐานของพื้นที่ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลอันดามัน ได้รับอิทธิพลจากแนวการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ที่เรียกว่า Indosenia Teotonic Movement และในบริเวณป่าชายเลนเขาหางนาค ริมฝั่งทะเลมีลำคลองเขากลม ได้รับน้ำจืด ที่ระบายมาจากบึงขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า "หนองทะเล" ทำให้เกิดสภาพป่าชายเลน และที่ราบต่ำป่าเสม็ด บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ที่เรียกว่า "คลองแห้ง" (หาดนพรัตน์ธารา)


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้รับอิทธิพลลมมรสุมเขตร้อน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนตุลาคม มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้พัดผ่าน ลักษณะภูมิอากาศจึงแบ่งออกเป็น 2 ฤดู คือ ฤดูฝน จากต้นเดือนพฤษภาคม-เดือนธันวาคม และฤดูร้อนจากต้นเดือนมกราคม-เดือนเมษายน อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 17-37 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนในรอบปีเฉลี่ยประมาณ 2,231 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม และน้อยที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สำหรับพรรณไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ สามารถจำแนกออกได้เป็น
ป่าดงดิบ ปรากฏพบบริเวณที่เป็นเขาสูงชัน บริเวณเขาหางนาค บริเวณเขาอ่าวนาง บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพีพีดอน และบริเวณเกาะพีพีเลส่วนใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตร เป็นไม้แคระแกร็น เนื่องจากพื้นที่เป็นเขาหินปูน ซึ่งมีชั้นดินบางและรับลมแรง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ตะเคียนหิน ตะเคียนทอง ยาง พะยอม และพืชชั้นล่างพวกจันทน์ผา หวาย ไทร และเถาวัลย์ชนิดต่างๆ

ป่าชายเลน มีอยู่ในบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาหางนาค และบริเวณคลองย่านสะบ้า ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบริเวณสุลานหอย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ โกงกาง แสม ตะบูน ถั่วดำ ถั่วขาว

ป่าพรุ เป็นสังคมพืชเด่น ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นสมบูรณ์ ปรากฏอยู่เฉพาะบริเวณหาดนพรัตน์ธาราเป็นบริเวณแคบๆ ประมาณ 0.32 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่เป็นหาดทรายผสมดินร่วน ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเล หรือเป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลเคยท่วมถึงมาก่อน พันธุ์พืชที่พบ นอกจากเสม็ดขาวที่ขึ้นอยู่หนาแน่นแล้ว ได้แก่ พะยอม หว้าหิน นน เนียน และหญ้าคา

นอกจากนี้ในบริเวณอ่าวนางยังสำรวจพบหญ้าทะเล 4 ชนิด ได้แก่ หญ้าชะเงาใบสั้นสีน้ำตาล หญ้าผมนาง หญ้าใบมะกรูด และหญ้าเต่า

จากสภาพภูมิอากาศและสังคมพืชที่เกิดขึ้นในอุทยานแห่งชาติ ทำให้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมแก่สัตว์บางประเภท สามารถจำแนกออกได้ดังนี้

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ หมูป่า กระจง ลิง ค่าง โลมาหัวขวด โลมาหัวขวดมลายู โลมาหัวบาตร โลมาจุด และโลมาขาว

นก ประกอบด้วย นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง นกนางนวล

สัตว์เลื้อยคลาน ประกอบด้วย เต่าตนุ เต่ากระ เต่าสังกะสี ตะพาบหัวกบ ตุ๊กแก จิ้งจก จิ้งเหลน กิ้งก่า งูชนิดต่างๆ

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ได้แก่ คางคก อึ่งอ่าง กบ เขียด และปาด

นอกจากนี้ทรัพยากรในท้องทะเลยังประกอบด้วย ปลากระเบน ปลากระโทงแทง ปลาเก๋า ปลากะรังลายขนนก ปลากะพง ปลามง ปลาไหลทะเล ปลาสินสมุทร ปลาผีเสื้อ ปลานกขุนทอง หอยมือหมี หอยนางรม กุ้ง ปลิงทะเล ดาวทะเล หอยเม่น แมงกะพรุน ดอกไม้ทะเล และปะการัง เช่น ปะการังหนาม ปะการังนิ้วมือ ปะการังดอกไม้ ปะการังเขากวาง ปะการังแปรงล้างขวด ปะการังผิวถ้วยเคลือบ ปะการังดอกไม้แปลง ปะการังเห็ด ปะการังผักกาด ปะการังอ่อน เป็นต้น

:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
79 หมู่ที่ 5 ต.อ่าวนาง อ. เมืองกระบี่ จ. กระบี่ 81000
โทรศัพท์ : 0 7566 1145, 0 7563 7200, 0 7563 7436 โทรสาร : 0 7566 1145

รถยนต์
จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ รวมระยะทางประมาณ 946 กิโลเมตร หรือใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร ต่อด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา เข้าอำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4035 ผ่านอำเภออ่าวลึก ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 อีกครั้ง เข้าสู่จังหวัดกระบี่ รวมระยะทางประมาณ 814 กิโลเมตร

จากจังหวัดกระบี่ ไปตามถนนสายในเมือง-ในสระ ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตรจากตัวเมืองกระบี่ถึงหาดนพรัตน์ธาราฯ จากนั้นใช้เส้นทางเลียบชายทะเล ที่เชื่อมระหว่างหาดนพรัตน์ธาราฯ และหาดบ้านอ่าวนางไปทางทิศใต้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร สำหรับไปชมอ่าวพระนางต้องนั่งเรือประมาณ 20 นาที และจากหาดนพรัตน์ธาราฯ มีทางแยกไปสุสานหอย 75 ล้านปี ระยะทาง 11 กิโลเมตร

เครื่องบิน
จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินจังหวัดกระบี่ จะมีแท็กซี่หรือรถประจำทางให้บริการ แต่ต้องมาขึ้นรถที่หน้าสนามบิน โดยแท็กซี่จะส่งถึงที่ ส่วนราคาก็แล้วแต่จะตกลงราคากัน สำหรับรถประจำทางต้องมาลงที่ในเมืองก่อน จากนั้นจึงต่อรถประจำทางสายกระบี่ - อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (ผ่านอ่าวนาง)


เรือ
จากจังหวัดกระบี่ มีเรือโดยสารที่ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือที่ท่าเรืออ่าวพระนาง ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 - 2.00 ชั่วโมง การเดินทางโดยเรือจากจังหวัดภูเก็ต ก็มีระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร หรือจะโดยสารเรือที่ท่าเรือฉลอง อ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 - 2.00 ชั่วโมง ก็ได้เช่นกัน

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ มีเรือของภาคเอกชนให้บริการดังนี้
1. เดินทางไปเกาะพีพี ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองแห้ง ซึ่งอยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีบริการวันละ 1 เที่ยว ออกเวลา 09.00 น. กลับเวลา 15.00 น. ซึ่งมีเรือให้เลือก 2 แบบ คือ 1) แบบเรือทัวร์ ค่าโดยสาร คนละ 1,200 บาท มีอาหารมื้อเที่ยง น้ำ ผลไม้ ให้บริการ มีกิจกรรมเล่นน้ำ ดูปะการังด้วย และ 2) แบบเรือโดยสาร ค่าโดยสาร คนละ 700 บาท ไม่มีบริการอะไร

2. เดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง จะมีเรือหางยาวบริการ ซึ่งจอดอยู่ทั่วไปบริเวณอ่าวนาง คิดราคาค่าบริการแบบเหมา 1) เหมาเต็มวันคิดราคา 2,000 บาท เหมาครึ่งวันคิดราคา 1,500 บาท เรือลำหนึ่งสามารถนั่งได้ไม่เกิน 8 คน มีเสื้อชูชีพให้ใส่ในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงได้ทั้งที่สถานีรถไฟ จังหวัดตรัง สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ ต่อรถประจำทางสายกระบี่ - อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (ผ่านอ่าวนาง)

รถโดยสารประจำทาง
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สามารถติดต่อซื้อตั๋วได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ มีบริษัทเดินรถ 2 บริษัท คือบริษัทขนส่ง จำกัด และบริษัทลิกไนท์ทัวร์ ลงที่ตัวตัวหวัดกระบี่ จากนั้นจึงต่อรถประจำทางสายกระบี่ - อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (ผ่านอ่าวนาง)

:: แหล่งท่องเที่ยว ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เป็นอุทยานทางทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ ถ้ำที่สวยงาม ชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย ตลอดจนหมู่เกาะต่างๆ

จากคำบอกเล่าเดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะพีพีนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่ง จำพวกแสมและโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ ส่วนใหญ่เพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้น้ำ มวลพืช และสัตว์เล็กๆ ที่จับกลุ่มเป็นอาณาจักรสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล หมู่เกาะพีพีประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะปิด๊ะนอก เกาะปิด๊ะใน เกาะยูง และเกาะไม้ไผ่ อยู่ห่างจากชายฝั่งกระบี่ ประมาณ 42 กิโลเมตร ลักษณะโดยทั่วไป เป็นเวิ้งอ่าวรูปครึ่างวงกลมอยู่ในวงล้อมของภูเขาหินปูนที่สูงชัน จนเกือบเป็นทะเลใน หรือที่ชาวเกาะเรียกว่า “ปิเละ” นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะแห่งนี้

:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
สุสานหอย บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกัน โดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ช่วงแรกประมาณกันว่า สุสานหอยแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 75 ล้านปีมาแล้ว ต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น จึงกำหนดอายุของสุสานหอยใหม่เหลือประมาณ 40-20 ล้านปี

หาดนพรัตน์ธารา เดิมชาวบ้านเรียกว่า "หาดคลองแห้ง" เพราะช่วงน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือ จะแห้งขอด กลายเป็นหาดทรายขาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงราย ตามชายหาดทะเล มองออกไปในพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่ง ช่วงน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็กๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หาดนพรัตน์ธารา ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ของหอยชักตีน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ เพียง 17 กิโลเมตร เท่านั้น


อ่าวนาง ในบริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่ง มีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของอ่าว เป็นภูเขา มีถ้ำหินงอก หินย้อย เรียกว่า ถ้ำพระนาง ภายในถ้ำจะเป็นหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ และมีหาดทรายที่สวยงาม ได้แก่ หาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดน้ำเมา ซึ่งหาดทั้ง 3 แห่งนี้ ไม่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้เนื่องจากมีภูเขากั้น การเดินทางเข้าถึงต้องเช่าเรือจากอ่าวนาง นอกจากนี้บริเวณหน้าอ่าวนาง ยังมีเกาะน้อยใหญ่ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะปอดะ ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมอง หรือจินตนาการของผู้พบเห็น ที่ผ่านมาบางคนก็เห็นว่าเหมือนหัวไก่ รองเท้าบู๊ท และเรือสำเภา

หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร ทำให้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมไม่มากนัก เมื่อมองจากชายฝั่งจะเห็นทรายขาวได้แต่ไกล บริเวณรอบๆ เกาะจะมีแนวปะการังหลากหลายชนิด น้ำทะเลใสสะอาด ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่น่าสนใจ ที่สามารถแวะมาเที่ยวชมเกือบตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดปรากฎการณ์ในช่วงน้ำลงบริเวณเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ จะเชื่อมต่อกันโดยแนวทราย ทำให้เกิดทัศนยภาพที่สวยงาม ดูแปลกตา เรียกว่า “ทะเลแหวก” ซึ่งขณะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม จากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ


เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและ ทิศตะวันออก มีหาดทรายสวยงามและแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของตัวเกาะ


เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์


เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชัน ตั้งฉากกับพื้นผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา และอ่าวโละซะมะ


เกาะพีพีดอน มีพื้นที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเล ประมาณ 15-20 ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงนี้ธรรมชาติใต้ทะเลสวยงามมาก เหมาะแก่การดำน้ำเช่นเดียวกันกับที่บริเวณปลายแหลมหัวระเกด หาดยาว และหินแพ นอกจากนี้ยังมีเวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงาม ติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่พักจำนวนมาก บริการแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป


เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาค เขาหงอนนาค เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขา ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทางอุทยานฯ ได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 3,700 เมตร ซึ่งมีปลายทางเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม คือ “จุดชมทิวทัศน์หงอนนาค” บริเวณนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล เหมาะสมสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง


:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
ถ้ำไวกิ้ง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ถ้ำพญานาค ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่เก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้ พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้าง และรูปเรือชนิดต่างๆ


:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณหาดนพรัตน์ธารา 2 แห่ง รองรับได้ 600 คน และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.3 (เกาะไม้ไผ่) 1 แห่ง การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ค่ายเยาวชน อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บริการในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว

ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของที่ระลึก จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ บริเวณหาดอ่าวนาง อ่าวไร่เลย์ หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย และเกาะพีพีดอน

ท่าเรือ/ท่าเทียบเรือ ท่าเทียบเรือ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ บริเวณอ่าวพระนาง อ่าวไร่เลย์ เกาะกวาง คลองยิงเสือ คลองสน หาดคลองม่วง และอ่าวน้ำเมา

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติได้จัดให้มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งให้บริการข้อมูลข่าวสาร มีการจัดนิทรรศการสำหรับนักท่องเที่ยว ที่นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติในวันหยุดแล้วยังได้รับความรู้อีกด้วย 4 แห่งในบริเวณ

- ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีบริการอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์
- หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พพ.2 (สุสานหอย)
- ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารไร่เลย์
- ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารทะเลแหวก

จังหวัดกระบี่ :: การเดินทาง

ทางรถยนต์

1. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร

2. จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีก ถึงจังหวีดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร

3. การเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง จากสถานีขนส่งภูเก็ตมีบริการรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน

ทางรถประจำทาง

บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน รายละเอียดติดต่อที่ โทร. 434-1200, 434-7192

ทางรถไฟ

จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟจังหวัดตรัง หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถยนต์โดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 223-7010, 223-7020

ทางเครื่องบิน

จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ลงที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยประชาสัมพันธ์ บริษัทการบินไทย จำกัด โทร. 280-0060, 628-2000

การเดินทางภายในจังหวัดกระบี่

จากตัวเมืองกระบี่มีรถโดยสารสองแถวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย อ่าวนาง ถ้ำเสือ น้ำตกห้วยโต้และอ่าวลึก ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือ เช่ารถจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่

จังหวัดกระบี่ :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

อำเภอเขาพนม

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เป็นอุทยานฯ ทางบกแห่งเดียวของจังหวัดกระบี่ มีเนื้อที่ ๓๑,๓๒๕ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง อำเภออ่าวลึก และอำเภอเขาพนม มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วย เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ในแนวเหนือจรดใต้ มียอดเขาพนมเบญจาซึ่งสูง ๑,๓๙๗ เมตร จากระดับน้ำทะเลสูงที่สุดในกระบี่ มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามทั้งลำธาร น้ำตก ถ้ำ และมีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น สมเสร็จ เลียงผา หมีควาย เสือปลา มีนกที่สามารถพบเห็นกว่า ๒๑๘ ชนิด เช่น นกอินทรี นกเงือก นกหัวขวาน เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ได้แก่

น้ำตกห้วยโต้ ต้นกำเนิดจากเขาพนมเบญจา มี ๕ ชั้น คือ วังสามหาบ วังจงลอย วังดอยปรง วังเทวดา และวังโตนพริ้ว สายน้ำของน้ำตกห้วยโต้ไหลมารวมกันที่คลองกระบี่ใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

น้ำตกห้วยสะเด อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๓๐๐ เมตร เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูง มี ๓ ชั้น มีแอ่งน้ำใสสะอาด น้ำตกสายนี้ไหลมารวมกันที่คลองโตนและไหลลงสู่คลองกระบี่ใหญ่

การเดินขึ้นยอดเขาพนมเบญจา เป็นอีกกิจกรรมของอุทยานฯ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถจะเดินขึ้นได้ ๒ เส้นทาง คือ

เส้นทางแรก ใช้เวลาในการเดินทาง ๔ วัน ๓ คืน โดยการเริ่มต้นจากน้ำตกห้วยโต้ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๓๐๐ เมตร นักท่องเที่ยวจะต้องปีนข้ามน้ำตกทั้ง ๕ ชั้น ขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วเดินต่อไปยังลำธาร เลี้ยวซ้ายทางต้นยางใหญ่ พักค้างคืนที่เขาลูกช้าง ๑ คืน รุ่งขึ้นจึงเดินต่อไปค้างคืนที่ควนน้ำค้างอีก ๑ คืน จากนั้นเดินต่อไปจนถึงเชิงเขาพนม รุ่งเช้าอีกวันหนึ่งจึงเริ่มขึ้นยอดเขา พักค้างบนยอดเขาอีก ๑ คืน

เส้นทางที่สอง เดินทางโดยรถยนต์ไปที่ฐานปฏิบัติการบางสร้าน ระยะทางประมาณ ๖๐ กิโลเมตร เส้นทางนี้ใช้เวลาในการพักค้าง และเดินทาง ๓ วัน ๒ คืน โดยเดินจากฐานปฎิบัติการบางสร้าน ไปสู่ยอดเขาพนมเบญจา เป็นเวลา ๑ วัน และพักค้างบนยอดเขาพนมเบญจา ๑ คืน จากนั้นเดินลงจากยอดเขา มาพักค้างคืนที่ควนน้ำค้างอีก ๑ คืน และในวันรุ่งขึ้นเดินจากควนน้ำค้างลงมาที่ทำการอุทยานฯ

ทั้งสองเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามของพันธุ์ไม้ สัตว์ป่า ถ้ำ เพิงผา น้ำตก ธารน้ำ ทะเลหมอก จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองกระบี่ และอากาศที่เย็นสบายตลอดปี นักท่องเที่ยวที่สนใจ ควรสอบถามข้อมูลก่อนการเดินทาง

อุทยานฯ มีเต็นท์ให้บริการ สำหรับ ๒-๓ คน ราคาหลังละ ๕๐ บาท/คืน/หลัง หรือจะนำเต็นท์มาเอง เสียค่าธรรมเนียม ๓๐ บาท/คืน/หลัง รายละเอียดติดต่ออุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ตู้ ป.ณ.๒๖ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ๘๑๐๐๐ โทร. ๐ ๗๖๖๒ ๙๐๑๓ หรือ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. ๐ ๒๕๗๙ ๗๒๒๓, ๐ ๒๕๗๙ ๕๗๓๔

การเดินทาง จากอำเภอเมืองกระบี่ ไปยังสามแยกบ้านตลาดเก่าตามถนนเพชรเกษม ๑ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตามเส้นทางตลาดเก่า-บ้านห้วยโต้ ระยะทาง ๒๐ กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ

อำเภออ่าวลึก

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีพื้นที่ ๑๒๑ ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาหินปูน ป่าดิบ ป่าชายเลน และเกาะต่าง ๆ อุทยานฯ มีพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าพรุ ป่าชายหาด ป่าชายเลน รวมถึงสังคมพืชน้ำใต้ท้องทะเล ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ๒ เส้นทาง คือ เส้นทางที่เดินภายในอุทยานฯ ระยะทาง ๑ กิโลเมตร และ เส้นทางเดินจากอุทยานฯ ไปป่าชายเลน ระยะทาง ๓-๔ กิโลเมตร

ผู้สนใจเข้าชมอุทยานฯ จะเสียค่าเข้าอุทยานฯ ผู้ใหญ่ ชาวไทย ๒๐ บาท เด็ก ๕ บาท ผู้ใหญ่ชาวต่างประเทศ ๒๐๐ บาท เด็ก ๑๐๐ บาท อุทยานฯ ไม่มีบ้านพักให้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๕๖๘ ๑๐๗๑

สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่

ธารโบกขรณี อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เดิมชื่อ ธารอโศก เพราะมีต้นอโศกขึ้นอยู่ริมธาร สภาพทั่วไปเป็นธารน้ำธรรมชาติ ไหลลงมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ ซึ่งอยู่ต่างระดับกัน รายรอบด้วยป่าไม้ร่มรื่น ด้านเหนือของธารโบกขรณี มีมณฑปพระพุทธบาทจำลองที่แกะสลักจากไม้ ประดิษฐานอยู่ใกล้กับศาลาบูชาเจ้าพ่อโต๊ะยวน-โต๊ะช่อง

ถ้ำลอดและ ถ้ำผีหัวโต อยู่ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ ๖ กิโลเมตร เดินทางไปทางอำเภออ่าวลึก ตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ ๒ กิโลเมตร แยกขวาไปยังท่าเรือบ่อท่อ แล้วลงเรือหางยาวรับจ้างไปตามลำคลองท่าปรัง ผ่านป่าชายเลนไปประมาณ ๑๕ นาที ถ้ำลอด เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน บนเพดานถ้ำมีหินงอก และหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ กัน ส่วน ถ้ำผีหัวโตหรือถ้ำหัวกะโหลก อยู่ห่างจากถ้ำลอดประมาณ ๕๐๐ เมตร แต่เดิมภายในถ้ำ เคยมีหัวกะโหลกมนุษย์ มีขนาดโตกว่าปกติจึงมีชื่อว่า “ถ้ำผีหัวโต” และบนผนังถ้ำยังปรากฎ ภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ บนพื้นถ้ำมีเปลือกหอย ทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นบริเวณนี้ ยังสามารถพายเรือแคนู ชมทิวทัศน์ป่าชายเลนที่สงบร่มรื่นได้ ค่าเช่าเรือแคนู ๑,๒๐๐ บาท/คน รวมอาหารกลางวัน โดยสามารถเช่าเรือได้จากบริเวณท่าเรือบ่อท่อ ถ้ำชาวเล อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของแหลมสัก ในเวิ้งอ่าวที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ของเกาะแก่งและภูผา ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย และภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นรูปคน รูปสัตว์ และรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ หลายภาพด้วยกัน สันนิษฐานว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงหลังภาพเขียนที่ถ้ำผีหัวโต บริเวณถ้ำชาวเลสามารถพายเรือแคนูได้ สำหรับการไปเที่ยวชม สามารถโดยสารเรือประจำทาง หรือเรือเช่าจากท่าเรือบ้านแหลมสัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๐-๑๕ นาที

เกาะกาโรส อยู่ทางด้านตะวันออกของปลายแหลมสัก เป็นบริเวณที่สามารถพายเรือแคนูได้

เกาะแดง มีหาดทรายสวยงามยาว ๒๕ เมตร มีถ้ำลอดกว้าง ๗๐ เมตร สูง ๒๐ เมตร เป็นบริเวณที่ดำน้ำดูปะการังได้

หมู่เกาะห้อง เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ อาทิ เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น โดยมีเกาะห้องหรือเกาะเหลาปิเละ เป็นเกาะทางตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มีแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่การดำน้ำ ตกปลา บนเกาะห้อง มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง ๔๐๐ เมตร รอบ ๆ เกาะห้องสามารถพายเรือแคนูได้ บนเกาะมีที่สำหรับกางเต็นท์ ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์พักแรมบนเกาะคนละ ๒๐ บาท โดยต้องนำเต็นท์มาเอง นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นเกาะห้องจะต้องเสียค่าเข้าชมอุทยานฯ ผู้ใหญ่ คนไทย ๒๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๒๐๐ บาท เด็ก คนไทย ๑๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๑๐๐ บาท การไปเที่ยวชมสามารถเช่าเรือหางยาวจากอ่าวนาง ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง

การเดินทาง อุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ ๔๖ กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่ธารโบกขรณี ตำบลอ่าวลึกใต้ ห่างจากสี่แยกตลาดอ่าวลึก มาตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ ๑ กิโลเมตร หรือจากอำเภอเมือง สามารถนั่งรถสองแถวกระบี่-อ่าวลึกเหนือ-ใต้ ลงที่หน้าอุทยานฯ ได้

อำเภอคลองท่อม

พิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อม ตั้งอยู่บริเวณวัดคลองท่อม บนถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ ๗๑–๗๒ ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อมประมาณ ๑ กิโลเมตร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เก็บสะสมสิ่งของ วัตถุโบราณจำนวนมากมายที่ขุดค้นพบได้ในบริเวณที่เรียกว่า “ควนลูกปัด” อันเป็นเนินดินหลังวัดคลองท่อม อาทิ เครื่องมือหิน เครื่องประดับซึ่งทำจากหินและดินเผา รูปสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกปัด อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่เก่าแก่ของมนุษย์ สมัยเมื่อ ๕,๐๐๐ ปีเศษมาแล้ว เปิดให้เข้าชมเวลา ๘.๓๐–๑๑.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐–๑๗.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม

น้ำตกหินเพิง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๘ บ้านหินเพิง ตำบลคลองพน ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อม ๒๕ กิโลเมตร ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) เมื่อถึงตำบลคลองพนแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก ๘ กิโลเมตร การเที่ยวชมน้ำตกหินเพิงจะต้องเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาประมาณ ๔๐๐ เมตร จะถึงบริเวณน้ำตกหินเพิง ที่ไหลมาจากยอดหน้าผาที่สูงชัน

น้ำตกร้อนคลองท่อม ตั้งอยู่บริเวณบ้านบางคราม-บ้านบางเตียว อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกระบี่ตามถนนเพชรเกษม (กระบี่-ตรัง) ประมาณ ๔๕ กิโลเมตร จากนั้นแยกเข้าถนนสุขาภิบาล ๒ ตรงที่ว่าการอำเภอคลองท่อมไปอีก ๑๒ กิโลเมตร เป็นน้ำพุร้อนแห่งหนึ่งในบรรดาน้ำพุร้อนอีกหลายแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณนี้ น้ำจะไม่ร้อนมาก มีอุณหภูมิประมาณ ๔๐-๕๐ องศาเซลเซียส เป็นน้ำร้อนที่ซึมขึ้นมาจากผิวดินซึ่งมีป่าละเมาะปกคลุมร่มรื่น สายน้ำไหลไปรวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่ บางช่วงมีควันกรุ่น และคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนา ทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อน ไหลลงสู่คลองท่อม ลดระดับ เกิดเป็นลักษณะคล้ายชั้นน้ำตกเล็กๆ ค่าเข้าชม เด็ก ๒ บาท ผู้ใหญ่ ๕ บาท และชาวต่างประเทศ ๑๐ บาท รถจักรยานยนต์ ๕ บาท รถยนต์ ๒๐ บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองท่อมเหนือ โทร. ๐ ๗๕๖๒ ๒๗๑๓

จังหวัดกระบี่ :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม อยู่ที่หมู่บ้านบางเตียว ตำบลคลองท่อมเหนือ ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกร้อนคลองท่อม ตามทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๘ ก่อนถึงตลาดคลองท่อมจะมีทางแยกไปหมู่บ้านบางเตียว ระยะทาง ๑๗ กิโลเมตร ลักษณะเป็นป่าที่ราบต่ำ มีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ สระมรกต เป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน ๓ สระ น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีอุณหภูมิประมาณ ๓๐-๕๐ องศาเซลเซียส รอบ ๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ รวมทั้งนกที่หาดูได้ยากเช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล และนกเงือกดำ เป็นต้น

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทีนา โจลิฟฟ์ (ทุ่งเตียว) ซึ่งตั้งชื่อตามคุณทีนา โจลิฟฟ์ ชาวอังกฤษ ผู้ริเริ่มความคิดที่จะรักษาอนุรักษ์ป่าดิบชื้นผืนนี้ไว้ไม่ให้ถูกทำลาย เพื่อเป็นการระลึกถึงความตั้งใจ และอนุสรณ์สำหรับทีนา ทุ่งเตียว คือส่วนหนึ่งของป่าที่ราบต่ำ ที่อยู่ติดกับหมู่บ้านบางเตียว ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เส้นทางเดินศึกษานี้มีระยะทาง ๒.๗ กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมาย ที่จะคอยบอกเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในป่าให้นักเดินทาง ได้ศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง มีจุดเริ่มต้นอยู่ก่อนถึงสระมรกต ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ประมาณ ๘๐๐ เมตร โดยจะผ่านผืนป่าเล็ก ๆ ซึ่งเป็นป่าที่ราบต่ำที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยทางภาคใต้ของประเทศไทย เส้นทางนี้จะแสดงลักษณะของป่าดิบชื้นที่ราบต่ำอย่างแท้จริง และยังเป็นที่อยู่ของนกแต้วแร้วท้องดำ นกป่าสีสันสวยงามที่กระโดดหากินอยู่ตามพื้นดิน ทำให้มีการจัดตั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามขึ้น นอกจากนั้นในป่าแห่งนี้ยังพบนกชนิดอื่น ๆ อีกมากกว่า ๓๐๐ ชนิด นับเป็นจำนวนที่มากกว่า ที่เคยบันทึกไว้ตามเขตอนุรักษ์ต่าง ๆ ทางภาคใต้ของประเทศไทย และมีมากกว่า ๑๐๐ ชนิด ที่เคยพบตามทางเดินศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ อาทิ นกเขาเปล้า นกโพระดก นกเขียวคราม นกปรอด นกกินปลี นกปลีกล้วย และกระรอกพันธุ์ต่าง ๆ เป็นต้น

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ มีบ้านพักบริการ และมีสถานที่สำหรับกางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง รายละเอียดติดต่อ สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม หมู่ ๒ บ้านบางเตียว ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

อำเภอเกาะลันตา

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีเนื้อที่ประมาณ ๑๕๒ ตารางกิโลเมตร ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง และเกาะใกล้เคียง รวมไปถึงหมู่เกาะห้า หมู่เกาะรอก และเกาะไหง เกาะที่น่าท่องเที่ยวของอุทยานฯ ได้แก่

เกาะลันตาน้อย เป็นเกาะที่เป็นชุมชนของชาวเกาะลันตาในอดีตมาก่อน มีที่ว่าการอำเภอ มีโรงเรียนวิถีชีวิตแบบเก่า ๆ บ้านเรือนโบราณยังมีให้พบเห็น

เกาะลันตาใหญ่ มีรูปร่างยาวเรียวจากเหนือมาใต้ ศูนย์กลางธุรกิจของเกาะอยู่ที่บริเวณท่าเรือศาลาด่าน ซึ่งมีทั้งบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธนาคาร ด้านตะวันตกเรียงรายไปด้วยชายหาด และอ่าวที่สวยงามมากมาย ได้แก่ หาดคอกวาง หาดโละบารา อ่าวพระแอะ หาดคลองโขง หาดคลองนิน และมีถนนตัดจากท่าเรือตอนเหนือ ผ่านชายหาดต่าง ๆ ไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะ มีสภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ ส่วนด้านตะวันออก มีชุมชนเก่าของเกาะลันตา เนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอมาก่อน ซึ่งย้ายไปอยู่ที่เกาะลันตาน้อย

ชาวบ้านส่วนใหญ่บนเกาะลันตา นับถือศาสนาอิสลาม และที่บ้านสังกะอู้ยังมีชนพื้นเมือง ที่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมประเพณี ได้แก่ ประเพณีลอยเรือ ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มีจุดชมวิว แหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคาร จากมุมนี้สามารถมองเห็นโค้งอ่าวกรวด และอ่าวหาดทรายขาวสะอาดมาบรรจบกัน ตอนปลายสุดของแหลม เป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ เป็นจุดดำดูปะการังน้ำลึก นอกจากจุดชมวิวแหลมโตนดแล้ว ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขา บริเวณตอนกลางเกาะ ที่มีร้านอาหาร สามารถนั่งรับประทานอาหาร พร้อมกับชมทิวทัศน์ของทะเลอันดามันที่มีเกาะต่าง ๆ อยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีน้ำเงิน

บนเกาะลันตาใหญ่มีที่พักเอกชนเปิดให้บริการมากมาย ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม ในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ควรติดต่อล่วงหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เลขที่ ๕ ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ๘๑๑๕๐ โทร. ๐ ๗๕๖๒ ๙๐๑๘-๙

การเดินทางไปเกาะลันตาใหญ่

รถยนต์ นักท่องเที่ยวที่นำรถไปเอง สามารถนำรถลงเรือได้ที่ท่าเทียบแพขนานยนต์ บ้านหัวหินไปเกาะลันตาน้อย และข้ามแพอีกครั้งไปยังเกาะลันตาใหญ่ สามารถข้ามแพได้ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น.- ๑๘.๓๐ น.

ค่าข้ามแพ จากบ้านหัวหิน – เกาะลันตาน้อย รถยนต์ คันละ ๕๐ บาท ผู้โดยสารคนละ ๓ บาท มอเตอร์ไซค์ คันละ ๑๐ บาท จากเกาะลันตาน้อย – เกาะลันตาใหญ่ รถยนต์ คันละ ๔๐ บาท รวมคนขับ ผู้โดยสารคนละ ๓ บาท สามารถข้ามแพได้ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. – ๒๐.๐๐ น.

การเดินทางไปท่าเรือหัวหิน จากอำเภอเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔ ไปทางอำเภอคลองท่อม (เส้นทางไปจังหวัดตรัง) ถึงบ้านแยกห้วยน้ำขาว ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวง ๔๒๐๖ ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร จนถึงบ้านหัวหิน

รถตู้ปรับอากาศ มีรถออกจากอำเภอเมือง วิ่งระหว่างกระบี่-เกาะลันตาใหญ่ รถออกเวลา ๑๑.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. และ ๑๖.๐๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๑๒๐ บาท ใช้เวลาเดินทาง ๒ ชั่วโมง ส่วนขากลับจากเกาะลันตาใหญ่ จะมีรถออกเวลา ๐๗.๐๐ น. และ ๑๒.๐๐ น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กระบี่ ลันตาทัวร์ อำเภอเมือง โทร. ๐ ๗๕๖๒ ๒๗๙๒ ศาลาด่าน โทร. ๐ ๗๕๖๘ ๔๑๒๑ นอกจากนั้นจากจังหวัดตรัง ก็มีรถตู้ปรับอากาศบริการ รถออกเวลา ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๓๐ น. ๑๓.๓๐ และ ๑๕.๓๐ น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓ ชั่วโมง ค่าโดยสารชาวไทยคนละ ๑๒๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๑๘๐ บาท สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. ๐ ๗๕๒๑ ๑๑๙๘

เรือโดยสารในฤดูท่องเที่ยว (เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม) มีเรือออกจากท่าเรือเจ้าฟ้า อำเภอเมือง ไปขึ้นที่ท่าเรือศาลาด่าน บนเกาะลันตาใหญ่ เรือออกเวลา ๑๐.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ น. ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง สนใจสอบถามข้อมูลที่ท่าเรือเจ้าฟ้า โทร. ๐ ๗๕๖๓ ๐๔๗๐ - ๒ การเดินทางจากเกาะลันตาไปยังเกาะต่าง ๆ
นอกจากนั้นบริษัทเรือเอกชนบนเกาะลันตา ยังมีเรือวิ่งให้บริการหลายเส้นทาง

เกาะลันตา – เกาะพีพี เรือออกเวลา ๐๘.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๒๐๐ บาท
เกาะลันตา - กระบี่ เรือออกเวลา ๐๘.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๒๐๐ บาท
เกาะลันตา – เกาะพีพี - ภูเก็ต เรือออกเวลา ๐๙.๐๐ น. และ ๐๔.๓๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๒๕๐ บาท
เกาะลันตา – เกาะพีพี - กระบี่ เรือออกเวลา ๐๙.๐๐ น. และ ๑๓.๓๐ น.

รวมทั้งมีเรือบริการวิ่งระหว่าง เกาะลันตา – เกาะจำ – กระบี่ และเรือบริการทุกวันจากเกาะลันตาใหญ่ไป เกาะไหง เกาะรอก และเกาะกระดาน สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัท รอยัล เฟิร์น จำกัด โทร. ๐ ๗๕๖๘ ๔๑๖๓, ๐ ๑๗๑๙ ๔๘๑๑

เกาะตะละเบ็ง อยู่ระหว่างท่าเรือคลองม่วง-เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะ
พีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพรงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย ในกลุ่มนี้จะมีเกาะผีซึ่งอยู่ไปทางทิศเหนือ และยังเป็นที่สามารถพายเรือแคนูได้

เกาะรอกใน เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อย ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะ เป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธง และอ่าวศาลเจ้า ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียว จนมองเห็นปลาหลากสีสัน เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก บนเกาะยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ให้ได้เดินออกกำลังกาย ดูพันธุ์ไม้ต่างๆ ได้อีกด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพักค้างแรม บนเกาะมีที่สำหรับกางเต็นท์ สนใจสอบถามข้อมูลได้จาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา โทร. ๐ ๗๕๖๒ ๙๐๑๘ - ๙

เกาะรอกนอก ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไทร

การเดินทางไปเกาะรอก นิยมเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาประมาณ ๓-๔ ชั่วโมง หรือใช้บริการนำเที่ยว ด้วยเรือเร็วจากเกาะลันตา สามารถติดต่อได้จากบริษัททัวร์ หรือสถานที่พักบนเกาะลันตาใหญ่

หมายเหตุ : ไม่แนะนำให้เช่าเรือหางยาวเดินทางไปเกาะรอก เนื่องจากระยะทางไกล อาจไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศไม่ดี

เกาะไหง ทางทิศตะวันออกของเกาะประกอบด้วยหาดทรายยาว และมีปะการังด้านหน้าหาด นับเป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง

การเดินทาง สามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง จังหวัดตรังได้

หินแดง เป็นหินโสโครก อยู่ฝั่งด้านนอกของทะเลอันดามัน มีปะการังชนิดต่าง ๆ ที่สวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำ

เกาะห้า เป็นกลุ่มเกาะ ๕ เกาะ เกาะห้าใหญ่มีรูปร่างคล้ายใบเรือ และเป็นจุดดำดูปะการังน้ำตื้น

:: อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลอันดามัน ด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ ถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 242,437.17 ไร่ หรือ 387.90 ตารางกิโลเมตร

ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2520 ให้จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่รัฐบาลพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง สมควรอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวรต่อไป กองอุทยานแห่งชาติ จึงเสนอกรมป่าไม้ให้มีคำสั่งที่ 1261/2523 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2523 ให้ นายสันติ สีกุหลาบ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจพื้นที่ เพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติทางทะเล ในท้องที่จังหวัดภูเก็ตและติดต่อจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจากการรายงานการสำรวจปรากฏว่า พื้นที่บริเวณเกาะพีพี และหมู่เกาะใกล้เคียง ระหว่างจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ มีความเหมาะสมที่จะจัดเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2524 และป่าไม้เขตนครศรีธรรมราชได้มีหนังสือที่ กส.0709(นศ)/269 ลงวันที่ 19 มกราคม 2525 แจ้งว่า ป่าบริเวณหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะใกล้เคียง รวมถึงหมู่เกาะพีพีในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีทิวทัศน์ และธรรมชาติสวยงาม เห็นสมควรจัดเป็นอุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่ง

กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 524/2525 ลงวันที่ 14 เมษายน 2525 ให้ นายสมจิตร สภาวรัตน์ภิญโญ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปทำการสำรวจ และจัดตั้งบริเวณหมู่เกาะพีพี และป่าบริเวณหาดนพรัตน์ธารา ท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติ และกองอุทยานแห่งชาติเห็นสมควร ทำการสำรวจบริเวณสุสานหอย 75 ล้านปี ท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ อีกแห่งหนึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวกัน ผลการสำรวจตามหนังสือรายงาน ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2525 สรุปได้ว่า พื้นที่ตามแหล่งต่างๆ มีความสวยงามเป็นพิเศษ มีลักษณะเด่นหลายแห่ง มีทิวทัศน์ทางทะเลสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของประชาชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

กองอุทยานแห่งชาติจึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และมีมติเห็นชอบเมื่อ 15 มิถุนายน 2525 ในการประชุมครั้งที่ 1/2525 โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินสุสานหอย 75 ล้านปี หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลหนองทะเล ตำบลอ่าวนาง ตำบลไสไทย และตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ประมาณ 243,725 ไร่ หรือ 389.96 กิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 100 ตอนที่ 160 ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2526 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 47 ของประเทศไทย

ต่อมาได้ดำเนินการผนวกพื้นที่บริเวณสุสานหอย และเกาะใกล้เคียง เพิ่มจำนวน 12.17 ไร่ หรือ 0.02 ตารางกิโลเมตร ตามพระราชกฤษฎีกา เล่ม 113 ตอนที่ 65 ก ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2539 และต่อมาได้เพิกถอนพื้นที่บางส่วนในบริเวณเขาหางนาค ในท้องที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พื้นที่ 1,300 ไร่ หรือ 2.08 ตารางกิโลเมตร เพื่อใช้ในราชการกองทัพเรือ ตามพระราชกฤษฎีกา เล่ม 115 ตอนที่ 72ก ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2541 คงเหลือพื้นที่ทั้งหมด 387.90 ตารางกิโลเมตร

:: โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก บนเกาะพีพี ::
- โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ คาบาน่า - ซีโวล่า (Zeavola)
- Araya Buri Resort - เบย์ วิว รีสอร์ท
- พีพี เนเชอรัล รีสอร์ท - พีพี วิวพอยท์ รีสอร์ท
- พีพี เอราวัณ ปาล์ม รีสอร์ท - พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา
- ฮอลิเดย์ อินน์ พีพี ไอส์แลนด์ - พีพี โฮเต็ล
- Phi Phi Banyan Villa
- โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก บนเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ทั้งหมด


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
ประกอบด้วยพื้นที่ภาคพื้นดินบนชายฝั่ง ได้แก่ บริเวณเขาอ่าวน้ำเมา และป่าอ่าวนาง-หางนาค และหมู่เกาะต่างๆ ธรณีสัณฐานของพื้นที่เป็นเทือกเขามีความสูงชัน เรียงตัวยาวไปตามแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ทิศตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณชายฝั่งเป็นเขาสูงชัน ทางด้านตะวันตกมีความลาดชัน มากกว่าตะวันออก ธรณีสัณฐานของพื้นที่ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลอันดามัน ได้รับอิทธิพลจากแนวการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ที่เรียกว่า Indosenia Teotonic Movement และในบริเวณป่าชายเลนเขาหางนาค ริมฝั่งทะเลมีลำคลองเขากลม ได้รับน้ำจืด ที่ระบายมาจากบึงขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า "หนองทะเล" ทำให้เกิดสภาพป่าชายเลน และที่ราบต่ำป่าเสม็ด บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ที่เรียกว่า "คลองแห้ง" (หาดนพรัตน์ธารา)


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้รับอิทธิพลลมมรสุมเขตร้อน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนตุลาคม มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้พัดผ่าน ลักษณะภูมิอากาศจึงแบ่งออกเป็น 2 ฤดู คือ ฤดูฝน จากต้นเดือนพฤษภาคม-เดือนธันวาคม และฤดูร้อนจากต้นเดือนมกราคม-เดือนเมษายน อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 17-37 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนในรอบปีเฉลี่ยประมาณ 2,231 มิลลิเมตร ปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม และน้อยที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สำหรับพรรณไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ สามารถจำแนกออกได้เป็น
ป่าดงดิบ ปรากฏพบบริเวณที่เป็นเขาสูงชัน บริเวณเขาหางนาค บริเวณเขาอ่าวนาง บริเวณทิศตะวันตกของเกาะพีพีดอน และบริเวณเกาะพีพีเลส่วนใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 33 ตารางกิโลเมตร เป็นไม้แคระแกร็น เนื่องจากพื้นที่เป็นเขาหินปูน ซึ่งมีชั้นดินบางและรับลมแรง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ตะเคียนหิน ตะเคียนทอง ยาง พะยอม และพืชชั้นล่างพวกจันทน์ผา หวาย ไทร และเถาวัลย์ชนิดต่างๆ

ป่าชายเลน มีอยู่ในบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาหางนาค และบริเวณคลองย่านสะบ้า ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบริเวณสุลานหอย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ โกงกาง แสม ตะบูน ถั่วดำ ถั่วขาว

ป่าพรุ เป็นสังคมพืชเด่น ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นสมบูรณ์ ปรากฏอยู่เฉพาะบริเวณหาดนพรัตน์ธาราเป็นบริเวณแคบๆ ประมาณ 0.32 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่เป็นหาดทรายผสมดินร่วน ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเล หรือเป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลเคยท่วมถึงมาก่อน พันธุ์พืชที่พบ นอกจากเสม็ดขาวที่ขึ้นอยู่หนาแน่นแล้ว ได้แก่ พะยอม หว้าหิน นน เนียน และหญ้าคา

นอกจากนี้ในบริเวณอ่าวนางยังสำรวจพบหญ้าทะเล 4 ชนิด ได้แก่ หญ้าชะเงาใบสั้นสีน้ำตาล หญ้าผมนาง หญ้าใบมะกรูด และหญ้าเต่า

จากสภาพภูมิอากาศและสังคมพืชที่เกิดขึ้นในอุทยานแห่งชาติ ทำให้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมแก่สัตว์บางประเภท สามารถจำแนกออกได้ดังนี้

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ หมูป่า กระจง ลิง ค่าง โลมาหัวขวด โลมาหัวขวดมลายู โลมาหัวบาตร โลมาจุด และโลมาขาว

นก ประกอบด้วย นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง นกนางนวล

สัตว์เลื้อยคลาน ประกอบด้วย เต่าตนุ เต่ากระ เต่าสังกะสี ตะพาบหัวกบ ตุ๊กแก จิ้งจก จิ้งเหลน กิ้งก่า งูชนิดต่างๆ

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ได้แก่ คางคก อึ่งอ่าง กบ เขียด และปาด

นอกจากนี้ทรัพยากรในท้องทะเลยังประกอบด้วย ปลากระเบน ปลากระโทงแทง ปลาเก๋า ปลากะรังลายขนนก ปลากะพง ปลามง ปลาไหลทะเล ปลาสินสมุทร ปลาผีเสื้อ ปลานกขุนทอง หอยมือหมี หอยนางรม กุ้ง ปลิงทะเล ดาวทะเล หอยเม่น แมงกะพรุน ดอกไม้ทะเล และปะการัง เช่น ปะการังหนาม ปะการังนิ้วมือ ปะการังดอกไม้ ปะการังเขากวาง ปะการังแปรงล้างขวด ปะการังผิวถ้วยเคลือบ ปะการังดอกไม้แปลง ปะการังเห็ด ปะการังผักกาด ปะการังอ่อน เป็นต้น

:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
79 หมู่ที่ 5 ต.อ่าวนาง อ. เมืองกระบี่ จ. กระบี่ 81000
โทรศัพท์ : 0 7566 1145, 0 7563 7200, 0 7563 7436 โทรสาร : 0 7566 1145

รถยนต์
จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ รวมระยะทางประมาณ 946 กิโลเมตร หรือใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร ต่อด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา เข้าอำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4035 ผ่านอำเภออ่าวลึก ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 อีกครั้ง เข้าสู่จังหวัดกระบี่ รวมระยะทางประมาณ 814 กิโลเมตร

จากจังหวัดกระบี่ ไปตามถนนสายในเมือง-ในสระ ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตรจากตัวเมืองกระบี่ถึงหาดนพรัตน์ธาราฯ จากนั้นใช้เส้นทางเลียบชายทะเล ที่เชื่อมระหว่างหาดนพรัตน์ธาราฯ และหาดบ้านอ่าวนางไปทางทิศใต้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร สำหรับไปชมอ่าวพระนางต้องนั่งเรือประมาณ 20 นาที และจากหาดนพรัตน์ธาราฯ มีทางแยกไปสุสานหอย 75 ล้านปี ระยะทาง 11 กิโลเมตร

เครื่องบิน
จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินจังหวัดกระบี่ จะมีแท็กซี่หรือรถประจำทางให้บริการ แต่ต้องมาขึ้นรถที่หน้าสนามบิน โดยแท็กซี่จะส่งถึงที่ ส่วนราคาก็แล้วแต่จะตกลงราคากัน สำหรับรถประจำทางต้องมาลงที่ในเมืองก่อน จากนั้นจึงต่อรถประจำทางสายกระบี่ - อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (ผ่านอ่าวนาง)


เรือ
จากจังหวัดกระบี่ มีเรือโดยสารที่ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือที่ท่าเรืออ่าวพระนาง ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 - 2.00 ชั่วโมง การเดินทางโดยเรือจากจังหวัดภูเก็ต ก็มีระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร หรือจะโดยสารเรือที่ท่าเรือฉลอง อ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 - 2.00 ชั่วโมง ก็ได้เช่นกัน

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไปตามเกาะต่างๆ มีเรือของภาคเอกชนให้บริการดังนี้
1. เดินทางไปเกาะพีพี ขึ้นเรือที่ท่าเรือคลองแห้ง ซึ่งอยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีบริการวันละ 1 เที่ยว ออกเวลา 09.00 น. กลับเวลา 15.00 น. ซึ่งมีเรือให้เลือก 2 แบบ คือ 1) แบบเรือทัวร์ ค่าโดยสาร คนละ 1,200 บาท มีอาหารมื้อเที่ยง น้ำ ผลไม้ ให้บริการ มีกิจกรรมเล่นน้ำ ดูปะการังด้วย และ 2) แบบเรือโดยสาร ค่าโดยสาร คนละ 700 บาท ไม่มีบริการอะไร

2. เดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง จะมีเรือหางยาวบริการ ซึ่งจอดอยู่ทั่วไปบริเวณอ่าวนาง คิดราคาค่าบริการแบบเหมา 1) เหมาเต็มวันคิดราคา 2,000 บาท เหมาครึ่งวันคิดราคา 1,500 บาท เรือลำหนึ่งสามารถนั่งได้ไม่เกิน 8 คน มีเสื้อชูชีพให้ใส่ในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงได้ทั้งที่สถานีรถไฟ จังหวัดตรัง สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ ต่อรถประจำทางสายกระบี่ - อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (ผ่านอ่าวนาง)

รถโดยสารประจำทาง
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง สามารถติดต่อซื้อตั๋วได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ มีบริษัทเดินรถ 2 บริษัท คือบริษัทขนส่ง จำกัด และบริษัทลิกไนท์ทัวร์ ลงที่ตัวตัวหวัดกระบี่ จากนั้นจึงต่อรถประจำทางสายกระบี่ - อ่าวนาง ก็จะถึงที่ทำการและที่พักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอยู่บริเวณหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี (ผ่านอ่าวนาง)

:: แหล่งท่องเที่ยว ::
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ เป็นอุทยานทางทะเลที่สวยงามตามธรรมชาติ รอบๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ ถ้ำที่สวยงาม ชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย ตลอดจนหมู่เกาะต่างๆ

จากคำบอกเล่าเดิมชาวทะเลเรียกหมู่เกาะพีพีนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่ง จำพวกแสมและโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลังกลายเป็น “พีพี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ ส่วนใหญ่เพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้น้ำ มวลพืช และสัตว์เล็กๆ ที่จับกลุ่มเป็นอาณาจักรสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล หมู่เกาะพีพีประกอบด้วยเกาะ 6 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะปิด๊ะนอก เกาะปิด๊ะใน เกาะยูง และเกาะไม้ไผ่ อยู่ห่างจากชายฝั่งกระบี่ ประมาณ 42 กิโลเมตร ลักษณะโดยทั่วไป เป็นเวิ้งอ่าวรูปครึ่างวงกลมอยู่ในวงล้อมของภูเขาหินปูนที่สูงชัน จนเกือบเป็นทะเลใน หรือที่ชาวเกาะเรียกว่า “ปิเละ” นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของหมู่เกาะแห่งนี้

:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
สุสานหอย บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม มีขนาดยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกัน โดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ช่วงแรกประมาณกันว่า สุสานหอยแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อ 75 ล้านปีมาแล้ว ต่อมาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการค้นพบหลักฐานด้านธรณีวิทยามีมากขึ้น จึงกำหนดอายุของสุสานหอยใหม่เหลือประมาณ 40-20 ล้านปี

หาดนพรัตน์ธารา เดิมชาวบ้านเรียกว่า "หาดคลองแห้ง" เพราะช่วงน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือ จะแห้งขอด กลายเป็นหาดทรายขาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงราย ตามชายหาดทะเล มองออกไปในพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่ง ช่วงน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไปยังเกาะเล็กๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หาดนพรัตน์ธารา ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ของหอยชักตีน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ เพียง 17 กิโลเมตร เท่านั้น


อ่าวนาง ในบริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่ง มีทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตากว่าหาดอื่นๆ เพราะด้านหนึ่งของอ่าว เป็นภูเขา มีถ้ำหินงอก หินย้อย เรียกว่า ถ้ำพระนาง ภายในถ้ำจะเป็นหินงอก หินย้อย สลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ และมีหาดทรายที่สวยงาม ได้แก่ หาดไร่เลย์ หาดถ้ำพระนาง หาดน้ำเมา ซึ่งหาดทั้ง 3 แห่งนี้ ไม่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้เนื่องจากมีภูเขากั้น การเดินทางเข้าถึงต้องเช่าเรือจากอ่าวนาง นอกจากนี้บริเวณหน้าอ่าวนาง ยังมีเกาะน้อยใหญ่ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะปอดะ ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมอง หรือจินตนาการของผู้พบเห็น ที่ผ่านมาบางคนก็เห็นว่าเหมือนหัวไก่ รองเท้าบู๊ท และเรือสำเภา

หมู่เกาะปอดะ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร ทำให้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมไม่มากนัก เมื่อมองจากชายฝั่งจะเห็นทรายขาวได้แต่ไกล บริเวณรอบๆ เกาะจะมีแนวปะการังหลากหลายชนิด น้ำทะเลใสสะอาด ทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่น่าสนใจ ที่สามารถแวะมาเที่ยวชมเกือบตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดปรากฎการณ์ในช่วงน้ำลงบริเวณเกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ จะเชื่อมต่อกันโดยแนวทราย ทำให้เกิดทัศนยภาพที่สวยงาม ดูแปลกตา เรียกว่า “ทะเลแหวก” ซึ่งขณะนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม จากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ


เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและ ทิศตะวันออก มีหาดทรายสวยงามและแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของตัวเกาะ


เกาะยูง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อยตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์


เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชัน ตั้งฉากกับพื้นผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา และอ่าวโละซะมะ


เกาะพีพีดอน มีพื้นที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเล ประมาณ 15-20 ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงนี้ธรรมชาติใต้ทะเลสวยงามมาก เหมาะแก่การดำน้ำเช่นเดียวกันกับที่บริเวณปลายแหลมหัวระเกด หาดยาว และหินแพ นอกจากนี้ยังมีเวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงาม ติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่พักจำนวนมาก บริการแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป


เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาค เขาหงอนนาค เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขา ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทางอุทยานฯ ได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 3,700 เมตร ซึ่งมีปลายทางเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม คือ “จุดชมทิวทัศน์หงอนนาค” บริเวณนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล เหมาะสมสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติอย่างแท้จริง


:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
ถ้ำไวกิ้ง อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า ถ้ำพญานาค ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่เก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้ พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้าง และรูปเรือชนิดต่างๆ


:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณหาดนพรัตน์ธารา 2 แห่ง รองรับได้ 600 คน และหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.3 (เกาะไม้ไผ่) 1 แห่ง การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ค่ายเยาวชน อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมบ้านพักไว้ให้บริการในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว

ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายของที่ระลึก จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ บริเวณหาดอ่าวนาง อ่าวไร่เลย์ หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย และเกาะพีพีดอน

ท่าเรือ/ท่าเทียบเรือ ท่าเทียบเรือ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ บริเวณอ่าวพระนาง อ่าวไร่เลย์ เกาะกวาง คลองยิงเสือ คลองสน หาดคลองม่วง และอ่าวน้ำเมา

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติได้จัดให้มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งให้บริการข้อมูลข่าวสาร มีการจัดนิทรรศการสำหรับนักท่องเที่ยว ที่นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติในวันหยุดแล้วยังได้รับความรู้อีกด้วย 4 แห่งในบริเวณ

- ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีบริการอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์
- หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พพ.2 (สุสานหอย)
- ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารไร่เลย์
- ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารทะเลแหวก




:: ผู้สนับสนุน ::


TourMuangThai.com


บ้านพิคทอรี่ รีสอร์ท
บางเสร่ - พัทยา


สิตา บีช รีสอร์ท
เกาะหลีเป๊ะ


เอ็ม.ที.รีสอร์ท ชุมพร
เรือไปเกาะเต่า


ภูไพร เลค แอนด์ รีสอร์ท
จ.กาญจนบุรี



:: ผู้สนับสนุน ::







:: โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก ::

+ โรงแรม ที่พัก เชียงใหม่
+ โรงแรม ที่พัก เชียงราย
+ โรงแรม ที่พัก แม่ฮ่องสอน
+ โรงแรม ที่พัก เกาะช้าง
+ โรงแรม ที่พัก เกาะเสม็ด
+ โรงแรม ที่พัก พัทยา
+ โรงแรม ที่พัก กรุงเทพฯ
+ โรงแรม ที่พัก กาญจนบุรี
+ โรงแรม ที่พัก หัวหิน ชะอำ
+ โรงแรม ที่พัก เขาใหญ่
+ โรงแรม ที่พัก อุบลราชธานี
+ โรงแรม ที่พัก เกาะสมุย
+ โรงแรม ที่พัก ภูเก็ต
+ โรงแรม ที่พัก เกาะพีพี กระบี่
+ โรงแรม ที่พัก พังงา
+ โรงแรม ที่พัก เกาะลันตา
+ โรงแรม ที่พัก เกาะพะงัน
+ โรงแรม ที่พัก เกาะเต่า
+ โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก


:: Hotels in Thailand ::

Chiang Mai : Bangkok : Hua Hin : Pattaya : Koh Chang : Koh Samui : Khao Lak : Krabi : Koh Lanta : Koh Phi Phi : Ao Nang : Phuket : North & Central : I-San : South of Thailand


:: เว็บไซท์ยอดนิยม ::

+ ข้อมูลท่องเที่ยว




แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม การเดินทาง



:: โรงแรม เกาะลันตา ที่พัก เกาะลันตา ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะลันตา ที่พัก เกาะลันตา

ภูพระนาง รีสอร์ท แอนด์ สปา (Phu Pranang Resort & Spa) อ่าวนาง
Mild Bungalow อ่าวนาง
โรงแรม อ่าวนาง เทอเรส (Ao Nang Terrace Hotel) อ่าวนาง
อ่าวนาง เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Ao Nang Bay Resort & Spa) อ่าวนาง
ดวงใจ รีสอร์ท (Duang Jai Resort) อ่าวนาง
เอมเมอรัลด์ การ์เด้น รีสอร์ท (Emerald Garden Resort) อ่าวนาง
กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท (Krabi La Playa Resort) อ่าวนาง
พาวิลเลี่ยน ควีนส์ เบย์ (Pavilion Queen`s Bay) อ่าวนาง
ปกาสัย รีสอร์ท (Pakasai Resort) อ่าวนาง
กระบี่ ไทย วิลเลจ รีสอร์ท (Krabi Thai Village Resort) อ่าวนาง
ศรีสุขสันต์ รีสอร์ท (Srisuksant Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
บุรี ธารา รีสอร์ท (Buri Tara Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
อ่าวนางบุรี รีสอร์ท (Aonang Buri Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
อันดามณี บูติค รีสอร์ท (Andamanee Boutique Resort) Ao Nang, Nopparattara Beach
Chaya Resort Ao Nang, Nopparattara Beach
โรงแรม อลิส (Alis Hotel) Ao Nang, Nopparattara Beach
Krabi National Park Success Resort Ao Nang, Nopparattara Beach
อโยธยา สูทส์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Ayodhaya Suite Resort & Spa) Ao Nang, Nopparattara Beach
เซ็นทรัล กระบี่ เบย์ รีสอร์ท (Central Krabi Bay Resort) Ao Nang, Phaiplong Beach
ดรีม การ์เด้น โฮสเตล (Dream Garden Hostel) Ao Nang, Phranang Bay
กระบี่ ซีวิว รีสอร์ท (Krabi Seaview Resort) Ao Nang, Phranang Bay
The Verandah Ao Nang, Phranang Bay
บลู วิลเลจ (Blue Village) Ao Nang, Phranang Bay
อ่าวนาง พาราไดซ์ รีสอร์ท (Aonang Paradise Resort) Ao Nang, Phranang Bay
ทิพา รีสอร์ท (Tipa Resort) Ao Nang, Phranang Bay
บ้านอ่าวนาง รีสอร์ท (Best Western Ban Ao Nang Resort) Ao Nang, Phranang Bay
โรงแรม อ่าวนาง เพรสซิเด้นท์ (Aonang President Hotel) Ao Nang, Phranang Bay
สมเกียรติ บุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา (Somkiet Buri Resort & Spa) Ao Nang, Phranang Bay
เดอะ บีช รีสอร์ท (The Beach Resort) Ao Nang, Phranang Bay
Tropical Herbal Spa & Resort Ao Nang, Phranang Bay
โวค รีสอร์ท แอนด์ สปา อ่าวนาง (Vogue Resort & Spa Ao Nang) Ao Nang, Phranang Bay
โรงแรม กระบี่ เฮอริเทจ (Krabi Heritage Hotel) Ao Nang, Phranang Bay
คลิฟ อ่าวนาง รีสอร์ท (Cliff Ao Nang Resort) Ao Nang, Phranang Bay
พระนาง เพลส (Phranang Place) Ao Nang, Phranang Beach
โรงแรม อ่าวนาง ซันเซท (Ao Nang Sunset Hotel) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง ซี ฟร้อนท์ ไทย รีสอร์ท (Ao Nang Sea Front Thai Resort) Ao Nang, Phranang Beach
Wannas Place (Andaman Sunset Resort) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง บีช รีสอร์ท (Ao Nang Beach Resort) Ao Nang, Phranang Beach
โรงแรม บีช เทอเรส (Beach Terrace Hotel) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง พริ้นซ์วิลล์ รีสอร์ท (Aonang Princeville Resort) Ao Nang, Phranang Beach
พระนาง อินน์ (Phra-Nang Inn) Ao Nang, Phranang Beach
กระบี่ รีสอร์ท (Krabi Resort) Ao Nang, Phranang Beach
อ่าวนาง วิลล่า (Aonang Villa) Ao Nang, Phranang Beach
โกลเด้น บีช รีสอร์ท (Golden Beach Resort) Ao Nang, Phranang Beach
ไร่เลย์ พริ้นเซส รีสอร์ท แอนด์ สปา (Railay Princess Resort & Spa) Ao Nang, Railay Bay
ไดมอนด์ ไพรเวต รีสอร์ท (Diamond Private Resort) Ao Nang, Railay Bay East
แซนด์ ซี รีสอร์ท (Sand Sea Resort) Ao Nang, Railay Beach
ไร่เลย์ เบย์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Railay Bay Resort & Spa) Ao Nang, Railay Beach
Ya Ya Resort Ao Nang, Railay Beach East
Sunrise Tropical Resort Ao Nang, Railay Beach East
รายาวดี รีสอร์ท (Rayavadee Resort) Ao Nang, Railey Beach
ต้นไทร เบย์ รีสอร์ท (Tonsai Bay Resort) Ao Nang, Tonsai Bay
Koh Jum Lodge Koh Jum / Koh Pu Island
ดรีมทีม บีช รีสอร์ท (Dream Team Beach Resort) Koh Lanta Yai, Ao Nui Bay
ลันตา มารีน ปาร์ควิว รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะลันตาใหญ่
บ้านลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะลันตาใหญ่
พระนาง ลันตา (Phra Nang Lanta) Koh Lanta Yai, Kantiang Beach
พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา (Pimalai Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Kantiang Beach
เขากวาง บีช รีสอร์ท (Kaw Kwang Beach Resort) Koh Lanta Yai, Kaw Kwang Beach
ทวินเบย์ รีสอร์ท (Twinbay Resort) Koh Lanta Yai, Kaw Kwang Beach
โอเชี่ยน วิว รีสอร์ท (Ocean View Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
Lanta Bee Garden Bungalows Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
ลันตา ไอส์แลนด์ รีสอร์ท (Lanta Island Resort) เกาะลันตาใหญ่
ลันตา เรสซิเด้น แอนด์ สปา (Lanta Residence & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
โกลเด้น เบย์ คอตเทจ (Golden Bay Cottage) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
อันดามัน ลันตา รีสอร์ท (Andaman Lanta Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
เซาเทิร์น ลันตา รีสอร์ท (Southern Lanta Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
D.R Lanta Bay Resort Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
ฮอลิเดย์ วิลล่า (Holiday Villa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
รอยัล ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Royal Lanta Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
พรีเมียร์ มายา รีสอร์ท (Best Western Premier Maya Resort) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
ทวิน โลตัส รีสอร์ท แอนด์ สปา (Twin Lotus Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
Chada Beach Resort and Spa Koh Lanta Yai, Klong Dao Beach
Nice`n Easy House Koh Lanta Yai, Klong Kon Beach
Lanta Nice Beach Resort Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
ลันตา พาเลซ รีสอร์ท (Lanta Palace Resort & Beach Club) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
ลันตา อิลมาเร่ บีช รีสอร์ท (Lanta ilmare Beach Resort) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
Lanta White Rock Resort & Spa Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
ศรีลันตา (SriLanta) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
รวิวาริน รีสอร์ท แอนด์ สปา (Rawi Warin Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Klong Nin Beach
มูนไลท์ เบย์ รีสอร์ท (Moonlight Bay Resort) Koh Lanta Yai, Klong Tok Beach
ลันตา การ์เด้น ฮิลล์ รีสอร์ท (Lanta Garden Hill Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Bay
ฌ เฌอ ทรอปิคาน่า ลันตา รีสอร์ท Koh Lanta Yai, Phra Ae Bay
Sayang Beach Bungalows Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
Gooddays Lanta Chalet & Resort Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
Freedom Estate Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลันตา ลอง บีช รีสอร์ท (Lanta Long Beach Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
Lanta Nakara Resort Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
มุก ลันตา บูติค รีสอร์ท แอนด์ สปา Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
รีแลกซ์ เบย์ รีสอร์ท (Relax Bay Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลันตา คาชัวรินา บีช รีสอร์ท (Lanta Casuarina Beach Resort) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลันตา แซนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Lanta Sand Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach
ลยานา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Layana Resort & Spa) Koh Lanta Yai, Phra Ae Beach



:: โรงแรม เกาะพีพี ที่พัก เกาะพีพี กระบี่ ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะพีพี ที่พัก เกาะพีพี กระบี่

โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ (The Greenery Hotel) Krabi Town
โรงแรม บุญสยาม (Boonsiam Hotel) Krabi Town
โรงแรม กรีน เฮ้าส์ (Green House Hotel) Krabi Town
เทพรัตน์ ลอด์จ (Theparat Lodge) Krabi Town
มาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท (Maritime Park & Spa Resort) Krabi Town
Thip Residence Krabi, Ao Namao Beach
กระบี่ ทรอปิคอล เบย์ รีสอร์ท (Krabi Tropical Bay Resort) Krabi, Ao Namao Beach
La Venice Residence Krabi, Klong Muang Bay
อันดามัน ฮอลิเดย์ รีสอร์ท (Andaman Holiday Resort) Krabi, Klong Muang Beach
กระบี่ แซนด์ รีสอร์ท (Krabi Sands Resort) Krabi, Klong Muang Beach
Sofitel Phokeethra Krabi Krabi, Klong Muang Beach
เชอราตัน กระบี่ บีช รีสอร์ท (Sheraton Krabi Beach Resort) Krabi, Klong Muang Beach
นาคามันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Nakamanda Resort & Spa) Krabi, Klong Muang Beach
ทับแขก ซันเซท บีช รีสอร์ท (Tup Kaek Sunset Beach Resort) Krabi,Tubkaak Beach
ทับแขก บูติค รีสอร์ท (Tubkaak Boutique Resort) Krabi,Tubkaak Beach
ภูเลบีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Phulay Beach Resort & Spa) Krabi,Tubkaak Beach
พีพี ไอส์แลนด์ คาบาน่า โฮเต็ล (Phi Phi Island Cabana Hotel) Phi Phi Island - Ton Sai Beach
Araya Buri Resort Phi Phi Island, Laem Hin
พีพี เนเชอรัล รีสอร์ท (Phi Phi Natural Resort) Phi Phi Island, Laem Tong
พีพี เอราวัณ ปาล์ม รีสอร์ท (PP Erawan Palms Resort) Phi Phi Island, Laem Tong
ฮอลิเดย์ อินน์ พีพี ไอส์แลนด์ (Holiday Inn Phi Phi Island) Phi Phi Island, Laem Tong
ซีโวล่า (Zeavola) Phi Phi Island, Laem Tong
เบย์ วิว รีสอร์ท (Bay View Resort) Phi Phi Island, Leam Hin Beach
พีพี วิวพอยท์ รีสอร์ท (Phi Phi Viewpoint Resort) Phi Phi Island, Lo Dalam Beach
พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Pee Pee Island Village Beach Resort & Spa) Phi Phi Island, Loh Ba Gao Bay
พีพี โฮเต็ล (Phi Phi Hotel) Phi Phi Island, Ton Sai Beach
Phi Phi Banyan Villa Phi Phi Island, Ton Sai Beach


จังหวัดกระบี่ :: เทศกาล งานประเพณี

งานกระบี่เบิกฟ้าอันดามัน
จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดที่มีกิจกรรมรื่นเริง การแสดงทางวัฒนธรรม และการแข่งขันกีฬาทางน้ำ อีกหลายประเภท

งานประเพณีลอยเรือชาวเล
ที่เกาะลันตา นับเป็นประเพณีเก่าแก่ ของชาวเลที่หาดูได้ยาก ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 11

จังหวัดกระบี่ :: ของฝาก ของที่ระลึก

ของที่ระลึกจังหวัดกระบี่ได้แก่ กรงนกเขา เสื่อเตยปาหนัน กะปิ ปลาแห้ง กุ้งแห้ง และผลิตภัณฑ์จากทะเลประเภทต่างๆ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป จากร้านค้าบริเวณถนนอุตรกิจ

:: สารบัญเว็บไซท์ ::

:: ข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดกระบี่ ::

สารบัญเว็บไซท์ > ท่องเที่ยว > ข้อมูล และสถานที่ท่องเที่ยว > ภาคใต้ > กระบี่

จำนวนเว็บไซท์ในหมวดนี้ : 20 [ แนะนำเว็บไซท์ได้ที่นี่ ]


จังหวัดกระบี่
แนะนำข้อมูลทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท โรงแรม จังหวัดกระบี่ เกาะพีพี เกาะลันตา แผนที่ การเดินทาง ร้านอาหาร เทศกาล งานประเพณี ของฝาก ประวัติความเป็นมา คำขวัญประจำจังหวัด
http://www.relaxzy.com/province/krabi/

จังหวัดกระบี่
รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ แหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดกร...
http://www.krabi.go.th/

อ่าวนางดอทคอม
ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของอ่าวนาง และที่พักบริเวณอ่าวนาง ซึ่งอยู่ที่จังหวัดกระบี่
http://www.aonang.com

โกกระบี่ดอทคอม
ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดกระบี่ ข้อมูลการท่องเที่ยว-การเดินทาง โรงแรม และภาพกิจกรรมต่าง ๆ ในจังหวัดก...
http://www.gokrabi.com

สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
ให้ความรู้ด้านการท่องเที่ยวภายในจังหวัดกระบี่ และเสนอข้อมูลด้านที่พักและข้อมูลภายในท้องถิ่นเพื่อก...
http://www.krabi-tourism.com

หาดไร่เลย์
ข้อมูลหาดไร่เลย์ หรือ อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แนะนำโรงแรม รีสอร์ท การเดินทาง กิจกรรมท่องเที่ยว
http://www.railay.com

อ่าวนาง
รวบรวมข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ หาดอ่าวนาง และรวบรวมภาพถ่ายหลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่...
http://www.aonang.de

เขาหลักดอทคอม
ข้อมูลการท่องเที่ยวหาดเขาหลัก ข้อมูลที่พัก โรงแรม รีสอร์ท ในเขาหลัก จังหวัดกระบี่
http://www.kaolak.com

กระบี่ อินฟอร์เมชั่น ดอท คอม
บริการข้อมูลท่องเที่ยวกระบี่ รวมข้อมูลโรงแรม รีสอร์ท ที่พัก กิจกรรมท่องเที่ยว การเดินทาง แนะนำสถา...
http://www.krabiinformation.com

กระบี่ไทยแลนด์แม็พดอทคอม
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดกระบี่ , ที่พัก โรงแรม รีสอร์ต , แนะนำข้อมูลกิจกรรมต่างๆ
http://www.krabi-thailand-map.com/

กระบี่ไนท์ไลฟ์ดอทคอม
ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ อาทิ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง โรงแรม รีสอร์ตต่...
http://www.krabi-nightlife.com

จังหวัดกระบี่
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดกระบี่ คำขวัญ ตราประจำจังหวัด ประวัติ อาณาเขต แผนที่ ข้อมูลแหล่งท่องเ...
http://travel.sanook.com/south/krabi/

จังหวัดกระบี่
ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง กิจกรรม งานประเพณี แนะนำโรงแรม รี...
http://www.krabi.info

จังหวัดกระบี่
ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ รายละเอียดเทศกางานประเพณี การเดินทาง สภาพภูมิอากาศ รวมรวมภาพวิวทิวท...
http://www.krabi-guide.net

อินกระบี่
ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ มีสถานที่ยอดนิยมเช่น เกาะพีพี ลันตา และอ่าวต่างๆ ให้ข้อมูล...
http://www.in-krabi.com

กระบี่ทาวน์ดอทคอม
ให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม และกิจกรรมที่น่าสนใจ ในจังหวัดกระบี่ เช่น เกาะพีพี เกาะลันตา
http://www.krabitown.com

กระบี่วิว
เว็บไซต์แนะนำจังหวัดกระบี่ มีข้อมูลทั่วไป แผนที่ การเดินทาง เทศกาลงานประเพณี สินค้าประจำจังหวัด
http://www.krabiview.com

หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ (กระบี่ไร่เลย์ดอทคอม)
ข้อมูลท่องเที่ยว หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ แนะนำที่พัก โรงแรม รีสอร์ท บนหาด การเดินทาง กิจกรรมบนหา...
http://www.krabirailay.com

ชมรมมัคคุเทศก์ จังหวัดกระบี่
เป็นการรวมตัวกันเพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสาร การท่องเที่ยว และรวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่
http://www.krabiguideclub.com

กระบี่ทูเดย์
ข้อมูลจังหวัด แผนที่การเดินทาง แหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร แหล่งช้อบปิ้ง รวมเว็บไซต์ใน...
http://www.krabitoday.net



:: อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
คำว่า “ลันตา” แผลงมาจากคำว่า “ลันตัส” ซึ่งเป็นภาษาชวา มีความหมายว่า “ผลาย่างปลา” ซึ่งก็คือ ที่ย่างปลาสร้างด้วยไม้ รูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูงขึ้นคล้ายโต๊ะ จุดไฟไว้ข้างล่าง เผาปลาที่เรียงไว้ข้างบน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยที่สวยงามจำนวนมาก อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป่าชายหาด ป่าชายเลน แนวเขตปะการังที่สมบูรณ์ และหาดทรายรอบเกาะต่างๆ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตามีเนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 83,750 ไร่ หรือ 134 ตารางกิโลเมตร

ในปี 2530 มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือลงวันที่ 26 สิงหาคม 2530 แจ้งให้กรมป่าไม้ทราบว่า บริเวณเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลอันดามันระหว่างจังหวัดกระบี่ และจังหวัดตรัง เป็นเกาะที่สวยงามอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าไม้ สัตว์ป่า เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และสัตว์ทางทะเลอีกหลายชนิด เป็นแหล่งปะการังที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง กำลังถูกทำลายอย่างหนักในหลายรูปแบบ และมีผู้เข้าไปจับจองที่ดินเพื่อสร้างบังกะโล ขยายพื้นที่การท่องเที่ยวเข้าไป สมควรที่กรมป่าไม้จะต้องดำเนินการป้องกัน โดยผนวกพื้นที่ดังกล่าวเข้าเป็นเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หรือที่อื่นๆ ตามแต่กรมป่าไม้จะเห็นสมควร และในเรื่องนี้ นายชวน หลีกภัย ผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง และประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือด่วนมากที่ 190/2530 ลงวันที่ 2 กันยายน 2530 ร้องเรียนให้กรมป่าไม้ให้ความสนใจ และจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการสำรวจสภาวะของเกาะทั้งสองเป็นการด่วน เพื่อพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการอนุรักษ์


กรมป่าไม้ โดยกองอุทยานแห่งชาติจึงได้มีคำสั่งที่ 1733/2530 ลงวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2530 ให้ นายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ นักวิชาการป่าไม้ 5 ปฏิบัติงานทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ไปดำเนินการสำรวจเบื้องต้นบริเวณเกาะรอกใน เกาะรอกนอก เกาะไหง และเกาะใกล้เคียงในท้องที่จังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง ซึ่งคณะสำรวจโดยนายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ นางสาวรัตนา ลักขณาวรกุล นางสาววสา สุทธิพิบูลย์ กองอุทยานแห่งชาติ และคณะเจ้าหน้าที่ ได้ทำการสำรวจระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2531 ได้ผลสรุปว่า บริเวณดังกล่าวมีสภาพธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงามควรอนุรักษ์ไว้ ซึ่งได้มีรายงานผลการสำรวจตามหนังสือที่ กษ 0713 (อท)/พิเศษ ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2531 และในระหว่างนั้นกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 1736/2531 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2531 ให้ นายวิทยา หงษ์เวียงจันทร์ นักวิชาการป่าไม้ 4 กองอุทยานแห่งชาติ ไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเกาะรอก-เกาะไหง และให้ดำเนินการสำรวจจัดตั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ และที่ประชุมหัวหน้าฝ่ายกองอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2531 โดย นายธำมรงค์ ประกอบบุญ ผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ เป็นประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาผลการสำรวจเบื้องต้นบริเวณเกาะรอก-เกาะไหง และบริเวณใกล้เคียง มีมติเห็นสมควร จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งใหม่

กองอุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ กษ 0713/1191 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2531 ขอความเห็นชอบกรมป่าไม้ ให้อุทยานแห่งชาติดำเนินการก่อสร้างที่ทำการ และบ้านพักบริเวณแหลมโตนด อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ต่อไป และได้มีหนังสือที่ กษ 0713/202 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2532 เสนอกรมป่าไม้ขอความเห็นชอบ นำเรื่องการจัดตั้งอุทยานแห่งนี้เข้าที่ประชุม คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติพิจารณาต่อไป ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2532 และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินเกาะไม้งามใต้ เกาะตะละเบ็ง เกาะลันตาใหญ่ เกาะไหง เกาะตุกนลิมา เกาะรอกนอก เกาะรอกใน เกาะหินแดง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลเกาะกลาง ตำบลเกาะลันตาน้อย และตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เนื้อที่ 134 ตารางกิโลเมตร เป็นอุทยานแห่งชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 107 ตอนที่ 146 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2533 นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 62 ของประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติเกาะรอก-เกาะไหงได้มีหนังสือที่ กษ 0713(กร)/8 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2532 ว่า พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติประกอบด้วยเกาะลันตาใหญ่ เกาะรอก เกาะไหง และเกาะอื่นๆ จำนวนมาก โดยมีเกาะลันตาเป็นเกาะใหญ่ เป็นที่ตั้งที่ทำการสถานที่ราชการ และเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป จึงขอเปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา กองอุทยานแห่งชาติจึงได้มีหนังสือที่ กษ 0713/205 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2532 เสนอกรมปาไม้ ซึ่งเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเกาะรอก-เกาะไหง เป็น “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา”



:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วยเกาะ 25 เกาะ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเกาะรอก ประกอบด้วย เกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ซึ่งเกาะรอกในมีภูมิประเทศทั่วไป เป็นหินผาสูงชันมีโขดหินที่ถูกกัดกร่อนมาเป็นเวลานาน อยู่ทางทิศเหนือ ด้านที่หันสู่ทิศตะวันตกเป็นหน้าผาทอดยาว ด้านหน้าของเกาะมีความยาวประมาณ 2.4 กิโลเมตร ยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 208 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนเกาะรอกนอกเป็นเกาะที่มีขนาดใกล้เคียงกับเกาะรอกใน ยอดเขาที่สูงที่สุด สูง 156 เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณระหว่างช่องเขาจะมีที่ราบขนาดกว้างอยู่ 2 แห่ง คือ ช่องเขาหาดทะลุ และอ่าวม่านไทร สภาพธรณีของกลุ่มเกาะรอก อยู่ในยุคเพอร์เมียน-คาร์บอนิเฟอรัส มีช่วงอายุตั้งแต่ 345-230 ล้านปีมาแล้ว

กลุ่มเกาะห้า (เกาะตุกนลิมา) และเกาะหินแดง กลุ่มเกาะห้าประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 5 เกาะ มีที่ราบเล็กน้อยบนยอดเขาของเกาะที่มีพื้นที่มาก 2 เกาะ และอีก 3 เกาะที่เหลือมีลักษณะเหมือนหินโผล่พื้นน้ำ ไม่มีพื้นที่ราบ ลักษณะทางธรณีของกลุ่มเกาะนี้ เป็นหินปูนในหินชุดราชบุรีในยุคเพอร์เมียนช่วงล่าง-ช่วงกลาง มีช่วงอายุ 280-230 ล้านปี

กลุ่มเกาะไหง ประกอบด้วย เกาะไหง และเกาะม้า ด้านหน้าเกาะทางทิศตะวันออกของเกาะไหง ประกอบด้วยหาดทรายยาวเหยียด ทิศใต้ลักษณะเป็นอ่าว ด้านตะวันตกตอนเหนือมีลักษณะเป็นเขาสูงชัน ยอดเขาสูงที่สุด สูง 198 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับเกาะม้ามีลักษณะเหมือนหินโผล่พื้นน้ำ ไม่มีพื้นที่ราบ สภาพทางธรณีของกลุ่มเกาะนี้ โดยรวมมีลักษณะเช่นเดียวกับกลุ่มเกาะรอก

กลุ่มเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยจำนวน 16 เกาะ ได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะตะละเบ็ง เกาะไม้งาม เป็นต้น ลักษณะภูมิประเทศของเกาะลันตาใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน และค่อนข้างลาดชัน ที่ราบปรากฏเฉพาะบริเวณชายหาดทางตอนใต้ พื้นที่ส่วนใหญ่มีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ไปจนถึงบริเวณตอนกลางของเกาะที่มีความลาดชันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 เมตร ไปจนถึงยอดเขาสูงที่สุดตอนกลางของพื้นที่ที่มีความสูง 488 เมตร สำหรับเกาะอื่นๆ มีสภาพเป็นโขดหินสูงชัน ไม่มีที่ราบปรากฏ ลักษณะธรณีของบริเวณเกาะไม้งาม เกาะไม้งามใต้ มีลักษณะเป็นตะกอนน้ำพา ตะกอนชะวากทะเล และตะกอนที่ลุ่มที่ราบชายเลน ในสมัยโฮโลซีน

สำหรับบริเวณเกาะร่าปูพัง เกาะลาปูเล และเกาะตะละเบ็ง มีลักษณะธรณีโดยรวมเช่นเดียวกับกลุ่มเกาะห้า และลักษณะธรณีของบริเวณเกาะลันตาใหญ่ก็เช่นเดียวกับกลุ่มเกาะรอก บนเกาะลันตาใหญ่มีลำธารน้ำไหล ซึ่งมีน้ำไหลอยู่หลายแห่ง แต่มักขาดน้ำในช่วงฤดูแล้ง โดยมีลำธารเพียง 3 สาย ที่มีน้ำไหลอยู่ตลอดปี ได้แก่ คลองจาก คลองน้ำจืด และคลองนิน


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
จากสถานศึกษาข้อมูลสภาพภูมิอากาศ ของสถานีตรวจวัดอากาศที่อยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติ คือ สถานีตรวจวัดอากาศเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ พบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 28 องศาเซลเซียส โดยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ในเดือนมีนาคม และอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส ในเดือนธันวาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปีมากกว่า 2,100 มิลลิเมตร ในฤดูฝนเป็นช่วงที่ได้รับอิทธิพล ของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากจะทำให้ฝนตกหนักแล้ว ท้องทะเลยังมีคลื่นลมแรง ทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ในช่วงนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว จึงกำหนดปิด-เปิดฤดูการท่องเที่ยวประจำปี เฉพาะบริเวณหมู่เกาะรอก กองหินแดง และกองหินม่วง ดังนี้
ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 15 พฤศจิกายน ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน - 15 พฤษภาคม ของทุกปี


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
ทรัพยากรป่าไม้มีความอุดมสมบูรณ์ และมีความหลากหลายของพรรณพืชมาก ซึ่งสามารถจำแนกออกได้ดังนี้

ป่าดิบชื้น คิดเป็นเนื้อที่ 19.42 ตารางกิโลเมตร ปรากฏอยู่บริเวณเกาะลันตาใหญ่ ตลอดแนวเทือกเขาลันตา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมด ของอาณาเขตของอุทยานแห่งชาติ ป่าดิบชื้นที่พบมีไม้ชั้นบน และไม้ชั้นกลางความสูงโดยเฉลี่ย 15-25 เมตร พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ เคี่ยมคะนอง ยางแดง ตะแบกนา ตะเคียนหิน เป็นต้น และมีพันธุ์ไม้จำพวกปาล์มและหวาย เป็นไม้พื้นล่างของป่า พันธุ์สำคัญที่พบ ได้แก่ กะพ้อ หวายขม หวายตะค้าทอง หวายงวย เป็นต้น

ป่าชายเลน พบบริเวณ เกาะไม้งาม เกาะไม้งามใต้ และเกาะงู เกาะเหล่านี้เป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก และมีสภาพเป็นป่าชายเลนทั้งเกาะ ไม้ส่วนใหญ่มีระดับความสูงที่ใกล้เคียงกันโดยมีความสูง 5 เมตร โดยเฉลี่ยพันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ แสมขาว โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่

ป่าชายหาด พบเป็นบริเวณไม่กว้างนัก ระหว่างรอยต่อของชายหาดกับป่าดิบชื้นของเกาะไหง พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ หูกวาง หยีทะเล ผักบุ้งทะเล และเตยทะเล เป็นต้น

สัตว์ป่า แบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ คือ
จำพวกสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม มีจำนวน 20 วงศ์ 30 สกุล 38 ชนิดในจำนวนสัตว์ทั้ง 38 ชนิดนั้น มี 2 ชนิดได้หมดไปจากเกาะลันตาแล้ว คือ กวางป่า และเสือโคร่ง ส่วนอีกชนิดหนึ่งคือ พะยูน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน และอีก 2 ชนิดอยู่ในสถานะที่กำลังจะหมดไป คือ เก้ง และเสือปลา และสัตว์ที่หายากอีกชนิดหนึ่งคือ ค้างคาวมงกุฎหูโตมาร์แชล

นก มีทั้งสิ้น 58 วงศ์ 130 สกุล 185 ชนิด นกที่พบบ่อยอยู่ในอุทยานแห่งชาติ เช่น เหยี่ยวแดง นกนางนวลแกลบคิ้วขาว นกเขาเขียว เป็นต้น ส่วนนกที่พบเห็นได้ค่อนข้างยาก เช่น นกขุนแผนอกสีส้ม นกเดินดงสีเทาดำ และนกปลีกล้วยเล็ก เป็นต้น

สัตว์เลื้อยคลาน ชนิดที่พบได้ง่าย เช่น จิ้งจกหางแบน เหี้ย งูเหลือม และงูเห่าตะลาน เป็นต้น

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก มีอยู่เพียง 2 ชนิด ชนิดที่พบเห็นได้ตามลำคลองทั่วไปคือ กบทูด และอึ่งน้ำเต้า ส่วนตามอาคารที่พักและตามแหล่งน้ำทั่วๆ ไปในป่าจะพบสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เช่น เขียดตะปาด และคางคกแคระ ชนิดที่หายากและพบได้น้อย คือ กบดอร์เรีย

ปลาน้ำจืดและปลาทะเล แหล่งน้ำจืดต่างๆ สามารถพบปลาน้ำจืด เช่น ปลาซิวใบไผ่เล็ก ปลาช่อนก้าง ปลาตะเพียนจุด เป็นต้น สำหรับปลาทะเลที่พบตามแนวปะการัง ชายฝั่งหาดหิน และปากคลองน้ำจืด เช่น ปลาโทง ปลาปากคม และปลาปักเป้าหนามทุเรียน เป็นต้น

สัตว์ในแนวปะการังปะการัง เช่น ปะการังลูกโป่ง ปะการังเขากวางขนาดใหญ่ ปะการังเห็ด ปะการังดอกไม้ ปะการังดาวใหญ่ เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
หมู่ที่ 1 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ. เกาะลันตา จ. กระบี่ 81150
โทรศัพท์ : 0 7562 9018-9 โทรสาร : 0 7568 4153

รถยนต์
จากกรุงเทพฯ เดินทางไปจังหวัดกระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4206 ไปจนถึงบ้านหัวหิน เพื่อข้ามแพขนขยนต์ไปเกาะลันตาใหญ่ 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ระหว่างบ้านหัวหิน (บนฝั่ง) ไปเกาะลันตาน้อย และช่วงที่ 2 ระหว่างเกาะลันตาน้อย ไปเกาะลันตาใหญ่ จากนั้นขับรถต่อไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา


รถโดยสารประจำทาง
1.จากจังหวัดกระบี่ สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาได้ดังนี้
- โดยสารรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ไปท่าเรือเจ้าฟ้า (บนฝั่ง) ซึ่งอยู่ภายในตัวจังหวัดกระบี่ เพื่อโดยสารเรือต่อไปยังท่าเรือศาลาด่าน (บนเกาะลันตาใหญ่) จากนั้นโดยสารรถไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หรือโดยสารเรือไปยังเกาะรอก หรือเกาะอื่นๆ ตามต้องการ

- โดยสารรถตู้จากตัวเมืองกระบี่ ไปท่าเรือบ้านบ่อม่วง (บนฝั่ง) เพื่อโดยสารเรือไปท่าเรือศาลาด่าน (บนเกาะลันตาใหญ่) จากนั้นโดยสารรถไปยังแหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา หรือโดยสารเรือไปยังเกาะรอก หรือเกาะอื่นๆ ตามต้องการ

2. จากจังหวัดตรังหรืออำเภอห้วยยอด โดยสารรถไปยังท่าเรือบ้านปากเม็ง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง แล้วจ้างเหมา/เช่าเรือ หรือโดยสารเรือไปยังเกาะไหง เกาะรอก หรือเกาะลันตาใหญ่ ก็ได้เช่นกัน


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
เกาะรอกนอกและเกาะรอกใน เกาะรอกนอกและเกาะรอกใน เป็นเกาะที่อยู่ใกล้เคียงกัน สามารถนั่งเรือข้ามไปมาระหว่างทั้ง 2 เกาะนี้ได้สะดวก บริเวณเกาะรอกนอก เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ มีบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมบนเกาะ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ร้านอาหารสวัสดิการ ห้องน้ำ-ห้องสุขา เส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย

การเดินทางไปเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน สามารถเดินทางโดยเรือที่ท่าเรือศาลาด่าน บนเกาะลันตาใหญ่ จังหวัดกระบี่ หรือท่าเรือหาดปากเมง จังหวัดตรัง มีเรือเมล์ไปเกาะไหงทุกวัน เรือออกเวลา 09.00-10.00 น. ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็ถึงเกาะไหง จากเกาะไหงสามารถเช่าเรือไปเที่ยวเกาะรอกนอก และเกาะรอกใน หรือเกาะต่างๆ ที่อยู่ใกล้กัน


แหลมธง อยู่ทางด้านทิศเหนือหรือหัวเกาะรอกใน ด้านที่เป็นโขดหน้าผามองคล้ายเป็นเกาะเล็กๆ หากยืนมองที่หาดด้านตรงข้าม จะเห็นพระอาทิตย์ตกระหว่างช่องนั้น


จุดชมทิวทัศน์เกาะรอกนอก จากหาดทะลุ ที่มีหาดทรายขาวละเอียด สามารถเดินทะลุผ่านไปอีกด้านหนึ่งของเกาะรอกนอก จะพบอ่าวโค้งคล้ายเกือกม้า สองด้านของอ่าวเป็นหน้าผาหินสูงชัน ชายหาดด้านนี้เป็นหาดหิน และน้ำลึก ไม่เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ตามเส้นทางเดินจะพบป้ายบอกทางไปยังจุดชมทิวทัศน์ ณ จุดชมทิวทัศน์นี้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน ยามเย็นสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ การเดินเท้าขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์ค่อนข้างชันพอสมควร นักท่องเที่ยวควรเดินด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรยืนชิดขอบหน้าผาจนเกินไป เพราะอาจเกิดอันตรายได้


อ่าวม่านไทร มีสภาพป่าผสมกันระหว่างป่าชายเลน ป่าชายหาด และป่าดงดิบ หากเดินลึกเข้าไปในป่า จะพบต้นไทรขนาดใหญ่ที่ปล่อยรากย้อยลงมาประดุจม่าน ที่มีความกว้างประมาณ 5-6 เมตร บริเวณชายหาด น้ำค่อนข้างตื้น เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและดำน้ำดูปะการัง


อ่าวศาลเจ้า มีหาดทราย บริเวณนี้มีน้ำซับซึมออกมาในช่วงฤดูแล้ง เป็นแหล่งน้ำที่สามารถใช้ได้ตลอดปี มีศาลของชาวประมงที่สร้างขึ้นไว้สักการะบูชา


เกาะหินห้าลูก เกาะหินห้าลูก หรือเกาะห้า หรือเกาะตุกนลิมา เป็นกลุ่มเกาะ 5 เกาะ เกาะห้าใหญ่จะมีลักษณะของทุ่งหญ้าอยู่บนสันเกาะ มีเกาะรูปคล้ายใบเรือ เป็นเกาะที่มีน้ำลอดได้เมื่อขึ้นอยู่บนสันเกาะจะมีมุมทิวทัศน์ที่สวยงาม ในบริเวณดังกล่าวมีปะการังน้ำตื้น


เกาะไหง มีชายหาดที่ยาวและเงียบสงบ เป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 18 กิโลเมตร


เกาะตะละเบ็ง เป็นเกาะที่มีรูปลักษณะเป็นหินปูน มีชายหาดเล็กๆ เมื่อน้ำทะเลขึ้นจะท่วมบริเวณชายหาด มีลักษณะของโพรงถ้ำอยู่ริมน้ำ เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น


แหลมโตนด เกาะลันตาใหญ่ มีหาดทรายสวยงามอยู่ทางด้านหลังเกาะ และเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ใกล้เคียง เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ที่อยู่ปลายสุดของเกาะลันตาใหญ่ มีลักษณะเป็นที่ราบรูปสามเหลี่ยม ปลายด้านหนึ่งยื่นออกไปในทะเล มีต้นตาลสูงเด่น อีกด้านหนึ่งเป็นเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยป่าดงดิบ

บริเวณแหลมโตนดนี้ มีบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักแรมบนเกาะ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ร้านอาหารสวัสดิการ ห้องน้ำ-ห้องสุขา เส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย


กองหินม่วงและกองหินแดง เป็นกองหินใต้น้ำอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะรอกนอก และเกาะรอกใน เป็นจุดดำน้ำลึกที่มีปะการังอ่อนสวยงามมาก รวมทั้งสัตว์ทะเลนานาชนิด



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายไว้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีบ้านพักสำหรับบริการนักท่องเที่ยว 3 แห่ง คือ
1. บริเวณแหลมโตนด ซึ่งที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
2. บริเวณเกาะรอกนอก ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
3. บริเวณเกาะไหง ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณแหลมโตนด ซึ่งที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 1 แห่ง และ บริเวณเกาะรอกนอก ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ อีก 1 แห่ง การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ที่จอดรถ มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ (แหลมโตนด)


บริการอาหาร อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ให้บริการร้านอาหารสวัสดิการ 2 แห่ง
1. บริเวณแหลมโตนด ซึ่งที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
2. บริเวณเกาะรอกนอก ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ


:: อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ครอบคลุมพื้นที่ 65,000 ไร่ หรือ 104 ตารางกิโลเมตร ในท้องที่อำเภออ่าวลึก และ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าดงดิบ ที่มีธารน้ำไหลลอดภูเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อน เล่นน้ำ พบแหล่งศิลปะ ถ้ำจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นภาพเขียนสีโบราณ ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรม

ธารโบกขรณี เดิมชื่อ "ธารอโศก" ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ที่ 2 ตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ มีเนื้อที่ 37.5 ไร่ เป็นป่าดงดิบอยู่ในระหว่างหุบเขา เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า มีธารน้ำไหลลอดภูเขาผ่านบริเวณนี้ แล้วไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลแหลมสัก ต้นน้ำเกิดจากเขาถ้ำน้ำผุด เขาถ้ำเพชร ในท้องที่ตำบลอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก อยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 4 กิโลเมตร แล้วไหลมาตามลำคลอง เรียกว่า "คลองอ่าวลึก" ในปี พ.ศ. 2496 นายวิเวก จันทโรจน์วงค์ ข้าหลวงประจำจังหวัดกระบี่ ได้แวะมาเยี่ยมชมธารอโศกแล้วเห็นว่า สถานที่นี้มีความสวยงาม ควรที่จะได้สงวนไว้เป็นพื้นที่ของทางราชการ เพื่อจะได้ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ไม่ให้ราษฎรเข้าบุกรุกถือครอง จึงได้สงวนไว้เป็นของทางราชการตั้งแต่นั้นมา ในปลายปี 2496 พลโท บัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มาตรวจราชการที่อำเภออ่าวลึก ได้แวะพักที่ธารอโศก และพอใจในทิวทัศน์แห่งนี้มาก เห็นว่าชื่อที่เคยเรียกไว้เดิมยังไม่เหมาะสม จึงตั้งชื่อใหม่ว่า "ธารโบกขรณี"

ครั้นต่อมาปี พ.ศ. 2498 ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้เสนอกรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งธารโบกขรณีเป็นสวนรุกขชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ได้รับในหลักการ และดำเนินการตั้งแต่นั้นมา โดยอยู่ในความดูแลของกองบำรุง และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งจากจังหวัดพังงามาทรงประทับ ณ สวนรุกขชาติธารโบกขรณี ทั้งสองพระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธย ที่หินปากถ้ำน้ำลอดด้านขวามือ และได้ทรงปลูกต้นศรีตรัง ไว้ในสวนรุกขชาติแห่งนี้ด้วย


จังหวัดกระบี่ ได้มีหนังสือที่ กษ 0009/11446 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2527 ส่งรายงานการสำรวจเบื้องต้นของ นายประพันธ์ อินทรมณี ผู้ช่วยป่าไม้จังหวัดกระบี่ และนายสมจิตร สภาวรัตนภิญโญ นักวิชาการป่าไม้ 4 และหนังสืออำเภออ่าวลึก ที่ได้ตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหาในการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ โดยได้เสนอความเห็นว่า สวนรุกขชาติธารโบกขรณีประกอบด้วย ทิวทัศน์สวยงามในบริเวณพื้นที่ป่า และภูเขาใกล้เคียงกับสวนรุกขชาติ ยังมีความสวยงามตามธรรมชาติหลายแห่ง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าแหล่งต้นน้ำลำธาร เห็นสมควรอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้มีคำสั่งที่ 1516/2527 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2527 ให้ นายสมจิตร สภาวรัตนภิญโญ นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนินการสำรวจหาข้อมูลเพิ่มเติม ผลการสำรวจรายงานตามหนังสือลงวันที่ 5 ธันวาคม 2527 ว่า พื้นที่ดังกล่าวมีจุดเด่นและธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง การคมนาคมสะดวก เหมาะที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้มีคำสั่งที่ 336/2528 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2528 ให้ดำเนินการจัดตั้งพื้นที่สวนรุกขชาติธารโบกขรณี และพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียง ในท้องที่จังหวัดกระบี่เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้ชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี” ซึ่งอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ได้ทำการสำรวจพื้นที่ป่าเพิ่มเติม โดยมีหนังสือที่ กษ 0713(ธน)/51 ลงวันที่ 10 กันยายน 2529 และที่ กษ 0713(ธน)/15 ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2530 เห็นสมควรกำหนดพื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียง ที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยว และสมควรที่จะอนุรักษ์เป็นสมบัติของชาติตลอดไป ผนวกเข้าเป็นอุทยานแห่งชาติด้วย

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2531 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2531 เห็นชอบในหลักการที่จะให้กำหนดพื้นที่ธารโบกขรณี และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอุทยานแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ได้มีหนังสือที่ กษ 0718(ธน)/27 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2531 เสนอให้ผนวกพื้นที่หมู่เกาะเหลาบิเละ (เกาะห้อง) เข้ากับพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีด้วย

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ถูกประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 โดยพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดิน บริเวณพื้นที่ป่าปากลาวและป่าคลองบากัน ป่าคลองกาโหรด และป่าคลองหิน พื้นที่ป่าบริเวณใกล้เคียง และบริเวณหมู่เกาะเหลาบิเละ ในท้องที่ตำบลอ่าวลึกใต้ ตำบลอ่าวลึกเหนือ ตำบลแหลมสัก ตำบลอ่าวลึกน้อย อำเภออ่าวลึก และตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ 104 ตารางกิโลเมตร ซึ่งได้ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 115 ตอนที่ 67 ก ลงวันที่ 30 กันยายน 2541 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 86 ของประเทศ



:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี บางส่วนมีสภาพพื้นที่เป็นเขาสูงชันที่ทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ พื้นที่บางส่วนมีลักษณะแบบคาร์ส (Karst Topography) มีบ่อหรือพื้นยุบตัวของหินเบื้องล่าง (sink hole) มีลักษณะของธารน้ำใต้ดิน สภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่น ทั้งลอนลาดและลอนชัน มีเขาโดดเตี้ย (monadnock) ของหินปูน ซึ่งมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันกระจายอยู่ทั่วไป ประกอบด้วย ถ้ำสระยวนทอง ควนสอง เขาลูกบ้า ถ้ำทะลุฟ้า เขาลอดใต้ เขาช่องลม เขานอก เขาตากรด เขาอ่าวน้ำ เขาอ่าวม่วง เขาใสโต๊ะดำ เขาใหญ่ปากช่องลาด และพื้นที่บางส่วนเป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามันประกอบด้วย เกาะเหลาบิเละ (เกาะห้อง) เกาะเหลากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เกาะยะลาฮูดัง เกาะเหลาบุโล๊ะ (เกาะผักเบี้ย) เกาะกามิด เกาะปาหุเสีย เกาะฮันตู เกาะจาบัง เกาะเมย เกาะกาโรส เกาะแตก เกาะมีไลย เกาะอ่าวช้างตาย เกาะเลาดัว เกาะรงมารง (เกาะขลุ่ย) เกาะแหลมค้างคาว เกาะแหลมทะลุ เกาะแหลมตุโดด เกาะช่องลาดใต้ และเกาะฮาม

พื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารในพื้นที่อำเภออ่าวลึกหลายสาย ที่สำคัญได้แก่ คลองมะรุย คลองกลาง คลองน้ำตก คลองอ่าวลึก และคลองกาโรส


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
ลักษณะภูมิอากาศ เป็นแบบมรสุมในเขตร้อน มี 2 ฤดู คือฤดูฝนและฤดูร้อน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ฝนแปดแดดสี่” หมายถึง ฤดูฝน 8 เดือน ฤดูร้อน 4 เดือน

ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ถึงเดือนธันวาคมของทุกปี เดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่มีปริมาณฝนตกมากที่สุดในรอบปี เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในรอบปี ประมาณ 26.4 องศาเซลเซียส

ฤดูร้อน เริ่มจากกลางเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายนของทุกปี เดือนกุมภาพันธ์จะเป็นเดือนที่มีปริมาณฝนตกน้อยที่สุดของปี อากาศช่วงนี้จะร้อน เหมาะแก่การท่องเที่ยว เดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด ประมาณ 29 องศาเซลเซียส


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สังคมพืชในเขตอุทยานแห่งชาติสามารถจำแนกออกได้เป็น
ป่าดงดิบ พบในบริเวณเทือกเขาสูงชัน พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ หลุมพอ ตะเคียน เคี่ยม อินทนิลน้ำ ตะแบก โสกน้ำ มะม่วงป่า ไข่เขียว ยางนา ตำเสา พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัยเป็นพวกระกำ หวาย ไผ่ป่า เต่าร้าง หมากเทา บอน เฟิน กล้วยป่า และเอื้องป่า เป็นต้น

ป่าชายเลน ขึ้นอยู่ในดินเลนริมทะเลและตามบริเวณปากแม่น้ำใหญ่ ในบริเวณเขาถ้ำลอดใต้ อ่าวน้ำ แหลมสัก คลองบากัน และคลองกาโรสบางส่วน พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก ตะบูนดำ ตะบูนขาว ลำพู ลำแพน ถั่วขาว ถั่วดำ พังกาหัวสุม และแสม

ป่าพรุ พบในบริเวณที่มีน้ำจืดขังอยู่ตลอดปีของเขาช่องลมตอนใต้ มีเนื้อที่ไม่มากนัก

ด้วยสภาพพื้นที่ป่าในปัจจุบัน ไม่เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ติดต่อกัน ทำให้สัตว์ป่าที่หลงเหลืออยู่มีไม่มากนัก ที่พบเห็นได้แก่ หมูป่า เสือปลา กระจงหนู ชะนี ลิง ค่าง ชะมดหางปล้อง เม่นใหญ่แผงคอยาว ลิ่น นากเล็บสั้น กระแต กระรอก อ้นเล็ก พังพอนธรรมดา บ่าง หนู ไก่ป่า นกดุเหว่า นกเขาใหญ่ นกเขาชะวา นกกวัก นกเอี้ยงสาริกา นกยางเปีย เหยี่ยวแดง นกตบยุง นกขุนทอง นกแซงแซว นกขมิ้น นกหัวขวาน นกกางเขนดง นกกางเขนบ้าน นกเด้าลมหลังเทา นกปรอด เต่า งู กบ และอึ่งอ่าง ฯลฯ ในห้วยลำคลองมีปลาน้ำจืดที่พบเห็นโดยทั่วไปได้แก่ ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาเสือข้างลาย ปลาแก้มช้ำ ปลาซิว ปลาดุก ปลาหัวตะกั่ว ปลาไหล ปลากดเหลือง ปลากระดี่นาง ปลากระดี่หม้อ ปลากัด ปลาตูหนา ปลาหมอไทย ปลากระทุงเหวเมือง และปลากระสูบขีด

อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ครอบคลุมท้องน้ำทะเลประมาณ 64.3 ตารางกิโลเมตร มีสัตว์น้ำที่สำคัญ และมีเป็นจำนวนมากทั้งพวกหอย ปู กุ้ง ปลากะรัง ปลากระพงแดง ปลาผีเสื้อ ปลานกแก้ว ปลาสลิดหิน ปลาสิงโต ปลาการ์ตูน ปลิงทะเล ดาวทะเล แมงดาทะเล ดอกไม้ทะเล เม่นทะเล ฟองน้ำ ปะการังอ่อน ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง และปะการังเห็ด เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี
2/2 หมู่ 2 ถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ต.อ่าวลึกใต้ อ. อ่าวลึก จ. กระบี่ 81110
โทรศัพท์ : 0 7568 1071, 0 7568 2058 โทรสาร : 0 7568 2058

รถยนต์
จากกระบี่ ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ถึงสี่แยกอ่าวลึก แล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4039 เป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางจากตัวเมืองกระบี่ ประมาณ 48 กิโลเมตร


เครื่องบิน
การเดินทางโดยเครื่องบิน เที่ยวบินกรุงเทพฯ–กระบี่ จากท่าอากาศยานดอนเมือง สู่ท่าอากาศยานกระบี่ แล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์ หรือรถโดยสารประจำทาง ถึงสถานีขนส่งจังหวัดกระบี่ ไปยังอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ซึ่งมีรถประจำทางหลายสาย ให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการ เช่น รถโดยสารธรรมดา อัตราค่าโดยสาร ราคา 20 บาท ปรับอากาศ 30 บาท รถตู้ประจำทางปรับอากาศ ราคา 30 บาท จากสี่แยกอ่าวลึกไปอุทยานแห่งชาติ ระยะทาง 2 กิโลเมตร ค่าโดยสารรถ 2 แถว หรือรถจักรยานยนต์รับจ้าง ราคา 10 บาท


รถโดยสารประจำทาง
รถโดยสารประจำทาง เส้นทาง กรุงเทพ-กระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร อัตราค่าโดยสารสำหรับรถธรรมดา ราคา 300 บาท รถปรับอากาศ 450 บาท ปรับอากาศชั้น 1 486 บาท 24 ที่นั่ง 650 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยซื้อตั๋วลงที่สี่แยกอ่างลึกและโดยสารรถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือรถยนต์รับจ้างอ่าวลึกเหนือ-อ่าวลึกใต้ ไปยังอุทยานฯ


:: แหล่งท่องเที่ยว ::
การท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ส่วนมากอยู่ในรูปของเช้าไป-เย็นกลับ โดยสามารถที่จะเข้ามาพักผ่อน เล่นน้ำ ในบริเวณธารโบกขรณี และเดินชมธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียง หรืออาจท่องเที่ยวทางน้ำ โดยการนั่งเรือ ชมสภาพธรรมชาติทางทะล ตามเกาะ และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์


:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
ถ้ำผีหัวโต ถ้ำผีหัวโต เป็นถ้ำในภูเขาที่มีห้วงน้ำล้อมรอบ ภายในถ้ำแบ่งได้เป็น 2 คูหาขนาดใหญ่ มีภาพเขียนศิลปะดั้งเดิม เขียนด้วยสีแดง ดำ เหลือง น้ำตาล น้ำตาลเหลือง น้ำตาลแดงหรือน้ำตาลเข้ม สามารถแบ่งภาพเขียนตามบริเวณที่พบได้ 23 กลุ่ม จำนวน 238 ภาพ สภาพของถ้ำโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงสว่างส่องเข้าไปถึงสามารถชมภาพเขียนได้ชัดเจน ภายในถ้ำยังมีเปลือกหอยแครงจำนวนมาก ทับถมกันอยู่จนกลายเป็นหิน

นอกจากจะพบภาพเขียนศิลปะดั้งเดิมที่ถ้ำผีหัวโต ยังสามารถพบภาพเขียนได้ที่แหลมไฟไหม้ แหลมถ้ำเจ้ารี และแหลมท้ายแรด ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความสวยงามตามธรรมชาติแตกต่างกันไปด้วย


:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
ธารโบกขรณี ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นธารน้ำลอดออกมาจากถ้ำ ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ เป็นแอ่งกว้าง น้ำใสสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ มีฝูงปลาหลากชนิดแหวกว่ายให้เห็นตลอดเวลา บรรยากาศโดยรอบร่มรื่น และอุดมไปด้วยไม้ป่านานาชนิด ออกดอกสะพรั่งสวยงามตามฤดูกาล


ถ้ำลอด อยู่ใกล้กับถ้ำผีหัวโตประมาณ 300 เมตร ลักษณะเป็นภูเขาที่มีคลองลอดผ่าน มีโพรงถ้ำลักษณะเป็นอุโมงค์ ตรงกลางเป็นช่องกว้างแล่นเรือลอดผ่านไปมาได้ ระยะทางประมาณ 150 เมตร สวยงามด้วยหินงอกหินย้อยเรียงรายตลอดแนวอุโมงค์

การเดินทางไปถ้ำลอด คือ ไปตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปท่าเทียบเรือบ่อท่อ อีกประมาณ 2 กิโลเมตร นั่งเรืออีกประมาณ 10 นาที ถึงถ้ำผีหัวโต-ถ้ำลอด อยู่ห่างจากธารโบกขรณี ประมาณ 7 กิโลเมตร


เกาะเหลาบิเละ เกาะเหลาบิเละ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะห้อง เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีคราม มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ โดยมีจุดที่น่าสนใจได้แก่ อ่าวบิเละ เป็นอ่าวที่มีหาดทรายโค้งเป็นรูปนกบิน ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลใส มีฝูงปลาเล็กๆ แหวกว่ายให้เห็นอยู่ทั่วไป ชายทะเลเหมาะแก่การเล่นน้ำ

อ่าวห้อง เปรียบเสมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ผนังเป็นหน้าผาชันโดยรอบ ลักษณะคล้ายห้อง มีประตูทางเข้าเพียงทางเดียว กว้างประมาณ 10 เมตร สามารถนำเรือเข้าไปได้ พื้นเป็นทรายขาวสะอาดราบเรียบเสมอกัน น้ำตื้นและใสมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำ และยังเป็นที่หลบคลื่นลมของชาวประมงเมื่อมีพายุพัดผ่าน

การเดินทางไปเกาะห้อง คือ เดินทางไปตามถนนอ่าวลึก-กระบี่ แยกไปตามทางเข้าหาดนพรัตน์ธารา แล้วเลยไปแหลมป่อง ลงเรือที่ทับแขกรีสอร์ท นั่งเรือประมาณ 30 นาที นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทเกาะที่น่าสนใจอีก เช่น หมู่เกาะช่องลาด เกาะกาโรส และเกาะผักเบี้ย



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายไว้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ที่จอดรถ มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว บริเวรที่ทำการอุทยานแงชาติ


ร้านขายเครื่องดื่ม/ร้านกาแฟ มีร้านขายเครื่องดื่ม / กาแฟ ไว้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

0 ความคิดเห็น: