วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี

:: จังหวัดจันทบุรี ::

" น้ำตกลือเลื่อง เมืองผลไม้ พริกไทยพันธุ์ดี อัญมณีมากเหลือ เสื่อจันทบูร สมบูรณ์ธรรมชาติ
สมเด็จพระเจ้าตากสินกู้ชาติ รวมญาติที่จันทบุรี "


จังหวัดจันทบุรี :: ข้อมูลทั่วไป

จันทบุรี หรือเมืองจันท์เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 245 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 6,338 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ดินฟ้าอากาศเอื้ออำนวยต่อการปลูกผลไม้หลายชนิด โดยเฉพาะ ทุเรียน เงาะ มังคุด และพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ เช่น พริกไทย ยางพารา เป็นศูนย์กลางธุรกิจด้านอัญมณี และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขา ป่าไม้ น้ำตก ชายทะเล และโบราณสถาน โบราณวัตถุต่าง ๆ

จันทบุรี เป็นเมืองเก่าแก่ มีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปีมาแล้ว เริ่มมีการตั้งเมืองครั้งแรก ที่บริเวณหน้าเขาสระบาป โดยชนชาวขอม ต่อมาได้ย้ายมาสร้างเมืองใหม่ ที่บ้านลุ่มซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เมื่อ ปี พ.ศ. 2200 และหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เข้ายึดเมืองจันทบุรี เพื่อใช้เป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารและรวบรวมกำลังพล เพื่อใช้ในการกอบกู้กรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า ในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ย้ายเมืองไปตั้งที่บ้านเนินวง ซึ่งอยู่ในที่สูง เพื่อเป็นที่มั่น ในการป้องกันการถูกรุกรานของญวณ แต่เนื่องจากห่างไกลจากแหล่งน้ำ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงย้ายเมืองจันทบุรี กลับมาตั้งที่บ้านลุ่ม ตามเดิมตราบจนทุกวันนี้ ในปี พ.ศ. 2436 เกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส และฝรั่งเศสได้เข้ามา ยึดครองเมืองจันทบุรีไว้นานถึง 11 ปี จนไทยต้องยอมยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ให้กับฝรั่งเศส เพื่อแลกเมืองจันทบุรีกลับคืนมา ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินขึ้นใหม่ เมืองจันทบุรีจึงมีฐานะเป็นจังหวัดมาจนถึงปัจจุบัน

อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อจังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา และ ชลบุรี
ทิศใต้ ติดต่ออ่าวไทย
ทิศตะวันออก ติดต่อจังหวัดตราด และราชอาณาจักรกัมพูชา
ทิศตะวันตก ติดต่อจังหวัดระยอง

การปกครอง
จันทบุรี แบ่งการปกครองออกเป็นอำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอมะขาม อำเภอสอยดาว อำเภอนายายอาม อำเภอแก่งหางแมว และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 039)
สำนักงานจังหวัดจันทบุรี
311-001

ททท.สำนักงานภาคกลาง จ.ระยอง
(038) 655-420-1

ประชาสัมพันธ์จังหวัด
311-001

ไปรษณีย์จังหวัด
311-013

องค์การโทรศัพท์
311-800

สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง
311-115

ตำรวจทางหลวง
311-188

ตำรวจท่องเที่ยว
1155

สถานีขนส่ง
311-299

โรงพยาบาลตากสิน
321-759

โรงพยาบาลพระปกเกล้า
311-611-3 , 324-975

โรงพยาบาลท่าใหม่
431-001-2

โรงพยาบาลขลุง
441-644


จังหวัดจันทบุรี :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

สถานที่ท่องเที่ยว ในตัวเมืองและบริเวณใกล้เคียง

ศาลหลักเมืองจันทบุรีและศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวงในตัวเมืองจันทบุรี หน้าค่ายสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นค่ายทหารกองพันทหารราบที่ 3 บริเวณเยื้องกับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเดิมเคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดจันทบุรีมาก่อน

สวนสาธารณะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ตั้งอยู่เยื้องกับศาลากลางจังหวัด ริมถนนเลียบเนิน มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ภายในสวนมีเกาะกลางน้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระเจ้าตากสินมหาราช ในบริเวณบึงที่ล้อมรอบเกาะนี้ นอกจากจะเป็นที่พายเรือเล่นแล้ว ยังใช้เป็นที่เพาะพันธุ์ปลาของประมงจังหวัดอีกด้วย

ถนนสายอัญมณี
ตั้งอยู่ในตัวเมืองบริเวณถนนศรีจันท์และตรอกกระจ่าง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน นับเป็นถนนสายเศรษฐกิจของจังหวัด ที่ผู้ประกอบธุรกิจด้านอัญมณี จะมาซื้อขายพลอย และอัญมณีต่างๆ เป็นประจำทุกวัน นับเป็นตลาดพลอยเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ยังมีการค้าขายพลอยดิบอีกด้วย โดยเปิดตลาดในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. จนถึงประมาณ 15.00 น. มีนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายพลอยมาชุมนุมต่อรองราคากันอย่างคึกคัก นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองจันทบุรี

วัดเขตร์นาบุญญาราม
ตั้งอยู่ที่ถนนเบญจมราชูทิศในตัวเมืองจันทบุรี เป็นวัดญวนซึ่งก่อสร้างเป็นศิลปะแบบจีนปนไทย วัดนี้มีสิ่งน่าแปลกอย่างหนึ่งคือ มีนกนางแอ่นป่ามาสร้างรังสีดำขนาดใหญ่ ห้อยย้อยลงมาจากกลางเพดานโบสถ์ และยังมีรังเล็ก ๆ อยู่ตามหัวเสาที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์ด้วย นกนางแอ่นเหล่านี้มาอาศัยทำรังที่วัดแห่งนี้เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว โดยจะบินออกไปหาอาหารในตอนเช้าและบินกลับมาเข้ารังในตอนเย็น

วัดไผ่ล้อม
ตั้งอยู่ที่ตำบลจันทนิมิตร เดินทางไปตามถนนศรีจันท์ ข้ามสะพานตรีรัตน์ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำจันทบุรีไปเล็กน้อย มีแยกซ้ายไปวัดเป็นระยะทางอีกราว 500 เมตร ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย เกี่ยวกับพระเจ้าสิบชาติ

โบสถ์คาทอลิก
เป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิก ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ตำบลจันทนิมิตร สามารถเข้าทางเดียวกับวัดไผ่ล้อม เมื่อถึงวัดไผ่ล้อมแล้วเดินทางต่อไปอีกราว 1 กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองเดินทางข้ามสะพานวัดจันท์ไปตามถนนจันนิมิตรจะพบทางแยกขวาไปโบสถ์คาทอลิก สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ได้ชื่อว่า เป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่เรียกว่า ศิลปะแบบโกธิค ตบแต่งด้วยกระจกสีติดผนังเป็นภาพทางคริสต์ศาสนา สวยงามมาก

ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี
ตั้งอยู่ภายในสถาบันราชภัฏรำไพพรรณี ห่างจากตัวเมือง 6 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 316 อยู่บริเวณที่เป็นพระตำหนักสวนบ้านแก้วพระราชนิเวศน์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 โดยมีการรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เป็นอนุสรณ์ของพระองค์ท่านเก็บไว้ และยังมีโบราณวัตถุที่เก็บจากท้องที่จังหวัด จันทบุรีนำมาแสดงไว้ด้วย เปิดให้เข้าชมในวันและเวลาราชการ โดยทำหนังสือขออนุญาตเข้าชม ล่วงหน้าไปที่สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

วัดพลับพลา
อยู่ที่ตำบลบางกะจะ มีสิ่งสำคัญคือ วิหารไม้ เจดีย์กลางน้ำ หอไตรกลางน้ำ หอสวดมนต์ และพระปรางค์

วัดทองทั่ว
อยู่ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากตัวเมืองราว 4 กิโลเมตร มีพระอุโบสถและเจดีย์อายุนับร้อยปี เป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุเขมร ได้แก่ ทับหลังแบบศิลปะถาลาปริวัติ ทับหลังแบบศิลปะไพรกเมง เสาอิงประดับกรอบประตูแบบศิลปะถาลาปริวัติ และแบบศิลปะนครวัดตอนปลาย และภาพสลักลายเส้นพระพิฆเณศวร และงวงหูช้างหิน อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 17-18

โบราณสถานเมืองเพนียด
อยู่ในเขตตำบลคลองนารายณ์ ใกล้กับวัดทองทั่ว มีกำแพงก่อด้วยศิลาแลง สันนิษฐานว่าเดิมเป็นที่ตั้งเมืองจันทบุรีในยุคแรก


เส้นทางอำเภอเมือง - ท่าใหม่ - คุ้งวิมาน

แหล่งเรือโบราณ
ตั้งอยู่ที่บ้านเสม็ดงาม โดยเดินทางจากตัวเมืองไปตามถนนท่าแฉลบผ่านโรงแรมอีสเทิร์น ไปวิทยาลัยเทคนิคจันทบุรี ระยะทาง 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตรงวัดเกาะโตนดไปอีก 4 กิโลเมตร ผ่านวัดเสม็ดงาม แล้วเลี้ยวขวาไปอีก 1 กิโลเมตร บริเวณนี้เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้เป็นที่ต่อเรือรบ เมื่อครั้งเตรียมยกทัพไปตีพม่า เมื่อ พ.ศ. 2310 เพื่อกู้เอกราชชาติไทย หน่วยโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากร ได้ทำการขุดค้นซากเรือและตรวจสอบชั้นดินทางโบราณคดี พบส่วนประกอบต่าง ๆ ของเรือโบราณ และแอ่งน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ตามริมฝั่งอ่าวลักษณะคล้ายอู่เรืออยู่หลายแห่ง

โบราณสถานค่ายเนินวง
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกะจะ ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตก ตามถนนท่าแฉลบประมาณ 6.5 กิโลเมตร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาพระคลังสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2377 เพื่อเตรียมรับศึกญวน มีพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นเมืองรูปสี่เหลี่ยม มีกำแพงขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีคูน้ำล้อมรอบ แต่ละด้านมีประตูเชิงเทินหอรบ มีปืนใหญ่วางเรียงรายไว้ตามแนวกำแพงโดยรอบ นับว่าเป็นค่ายที่มั่นคงแข็งแรงที่สุดในสมัยนั้น ในบริเวณค่ายมีศาลหลักเมืองซึ่งประดิษฐานพระรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และยังมีเก่าแก่ชื่อวัดโยธานิมิตร ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำเมือง

สำนักงานโบราณคดีใต้น้ำ
ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายเนินวง เป็นสถานที่เก็บรวบรวมและรักษาโบราณวัตถุที่นำขึ้นมาจากเรือสำเภาโบราณที่จมอยู่ใต้ทะเลอ่าวไทย โบราณวัตถุเหล่านี้ประกอบด้วยเครื่องปั้นดินเผาประเภทถ้วย โถ ไห กระปุก ตุ๊กตารูปคนและรูปสัตว์ ซึ่งเป็นเครื่องสังคโลกไทยจากแหล่งเตาศรีสัชนาลัย และเตาแม่น้ำน้อย จังหวัดสิงห์บุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันโดยไม่เสียค่าเข้าชม ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ปัจจุบันกรมศิลปากรกำลังดำเนินการปรับปรุงสถานที่แห่งนี้เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทบุรี เพื่อเป็นสถานที่สำหรับศึกษาค้นคว้าประวัติความเป็นมาด้านสังคม เศรษฐกิจ ธรรมชาติวิทยา รวมทั้งวิถีชีวิต และศิลปวัฒนธรรมของจันทบุรี รวมทั้งจัดแสดง หลักฐาน ความเป็นมาเกี่ยวกับการพาณิชย์นาวีของไทยไว้ด้วย

บ่อพลอยเขาพลอยแหวน
อยู่ที่ตำบลบางกะจะ อยู่เลยค่ายเนินวงไปทางอำเภอท่าใหม่ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นแหล่งขุดพลอยแห่งแรกของเมืองจันท์ ชาวบ้านส่วนใหญ่เดิมมีอาชีพเกี่ยวข้องกับพลอยอย่างครบวงจร คือมีทั้งการขุด เผา เจียระไนพลอย รวมถึงการนำออกจำหน่ายสู่ตลาด และบริเวณนี้ยังเป็นเส้นทางของผู้ค้าทับทิมที่มาจากบ่อไร่ และหนองบอนของจังหวัดตราดอีกด้วย

เจดีย์ยอดเขาพลอยแหวน
อยู่ที่ตำบลพลอยแหวน อำเภอท่าใหม่ พระยาจันทบุรีได้สร้างขึ้น เมื่อราวปี พ.ศ. 2375 ในสมัยรัชกาลที่ 5 บนจุดที่สูงที่สุดของเขาพลอยแหวน เป็นเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองอยู่ใกล้เคียงกัน

วนอุทยานเขาแหลมสิงห์
ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ มีเนื้อที่ทั้งทางบกและทางทะเลประมาณ 9,500 ไร่ มีทรัพยากรธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย สภาพป่าเป็นป่าดงดิบแล้งและป่าชายหาด พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ กฤษณา ไม้กะบก ไม้ตะแบก หว้า ตีนเป็ด มีสัตว์เล็ก ๆ หลายชนิด เช่น ลิงแสม กระจงเล็ก กระรอกบินสีส้ม ไก่ป่า และนกนานาชนิด ส่วนพืชและสัตว์ทะเลจะพบตามชายหาดและเกาะต่าง ๆ

เส้นทางระยอง - จันทบุรี

ถ้ำเขาวง
อยู่บ้านเขาวงกต อำเภอแก่งหางแมว เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง เดินทางไปตามเส้นทางระยอง-จันทบุรี ก่อนถึงตัวเมืองจันท์ราว 40 กิโลเมตร มีแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิทตรงกิโลเมตรที่ 286 (บ้านกองดิน) ระยะทาง 11 กิโลเมตร หรืออีกเส้นทางหนึ่งแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิทที่ กม. 288 บริเวณตลาดนายายอามเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร เขาวงเป็นภูเขาหินปูนหลายลูกล้อมกันลักษณะเป็นวง มีพื้นที่ราว 2,750 ไร่ มีชะโงกผาที่สวยงามมาก ภายในเขามีถ้ำที่สวยงามน่าศึกษาและเที่ยวชมประมาณ 20 ถ้ำ เช่น ถ้ำเพชร ถ้ำละคร ถ้ำสิงห์โต ถ้ำ สามิตร ถ้ำเต่า ฯลฯ มีหินงอก หินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ บางถ้ำติดต่อทะลุถึงกันได้ บริเวณเขาวงมีพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจศึกษามากมาย รวมทั้งสัตว์ป่า เช่น ลิง หมีควาย และเลียงผา นักท่องเที่ยวสามารถขอคำแนะนำ การชมถ้ำได้จากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานที่เขาวงได้ การเข้าชมถ้ำ ควรนำไฟฉายติดตัวไปด้วยเนื่องจากในถ้ำไม่มีแสงสว่าง ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน หากพ้นช่วงนี้ไปแล้ว ภายในถ้ำจะมีน้ำเอ่อท่วมอยู่ตลอดเวลา


เส้นทางอำเภอเมือง - น้ำตกกระทิง

ฟาร์มจระเข้-สวนสัตว์ชำโสม
ตั้งอยู่ที่บ้านชำโสม ตำบลแสลง อำเภอเมืองจันทบุรี เดินทางไปตามถนนสุขุมวิทถึงหลัก กม. 324 เลี้ยวตรงสี่แยกเขาไร่ยา ทางไปน้ำตกกระทิง เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร อยู่ด้านขวามือ เป็นศูนย์รวมพันธุ์จระเข้น้ำจืด และจระเข้น้ำกร่อยหลายชนิดนับพันตัว และมีสัตว์อื่น ๆ อีกนานาชนิด บริเวณรอบฟาร์มเป็นสวนผลไม้ เช่น ทุเรียน เงาะ สละ และกระท้อน เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. นอกจากนี้ยังมีการแสดงของช้างแสนรู้ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ วันละ 2 รอบ เวลา 12.00 น. และ 15.00 น. ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 60 บาท รายละเอียดสอบถามได้ที่ โทร. 01- 327-0347, (039) 324247

วัดเขาสุกิม
อยู่ในเขตตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 20 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญภาวนาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป วัดมีบริเวณกว้างขวาง อยู่สูงขึ้นไปบนเนินเขา มีพื้นที่ประมาณ 3,280 ไร่ ภายในวัดมีศาสนสมบัติ ศาสนวัตถุ และวัตถุโบราณล้ำค่าต่างๆ มากมาย มีการจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของพระอาจารย์ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไปกว่า 20 ท่าน เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่วัน พระอาจารย์มั่น ฯลฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.

การเดินทางไปวัดเขาสุกิม สามารถไปได้หลายเส้นทาง คือ จากถนนสุขุมวิท กม. 105 บริเวณบ้านห้วยสะท้อน มีทางแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3322 ไปวัดเขา สุกิมเป็นระยะทาง 13 กิโลเมตร หรือหากเลยแยกนี้ไปจะมีทางเข้าวัดได้อีกทางหนึ่งที่บริเวณบ้านเนินสูงเป็นระยะทาง 16กิโลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางไปน้ำตกกระทิงก็ได้ โดยแยกจากถนนสุขุมวิทที่บริเวณสี่แยกเขาไร่ยาเข้าไปประมาณ 7 กิโลเมตร ถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร

สวนสะเด็ดยาด
อยู่เยื้องกับวัดเขาสุกิม มีเนื้อที่ประมาณ 180 ไร่ เป็นสวนผลไม้ ปลูกเงาะและทุเรียนเป็นส่วนใหญ่ ช่วงที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชม คือช่วงที่ผลไม้ออกชุก ในราวเดือนเมษายนถึงมิถุนายน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท สามารถรับประทานเงาะที่ปลูกในสวนได้ ภายในสวนมีที่พักพร้อมห้องประชุม สระว่ายน้ำ และห้องอาหารไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ สำนักงานหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ กรุงเทพฯ โทร. 272-1030 ต่อ 1431 หรือที่จันทบุรี โทร. (01) 211-2968

อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
อยู่ในท้องที่อำเภอมะขามและกิ่งอำเภอเขาคิชกูฏ การเดินทางใช้ถนนสุขุมวิท ถึง กม. 324 บริเวณสี่แยกเขาไร่ยา แยกซ้ายไป 21 กิโลเมตร ถึงทางแยกเข้าอุทยานเลี้ยวขวาอีก 1.5 กิโลเมตร (สามารถนั่งรถสองแถวจันทบุรี-น้ำตกกระทิง ค่าโดยสาร 20 บาทต่อคน

เพคเกจทัวร์ล่องแก่งคลองโป่งน้ำร้อน
พบความสนุกตื่นเต้นกับการล่องแก่งวังขอน วังวน วังกะทะ โดยมีเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ให้ความสะดวกครบครัน อัตราค่าบริการ 3,9000 บาท/ลำ พร้อมอาหาร 1 มื้อ ในจำนวน 8 คน หรือท่านละ 650 บาท อัตรานี้รวมค่าบริการต่าง ๆ ดังนี้
ค่าล่องเรือยาง
ค่าเสื้อชูชีพ และหมวกกันน็อค
ค่าเจ้าหน้าที่ควบคุมเรือยาง

ติดต่อล่วงหน้าก่อนเดินทาง 1 หัปดาห์ที่สำนักงานที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน โทร. (039) 387110, 387035 หรือ ติดต่อที่ บริษัท ฟูจิ คุณทรงศักดิ์ (01) 831-4922, (01) 253-3503, กรุงเทพฯ โทร. 918-606-8


เส้นทางอำเภอเมือง - อำเภอมะขาม - อำเภอสอยดาว

เขื่อนคีรีธาร
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอมะขาม จากจันทบุรีเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 317 ประมาณ 20 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปเขื่อนคีรีธาร เป็นเขื่อนเอนกประสงค์สร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้ประโยชน์ในการชลประทาน บริเวณอ่างเก็บน้ำมีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
มีพื้นที่ 465,637.5 ไร่ ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 70 กิโลเมตร จากจันทบุรีเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 317 ที่มุ่งสู่สระแก้ว ผ่านอำเภอโป่งน้ำร้อน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 22 ก่อนถึงตลาดปะตงจะมีทางแยกซ้ายไปอีก 3 กิโลเมตรถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว

การเดินทาง นั่งรถประจำทางจากจันทบุรี-สระแก้ว ลงที่ตลาดปะตง แล้วเหมารถสองแถว ไปส่งที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ราคาประมาณ 100-150 บาท

เขาสอยดาวมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มียอดเขาที่สูงที่สุดในภาคตะวันออกคือ ยอดเขาสอยดาวใต้ สูงประมาณ 1,675 เมตร นอกจากนี้ยังมีเขาสิบห้าชั้น เขาตะพง เขางู และเขาทรายขาว ภูเขาเหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกและห้วยน้ำลำธารหลายสาย มีสัตว์ป่ามากมาย รวมทั้งนกและผีเสื้อสีสันสวยงามมากมายหลายชนิด น้ำตกที่สำคัญคือ น้ำตกเขาสอยดาว ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมได้ ประกอบด้วยชั้นต่างๆ ถึง 15 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 4 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและค่ายพักแรมสำหรับเยาวชนและกลุ่มคณะที่สนใจ ติดต่อขออนุญาตล่วงหน้าที่ สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าทรายขาว ตู้ปณ.15 อ.สอยดาว จันทบุรี 22180 หรือ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 579-4847


เส้นทางอำเภอเมือง-อำเภอแหลมสิงห์-อำเภอขลุง

วัดเนินสูง
แยกขวาเข้าตรงกิโลเมตรที่ 338 ไปประมาณ 900 เมตร วัดนี้มีจิตรกรรม ฝาผนังเช่นเดียวกับวัดไผ่ล้อม

วัดมังกรบุปผาราม หรือวัด “เล่งฮัวยี่”
ในภาษาจีน ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 345 ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นวัดจีนที่สงบและสวยงาม น่าแวะไปเยี่ยมชม

จังหวัดจันทบุรี :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ จากตัวเมืองขับรถออกมาที่ถนนสุขุมวิทตรงกิโลเมตรที่ 346 มีทางแยกซ้ายไปน้ำตกพลิ้ว 2 กิโลเมตร (สามารถใช้บริการรถสองแถวจันทบุรี-น้ำตกพริ้ว ค่าโดยสาร 20 บาท)

แหล่งทอเสื่อจันทบูรบ้านบางสระเก้า เสื่อจันทบูร
เป็นหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งผู้มาเที่ยวเมืองจันท์นิยมหาซื้อเพื่อเป็นของใช้ของฝาก กรรมวิธีการผลิตเริ่มจากเก็บต้นกกที่ปลูกไว้มาผ่าเป็นเส้นแล้วตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาย้อมสีแล้วตากให้แห้งอีกครั้ง แล้วจึงนำมาทอเป็นผืนเสื่อให้มีลวดลายสวยงาม นอกจากนี้ยังมีการประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้อื่น ๆ อีก เช่น กระเป๋า กล่องใส่กระดาษเช็ดมือ ที่รองจาน และที่ใส่จดหมาย เหมาะแก่การซื้อหาเป็นของฝาก หากจะไปชมวิธีการผลิตที่บ้านบางสระเก้า เดินทางจากตัวเมืองข้ามสะพานตรีรัตน์ไปยังถนนสุขุมวิท เลี้ยวขวาทางไปตราดประมาณ 8 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปบ้านบางสระเก้าเป็นระยะทางอีก 8 กิโลเมตร นอกจากบางสระเก้าแล้ว ยังมีแหล่งทอเสื่อกกอยู่ที่บ้านเสม็ดงาม และบ้านตะเคียนคู่ในเขตอำเภอเมืองอีกด้วย

คุกขี้ไก่
อยู่ก่อนถึงหาดแหลมสิงห์ราว 1 กิโลเมตร เป็นคุกที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อกักขังคนไทยที่ต่อต้าน เมื่อครั้งฝรั่งเศสเข้ายึดจันทบุรีในกรณีพิพาทกันด้วยเรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) คุกขี้ไก่มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละประมาณ 4.40 เมตร สูงประมาณ 7 เมตร ก่อด้วยอิฐถือปูน มีช่องระบายอากาศอยู่สองแถว หลังคาโปร่ง เล่ากันว่า เป็นคุกที่ทรมานมากเพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลรดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา

ตึกแดง
ตั้งอยู่ใกล้กับคุกขี้ไก่ เดิมเป็นที่ตั้งของป้อมพิฆาตปัจจามิตร แต่ฝรั่งเศสดัดแปลงป้อมนี้ให้เป็นที่พักและกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส ตึกแดงสร้างขึ้นพร้อมกับคุกขี้ไก่ เป็นตึกชั้นเดียว สีแดง หลังคามุงกระเบื้อง ปัจจุบันใช้เป็นห้องสมุดประชาชนอำเภอแหลมสิงห์

หาดแหลมสิงห์
ห่างจากตัวเมือง 31 กิโลเมตร โดยเดินทางไปตามถนนสุขุมวิท เส้นทางไปจังหวัดตราด ถึง กม. 347 มีทางแยกขวาไปหาดแหลมสิงห์อีก 16 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่ร่มรื่นด้วยแนวสนซึ่งทอดยาวไปตลอดชายหาด ริมหาดมีร้านอาหาร และมีเรือให้เช่าไปเที่ยวเกาะจุฬา ซึ่งอยู่หน้าหาดแหลมสิงห์

โอเอซีส ซี เวิลด์
ตั้งอยู่ก่อนถึงหาดแหลมสิงห์ ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอแหลมสิงห์ เป็นสถานที่เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ปลาโลมาในน่านน้ำจันทบุรี ซึ่งมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์หัวบาตร และพันธุ์หัวขวด มีการแสดงของปลาโลมาให้ชมวันละประมาณ 5 รอบ นอกจากนี้ยังมีสวนผีเสื้อ บ่อปลา และสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และที่พัก เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันธรรมดาเวลา 09.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการเวลา 07.00-18.00 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 90 บาท เด็ก 50 บาท รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. (039) 363238-9

:: อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ น้ำตกพลิ้วที่สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสาย ทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่

ความเป็นมา : ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้กำหนดป่าเขาสระบาป จังหวัดจันทบุรี และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ ในขั้นแรกกรมป่าไม้ได้กำหนดพื้นที่ที่ดินป่าน้ำตกพลิ้ว-เขาสระบาป ให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2505 ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช 2481 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2504 และในปี พ.ศ. 2515 ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงบริเวณน้ำตกพลิ้ว จัดตั้งเป็นวนอุทยานน้ำตกพลิ้ว อยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานป่าไม้จังหวัดจันทบุรี

ในคราวประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2517 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2517 ได้มีมติให้รีบดำเนินการประกาศพื้นที่ป่าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 เป็นอุทยานแห่งชาติโดยเร็ว และจังหวัดจันทบุรีได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ จบ.09/1401 ลงวันที่ 31 มกราคม 2517 ขอให้กรมป่าไม้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำวนอุทยานน้ำตกพลิ้ว เพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามหลักการจัดการวนอุทยาน ประกอบกับในปี 2517 กองอุทยานแห่งชาติมีแผนงานจัดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นในเดือนมีนาคม 2517 กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 360/2517 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2517 ให้นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ตรี และนายประชุม ตัณยะบุตร พนักงานโครงการชั้น 2 ไปทำการสำรวจหาข้อมูลบริเวณป่าน้ำตกพลิ้ว เขาสระบาป ในท้องที่จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่า บริเวณดังกล่าวประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธาร เช่น น้ำตก หน้าผา ถ้ำ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจ ที่ กส 0708(อส)/7 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2517

กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในคราวประชุมครั้งที่ 6/2517 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2517 เห็นชอบให้กำหนดที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำตกพลิ้ว-เขาสระบาป ในท้องที่ตำบลพลับพลา ตำบลคลองนารายณ์ ตำบลคมบาง อำเภอเมืองจันทบุรี ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม และตำบลมาบไพ ตำบลวังสรรพรส ตำบลตรอกนอง ตำบลซึ้ง ตำบลตะปอน ตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 87 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2518 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า " อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป "

ต่อมานายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้มีหนังสือ ที่ กษ 0708 (สบ)/พิเศษ ลงวันที่ 1 มีนาคม 2525 ขอเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสระบาปเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจากน้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนโดยทั่วไปเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 3/2525 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น " อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว "


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
สภาพทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มียอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร ค่อยๆ ลาดลงทางทิศใต้ มีที่ราบแคบๆ ทั่วไปบริเวณไหล่เขา พื้นที่มีความลาดชันสูง จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร ลักษณะทางธรณีวิทยาส่วนใหญ่เป็นหินอัคนีประเภทหินแกรนิต ในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนที่ประกอบไปด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยตาโบ คลองโป่งแรด คลองนารายณ์ คลองสระบาป คลองคมบาง คลองนาป่า คลองพลิ้ว คลองน้ำแห้ง คลองหนองเสม็ด คลองตะปอนน้อย คลองตะปอนใหญ่ คลองขลุง คลองเคล คลองตรอกนอง และคลองมะกอก กระจายอยู่รอบพื้นที่


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
สภาพอากาศระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน อากาศจะค่อนข้างร้อน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีฝนตกชุกปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 3,000 มม./ปี และระหว่างเดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์ อากาศจะเย็นสบายที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 26 องศาเซลเซียส


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าดงดิบชื้นที่สมบูรณ์ จัดอยู่ในเขตพฤกษศาสตร์อินโดไชน่าเนื่องจากอิทธิพลของทะเล มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ พุงทะลาย เคี่ยมคะนอง กระบกกรัง พนอง ตะเคียนหิน ยางแดง กฤษณา ตาเสือ พะวา ชะมวง จิกดง ปออีเก้ง และขนุนป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างขึ้นปกคลุมพื้นป่าอีกหลายชนิด เช่น หัสคุณ ฆ้อนตีหมา แก้มขาว หวายลิง กะพ้อ ระกำ เต่าร้าง ไผ่ซี้ เร่วป่า ปุดใหญ่ และกระทือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพืชอิงอาศัยหลายชนิดเกาะอยู่ตามลำต้นและกิ่งก้าน ได้แก่ ชายผ้าสีดา กระแตไต่ไม้ ข้าหลวงหลังลาย เกล็ดนาคราช และกล้วยไม้นานาชนิด เช่น กะเรกะร่อน เหลืองจันทบูร และเอื้องมัจฉา ไม้เถาเลื้อยที่พบ ได้แก่ พญาปล้องทอง เถาคัน พญาเท้าเอว แสลงพันเถา หวายกำพวน หวายขริง และหวายเล็ก ฯลฯ

เนื่องจากสภาพป่าของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีลักษณะเป็นผืนป่าธรรมชาติโดดเดี่ยว คล้ายป่าเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่เกษตรกรรม และชุมชนที่อยู่อาศัย ไม่มีผืนป่าธรรมชาติแห่งอื่นที่ต่อเนื่องหรือใกล้เคียง ประกอบกับพื้นที่มีขนาดไม่มากนัก ความหลากหลายของสัตว์ป่าในพื้นที่จึงมีน้อย ที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ เลียงผา หมูป่า อีเห็นข้างลาย ลิงกัง ชะนีมงกุฎ ลิ่นชวา อีเห็นข้างลาย กระแตเหนือ กระรอกแดง ค้างคาวเล็บกุด ค้างคาวปีกถุงต่อมคาง หนูฟานเหลือง เป็ดแดง ไก่ป่า นกหกเล็กปากแดง นกกระปูดใหญ่ นกเด้าลมหลังเทา นกเฉี่ยวดงหางสีน้ำตาล นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวคราม นกปรอดทอง นกแซงแซวหางปลา นกกินแมลงอกเหลือง นกกระจิบสวน นกกางเขนดง นกกินปลีคอแดง นกสีชมพูสวน ตุ๊กแกป่าตะวันออก จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสาบเขียวขวั้นดำ งูเขียวหัวจิ้งจกป่า คางคกบ้าน กบอ่อง เขียดตะปาด และอึ่งอ่างบ้านฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาสร้อยขาว ปลากดหิน ปลาค้อ ปลาจิ้งจก ปลาพลวงหิน ปลากระทิง ปลาสร้อยลูกกล้วย เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
ต.พลิ้ว อ. แหลมสิงห์ จ. จันทบุรี 22190
โทรศัพท์ : 0 3943 4528 โทรสาร : 0 3943 4528

รถยนต์
การเดินททางจากกรุงเทพฯ - ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางหลัก 2 เส้นทาง คือ

1. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) สายบางนา - ตราด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร

2. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 317 แยกเข้าสู่ถนนสายบ้านบึง - แกลง เข้าจันทรบุรี (ตามถนนสายบางนา - ตราด) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี ประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองตราด ประมาณ 55 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยว ทั้ง 7 หน่วย ดังนี้

1. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 1 (น้ำตกตรอกนอง) ประมาณ 28 กิโลเมตร
2. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 2 (บ้านอ่าง) ประมาณ 18 กิโลเมตร
3. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 3 (น้ำตกคลองนารายณ์) ประมาณ 8 กิโลเมตร
4. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 4 (น้ำตกมะกอก) ประมาณ 36 กิโลเมตร
5. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 5 (กงสีไร่) ประมาณ 18 กิโลเมตร
6. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว ที่ 6 (น้ำตกคลองลาง) ประมาณ 15 กิโลเมตร
7. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว ที่ 7 (เขาอ่าง) ประมาณ 45 กิโลเมตร


รถโดยสารประจำทาง
จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีเอกมัย ไปจังหวัดจันทบุรี พอถึงจันทบุรีให้ขึ้นรถสองแถวที่บริเวณตลาด เพื่อไปยังน้ำตกพลิ้ว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกพลิ้ว น้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลองมีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลา แก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะปลาพลวงหินเหล่านี้

น้ำตกพลิ้วเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ รู้จักกันดี และไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุด รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้หลายครั้งในระหว่างปี พ.ศ. 2417-2424 และทรงยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่งดงามที่สุดในบรรดาน้ำตกที่พระองค์เคยเสด็จประพาส อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ตรงข้ามที่ทำการอุทยานแห่งชาติ สิ้นสุดอยู่บริเวณด้านหน้าอลงกรณ์เจดีย์ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง


น้ำตกคลองนารายณ์ อยู่ที่ตำบลคลองนารายณ์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร น้ำตกอยู่ห่างจากถนนใหญ่สายจันทบุรี-ตราด ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.3 (คลองนารายณ์) จากนั้นเดินเท้าไปอีก 2.5 กิโลเมตร ผ่านป่าดิบชื้นก็จะถึงน้ำตกคลองนารายณ์ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลดหลั่นจากผาชันสูง 25 เมตร น้ำใสสะอาดและมีน้ำมากตลอดปี เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินป่าชมความงามของพฤกษาชาติและน้ำตก

อ่างศาล อยู่เลยจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติมาประมาณ 300 เมตร บริเวณข้างลำธารจะพบศาลตั้งอยู่ ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของปรำที่ประทับและจุลสีห์จุมพต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างไว้กลางลำธารเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ปัจจุบันเหลือเพียงร่อยรอยบริเวณที่เคยเป็นพระเจดีย์ เพราะได้ถูกระแสน้ำพัดพังไปเมื่อปี 2517

อ่างสรงหรืออ่างหงส์ อยู่เลยจากอ่างศาลประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็กๆ ไหลลงมาจากหน้าผาหินเป็นทางคล้ายหางหงส์ ในอดีตบริเวณแอ่งน้ำกว้าง ในหลวงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ทั้งสองพระองค์ทรงลงสรงน้ำ ณ อ่างสรงแห่งนี้ ถ้ำพระนารายณ์ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีลำธารน้ำใสบริสุทธิ์ไหลออกมา แหล่งน้ำแห่งนี้ถือเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่งของประเทศที่ใช้ในพิธีมูรธาภิเษกในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ปัจจุบันหินได้ถล่มลงมาปิดปากถ้ำแต่ยังคงมีน้ำไหลออกมาอยู่ตลอดปี

อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 2 .5 กิโลเมตร ผ่านจุดศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำนารายณ์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาสิ้นสุดที่อ่างศิลา นอกจากนี้ยังมีน้ำตกที่สวยงามซึ่งอยู่สูงขึ้นไปจากน้ำตกคลองนารายณ์อีก 2 แห่ง คือ น้ำตกกลาง และน้ำตกอัศจรรย์


น้ำตกตรอกนอง อยู่ที่ตำบลตรอกนอง อำเภอขลุง การเดินทางใช้เส้นทางแยกเข้าน้ำตกพลิ้วไปทางจังหวัดตราด ถึงสี่แยกเข้าอำเภอขลุงแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย ขลุง-มะขามอีก 10 กิโลเมตร ถึงตลาดตรอกนอง เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเข้าสู่น้ำตกตรอกนองอีก 2 กิโลเมตร ถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.1 .(ตรอกนอง) ต่อจากนั้นเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นล่างสุดซึ่งเรียกว่า “ น้ำตกไม้ซี้ ” ถัดไปเป็นน้ำตกกลางและชั้นบนสุดเรียกว่า “ น้ำตกตรอกนอง ” มีความสวยงามตามธรรมชาติมาก มีน้ำไหลตลอดปี

ในระหว่างการเดินทางขึ้นน้ำตก จะเพลิดเพลินกับความสวยงามของลำธาร และสภาพป่าที่ร่มรื่นและเขียวขจีตามธรรมชาติมาก และในบริเวณนี้มีสัตว์ป่าชุกชุม โดยสังเกตเห็นรอยเท้าของสัตว์ป่าที่ลงมากินน้ำตามลำธาร เช่น หมี หมูป่า ชะมด หมูหริ่ง พังพอน และเก้ง ฯลฯ พร้อมทั้งสัตว์จำพวกนกก็มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน และในบริเวณนี้ก็ยังมีถ้ำพระเจดีย์อยู่บนไหล่เขาพระเจดีย์ ลักษณะเป็นก้อนหินใหญ่คล้ายเจดีย์ ตั้งอยู่บนไหล่เขาชาวเขาเรียกว่า " เขาพระเจดีย์ " เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น หมี เลียงผา และค้างคาว ฯลฯ อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ป่าดงดิบชื้น” ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร


น้ำตกมะกอก อยู่เลยทางเข้าน้ำตกตรอกนองไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตรตามถนนสาย ขลุง-มะขาม จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.4 .(น้ำตกมะกอก) เดินเลียบลำธารไปอีกราว 600 เมตร น้ำตกมะกอกเป็นน้ำตกขนาดเล็กมี 2 ชั้น สายน้ำไหลจากผาสูงชัน น้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า มีน้ำตลอดปี มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.1 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณด้านหลังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ


อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติบริเวณตำบลมะขาม อำเภอมะขาม การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกมะกอก โดยเลยทางแยกเข้าน้ำตกประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยตาโบประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.2 (บ้านอ่าง) ในบริเวณอ่างเก็บน้ำนี้มีนกเป็ดแดงจำนวนมากมาอาศัยอยู่ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.4 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณสันอ่างเก็บน้ำ



:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
อลงกรณ์เจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ได้ทรงโปรดปรานให้สร้างเจดีย์ ทำด้วยศิลาแลงขึ้นที่บริเวณหน้าผาด้านหน้าน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วด้วยกัน และพระราชทานนามว่า " อลงกรณ์เจดีย์ " พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดน้ำตกพลิ้วเป็นอย่างยิ่งและได้เสด็จประพาสหลายคราว ทรงโปรดมากถึงกับมีพระราชดำรัสว่า " เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง "


สถูปพระนางเรือล่ม อยู่ในบริเวณน้ำตกพลิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี ภายในสภูปพระนางเรือล่มบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯด้วย เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2417 และทรงโสมนัส ชื่นชม ความงามธรรมชาติของน้ำตกพลิ้วยิ่งนัก การที่ทรงโปรดให้สร้างอนุเสาวรีย์รูปปิรามิดก็ด้วยทรงพระราชดำริว่า " ทำเป็นรูปอื่นอาจไม่คงทนภาวร เพราะตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพรอันไม่มีผู้ดูแล ฉะนั้นเมื่อปิรามิดของอียิปต์ยืนยงคงทนได้ฉันใด ปิรามิดน้อยนี้ก็คงจะยืนยงคงทนอยู่เช่นกัน ณ ท่ามกลางป่าและเสียงไหลรินของธารพลิ้ว "



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายให้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงให้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ค่ายเยาวชน มีค่ายพักเยาวชนชาย-หญิง บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 1 (น้ำตกตรอกนอง) สามารถรองรับคณะนักเรียน นักศึกษา และคณาจารย์ ได้ประมาณ 100 คน


ที่จอดรถ เนื่องจากในพื้นที่โซนบริการ เป็นพื้นที่ลาดชัน ทำให้มีที่จอดรถให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการบ้านพัก และพักกางเต็นท์เท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ทางอุทยานแห่งชาติขอความร่วมมือให้จอดรถภายนอกนอกเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นลานจอดรถของเอกชนโดยต้องเสียค่าบริการรับฝากรถ และหากนักท่องเที่ยวขับรถเลยขึ้นมาจอดรถบริเวณร้านค้าของเอกชน ทางร้านค้าจะให้ท่านจอดรถได้ฟรี แต่ท่านจะต้องซื้อของจากร้านนั้นๆ


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.






:: อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ คือ น้ำตกพลิ้วที่สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสาย ทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่

ความเป็นมา : ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้กำหนดป่าเขาสระบาป จังหวัดจันทบุรี และป่าอื่นๆ ในท้องที่จังหวัดต่างๆ รวม 14 ป่า เป็นอุทยานแห่งชาติ ในขั้นแรกกรมป่าไม้ได้กำหนดพื้นที่ที่ดินป่าน้ำตกพลิ้ว-เขาสระบาป ให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติในปี พ.ศ. 2505 ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พุทธศักราช 2481 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2504 และในปี พ.ศ. 2515 ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงบริเวณน้ำตกพลิ้ว จัดตั้งเป็นวนอุทยานน้ำตกพลิ้ว อยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานป่าไม้จังหวัดจันทบุรี

ในคราวประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2517 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2517 ได้มีมติให้รีบดำเนินการประกาศพื้นที่ป่าที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 เป็นอุทยานแห่งชาติโดยเร็ว และจังหวัดจันทบุรีได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ จบ.09/1401 ลงวันที่ 31 มกราคม 2517 ขอให้กรมป่าไม้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำวนอุทยานน้ำตกพลิ้ว เพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามหลักการจัดการวนอุทยาน ประกอบกับในปี 2517 กองอุทยานแห่งชาติมีแผนงานจัดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นในเดือนมีนาคม 2517 กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 360/2517 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2517 ให้นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ตรี และนายประชุม ตัณยะบุตร พนักงานโครงการชั้น 2 ไปทำการสำรวจหาข้อมูลบริเวณป่าน้ำตกพลิ้ว เขาสระบาป ในท้องที่จังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่า บริเวณดังกล่าวประกอบด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธาร เช่น น้ำตก หน้าผา ถ้ำ ตามหนังสือรายงานผลการสำรวจ ที่ กส 0708(อส)/7 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2517

กรมป่าไม้ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีมติในคราวประชุมครั้งที่ 6/2517 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2517 เห็นชอบให้กำหนดที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำตกพลิ้ว-เขาสระบาป ในท้องที่ตำบลพลับพลา ตำบลคลองนารายณ์ ตำบลคมบาง อำเภอเมืองจันทบุรี ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม และตำบลมาบไพ ตำบลวังสรรพรส ตำบลตรอกนอง ตำบลซึ้ง ตำบลตะปอน ตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 87 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2518 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า " อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป "

ต่อมานายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้มีหนังสือ ที่ กษ 0708 (สบ)/พิเศษ ลงวันที่ 1 มีนาคม 2525 ขอเปลี่ยนชื่ออุทยานแห่งชาติเขาสระบาปเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจากน้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนโดยทั่วไปเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 3/2525 เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น " อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว "


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
สภาพทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มียอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร ค่อยๆ ลาดลงทางทิศใต้ มีที่ราบแคบๆ ทั่วไปบริเวณไหล่เขา พื้นที่มีความลาดชันสูง จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ยอดเขามาบหว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร ลักษณะทางธรณีวิทยาส่วนใหญ่เป็นหินอัคนีประเภทหินแกรนิต ในบริเวณตอนกลางของพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนที่ประกอบไปด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยตาโบ คลองโป่งแรด คลองนารายณ์ คลองสระบาป คลองคมบาง คลองนาป่า คลองพลิ้ว คลองน้ำแห้ง คลองหนองเสม็ด คลองตะปอนน้อย คลองตะปอนใหญ่ คลองขลุง คลองเคล คลองตรอกนอง และคลองมะกอก กระจายอยู่รอบพื้นที่


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
สภาพอากาศระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน อากาศจะค่อนข้างร้อน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีฝนตกชุกปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 3,000 มม./ปี และระหว่างเดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์ อากาศจะเย็นสบายที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 26 องศาเซลเซียส


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าดงดิบชื้นที่สมบูรณ์ จัดอยู่ในเขตพฤกษศาสตร์อินโดไชน่าเนื่องจากอิทธิพลของทะเล มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ พุงทะลาย เคี่ยมคะนอง กระบกกรัง พนอง ตะเคียนหิน ยางแดง กฤษณา ตาเสือ พะวา ชะมวง จิกดง ปออีเก้ง และขนุนป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างขึ้นปกคลุมพื้นป่าอีกหลายชนิด เช่น หัสคุณ ฆ้อนตีหมา แก้มขาว หวายลิง กะพ้อ ระกำ เต่าร้าง ไผ่ซี้ เร่วป่า ปุดใหญ่ และกระทือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพืชอิงอาศัยหลายชนิดเกาะอยู่ตามลำต้นและกิ่งก้าน ได้แก่ ชายผ้าสีดา กระแตไต่ไม้ ข้าหลวงหลังลาย เกล็ดนาคราช และกล้วยไม้นานาชนิด เช่น กะเรกะร่อน เหลืองจันทบูร และเอื้องมัจฉา ไม้เถาเลื้อยที่พบ ได้แก่ พญาปล้องทอง เถาคัน พญาเท้าเอว แสลงพันเถา หวายกำพวน หวายขริง และหวายเล็ก ฯลฯ

เนื่องจากสภาพป่าของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีลักษณะเป็นผืนป่าธรรมชาติโดดเดี่ยว คล้ายป่าเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยพื้นที่เกษตรกรรม และชุมชนที่อยู่อาศัย ไม่มีผืนป่าธรรมชาติแห่งอื่นที่ต่อเนื่องหรือใกล้เคียง ประกอบกับพื้นที่มีขนาดไม่มากนัก ความหลากหลายของสัตว์ป่าในพื้นที่จึงมีน้อย ที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ เลียงผา หมูป่า อีเห็นข้างลาย ลิงกัง ชะนีมงกุฎ ลิ่นชวา อีเห็นข้างลาย กระแตเหนือ กระรอกแดง ค้างคาวเล็บกุด ค้างคาวปีกถุงต่อมคาง หนูฟานเหลือง เป็ดแดง ไก่ป่า นกหกเล็กปากแดง นกกระปูดใหญ่ นกเด้าลมหลังเทา นกเฉี่ยวดงหางสีน้ำตาล นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวคราม นกปรอดทอง นกแซงแซวหางปลา นกกินแมลงอกเหลือง นกกระจิบสวน นกกางเขนดง นกกินปลีคอแดง นกสีชมพูสวน ตุ๊กแกป่าตะวันออก จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสาบเขียวขวั้นดำ งูเขียวหัวจิ้งจกป่า คางคกบ้าน กบอ่อง เขียดตะปาด และอึ่งอ่างบ้านฯลฯ นอกจากนี้ยังมีปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาสร้อยขาว ปลากดหิน ปลาค้อ ปลาจิ้งจก ปลาพลวงหิน ปลากระทิง ปลาสร้อยลูกกล้วย เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
ต.พลิ้ว อ. แหลมสิงห์ จ. จันทบุรี 22190
โทรศัพท์ : 0 3943 4528 โทรสาร : 0 3943 4528

รถยนต์
การเดินททางจากกรุงเทพฯ - ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางหลัก 2 เส้นทาง คือ

1. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) สายบางนา - ตราด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร

2. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 317 แยกเข้าสู่ถนนสายบ้านบึง - แกลง เข้าจันทรบุรี (ตามถนนสายบางนา - ตราด) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี ประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองตราด ประมาณ 55 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยว ทั้ง 7 หน่วย ดังนี้

1. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 1 (น้ำตกตรอกนอง) ประมาณ 28 กิโลเมตร
2. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 2 (บ้านอ่าง) ประมาณ 18 กิโลเมตร
3. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 3 (น้ำตกคลองนารายณ์) ประมาณ 8 กิโลเมตร
4. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 4 (น้ำตกมะกอก) ประมาณ 36 กิโลเมตร
5. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 5 (กงสีไร่) ประมาณ 18 กิโลเมตร
6. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว ที่ 6 (น้ำตกคลองลาง) ประมาณ 15 กิโลเมตร
7. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว ที่ 7 (เขาอ่าง) ประมาณ 45 กิโลเมตร


รถโดยสารประจำทาง
จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีเอกมัย ไปจังหวัดจันทบุรี พอถึงจันทบุรีให้ขึ้นรถสองแถวที่บริเวณตลาด เพื่อไปยังน้ำตกพลิ้ว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกพลิ้ว น้ำตกพลิ้วเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลองมีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลา แก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะปลาพลวงหินเหล่านี้

น้ำตกพลิ้วเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดอื่นๆ รู้จักกันดี และไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุด รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้หลายครั้งในระหว่างปี พ.ศ. 2417-2424 และทรงยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่งดงามที่สุดในบรรดาน้ำตกที่พระองค์เคยเสด็จประพาส อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นอยู่ตรงข้ามที่ทำการอุทยานแห่งชาติ สิ้นสุดอยู่บริเวณด้านหน้าอลงกรณ์เจดีย์ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง


น้ำตกคลองนารายณ์ อยู่ที่ตำบลคลองนารายณ์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร น้ำตกอยู่ห่างจากถนนใหญ่สายจันทบุรี-ตราด ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.3 (คลองนารายณ์) จากนั้นเดินเท้าไปอีก 2.5 กิโลเมตร ผ่านป่าดิบชื้นก็จะถึงน้ำตกคลองนารายณ์ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลดหลั่นจากผาชันสูง 25 เมตร น้ำใสสะอาดและมีน้ำมากตลอดปี เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินป่าชมความงามของพฤกษาชาติและน้ำตก

อ่างศาล อยู่เลยจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติมาประมาณ 300 เมตร บริเวณข้างลำธารจะพบศาลตั้งอยู่ ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของปรำที่ประทับและจุลสีห์จุมพต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างไว้กลางลำธารเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ปัจจุบันเหลือเพียงร่อยรอยบริเวณที่เคยเป็นพระเจดีย์ เพราะได้ถูกระแสน้ำพัดพังไปเมื่อปี 2517

อ่างสรงหรืออ่างหงส์ อยู่เลยจากอ่างศาลประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็กๆ ไหลลงมาจากหน้าผาหินเป็นทางคล้ายหางหงส์ ในอดีตบริเวณแอ่งน้ำกว้าง ในหลวงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ทั้งสองพระองค์ทรงลงสรงน้ำ ณ อ่างสรงแห่งนี้ ถ้ำพระนารายณ์ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีลำธารน้ำใสบริสุทธิ์ไหลออกมา แหล่งน้ำแห่งนี้ถือเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่งของประเทศที่ใช้ในพิธีมูรธาภิเษกในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ปัจจุบันหินได้ถล่มลงมาปิดปากถ้ำแต่ยังคงมีน้ำไหลออกมาอยู่ตลอดปี

อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 2 .5 กิโลเมตร ผ่านจุดศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำนารายณ์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาสิ้นสุดที่อ่างศิลา นอกจากนี้ยังมีน้ำตกที่สวยงามซึ่งอยู่สูงขึ้นไปจากน้ำตกคลองนารายณ์อีก 2 แห่ง คือ น้ำตกกลาง และน้ำตกอัศจรรย์


น้ำตกตรอกนอง อยู่ที่ตำบลตรอกนอง อำเภอขลุง การเดินทางใช้เส้นทางแยกเข้าน้ำตกพลิ้วไปทางจังหวัดตราด ถึงสี่แยกเข้าอำเภอขลุงแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย ขลุง-มะขามอีก 10 กิโลเมตร ถึงตลาดตรอกนอง เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเข้าสู่น้ำตกตรอกนองอีก 2 กิโลเมตร ถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.1 .(ตรอกนอง) ต่อจากนั้นเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นล่างสุดซึ่งเรียกว่า “ น้ำตกไม้ซี้ ” ถัดไปเป็นน้ำตกกลางและชั้นบนสุดเรียกว่า “ น้ำตกตรอกนอง ” มีความสวยงามตามธรรมชาติมาก มีน้ำไหลตลอดปี

ในระหว่างการเดินทางขึ้นน้ำตก จะเพลิดเพลินกับความสวยงามของลำธาร และสภาพป่าที่ร่มรื่นและเขียวขจีตามธรรมชาติมาก และในบริเวณนี้มีสัตว์ป่าชุกชุม โดยสังเกตเห็นรอยเท้าของสัตว์ป่าที่ลงมากินน้ำตามลำธาร เช่น หมี หมูป่า ชะมด หมูหริ่ง พังพอน และเก้ง ฯลฯ พร้อมทั้งสัตว์จำพวกนกก็มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน และในบริเวณนี้ก็ยังมีถ้ำพระเจดีย์อยู่บนไหล่เขาพระเจดีย์ ลักษณะเป็นก้อนหินใหญ่คล้ายเจดีย์ ตั้งอยู่บนไหล่เขาชาวเขาเรียกว่า " เขาพระเจดีย์ " เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น หมี เลียงผา และค้างคาว ฯลฯ อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ “ป่าดงดิบชื้น” ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร


น้ำตกมะกอก อยู่เลยทางเข้าน้ำตกตรอกนองไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตรตามถนนสาย ขลุง-มะขาม จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.4 .(น้ำตกมะกอก) เดินเลียบลำธารไปอีกราว 600 เมตร น้ำตกมะกอกเป็นน้ำตกขนาดเล็กมี 2 ชั้น สายน้ำไหลจากผาสูงชัน น้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า มีน้ำตลอดปี มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.1 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณด้านหลังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ


อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติบริเวณตำบลมะขาม อำเภอมะขาม การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกมะกอก โดยเลยทางแยกเข้าน้ำตกประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยตาโบประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.2 (บ้านอ่าง) ในบริเวณอ่างเก็บน้ำนี้มีนกเป็ดแดงจำนวนมากมาอาศัยอยู่ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.4 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณสันอ่างเก็บน้ำ



:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
อลงกรณ์เจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ได้ทรงโปรดปรานให้สร้างเจดีย์ ทำด้วยศิลาแลงขึ้นที่บริเวณหน้าผาด้านหน้าน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วด้วยกัน และพระราชทานนามว่า " อลงกรณ์เจดีย์ " พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดน้ำตกพลิ้วเป็นอย่างยิ่งและได้เสด็จประพาสหลายคราว ทรงโปรดมากถึงกับมีพระราชดำรัสว่า " เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง "


สถูปพระนางเรือล่ม อยู่ในบริเวณน้ำตกพลิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี ภายในสภูปพระนางเรือล่มบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯด้วย เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วเมื่อ พ.ศ. 2417 และทรงโสมนัส ชื่นชม ความงามธรรมชาติของน้ำตกพลิ้วยิ่งนัก การที่ทรงโปรดให้สร้างอนุเสาวรีย์รูปปิรามิดก็ด้วยทรงพระราชดำริว่า " ทำเป็นรูปอื่นอาจไม่คงทนภาวร เพราะตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพรอันไม่มีผู้ดูแล ฉะนั้นเมื่อปิรามิดของอียิปต์ยืนยงคงทนได้ฉันใด ปิรามิดน้อยนี้ก็คงจะยืนยงคงทนอยู่เช่นกัน ณ ท่ามกลางป่าและเสียงไหลรินของธารพลิ้ว "



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายให้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงให้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ค่ายเยาวชน มีค่ายพักเยาวชนชาย-หญิง บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ 1 (น้ำตกตรอกนอง) สามารถรองรับคณะนักเรียน นักศึกษา และคณาจารย์ ได้ประมาณ 100 คน


ที่จอดรถ เนื่องจากในพื้นที่โซนบริการ เป็นพื้นที่ลาดชัน ทำให้มีที่จอดรถให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการบ้านพัก และพักกางเต็นท์เท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ทางอุทยานแห่งชาติขอความร่วมมือให้จอดรถภายนอกนอกเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นลานจอดรถของเอกชนโดยต้องเสียค่าบริการรับฝากรถ และหากนักท่องเที่ยวขับรถเลยขึ้นมาจอดรถบริเวณร้านค้าของเอกชน ทางร้านค้าจะให้ท่านจอดรถได้ฟรี แต่ท่านจะต้องซื้อของจากร้านนั้นๆ


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.


:: อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
ในปี พ.ศ. 2541 จังหวัดจันทบุรีได้มีหนังสือถึงกรมป่าไม้แจ้งว่า พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง ท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี มีความเหมาะสมในการที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากเป็นป่าดงดิบในพื้นที่ราบที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ อยู่ระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการบุรกรุกทำลาย และเป็นป่าดงดิบในที่ราบที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด เหมาะแก่การศึกษาและท่องเที่ยวของประชาชนทั่วไป สมควรกำหนดเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป และเป็นการสนองพระราชดำริ ในการดูแลรักษาป่าและสัตว์ป่า ตามโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก)

ต่อมากรมป่าไม้มีคำสั่งที่ 1151/2543 ลงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2543 ให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ว่ามีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติหรือไม่ ซึ่ง นายชัยณรงค์ จันทรศาลทูล นักวิชาการป่าไม้ 7 ว นายอุดมศักดิ์ สุพรรณพงศ์ เจ้าหน้าที่บริหารป่าไม้ 6 และนายศุภโชค เต็มสอาด เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดจันทบุรี ได้รายงานว่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่องตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 75,000 ไร่ หรือ 120 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะเด่น คือ ป่าดิบชื้นในพื้นที่ราบหรือป่าลุ่มต่ำ มีน้ำตก มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะแก่การท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ หรือศึกษาวิจัยทางวิชาการ และมีขนาดพื้นที่พอเหมาะ มีศักยภาพเพียงพอต่อการกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงแต่งตั้งให้ นายวินัย โสมณวัตร์ นักวิชาการป่าไม้ 7 ว ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้ชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น”


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
สภาพภูมิประเทศของป่าขุนซ่องนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบลูกคลื่นลอนลาด ซึ่งจัดเป็นที่ราบต่ำที่กว้างใหญ่ มีพื้นที่เป็นภูเขาสูงติดต่อกัน เป็นเทือกยาวลงมาจากเหนือจดใต้ ทางด้านตะวันออกเป็นแนวขนาน ขยายถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาสิบห้าชั้น มีความสูง 802 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในตอนกลางของพื้นที่จะมีภูเขาลูกต่ำๆ คือ เขาสะท้อน ทางตอนใต้ของพื้นที่มีเขาสะบ้า ด้านทิศเหนือติดต่อเข้าไปเป็นผืนป่าเดียวกัน กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตลอดผืนป่าแห่งนี้จะมีลำคลองหลายสาย คลองที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ คือ คลองโตนด จัดเป็นคลองที่กว้างและลึก มีความยาวเกือบตลอดพื้นที่จากด้านทิศเหนือ ไหลมาออกทางด้านทิศตะวันตก มีน้ำไหลปริมาณมาก ทางด้านทิศเหนือจะมีคลองทราย นอกจากนั้นยังมีลำคลองอื่นๆ ที่เป็นลำน้ำที่มาจากคลองโตนด ได้แก่ คลองดินสอ คลองไทร คลองคต คลองอีเกก คลองน้ำเป็น คลองสะบ้า คลองยาง เป็นต้น


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
ลักษณะภูมิอากาศโดยทั่วไปได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมประเทศไทย จึงทำให้มีลักษณะของฤดูกาลที่เด่นชัดทั้งสามฤดู คือ ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นฤดูกาลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง เดือนที่มีอากาศหนาวเย็นมากที่สุดคือเดือนมกราคม ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม และเดือนเมษายนเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุดในรอบปี และฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกลางเดือนตุลาคม เป็นระยะที่มีมรสุดตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าสู่ประเทศไทย อากาศจะชุ่มชื้นและมีฝนตกชุกตลอดฤดูฝน มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 3,059 มิลลิเมตร เดือนที่มีฝนตกชุกมากที่สุดคือ เดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าของป่าสงวนแห่งชาติขุนซ่อง เป็นป่าที่เคยผ่านการสัมปทานทำไม้มาแล้ว ซึ่งจากการสำรวจพบชนิดป่าทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่
1) ป่าดิบชื้น พบบริเวณที่ลุ่มหุบเขาและเชิงเขา เป็นป่าที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและนิเวศวิทยา เนื่องจากมีพรรณไม้ที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลายชนิด พืชพื้นล่างได้แก่ ระกำ หวายสกุลต่างๆ และเร่ว

2) ป่าดิบแล้ง ในพื้นที่จะมีป่าดิบแล้งปริมาณน้อยกว่าป่าดิบชื้น พบบริเวณเชิงเขา โครงสร้างของสังคมพืช แบ่งได้เป็น 4 ชั้นคือ ไม้ชั้นบน ไม้ชั้นกลาง ไม้ชั้นล่าง และไม้พื้นล่าง

3) ป่าเต็งรัง เป็นสังคมพืชที่พบน้อยมาก พันธุ์ไม้เด่น ได้แก่ กราด กระโดน ส้าน เต็ง พะยอม รัง และแสลงใจ เป็นต้น พืชพื้นล่าง ได้แก่ หญ้าคา กระเจียว หญ้าคมบาง และหญ้าขจรจบ

สัตว์ป่าที่สำคัญในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้แก่ ช้างป่า กวางป่า เก้ง วัวแดง กระทิง เสือ หมี และสัตว์จำพวกนก ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง นกกระสาคอขาว ไก่ฟ้าพญาลอ และไก่ฟ้าหลังขาว เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น
ต.ขุนซ่อง อ. แก่งหางแมว จ. จันทบุรี 22160

รถยนต์
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (สายบางนา-ตราด) แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 344 (สายชลบุรี-บ้านบึง) ไปยังอำเภอแก่งหางแมว ประมาณ 240 กิโลเมตร จากอำเภอแก่งหางแมวไปถึงตำบลขุนซ่อง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 250 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางหลวงหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 แยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 344 แล้วแยกเข้าสายวังจันทร์-หนองเจ๊กสร้อย มุ่งหน้าสู่อำเภอแก่งหางแมว ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร และจากอำเภอแก่งหางแมวถึงตำบลขุนซ่อง ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 210 กิโลเมตร


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกคลองสะบ้า เป็นน้ำตกขนาดกลางอยู่ในเทือกเขาสิบห้าชั้น มี 6 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี อยู่ทางทิศตะวันออกของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 6 กิโลเมตร


น้ำตกเขาสิบห้าชั้น น้ำตกเขาสิบห้าชั้น หรือน้ำตกคลองไทร เป็นน้ำตกขนาดกลาง จะมีน้ำไหลตลอดปี อยู่ห่างจากที่ทำการอำเภอแก่งหางแมวประมาณ 35 กิโลเมตร ใกล้เขตจังหวัดสระแก้ว การท่องเที่ยวและการเข้าถึงจะทำได้ในช่วงฤดูแล้ง สามารถศึกษาธรรมชาติ ในทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำไว้ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติถึงน้ำตกระยะทาง 4.8 กิโลเมตร


เนินประดู่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน สามารถไปกางเต็นท์พักแรมในบริเวณที่ราบเนินประดู่เพื่อพักผ่อน ศึกษาดูดาวบนท้องฟ้า และเดินป่าระยะไกลจากที่พักแรมไปน้ำตกสะบ้า ระยะทาง 6 กิโลเมตร



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติ ยังไม่ที่พัก-บริการไว้บริการนักท่องเที่ยว มีแต่สถานที่กางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งชาติจัดตั้งใหม่ หากสนใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ ท่านต้องจัดเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่กางเต็นท์ ขอให้ติดต่อสอบถามกับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


จังหวัดจันทบุรี :: เทศกาล งานประเพณี

งานประเพณีของดีเมืองจันท์วันผลไม้
จัดในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ณ สนามกีฬากลางจังหวัด มีการแห่ขบวนรถผลไม้ การประกวดผลไม้ ประกวดธิดาชาวสวน แข่งขันกินทุเรียน ประกวดสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน การออกร้านจำหน่ายอัญมณี และร้านของกลุ่มเกษตรกร

งานนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวง
จัดในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 2 ณ บริเวณเขาคิชฌกูฏ ตำบลพลวง อำเภอมะขาม ภายในงานมีการจัดบวงสรวงเทวดาอารักษ์ พิธีปิดทองรอยพระพุทธบาท การจัดเดินป่าขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏ งานปิดทองพระพุทธไสยาสน์ จัดประมาณช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน บริเวณวัดไผ่ล้อม มีการแสดงธรรมเทศนา และจัดแสดงมหรสพ

ประเพณีชักพระบาท
จัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ วัดตะปอนใหญ่ อำเภอขลุง เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปีแล้ว ภายในงานมีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และมีการแข่งขันการชักเย่อเกวียน โดยมีม้วนภาพเขียนรอยพระพุทธบาทอยู่ตรงกลาง ช่วงกลางคืนมีมหรสพ

งานตากสินรำลึก
จัดในช่วงปีใหม่ ณ สนามกีฬากลางจังหวัด ภายในงานมีการออกร้านจากหน่วยงานของรัฐและเอกชน จัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้ามากมาย

จังหวัดจันทบุรี :: ของฝาก ของที่ระลึก

สินค้าพื้นเมือง

สินค้าพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของจันทบุรีที่เหมาะแก่การซื้อเป็นของใช้ของฝากมีมากมายหลายประเภท ได้แก่

หัตถกรรมเสื่อกกหรือเสื่อจันทบูร หาซื้อได้จากร้านค้าในตัวเมือง และแหล่งผลิตที่บ้านบางสระเก้า

อัญมณี แหล่งใหญ่อยู่ที่ถนนศรีจันท์และตรอกกระจ่างในตัวเมือง

ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำพวกกุ้งแห้ง ปลาหมึก แห้ง กะปิ น้ำปลา

เครื่องเทศต่าง ๆ พริกไทย ใบชะมวง

ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ หาซื้อได้ที่ตลาดสดและร้านค้าในตัวเมือง

ผลไม้ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด กระท้อน ลางสาด และระกำหวาน หาซื้อได้ทั่วไป มีมากในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ยังมีอาหารการกินที่ผู้มาเที่ยวเมืองจันท์นิยมหารับประทานกัน ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมูเลียง หมูชะมวง ทุเรียนกวน และทองม้วนนิ่มอำเภอท่าใหม่


ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก (รหัสทางไกล 039)

กาญจนศิลป์ ถนนศรีรองเมือง โทร. 311415 จำหน่ายเครื่องประดับพลอย

จันทร ถนนเบญจมราชูทิศ โทร. 312339 จำหน่ายทุเรียนกวน กุ้งแห้ง พริกไทย เสื่อ

ไทยรุ่งเรือง 82 ถนนศรีรองเมือง 2 โทร. 311465 จำหน่ายเสื่อ

นพรัตน์ ถนนขวาง โทร. 312224 จำหน่ายเครื่องประดับพลอย

น้ำใจคนจันท์ ตำบลพลับพลา โทร. 354959-63 จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองทุกชนิด

มีชัยเพชรพลอย 157 ถนนขวาง โทร. 312452 จำหน่ายเครื่องประดับ

วิบูลย์สุข 25 ถนนเบญจมราชูทิศ โทร. 311053 จำหน่ายเสื่อ ทุเรียน พริกไทย ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ กะปิ

โอฬารกนก 23 ถนนศรีรองเมือง โทร. 311627 จำหน่ายเครื่องประดับ

:: สารบัญเว็บไซท์ ::

:: ข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดจันทบุรี ::

สารบัญเว็บไซท์ > ท่องเที่ยว > ข้อมูล และสถานที่ท่องเที่ยว > ภาคตะวันออก > จันทบุรี

ผลการค้นหา : [ แนะนำเว็บไซท์ได้ที่นี่ ]


ริเวอร์ เกสท์เฮ้าส์ (River Guest House) จันทบุรี
Caribou Highland Hotel จันทบุรี
นิว ทราเวล ลอด์จ (New Travel Lodge) จันทบุรี
โรงแรม เค พี แกรนด์ (K.P Grand Hotel) จันทบุรี
สวนริมธาร รีสอร์ท (Suanrimtarn Resort) จันทบุรี
มณีจันท์ รีสอร์ท แอนด์ สปอร์ต คลับ จันทบุรี
เลอ วิลเลจ เดอ นโปเลียน (Le Village De Napoleon) จันทบุรี, แหลมสิงห์
จันท์เจ้าหลาว บีช รีสอร์ท หาดเจ้าหลาว
เจ้าหลาว สวัสดี รีสอร์ท หาดเจ้าหลาว
โรงแรม เจ้าหลาว ทอแสง บีช หาดเจ้าหลาว
ฟ้าใส รีสอร์ท แอนด์ สปา Kung Wiman Beach
หาดทรายทอง รีสอร์ท จันทบุรี หาดเจ้าหลาว
KP Grand Hotel Chanthaburi Chanthaburi City
มณีจันท์ รีสอร์ท แอนด์ สปอร์ต คลับ Chanthaburi City
New Travel Beach Hotel & Resort Chanthaburi หาดเจ้าหลาว
Suanrimtarn Resort Chanthaburi Kaenghangmaew


จังหวัดจันทบุรี
แนะนำข้อมูลทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท โรงแรม จังหวัดจันทบุรี แผนที่ การเดินทาง ร้านอาหาร เทศกาล งานประเพณี ของฝาก ประวัติความเป็นมา คำขวัญประจำจังหวัด
http://www.relaxzy.com/province/chanthaburi/

จังหวัดจันทบุรี
ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดจันทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัด สัญลักษณ์จังหวัด สภาพการเมืองการปกครอง เศรษฐกิ...
http://www.chanthaburi.go.th

จังหวัดจันทบุรี
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดจันทบุรี คำขวัญ ตราประจำจังหวัด ประวัติ อาณาเขต แผนที่ ข้อมูลแหล่งท่อ...
http://travel.sanook.com/east/chanthaburi/

แหลมเสด็จ บูรพา บีช
บ้านพักริมหาด บรรยากาสส่วนตัว เลขที่ 45 ม.4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี 22120 โทร/แฟกซ์: 039-369-318, 039-388-123 จำนวนห้องพัก 18 ห้อง ราคา 1,000-1,500 บาท
http://www.burapa.bigbig.com

จังหวัดจันทบุรี
ข้อมูลจังหวัด การเดินทาง โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยว แผนที่ ร้านอาหาร ของฝาก และข้อมูลอื่น ๆ อีก...
http://www.chantaburi.com

จังหวัดจันทบุรี
ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับจังหวัดจันทบุรี เช่น แหล่งท่องเที่ยว การเดินทาง รวมทั้งข่าวประชาสัมพันธ์ทางจ...
http://www.chanthaburi.net

บริษัท โอเอซีส ซีเวิลด์ จำกัด
ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการแสดงของปลาโลมา ในจังหวัดจันทบุรี แนะนำปลาโลมา ค่าเข้าชม และรูปภาพประทับใจ
http://www.oasisseaworld.net

บ้านซับตารีดอทคอม
วิถีชีวิตของชุมชนที่เข้มแข็ง ตัวอย่างการบริหารงานหมู่บ้าน ความสามัคคีของชุมชน แนะแนวอาชีพ แนวทางก...
http://www.bansubtari.com

จังหวัดจันทบุรี
แนะนำที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดจันทบุรี ที่พัก ร้านอาหาร และรวบรวมตำแหน่งงานว่างไว้สำหรับคนต้องการ...
http://www.chantaburi.biz

ตำบลบางสระเก้า จังหวัดจัทบุรี
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจัทบุรี ที่มีชื่อเสียงในการทอเสี่อ และย...
http://www.geocities.com/tumbolbangsakho

อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี (ขลุงดอทคอม)
เว็บไซต์ประจำอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี แหล่งข้อมูลข่าวสารประจำอำเภอ ที่ร้องเรียน ร้องทุกข์ พบปะสั...
http://www.khlung.com

จังหวัดจันทบุรี
แนะนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ข่าวสารในจังหวัดจันทบุรี
http://www.chanjaa.net

จังหวัดจันทบุรี
ข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่บันเทิงในจังหวัดจันทบุรี
http://www.mychantaburi.com


:: อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่ อำเภอแกลง กิ่งอำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง และอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกของประเทศ มีสภาพป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารของจังหวัดระยอง มีสัตว์ป่าชุกชุม และมีธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตก หน้าผา ถ้ำ ทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่งดงาม อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง มีเนื้อที่ประมาณ 52,300 ไร่ หรือ 83.68 ตารางกิโลเมตร

ความเป็นมา : ในคราวประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2517 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2517 ที่ประชุมได้มอบให้กรมป่าไม้ไปดำเนินการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของป่าเขาชะเมา-เขาวง ท้องที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล เลขาธิการนิยมไพรสมาคม ได้มีหนังสือลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2517 กับชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ปทุมวัน ได้มีหนังสือ ที่ ชอธ. 020/2517 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2517 ขอให้พิจารณาจัดตั้งบริเวณพื้นที่ป่าเขาชะเมา ซึ่งเป็นต้นน้ำลำธารของจังหวัดระยอง ประกอบด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด ให้เป็นอุทยานแห่งชาติเช่นกัน ในขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 20 สิงหาคม 2517 ได้ตีพิมพ์บทความ “ เสียงเรียกจากป่าเขาชะเมา ” เขียนโดย นายไพบูลย์ สุขสุเมฆ เรียกร้องให้พิจารณากำหนดป่าเขาชะเมา-เขาวง ให้เป็นวนอุทยานหรืออุทยานแห่งชาติเพื่อรักษาไว้ก่อนที่จะถูกบุกรุกทำลาย

กรมป่าไม้ ได้มีคำสั่ง ที่ 1017/2517 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2517 ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการสำรวจแนวเขตป่าและสภาพพื้นที่ป่าเขาชะเมา-เขาวง ในท้องที่จังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี ปรากฏว่ามีสภาพเป็นป่าดงดิบเป็นต้นน้ำลำธาร สัตว์ป่าชุกชุมและธรรมชาติที่สวยงาม กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติในการประชุม เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2518 ซึ่งมีมติให้กำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาชะเมาในท้องที่ตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และตำบลแก่งหางแมว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และป่าเขาวงในท้องที่ตำบลกองดิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และตำบลนายายอาม อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 267 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2518 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 13 ของประเทศไทย


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
ลักษณะภูมิประเทศของป่าเขาชะเมาเป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินแปร หินไนส์ หินชีสต์ ซึ่งเกิดในยุคเพอร์เมียน มีอายุระหว่าง 225-270 ล้านปี มียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาชะเมา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,024 เมตร เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำของห้วยหลายสายด้วยกันคือ คลองระโอก คลองโพล้ คลองหินเพลิง เป็นต้น ซึ่งลำคลองเหล่านี้เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำประแสร์เส้นชีวิตของจังหวัดระยอง และสภาพภูมิประเทศป่าเขาวงเป็นพื้นที่ภูเขาหินปูนทอดยาวในแนวเหนือ-ใต้เป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ล้อมกันเป็นวง เป็นเขาหินปูนปูนในยุคเพอร์เมียน ลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบ Karst ลักษณะเป็นเขาลูกโดดหรือยอดเขาหลายยอด ซึ่งเกิดจากการละลายตัวของหินปูนเมื่อถูกน้ำฝน โดยรอบของเทือกเขาส่วนใหญ่เป็นที่ราบสำหรับทำการเกษตร บริเวณตอนกลางเทือกเขาปรากฏหลุมยุบมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 กิโลเมตร ภายในมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นและมีความชื้นสูง ยอดเขาสูงสุดอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 162 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำของคลองนายายอาม


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ตั้งอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีฝนตกชุก ความชื้นสูง ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 2,900 มิลลิเมตร ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่ง และฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดปี 26-27 องศาเซลเซียส


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
จากสภาพภูมิประเทศของเขาชะเมาที่เป็นเทือกเขาสูงชัน ปริมาณน้ำฝนสูง ประกอบกับพื้นที่อยู่ใกล้ทะเล จึงทำให้พืชพรรณที่ปรากฏส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้น มีป่าดิบแล้งกระจายทางทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติ และในระดับที่สูงขึ้นไปปรากฏเป็นสังคมของป่าดิบเขา และบริเวณบางส่วนในเขาวงเป็นลักษณะของป่าเขาหินปูน ป่าดิบชื้น และป่าดิบแล้ง

บริเวณที่เป็นสังคมพืชของป่าดิบทั้งป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ตั้งแต่ตอนล่างจนถึงระดับที่มีความสูงประมาณ 800 เมตร ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ มะพลับ มะกล่ำต้น พลับ มะไฟ หนามขี้แรด กระบก ตาตุ่มบก ดีหมี มะเกิ้ม ยมหิน ทำมัง เสี้ยวป่า เปล้าหลวง ตะแบก หว้า มะค่าโมง นนทรีป่า แคหางค่าง มะเดื่อ และมะม่วงป่า ฯลฯ เนื่องจากสภาพเรือนยอดของป่าประเภทนี้เรียงตัวต่อเนื่องชิดกัน ทำให้มีความชุ่มชื้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น ชะนีมงกุฎ นกกก นกเขาใหญ่ นกโพระดกสวน นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า สำหรับบริเวณพื้นล่างซึ่งมีไม้พุ่ม ลูกไม้ของไม้ใหญ่ หวาย พืชในวงศ์ขิงข่าขึ้นมาปกคลุมเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของไก่ป่า นกเขาเขียว และไกฟ้าพญาลอ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นที่หลบซ่อนตัวของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกหลายชนิด เช่น ช้างป่า และกระทิง บริเวณพื้นป่าซึ่งเป็นที่ลุ่มหรือบริเวณใกล้ร่องน้ำจะพบหมูป่าและกวางป่าใช้เป็นแหล่งปลักโคลนสำหรับนอนแช่ปลัก

สภาพพื้นที่ในระดับสูงกว่า 800 เมตรขึ้นไป ถูกปกคลุมด้วยป่าดิบเขาซึ่งมีพันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ รง ก่อเดือย เนียนดำ พลองดำ เหมือดแก้ว ตังหนใบใหญ่ มะก่อ ฯลฯ ซึ่งบางแห่งเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม และลานหินขนาดใหญ่ที่มีหญ้าขึ้นปกคลุมบ้างเล็กน้อย ในบริเวณที่มีตะกอนดินขังอยู่ตามลอยแตกของลานหิน สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ มักเป็นนกภูเขาที่อาศัยอยู่ตามเรือนยอดต้นไม้ใหญ่ เช่น นกมุ่นรกภูเขา บริเวณพื้นล่างของป่าดิบเขาเป็นที่อาศัยของกระทิง ช้างป่า ส่วนบริเวณหน้าผาก็เป็นที่อยู่อาศัยของเลียงผา สำหรับในบริเวณที่เป็นลำห้วยลำธาร ปลาที่พบได้แก่ ปลาซิวหางกรรไกร ปลาซิวหางแดง ปลาสร้อยนกเขา ปลาค้อ ปลาช่อน ปลาหมอช้างเหยียบ ปลากระดี่หม้อ ปลากดเหลือง และปลากระทิง เป็นต้น

ในบริเวณพื้นที่ส่วนพื้นที่เปิดโล่งติดกับป่าหรือติดชายน้ำ สัตว์ป่าที่พบจะเป็นพวกนกในวงศ์ยาง นกกระแตแต้แว้ด นกกระปูดใหญ่ ตะกอง และกบหนอง สำหรับในบริเวณเขาวงซึ่งสภาพโดยทั่วไปมีถ้ำขนาดต่างๆ จำนวนมาก สังคมพืชส่วนใหญ่เป็นป่าเขาหินปูน พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ลำป้าง โสกเขา ทุเรียนป่า ข่อยหนาม โสกน้ำ และหว้า ฯลฯ สัตว์ป่าที่พบบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น กระรอกหลากสี กระจ้อน หนู และค้างคาวชนิดต่างๆ นอกจากนี้ก็มีสัตว์ป่าจำพวกนก เช่น ไก่ป่า นกแอ่นตาล นกปรอดเหลืองหัวจุก ฯลฯ ภายในถ้ำยังพบแมลงหลายชนิดที่หากินในถ้ำ


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง
ตู้ ปณ. 11 อ. แกลง จ. ระยอง 21110
โทรศัพท์ : 0 3889 4378 โทรสาร : 0 3889 4378

รถยนต์
จากกรุงเทพฯ ไปตามเส้นทางสายสุขุมวิท-จันทบุรี ถึงตลาดบ้านเขาดิน จังหวัดระยอง แล้วเข้าถนนบ้านเขาดิน-สี่แยกพัฒนา ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง อยู่ทางขวามือ เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร จึงจะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกเขาชะเมา-เขาวง หรือน้ำตกธารน้ำใส ตั้งอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติ จากที่ทำการอุทยานฯ ถึงนำตกชั้นแรก ระยะทางเพียง 300 เมตร ลักษณะเป็นธารน้ำใส รองรับน้ำตกขนาดใหญ่ยาวประมาณ 3 กิโลเมตร ประกอบด้วยชั้นน้ำตกที่สวยงามถึง 8 ชั้น ได้แก่ วังหนึ่ง วังมัจฉา วังมรกต วังไทรงาม ผากล้วยไม้ ช่องแคบ หกสาย และผาสูง ในชั้นวังมัจฉาเป็นแอ่งน้ำใสขนาดใหญ่ มีปลาพลวงซึ่งเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่อาศัยอยู่อย่างชุกชุม ชั้นวังมรกตเป็นวังน้ำลึกใสสีเขียวเข้ม ชั้นหกสายเป็นน้ำตกที่บริสุทธิ์งดงามมาก ในฤดูฝนจะเห็นสายน้ำทิ้งตัวไหลลงมาจากหน้าผาเห็นเป็นหกสายชัดเจน หน้าฝนทางลื่นและมีทากมาก ชั้นสุดท้ายผาสูง สายนำยาวไหลทิ้งตัวจาก เขาสูงรอคอยให้ท่านขึ้นมาสัมผัสความบริสุทธ์

นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติยังได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้คอยบริการ 2 เส้นทางให้เลือกเดิน เส้นทางแรก ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เส้นทางผ่านจุดชมวิวผามะค่าและผาตาแต้ม เส้นทางที่ 2 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ผ่านชั้นน้ำตกวังหนึ่งและวังมัจฉา จุดเด่นของเส้นทางนี้ คือ ต้นยางกล่องยักษ์ ซึ่งเป็นต้นยางที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดระยอง มีขนาดหลายคนโอบ อายุนับร้อยปี


ผาสวรรค์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือน้ำตกธารน้ำใส ตลอดระยะทาง 1,500 เมตร สู่ผาสวรรค์เป็นเส้นทางผ่านป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ และป่าไผ่ที่มีต้นปรงเขาขึ้นหนาแน่น มีสัตว์ป่าอยู่ชุกชุม ในวันที่อากาศแจ่มใสไร้เมฆหมอกและละอองฝน สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดได้อย่างชัดเจน


น้ำตกคลองปลาก้าง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีความยาวลดหลั่นกันประมาณ 3 กิโลเมตร ตลอดทั้ง 2 ฝั่งลำธารน้ำตกเป็นป่าดงดิบบริสุทธิ์ มีกล้วยไม้ป่า พืชพื้นล่างจำพวกว่าน เฟิน ขึ้นปกคลุมหนาแน่น น้ำตกคลองปลาก้างเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ ประกอบด้วยชั้นน้ำตกและวังน้ำต่างๆ โดยเฉพาะวังช้างข้ามซึ่งเป็นชั้นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงามมาก


ถ้ำเขาวง เขาวงอยู่ห่างจากตลาดนายายอาม อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เพียง 18 กิโลเมตร เขาวงมีพื้นที่ 4.40 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,750 ไร่ เป็นภูเขาหินปูนหลายยอดล้อมรอบเป็นวง มีหน้าผาและชะโงกผาที่สวยงาม ประกอบด้วยถ้ำประมาณ 80 ถ้ำ แต่ละถ้ำมีความสวยงามแตกต่างกัน นอกจากนี้บริเวณพื้นที่รอบๆ เขาวงเป็นแหล่งอาศัยของเลียงผาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเปิดให้ชม 16 ถ้ำ แบ่งเป็น 3 โซน แต่ละโซนมีความยากง่ายในการเที่ยวชมต่างกัน โซนที่เที่ยวง่ายที่สุด คือ

โซนที่ 1 ตั้งอยู่ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ชม.5 (เขาวง) ทางเดินไม่ลำบากมาก แต่บางถ้ำต้องคลานหรือมุดเข้าไป มีถ้ำที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำละคร มีค้างคาวอาศัยอยู่จำนวนมาก ถ้ำสิงโตใหญ่ มีหินย้อยสวยงาม ถ้ำสามมิตร ผนังถ้ำมีรอยริ้วคล้ายคลื่นทะเล

สำหรับโซนที่ 2 และ 3 ต้องเดินป่าปีนเขาสมบุกสมบัน ใช้เวลาหลายชั่วโมง โซนที่ 2 มีถ้ำที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำเพชร ถ้ำช้าง โซนที่ 3 อยู่ไกลที่สุด จึงมีสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด มีถ้ำที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำโรงบ่อน มีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก ถ้ำธารลอด มีลำธารไหลผ่านและมีน้ำตกในถ้ำด้วย ผู้สนใจต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทาง



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายไว้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงไว้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก 1. มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
2. มีค่ายพักเยาวชนชาย-หญิง ให้บริการ โซนหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ บริเวณคลองปลาก้าง


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ที่จอดรถ มีที่จอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.


วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี

ข้อมูลทั่วไป

ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ มีเนื้อที่ทั้งทางบกและทางทะเลประมาณ 9,500 ไร่ มีทรัพยากรธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย สภาพป่าเป็นป่าดงดิบแล้งและป่าชายหาด พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ กฤษณา ไม้กะบก ไม้ตะแบก หว้า ตีนเป็ด มีสัตว์เล็ก ๆ หลายชนิด เช่น ลิงแสม กระจงเล็ก กระรอกบินสีส้ม ไก่ป่า และนกนานาชนิด ส่วนพืชและสัตว์ทะเลจะพบตามชายหาดและเกาะต่าง ๆ

การเดินทาง

สามารถเดินทางไปถึงได้ 2 เส้นทาง
เส้นทางแรก เดินทางจากกรุงเทพฯ ผ่านจังหวัดจันทบุรี เข้าสู่อำเภอแหลมสิงห์ รวมระยะทาง 350 กิโลเมตร จากนั้นเช่าเรือข้ามฟากจากอำเภอแหลมสิงห์ไปขึ้นที่หาดกระทิง แล้วเดินเท้าอีก 400 เมตร จะถึงวนอุทยานฯ
เส้นทางที่สอง เดินทางจากกรุงเทพฯ สู่อำเภอท่าใหม่ระยะทาง 280 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางท่าใหม่-บางกะไชย ระยะทาง 25 กิโลเมตร เส้นทางนี้จะผ่านวัดเขาแหลมสิงห์ ตัดขึ้นภูเขาไปจนถึงที่ทำการวนอุทยาน ซึ่งตั้งอยู่บนที่สูง มองเห็นทิวทัศน์ชายทะเลได้กว้างไกล และยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม

จุดเด่นที่น่าสนใจ

เขาแหลมสิงห์
เป็นภูเขาขนาดเล็ก สูงจากระดับน้ำทะเลราว 172 เมตร เหตุที่เรียกว่าเขาแหลมสิงห์ เนื่องจากด้านหน้าเขามีหินเป็นแก่งเกาะยื่นล้ำออกไปในทะเล เป็นรูปคล้ายสิงห์หมอบ มีหัว ลำตัว หาง เท้า และดวงตา บริเวณใกล้กันมีป้อมปืนที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 คือ ป้อมไพรีพินาศจากที่ทำการบนเนินเขามีทางเดินลงไปยัง อ่าวกระทิง ซึ่งเป็นชายหาดเล็ก ๆ อยู่ตรงข้ามกับหาดแหลมสิงห์ หาดทรายสีเหลืองนวล บรรยากาศเงียบสงบและสวยงาม สามารถขออนุญาตตั้งเต๊นท์พักแรมได้

ด้านหน้าอ่าวกระทิงมี เกาะนมสาว มีพื้นที่ประมาณ 150 ไร่ มีชายหาดอยู่ทางทิศเหนือของเกาะยาว 300 เมตร ทางด้านใต้ของเกาะเป็นหน้าผาสูงชัน ทางด้านทิศเหนือมีแนวปะการังสวยงามยาวประมาณ 500 เมตร เหมาะแก่การดำน้ำ ถัดจากเกาะนมสาวไปทางทิศตะวันออกเป็น เกาะจุฬา เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ หาดทรายยาว 50 เมตร เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นเช่นกัน

การเดินทางไปเกาะและหาดต่าง ๆ ในวนอุทยานเขาแหลมสิงห์นั้น นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากหาดแหลมสิงห์ ใช้เวลาประมาณ 15-50 นาที ค่าเช่าเรือ 200-400 บาท นั่งได้ 8-10 คน

หาดอ่าวยาง
เป็นชายหาดเล็ก ๆ เช่นเดียวกับหาดอ่าวกระทิง ทางเข้าชายหาดอยู่ก่อนถึงวนอุทยานเขาแหลมสิงห์ประมาณ 2 กิโลเมตร ริมชายหาดร่มรื่น มีร้านอาหาร และที่พักของเอกชนบริการแก่นักท่องเที่ยว

หาดคุ้งวิมาน หาดคุ้งกระเบน หาดแหลมเสด็จ และหาดเจ้าหลาว
เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงของจันทบุรี อยู่ในเขตอำเภอท่าใหม่ สามารถเข้าถึงได้สองเส้นทาง คือ จากถนนสุขุมวิทก่อนถึงตัวเมืองจันท์ราว 30 กิโลเมตร ตรง กม. 301 มีทางแยกขวาไปตามทางหลวง 3399 และจะพบป้ายทางแยกไปหาดต่าง ๆ เป็นระยะ อีกเส้นทางหนึ่งคือจากตัวเมืองเดินทางไปอำเภอท่าใหม่ระยะทาง 17 กิโลเมตร ต่อด้วยเส้นทางที่ไปเขื่อนวังโตนดและเลยไปจนถึงชายทะเลได้เช่นกัน เป็นทางราดยางตลอดสาย

หาดคุ้งวิมาน
เป็นหาดทรายสีเหลืองนวล แยกจากถนนสุขุมวิทเข้าไปเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร ส่วนหาดคุ้งกระเบนอยู่ถัดจากหาดคุ้งวิมานไป 8 กิโลเมตร เป็นหาดทรายสีขาวสะอาด บรรยากาศร่มรื่น หาดแหลมเสด็จ แยกจากถนนสุขุมวิทไปประมาณ 27 กิโลเมตร บรรยากาศเงียบสงบ และหาดเจ้าหลาวอยู่ถัดมาจากหาดแหลมเสด็จ มีผู้คนนิยมไปพักผ่อนกันที่นี่ในวันหยุด เป็นหาดทรายสีนวล ยาวเหยียดสุดสายตา ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว บริเวณชายหาดเหล่านี้มีบริการร้านอาหารและที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้บริเวณหน้าหาดเจ้าหลาว ห่างจากชายฝั่งไปราว 1 กิโลเมตร มีแนวปะการังน้ำตื้น ครอบคลุมพื้นที่ถึง 14 ตารางกิโลเมตร นับเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ง่ายนัก เพราะโดยปกติแล้ว ปะการังจะเกิดในบริเวณที่เป็นเกาะเท่านั้น เนื่องจากมีการไหลเวียนของกระแสน้ำพอเหมาะ อุณหภูมิเหมาะสม และไร้มลพิษ การพบปะการังบริเวณใกล้แนวชายฝั่ง จึงสะดวกต่อการเดินทางไปชม โดยนั่งเรือจากชายฝั่งไปเพียง 10 นาทีเท่านั้น ติดต่อบริการเรือท้องกระจก และเรือเช่าพาไปดำน้ำดูปะการังได้ที่สถานที่พักต่าง ๆ ริมชายหาด

0 ความคิดเห็น: