วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี

:: จังหวัดสุราษฎร์ธานี ::

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: ข้อมูลทั่วไป

" เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ ชักพระประเพณี "

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: ข้อมูลทั่วไป

สุราษฎร์ธานี เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ชนพื้นเมือง ได้แก่ พวกเซมัง และมลายูดั้งเดิมซึ่งอาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำหลวง (แม่น้ำตาปี) และบริเวณอ่าวบ้านดอนก่อนที่ชาวอินเดียจะอพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งและเผยแพร่วัฒนธรรม ดังปรากฏหลักฐานในชุมชนโบราณที่ อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา เป็นต้น

ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 13 มีหลักฐานปรากฏว่าเมืองนี้ได้รวมกับอาณาจักรศรีวิชัย เมื่ออาณาจักรนี้เสื่อมลง จึงแยกออกเป็น 3 เมือง คือ เมืองไชยา เมืองท่าทอง และเมืองคีรีรัฐ ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้ย้ายเมืองท่าทองมาตั้งที่บ้านดอน และยกฐานะเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ พระราชทานนามว่าเมือง “กาญจนดิษฐ์” ครั้นเมื่อมีการปกครองแบบมณฑล ได้รวมเมืองทั้งสามเป็นเมืองเดียวกันเรียกว่า เมืองไชยา ต่อมา พ.ศ. 2458 รัชกาลที่ 6 โปรดฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองไชยา มาเป็นเมืองสุราษฎร์ธานี แปลว่า เมืองแห่งคนดี

สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพฯ 685 กิโลเมตร มีพื้นที่ 12,891 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ป่าดิบชื้นที่อุดมด้วยความหลากหลายของพืชพรรณและสัตว์ป่า และยังมีหมู่เกาะที่มีชื่อเสียง น้ำทะเลใส หาดทรายขาว อาทิ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน ซึ่งแต่ละเกาะมีความหลากหลายของธรรมชาติแตกต่างกันไป

สุราษฎร์ธานี แบ่งการปกครองออกเป็น 18 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอคือ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน อำเภอคีรีรัฐนิยม อำเภอพนม อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย อำเภอดอนสัก อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอบ้านนาสาร อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านตาขุน อำเภอเกาะพะงัน อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอชัยบุรี และกิ่งอำเภอวิภาวดี


อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับ
จังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง ทิศใต้ ติดต่อกับ
จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดกระบี่ ทิศตะวันออก ติดต่อกับ
อ่าวไทย และจังหวัดนครศรีธรรมราช ทิศตะวันตก ติดต่อกับ
จังหวัดพังงา และจังหวัดระนอง

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 077)
สำนักงานททท.ฯ สุราษฎร์ฯ
โทร. 0 7728 8818-9

ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว ททท.เกาะสมุย
โทร. 0 7742 0720-2

ประชาสัมพันธ์จังหวัด
โทร. 0 7728 3970

สถานีเดินรถประจำทาง
โทร. 0 7720 0032

สถานีรถไฟสุราษฎร์ฯ
โทร. 0 7731 1213

สนามบินสุราษฎร์ธานี
โทร. 0 7744 1230

สนามบินสมุย
โทร. 0 7742 5011

โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
โทร. 0 7727 2231

โรงพยาบาลสมุย
โทร. 0 7742 1399,0 7742 0902

โรงพยาบาลเฉวง
โทร.0 7723 0049,0 7742 2272

ที่ทำการไปรษณีย์
โทร.0 7727 2013,0 7728 1966-7

ตรวจคนเข้าเมือง
โทร. 0 7727 3217,0 7727 3504

สถานีตำรวจ
โทร. 191,0 7727 2095,0 7727 2211

ตำรวจทางหลวง
โทร. 1193

ตำรวจท่องเที่ยว
โทร. 1155, 0 7742 1281




:: โรงแรม เกาะสมุย ที่พัก เกาะสมุย ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะสมุย ที่พัก เกาะสมุย

กรีน วู๊ด บังกะโลส์ (Green Wood Bungalows) Baan Plai Laem
Samui Plaileam Seaview Baan Plai Laem
Tongson Villas Baan Plai Laem
ศิลา อีเวซอน ไฮเวย์ (Sila Evason Hideaway) Baan Plai Laem
เกาะสมุย รีสอร์ท (Koh Samui Resort) Ban Tai
Artrium Spa Boutique Resort Bang Bo Beach
ศิลา บีช รีสอร์ท (Sila Beach Resort) Bang Po Beach
เนเชอรัล วิง เฮลท์ สปา แอนด์ รีสอร์ท Bang Po Beach
รอยัล ลีฟวิ่ง เรสซิเด้นท์ (Royal Living Residence) Bang Po Beach
Bang Rak Residence & Bang Rak House Bang Rak
แฮปปี้ เพลส (Happy Place) Big Buddha
ปาล์ม วิว อพาตเม้นท์ แอนด์ วิลล่า (Palm View Apartments & Villa) Big Buddha
สมุย เอสเคป วิลล่า (Samui Escape Villa) Big Buddha
สมุย การ์เด้น รีสอร์ท (Samui Garden Resort) Big Buddha Beach
Oriental Samui Resort Big Buddha Beach
ซีเคร็ต การ์เด้น รีสอร์ท (Secret Garden Resort) Big Buddha Beach
โคโม รีสอร์ท (Como Resort) Big Buddha Beach
โรงแรม บีช เฮ้าส์ สมุย (Beach House Samui Hotel) Big Buddha Beach
Punnpreeda Hip Resort Big Buddha Beach
สบาย รีสอร์ท แอนด์ วิลล่าส์ (Saboey Resort and Villas) Big Buddha Beach
ฟูลมูน บังกะโลส์ (Full Moon Bungalows) Big Budha Pier
บลู ไดมอนด์ ลอด์จ (Blue Diamond Lodge) Bophut
บ้าน ดาร์หลา ลอด์จ (Baan Darlah Lodge) Bophut
ฮิลล์ไซด์ วิลเลจ รีสอร์ท (Hillside Village Resort) Bophut
บี วัน สปา แอนด์ วิลล่า (B1 Spa and Villa) Bophut
Carpe Diem Hotel Bophut
Villa Samsara & Villa Bagheera Bophut
ซันไรส์ วิลล่าส์ (Sunrise Villas) Bophut Beach
แคคตัส บังกะโล (Cactus Bungalow) Bophut Beach
ฟรี เฮ้าส์ บังกะโล (Free House Bungalow) Bophut Beach
สมุย เมอร์เมด รีสอร์ท (Samui Mermaid Resort) Bophut Beach
แซนดี้ รีสอร์ท (Sandy Resort) Bophut Beach
World Resort Bophut Beach
Cocooning Hotel Bophut Beach
นารา การ์เด้น รีสอร์ท (Nara Garden Resort) Bophut Beach
L`Hacienda Hotel Bophut Beach
บ้าน ธรรมรักษา (Baan Dhammaraksa) Bophut Beach
สไมล์ เฮ้าส์ รีสอร์ท (Smile House Resort) Bophut Beach
อีเด็น บังกาโล (Eden Bungalows) Bophut Beach
เร้ด เฮ้าส์ (Red House) Bophut Beach
เดอะ วอเตอร์ ฟร้อนท์ (Waterfront) Bophut Beach
La Sirene Apartments Bophut Beach
บ้านบ่อผูด (Baan Bophut) Bophut Beach
ลาวาน่า รีสอร์ท (Lawana Resort) Bophut Beach
Temple Gardens Bophut Beach
Villa Tanamera Bophut Beach
พีซรีสอร์ท เกาะสมุย (Peace Resort) Bophut Beach
สมุย ปาล์ม บีช รีสอร์ท (Samui Palm Beach Resort) Bophut Beach
Grand Villa La Perla Bophut Beach
บันดารา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Bandara Resort and Spa) Bophut Beach
ซาเซ็น บูติค รีสอร์ท แอนด์ สปา (Zazen Boutique Resort) Bophut Beach
Serena Beach Bophut Beach
อนันธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Anantara Resort & Spa Koh Samui) Bophut Beach
บ่อผุด รีสอร์ท แอนด์ สปา (Bophut Resort & Spa) Bophut Beach
เนเจอร์ เฮ้าส์ (Nature House) Bophut Centre
บ้านแก้ว เรือนขวัญ (Ban Kaew Ruean Kwan) Bophut Village
Sundays Sanctuary Resort & Spa Bophut Village
เฉวง เรสซิเด้นท์ (Chaweng Residence) Chaweng
ลัคกี้ โฮม รีสอร์ท (Lucky Home Resort) Chaweng
Sira-Sarai Garden Home Chaweng
โรงแรม กรีน (Green Hotel) Chaweng
Will Wait Apartment Chaweng
โรงแรม สมุย พลาซ่า (Samui Plaza Hotel) Chaweng
Chaweng Pattana Home Chaweng
บิ๊กบลู บังกะโล (Big Blue Bungalow) Chaweng Beach
บ้านร่มไม้ (Baan Rom Mai) Chaweng Beach
Moby Dick Guesthouse Chaweng Beach
โรงแรม มูน ไลท์ (Moon Light Hotel) Chaweng Beach
เฉวง เฮ้าส์ เซ็นเตอร์พอยท์ (Chaweng House Center Point) Chaweng Beach
เอเวอร์ กรีน รีสอร์ท (Ever Green Resort) Chaweng Beach
โรงแรม สมุย เฟิร์ส เฮ้าส์ (Samui First House Hotel) Chaweng Beach
โรงแรม เฉวง บีช (Chaweng Beach Hotel) Chaweng Beach
โรงแรม เฉวง เซ็นเตอร์ (Chaweng Center Hotel) Chaweng Beach
สมุย คอรัล รีสอร์ท (Samui Coral Resort) Chaweng Beach
สมุย ลากูน เบย์ (Samui Lagoon Bay) Chaweng Beach
สมุย รีโซเทล (Samui Resotel) Chaweng Beach
สมุย บีช อพาตเม้นท์ (Samui Beach Apartments) Chaweng Beach
Als Hut Chaweng Beach
สมุย ไอส์แลนด์ บีช รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล Chaweng Beach
Admiral Lord Nelson Chaweng Beach
ซีสเคป บีช รีสอร์ท (Seascape Beach Resort) Chaweng Beach
ดิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (The Island Resort & Spa) Chaweng Beach
อาร์ก บาร์ การ์เด้น บีช รีสอร์ท (Ark Bar Garden - Beach Resort) Chaweng Beach
เฉวง ชาเล่ต์ (Chaweng Chalet) Chaweng Beach
เฉวง วิลล่า บีช รีสอร์ท (Chaweng Villa Beach Resort) Chaweng Beach
คอร์ทโต้ มอลทิซ รีสอร์ท (Corto Maltese Resort) Chaweng Beach



:: โรงแรม เกาะสมุย ที่พัก เกาะสมุย ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะสมุย ที่พัก เกาะสมุย

มาลิบู บีช รีสอร์ท (Malibu Beach Resort) Chaweng Beach
มณเฑียร เฮ้าส์ (Montien House) Chaweng Beach
ปาปียอง รีสอร์ท (Papillon Resort) Chaweng Beach
Als Resort Chaweng Beach
Akwa Guesthouse Chaweng Beach
เฉวง โคฟ รีโซเทล (Chaweng Cove Resotel) Chaweng Beach
เฉวง รีสอร์ท (Chaweng Resort) Chaweng Beach
โรงแรม ปาล์ม ไอส์แลนด์ (Palm Island Hotel) Chaweng Beach
Sans Souci Samui Chaweng Beach
สมุย พาราไดซ์ เฉวง (Samui Paradise Chaweng) Chaweng Beach
เฟิร์ส บังกาโล บีช รีสอร์ท (First Bungalow Beach Resort) Chaweng Beach
Cabana Grand View Hotel & Spa Chaweng Beach
เฉวง เบย์วิว รีสอร์ท (Chaweng Bayview Resort) Chaweng Beach
Beachcomber Hotel Chaweng Beach
Tango Beach Resort (form. Family Bungalows) Chaweng Beach
Constanza Chaweng Beach
บ้านทะเล รีสอร์ท (Baan Talay Resort) Chaweng Beach
เฉวง บลู ลากูน (Chaweng Blue Lagoon) Chaweng Beach
สมุย นาเทียน รีสอร์ท (Samui Natien Resort) Chaweng Beach
บ้านเฉวงบีช รีสอร์ท แอนด์สปา (Baan Chaweng Beach Resort & Spa) Chaweng Beach
บ้านสมุย รีสอร์ท (Baan Samui Resort) Chaweng Beach
เฉวง คาบาน่า รีสอร์ท (Chaweng Cabana Resort) Chaweng Beach
เฉวง บุรี รีสอร์ท (Chaweng Buri Resort) Chaweng Beach
โรงแรม เมือง กุเลปัน (Muang Kulaypan Hotel) Chaweng Beach
ไอยรา บีช โฮเต็ล แอนด์ พลาซ่า (Iyara Beach Hotel & Plaza) Chaweng Beach
Banana Fan Sea Samui Chaweng Beach
โนรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Nora Beach Resort & Spa) Chaweng Beach
บ้านหาดงาม บูติค รีสอร์ท (Baan Haad Ngam Boutique Resort) Chaweng Beach
คอรัล เบย์ รีสอร์ท (Coral Bay Resort) Chaweng Beach
Kandaburi Resort & Spa Chaweng Beach
บุรีราสา วิลเลจ (Buri Rasa Village) Chaweng Beach
อมารี ปาล์ม รีฟ รีสอร์ท (Amari Palm Reef Resort) Chaweng Beach
เมืองสมุย สปา รีสอร์ท (Muang Samui Spa Resort) Chaweng Beach
เฉวง รีเจ้นท์ บีช รีสอร์ท (Chaweng Regent Beach Resort) Chaweng Beach
เซ็นทรัล สมุย บีช รีสอร์ท (Central Samui Beach Resort) Chaweng Beach
เลอ พาราไดซ์ บูติค รีสอร์ท แอนด์ สปา Chaweng Beach
ป๊อปปี้ สมุย รีสอร์ท (Poppies Samui Resort) Chaweng Beach
The Library Chaweng Beach
Briza Beach Resort & Spa Chaweng Beach
เฉวง พี อาร์ เกสเฮ้าส์ (Chaweng PR Guesthouse) Chaweng Centre
Baan Suan Sook Resort Chaweng Lake
เฉวง ปาร์ค เพลส (Chaweng Park Place) Chaweng Lake
โนวา สมุย รีสอร์ท (Nova Samui Resort) Chaweng Lake
เลคไซด์ เรสซิเด้นท์ (Lakeside Residence) Chaweng Lake
อาร์ท พาเลซ (Art Palace) Chaweng Lake
Baan Kao Hua Jook Villas & Apartments Chaweng Lake View
จังเกิ้ล คลับ (Jungle Club) Chaweng Noi
เฉวงน้อย รีสอร์ท (Chaweng Noi Resort) Chaweng Noi
สมุย เมาน์เท่น วิลเลจ (Samui Mountain Village) Chaweng Noi
เดอะ ซีฮอร์ส เรสซิเด้นท์ (The Seahorse Residence) Chaweng Noi
เบสท์ วิว บังกะโล (Best View Bungalow) Chaweng Noi
บีดับบลิว สมุย เบย์วิว รีสอร์ท แอนด์ สปา Chaweng Noi
มาร์โคโปโล รีสอร์ท แอนด์ สปา (Marcopolo Resort & Spa) Chaweng Noi
Sandalwood Luxury Villas Chaweng Noi
Baan Sukreep Resort Chaweng Noi Beach
บ้าน แหลมศิลา รีสอร์ท (Baan Laem Sila Resort) Chaweng Noi Beach
บ้านหินทราย รีสอร์ท (Baan Hin Sai Resort) Chaweng Noi Beach
อิมเพียน่า รีสอร์ท สมุย (Impiana Resort Samui) Chaweng Noi Beach
โรงแรม ดิอิมพีเรียล สมุย (Imperial Samui Hotel) Chaweng Noi Beach
นิวสตาร์ บีช รีสอร์ท (New star beach resort) Chaweng Noi Beach
สมุย ฮันนี่ ธารา วิลล่า (Samui Honey Tara Villa) Choengmon
โรงแรม เชิงมนต์ บุรี (Choengmon Buri Hotel) Choengmon Beach
สมุย เพนนินซูล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา (Samui Peninsula Resort & Spa) Choengmon Beach
วิว พอยท์ เรสซิเด้นท์ (View Point Residence) Choengmon Beach
สมุย ฮันนี่ คอตเทจ (Samui Honey Cottages) Choengmon Beach
ไวท์ เฮ้าส์ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (White House Beach Resort & Spa) Choengmon Beach
โรงแรม ดิอิมพีเรียล โบ๊ท เฮ้าส์ (Imperial Boat House Hotel) Choengmon Beach
ศาลา สมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา (Sala Samui Resort & Spa) Choengmon Beach
Karma Samui Choengmon Beachj
คอรัล โคฟ รีสอร์ท (Coral Cove Resort) Coral Cove Beach
ไฮ คอรัล โคฟ บังกะโล (Hi Coral Cove Bungalow) Coral Cove Beach
คอรัล โคฟ ชาเล่ต์ (Coral Cove Chalet) Coral Cove Beach
สมุย คลิฟ วิว รีสอร์ท แอนด์ สปา (Samui Cliff View Resort & Spa) Coral Cove Beach
แหลมเสร็จ อินน์ บังกะโล (Laem Set Inn) Hua Thanon Beach
สมุย ออร์คิด รีสอร์ท (Samui Orchid Resort) Hua Thanon Beach
โรงแรม เซ็นทรัล สมุย วิลเลจ (Central Samui Village) Hua Thanon Beach
บานบุรี รีสอร์ท แอนด์ สปา (Banburee Resort & Spa) Hua Thanon Beach
Villa Nalinnadda Hua Thanon Beach
Kamalaya Hua Thanon Beach
บีช วิลเลจ เฮ้าส์ (Beach Village House) Hua Thanon Beach
อมันดา รีสอร์ท สมุย (Amanda Resort Samui) Laem Yai Beach
โฟร์ซีซั่น รีสอร์ท เกาะสมุย (Four Season Resort Koh Samui) Laem Yai Beach
กรีน วิลล่า (Green Villa) Lamai
อโลฮา อพาตเม้นท์ (Aloha Apartment) Lamai
บี ที แมนชั่น (BT Mansion) Lamai
เมาน์เท่น วิว พาราไดซ์ รีสอร์ท (Mountain View Paradise Resort) Lamai
Hathai House Lamai
ละไม บุรี รีสอร์ท (Lamai Buri Resort) Lamai
ออร์คิด สูทส์ รีสอร์ท (Orchid Suite Resort) Lamai
เบสท์ รีสอร์ท (Best Resort) Lamai



:: โรงแรม เกาะสมุย ที่พัก เกาะสมุย ::


** ช่วงเทศกาล งานประเพณี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ห้องพักตามโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ
บางแห่งมักจะเต็มเร็ว ... เพื่อความมั่นใจ กรุณาวางแผนจองห้องพักล่วงหน้าแต่เนิ่นๆครับ ** [ วิธีการจองที่พัก ]



โรงแรม เกาะสมุย ที่พัก เกาะสมุย

Serene Hill Resort & Spa Lamai
รอยัล คอตเทจ เรสซิเด้นท์ (Royal Cottage Residence) Lamai
วรินดา รีสอร์ท (Varinda Resort) Lamai
Auberge Resort Lamai
ละไม อินน์ 99 (Lamai Inn 99) Lamai Beach
เมจิค รีสอร์ท (Magic Resort) Lamai Beach
Surat Palm Resort Lamai Beach
สมุย บีช รีสอร์ท (Samui Beach Resort) Lamai Beach
เบย์ วิว รีสอร์ท (Bay View Resort) Lamai Beach
Bonny Hotel Lamai Beach
ลอง ไอส์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (Long Island Resort & Spa) Lamai Beach
อารี บีช รีสอร์ท (Aree Beach Resort) Lamai Beach
บ้าน แฟมิลี่ รีสอร์ท (Baan Family Resort) Lamai Beach
สโรชา วิลล่า (Sarocha Villa) Lamai Beach
อนันตา ละไม บีช รีสอร์ท (Ananta Lamai Beach Resort) Lamai Beach
บิลล์ รีสอร์ท (Bill Resort) Lamai Beach
จังเกิ้ล ปาร์ค รีสอร์ท (Jungle Park Resort) Lamai Beach
นินจา เพลส (Ninja Place) Lamai Beach
แซนด์ ซี แอนด์ สปา รีสอร์ท (Sand Sea & Spa Resort) Lamai Beach
วีคเอนเดอร์ รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล (Weekender Resort & Hotel) Lamai Beach
สมุย ลากูนา รีสอร์ท (Samui Laguna Resort) Lamai Beach
วีคเอนเดอร์ วิลล่า บีช รีสอร์ท (Weekender Villa Beach Resort) Lamai Beach
สมุย ปาร์ค รีสอร์ท (Samui Park Resort) Lamai Beach
อโลฮา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Aloha Resort & Spa) Lamai Beach
แมงโก้ วิลเลจ (Mango Village) Lamai Beach
สมุย จัสมิน รีสอร์ท (Samui Jasmine Resort) Lamai Beach
ไทยเฮ้าส์ บีช รีสอร์ท (Thai House Beach Resort) Lamai Beach
สมุย เซ้นส์ บีช รีสอร์ท (Samui Sense Beach Resort) Lamai Beach
ไทย-อโยธยา วิลล่าส์ แอนด์ สปา (Thai-Ayodhya Villas & Spa) Lamai Beach
อิงศิลา รีทรีท (Ingsila Retreat) Lamai Beach
ร็อคกี้ รีสอร์ท (Rocky Resort) Lamai Beach
รัมมาน่า บูติค รีสอร์ท (Rummana Boutique Resort) Lamai Beach
พาวิลเลี่ยน สมุย บูติค รีสอร์ท (Pavilion Samui Boutique Resort) Lamai Beach
Renaissance Koh Samui Resort & Spa Lamai Beach
ละไม วิลล่าส์ (Lamai Villas) Lamai Beach
Ban Chang Pink House Lamai Hill Side
Chaulty Towers B & B Lamai Hill Side
Baan Si Lamai Hill Side
บ้านใบเฟิร์น (Baan Bai Fern) Leam-Yai Beach
Pearl Rattana Resort Lipa Noi Beach
บิ๊ก จอห์น บีช รีสอร์ท (Big John Beach Resort) Lipa Noi Beach
ราชพฤกษ์ สมุย รีสอร์ท (Rajapruek Samui Resort) Lipa Noi Beach
Lipalodge Beach Resort Lipa Noi Beach
กนก บุรี รีสอร์ท (Kanok Buri Resort) Lipa Noi Beach
บ้านสวน ศิริวรรณ (Baan Suan Siriwan) Maenam
Mae Mai Home Maenam
Roy Roy Resort Maenam
อมรินทร์ วิคตอเรีย สมุย รีสอร์ท (Amarin Victoria Samui Resort) Maenam
นิว ลาพาซ วิลล่า (New Lapaz Villa) Maenam Beach
มูน บังกะโลส์ (Moon Bungalows) Maenam Beach
มูนฮัท บังกะโล (Moonhut Bungalow) Maenam Beach
Shady Resort Maenam Beach
วาสซ่า รีสอร์ท แอนด์ บังกะโลส์ (Wazzah Resort & Bungalows) Maenam Beach
Lolita Bungalow Samui Maenam Beach
Save House Maenam Beach
โคโค ปาล์ม สมุย รีสอร์ท (Coco Palm Samui Resort) Maenam Beach
ฟลอรีสท์ รีสอร์ท (Florist Resort) Maenam Beach
Baan Shadis Samui Maenam Beach
พินนาเคิล รีสอร์ท สมุย (Pinnacle Resort Samui) Maenam Beach
แฮรี่ บังกะโลส์ (Harry`s Bungalows and Restaurant) Maenam Beach
แม่น้ำบุรี รีสอร์ท (Maenamburi Resort) Maenam Beach
Baan Fah Resort Maenam Beach
ซีแฟน บีช รีสอร์ท (Seafan Beach Resort) Maenam Beach
Top Cats Fresh Water Fishing Resort Maenam Beach
Ban Laem Sai Beach Resort & Spa Maenam Beach
สมุย พาราไดซ์ บีช รีสอร์ท (Samui Paradise Beach Resort) Maenam Beach
สมุยบุรี บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา (Samui Buri Beach Resort & Spa) Maenam Beach
Napasai Samui Island Maenam Beach
สันติบุรี รีสอร์ท (Santiburi Resort) Maenam Beach
Samui Lereve Namuang
Easy Time Resort Namuang
โรงแรม แกรนด์ ซี วิว (Grand Sea View Hotel) Nathon Beach
บ้านทะเล วิลล่า (Baan Talay Villa) Natien Beach
อารยาบุรี บูติค รีสอร์ท (Arayaburi Boutique Resort) Samrong Bay
โคโค ไพรเวท วิลล่าส์ (Coco Private Villas) Samrong Bay
Keymatkri Villa Samrong Bay
Wiesenthal Resort Taling Ngam Beach
Tenuta La Costa Taling Ngam Beach
บ้านสบาย ซันเซท บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา Taling Ngam Beach
Thong Takian Villa Thongtakian Beach
คริสตัล เบย์ รีสอร์ท (Crystal Bay Resort) Thongtakian Beach
Promtsuk Buri Thongtakian Beach
สมุย ยอช์ท คลับ (Samui Yacht Club) Thongtakian Beach
La Mer Samui Resort Thongtakian Beach
ท้องทรายเบย์ คอตเทจ แอนด์ โฮเทล (Tongsai Bay Cottages & Hotel) Tongsai Beach



จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาท่าเพชร
จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-บ้านนาสาร ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จากถนนใหญ่มีทางแยกด้านซ้ายมือ สู่ที่ทำการอีก 1 กิโลเมตร ศูนย์ศึกษาธรรมชาติแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 2,900 ไร่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 210 เมตร เป็นบริเวณร่มรื่นสวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระธาตุศรีสุราษฎร์และเป็นป่าสงวนของกรมป่าไม้ มองจากยอดเขาลงมาจะเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองสุราษฎร์ธานีได้โดยรอบ

บึงขุนทะเล
ตั้งอยู่ที่ ตำบลขุนทะเล ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไปทางถนนสายสุราษฎร์ธานี-พุนพิน ประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถนั่งรถโดยสารสายบ้านดอน-โรงเรียนตำรวจภูธร 8 ไปถึงบริเวณบึงได้ บึงขุนทะเลเป็นแหล่งน้ำสำคัญใช้ในการกสิกรรม นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ มีศาลาสำหรับพักผ่อนหย่อนใจและมีร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ปากน้ำตาปี
ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลบางกุ้ง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 7 กิโลเมตร ตามเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ปากน้ำ มีคิวรถโดยสารอยู่เยื้องกับห้างจุฬาสรรพสินค้า ถนนบ้านดอน ปากน้ำตาปีมีร้านอาหารทะเลและร้านจำหน่ายของทะเลอยู่หลายร้าน นอกจากนี้ยังสามารถชมทิวทัศน์ธรรมชาติทางทะเลของอ่าวบ้านดอนได้อีกด้วย

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอท่าฉาง

ศูนย์ฝึกลิงบ้านคลองไทร
ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง อยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีไปตามทางหลวงหมายเลข 41 ประมาณ 35 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาจากทางหลวงหมายเลข 41 ตรงบริเวณกิโลเมตรที่ 91 (สี่แยกควนรัชฎา) เข้าไปยังศูนย์ฝึกลิงอีก 1.5 กิโลเมตร

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเข้าชมการฝึกลิง และการแสดงโชว์ของลิง สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ คุณวิโรจน์ เพชรสถิตย์ โทร. 01-958-9223 ส่วนอัตราค่าชม สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 250 บาท/คน ส่วนชาวไทยมิได้กำหนด ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้เข้าชม

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเคียนซา

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหนองทุ่งทอง
อยู่ในท้องที่ตำบลเขาตอก อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเนื้อที่ทั้งหมด 18,475 ไร่ หรือประมาณ 29.56 ตารางกิโลเมตร ประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2528 สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มสลับกับหนองน้ำ มีหนองน้ำใหญ่เป็นที่อาศัยของนกและสัตว์น้ำอยู่ถึง 5 แห่ง หนองน้ำที่ใหญ่ที่สุดคือ หนองทุ่งทอง มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ สัตว์ที่พบมากในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ได้แก่ ลิง กระจง นาก ไก่ป่า ชะมด พังพอน และนกชนิดต่างๆ กว่า 70 ชนิด ซึ่งอพยพถิ่นอาศัยมาจากเขตหนาว ช่วงที่มีนกมากที่สุด ได้แก่เดือนตุลาคม-มีนาคม

การเดินทาง จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสุราษฎร์-นาสาร (ทางหลวงหมายเลข 4009) กม. ที่ 18 เลี้ยวขวาผ่านอำเภอบ้านนาเดิม บรรจบกับทางหลวงสายเอเซีย (41) จะเห็นป้ายเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าชี้เข้าทางลูกรังอีก 6 กิโลเมตร

:: อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทยท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงัน ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 40 เกาะ ตามเกาะต่างๆ จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะหาดทรายมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด สีสวยงามหลากสี อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีเนื้อที่ประมาณ 63,750 ไร่ หรือ 102 ตารางกิโลเมตร

บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง แต่เดิมเป็นพื้นที่หวงห้ามของกองทัพเรือ ซึ่งมีโครงการจะสร้างฐานทัพเรือ เพื่อควบคุมความปลอดภัยของประเทศทางด้านอ่าวไทย แต่ด้วยมีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น นกนานาชนิด และแนวปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2518 นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี กองอุทยานแห่งชาติ ได้เขียนบทความสารคดีเรื่อง “หมู่เกาะอ่างทอง อุทยานแห่งชาติทางทะเล” ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 29 มิถุนายน 2518 สรุปสาระสำคัญว่า ควรจัดหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบกับกองอุทยานแห่งชาติได้มีโครงการอยู่แล้วเช่นกัน และคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2518 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2518 ให้กรมป่าไม้พิจารณาจัดหมู่เกาะอ่างทองเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง

ในปี พ.ศ. 2518 กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีบันทึกที่ กส.0708/915 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2518 เสนอกรมป่าไม้ ให้นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี นักวิชาการป่าไม้ตรี ไปทำการสำรวจ ปรากฏว่า หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะประมาณ 40 เกาะ มีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น และนกนานาชนิด ปะการัง เป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2519 ให้กรมป่าไม้ตรวจสอบรายละเอียด เกี่ยวกับหมู่เกาะอ่างทองกับกระทรวงกลาโหม และทำการตรวจสอบที่ดินบริเวณดังกล่าว กองอุทยานแห่งชาติ ได้มีหนังสือที่ กส.0708/1613 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2519 เสนอกรมป่าไม้ให้ นายสินไชย บูรณะเรข นักวิชาการป่าไม้ 4 ไปดำเนินการตามมติคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือที่ กห. 0352 / 26927 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2519 ไม่ขัดข้องในการที่กรมป่าไม้จะกำหนดหมู่เกาะอ่างทองเป็นอุทยานแห่งชาติ

กรมป่าไม้จึงได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาต ิซึ่งได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2520 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2520 เห็นชอบให้กำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติได้ ทั้งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีหนังสือที่ สฎ.25/21994 ลงวันที่ 18 เมษายน 2520 ให้การสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินบริเวณหมู่เกาะอ่างทอง ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมเนื้อที่ 102 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 97 ตอนที่ 174 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2523 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 21 ของประเทศไทย


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 9 องศา 31 ลิบดา-9 องศา 43 ลิบดา เหนือ และเส้นแวงที่ 99 องศา 39 ลิบดา - 99 องศา 44 ลิบดา ตะวันออก ประกอบด้วยเกาะ 42 เกาะ ลักษณะเกาะเป็นเขาหินปูน และมีหน้าผาสูงชันเกือบทั้งหมด มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 10-396 เมตรจากระดับน้ำทะเล เรียงตัวในแนวเหนือ-ใต้ เกาะที่มีขนาดใหญ่ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ และเกาะท้ายเพลา สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองเป็นพื้นน้ำ มีพื้นป่าประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ สภาพป่าโดยทั่วไปมีไม้ขนาดใหญ่น้อยมาก ทั้งนี้เนื่องจากเกาะที่เป็นเขาหินปูนมีเนื้อดินเป็นชั้นบาง


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดผ่าน ทำให้ฝนตกชุก คลื่นพายุรุนแรง

ฤดูร้อน อยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ระยะนี้เป็นช่วงว่างของฤดูมรสุม หลังจากสิ้นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อน และจะมีอากาศร้อนจัดที่สุดในเดือนเมษายน

ฤดูฝน อยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนและชื้น จากมหาสมุทรอินเดีย พัดปกคลุมทำให้มีฝนตกทั่วไป ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,000 มิลลิเมตรต่อปี

ฤดูหนาว อยู่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในระยะนี้จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเย็นและแห้งแล้งจากประเทศจีนพัดปกคลุม ทำให้อุณหภูมิลดลงทั่วไปและมีอากาศหนาวเย็น แต่เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทะเลอ่าวไทย อากาศจึงไม่หนาวเย็นมากนักและจะมีฝนตกโดยทั่วไป โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน สำหรับช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 28 องศาเซลเซียส

สำหรับช่วงเวลา ระพว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลจะมีคลื่นลมแรง ทำให้การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดปิดการท่องเที่ยวประจำปี ดังนี้

ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม ของทุกปี
เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
ลักษณะพรรณพืชตามธรรมชาติ ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง แบ่งตามลักษณะของสภาพป่า และถิ่นที่ขึ้นอยู่ ได้แก่
ป่าดงดิบแล้ง ครอบคลุมพื้นที่ของเกาะขนาดใหญ่ คือ เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะสามเส้า ในบริเวณไหล่เขาและตามร่องลำธาร มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ เช่น พลองใบมน จิกเขา รักเขา หัวค่าง พลองกินลูก เกด ไหม้ ไม้พุ่มชั้นล่างได้แก่ ข่อยหนาม กระจายอยู่ทั่วไป พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัยได้แก่ เต่าร้าง หวาย ข้าหลวงหลังลาย เปราะ บุก และกล้วยไม้นารีช่องอ่างทอง ฯลฯ

ป่าชายหาด เป็นป่าโปร่งขึ้นบริเวณแคบๆ ตามชายหาดและเชิงเขาชายทะเลทั่วไปของเกาะต่างๆ พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ หูกวาง โพทะเล กระทิง ปอทะเล จิกทะเล สนทะเล รักทะเล มะเดื่อป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เตยทะเล พลับพลึง กะทกรก และผักบุ้งทะเล เป็นต้น

ป่าเขาหินปูน พบในบริเวณเขาหินปูนที่มีชั้นดินน้อย พืชที่ขึ้นเป็นพืชขนาดเล็ก เช่น จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บุก ปอทะเล เกด เชียด และยอป่า เป็นต้น

ป่าชายเลน พบอยู่น้อยมากบริเวณซอกหินที่มีหาดทราย หรือหาดเลนในวงรอบของทะเลใน ของเกาะแม่เกาะ และทางทิศตะวันออกของเกาะพะลวย ในบางอ่าวที่เว้าเข้าไปในแผ่นดิน พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นโกงกางใบเล็ก


ด้วยสภาพที่เป็นเกาะขนาดเล็กกลางทะเล มีที่ราบ และที่ลาดชันปานกลางถึงน้อย ภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นเกาะที่เป็นเขาหินปูนสูงชัน จึงทำให้เป็นข้อจำกัด ในเรื่องของการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย ของสัตว์ขนาดใหญ่ สัตว์ที่พบเห็นโดยทั่วไป สามารถจำแนกออกได้เป็น

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม พบ 16 ชนิด ได้แก่ นากใหญ่หัวปลาดุก ค่างแว่นถิ่นใต้ ลิงแสม หมูป่า พญากระรอกดำ หนูเกาะ ค้างคาวแม่ไก่เกาะ โลมา และวาฬ เป็นต้น

นก พบไม่น้อยกว่า 54 ชนิด ได้แก่ นกยางเขียว เหยี่ยวแดง นกออก นกเด้าดิน นกแอ่นกินรัง นกแก๊ก นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ และนกขุนทอง ฯลฯ

สัตว์เลื้อยคลาน พบ 14 ชนิด ได้แก่ แย้ เหี้ย เต่าตนุ เต่ากระ งูเหลือม และงูจงอาง เป็นต้น

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก พบน้อยมากเพียง 5 ชนิด ได้แก่ คางคกบ้าน กบบัว กบนา กบหนอง และปาด

นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ที่สำคัญคือ ปลาทู และยังอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำ เช่น ปลาผีเสื้อลายแปดเส้น ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลากระเบนทอง ปลาฉลามหูดำ ปลาเม่นลายเสือ ปลากะพง ปลาเก๋า ปลิงทะเล ปูม้า กัลปังหา แส้ทะเล หอยมือเสือ หอยนางรม และปะการังที่สวยงามซึ่งได้ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่จำนวนมาก



:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
145/1 ถ.ตลาดล่าง ต.ตลาด อ. เมืองสุราษฎร์ธานี จ. สุราษฏร์ธานี 84000
โทรศัพท์ : 0 7728 6025, 0 7728 0222 โทรสาร : 0 7728 6588

รถยนต์
กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายธนบุรี–ปากท่อ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 แล้วใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ถึงสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร อัตราค่าโดยสารสำหรับรถยนต์โดยสารธรรมดา ราคา 211 บาท และรถยนต์โดยสารปรับอากาศ ราคา 295 บาท เดินทางต่อจนถึงอำเภอดอนสัก ถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร


เรือ
การเดินทางจากเกาะสมุย ไปยังอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยทางเรือโดยสาร(เรือทัวร์) ราคา 550 บาท หากจ้างเหมา จากอำเภอเกาะสมุย-อุทยานแห่งชาติ ขนาด 10 คน ราคา 4,000-4,500 บาท (เรือเร็ว) และจ้างเหมา จากจังหวัด สุราษฎร์ธานี-อุทยานแห่งชาติ ขนาด 70-100 คน ราคา 12,000-15,000 บาท (เรือทัวร์)


เครื่องบิน
โดยสายการบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากกรุงเทพฯ–สุราษฎร์ธานี ราคา 2,055 บาท และของบริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ–เกาะสมุย ราคา 3,180 บาทไปกลับทุกวันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) มีบริการเดินรถทุกวัน ผู้โดยสารต้องเดินทางไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน แล้วต่อรถยนต์ หรือรถโดยสารเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถโดยสารประจำทางสายสุราษฎร์ธานี - เกาะสมุย

รถโดยสารประจำทาง
การเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าสู่อำเภอเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร อัตราค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารธรรมดา ราคา 100 บาท และรถโดยสารปรับอากาศ ราคา 120 บาท ซึ่งสามารถเดินทางโดยเรือเร็วของบริษัทส่งเสริมทราเวล เซ็นเตอร์ จำกัด จากท่าเรือท่าทอง สุราษฎร์ธานีถึงท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย บริการวันละ 2 เที่ยว เที่ยวไปเวลา 07.30 น. และ 14.30 น. เที่ยวกลับจากท่าเรือหน้าทอนถึงท่าเรือท่าทอง ออกเวลา 07.15 น. และ 14.30น. และ เรือธรรมดา (เรือนอน) ออกจากท่าเรือบ้านดอน สุราษฎร์ธานี เวลา 23.00 น. ถึงเกาะสมุยเวลา 05.00 น. เที่ยวกลับออกจากเกาะสมุยเวลา 21.00 น. ถึงสุราษฎร์ธานี เวลา 04.00 น.


:: แหล่งท่องเที่ยว ::
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทยท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ประมาณ 40 เกาะ ตามเกาะต่างๆ จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะหาดทรายมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด สีสวยงามหลากสี อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่


:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
เกาะวัวตาหลับ เกาะวัวตาหลับอยู่บริเวณอ่าวคาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่นพักผ่อนริมหาด เมื่อขึ้นไปจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมด ที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยรูปร่างต่างๆ แปลกตา นอกจากนี้ยังมี ถ้ำบัวโบก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงาม ดูคล้ายดอกบัวบาน


ทะเลใน ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะ เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูนที่สูงสลับ ซับซ้อนแต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการยุบตัวของหินชั้นล่างทำให้เกิดบ่อยุบ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมๆ กับหมู่เกาะ หรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในกระบวนการเดียวกับการเกิดถ้ำ


เกาะสามเส้า เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล มีหาดทรายขาวสะอาด เหมาะแก่การตั้งแค็มป์พักแรม และว่ายน้ำชมปะการัง


เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เป็นจุดที่มีแนวปะการัง และหาดทรายขาวสะอาด


เกาะหินดับ เป็นเกาะที่มีหาดทรายที่สวยงาม และชายหาดที่ยาวที่สุดในอุทยานแห่งชาติ สภาพภูมิประเทศ และทัศนียภาพรอบเกาะสวยงามน่าชม


ทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทางเดินศึกษาธรรมชาติทางบก จำนวน 1 เส้น ชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติจุดชมวิว อยู่ที่อ่าวคา เกาะวัวตาหลับ ระยะทาง 500 เมตร ทางเรือ จำนวน 2 เส้น ชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ โดยเรือแคนู บริเวณรอบเกาะผี ระยะทางประมาณ 600 เมตร และบริเวณระหว่างชายหาดอ่าวคา–ชายหาดหน้าทับ ระยะทางประมาณ 2,200 เมตร และเส้นทางดำน้ำแบบดำผิวน้ำ จำนวน 3 เส้นชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ บริเวณเกาะท้ายเพลา ระยะทางประมาณ 200 เมตร บริเวณเกาะสามเส้า ระยะทางประมาณ 150 เมตร บริเวณอ่าวคา เกาะวัวตาหลับ ระยะทางประมาณ 150 เมตร



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายให้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงให้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 1 แห่ง อยู่บริเวณ อ่าวคา เกาะวัวตาหลับ มีการจัดนิทรรศการ เพื่อให้ความรู้และให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว


:: อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
แก่งกรุง เป็นชื่อแก่งขนาดใหญ่ในลำน้ำคลองยัน ในอดีตการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ดำเนินการสำรวจเพื่อก่อสร้างเขื่อนอเนกประสงค์ ปัจจุบันได้ชะลอโครงการดังกล่าวไว้ อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง กิ่งอำเภอวิภาวดี เป็นอุทยานที่มีสภาพป่าเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีสถานที่น่ารื่นรมย์สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ เช่น น้ำตก ลำน้ำ บ่อน้ำร้อน ภูเขา ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดชุมพร มีเนื้อที่ประมาณ 338,125 ไร่ หรือ 541 ตารางกิโลเมตร

ความเป็นมา : จากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มีโครงการสร้างเขื่อนแก่งกรุง บริเวณที่ดินป่าท่าชนะ อันจะก่อให้เกิดปัญหาบุกรุกพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำ และกรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 1169/2532 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2532 ให้ นายเดชาวุธ เศรษฐพรรค์ นักวิชาการป่าไม้ 5 ไปสำรวจพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเบื้องต้น บริเวณพื้นที่อ่างเก็บน้ำแก่งกรุง และพื้นที่ป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติท่าชนะ และป่าเตรียมการสงวนคลองสก-คลองแสง-คลองยัน ในท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าบริเวณดังกล่าว เป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์มากประกอบด้วยพันธุ์ไม้มีค่าหลายชนิดอย่างหนาแน่น มีสัตว์ป่าชุกชุม และนกนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและสำคัญยิ่ง คือ ป่าส่วนนี้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร ต่อมากรมป่าไม้ได้มีคำสั่งที่ 892/2532 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2532 ให้ นายเดชาวุธ เศรษฐพรรค์ ไปดำเนินการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม และจัดตั้งพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าชนะ และป่าเตรียมการสงวนคลองสก-คลองแสง-คลองยัน ท้องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ

กองอุทยานแห่งชาติ ได้รับรายงานจาก นายเดชาวุธ เศรษฐพรรค์ ตามหนังสือ ที่ กษ 0713/พิเศษ ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2532 เห็นสมควรใช้ชื่ออุทยานแห่งนี้ว่า “อุทยานแห่งชาติคลองยัน” เนื่องจากเป็นคลองสำคัญและเป็นจุดเด่นในพื้นที่ แต่กองอุทยานแห่งชาติได้พิจารณาเห็นว่า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวรัฐบาลมีโครงการสร้างเขื่อนแก่งกรุง ประกอบกับชื่อแก่งกรุง เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย จึงเห็นสมควรใช้ชื่ออุทยานแห่งนี้ว่า “อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง”

กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2533 เห็นสมควรให้ดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกา กำหนดพื้นที่ป่าท่าชนะ ในท้องที่ ตำบลคันธุลี ตำบลคลองพา ตำบลสมอทอง ตำบลประสงค์ อำเภอท่าชนะ ตำบลปากหมาก อำเภอไชยา ตำบลปากฉลุย และตำบลตะกุกเหนือ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 108 ตอนที่ 211 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 69 ของประเทศ


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสองแนวเหนือ-ใต้ ประกอบด้วย เขาไฝ เขาแดน เขายายหม่อน มียอดเขาสูงสุดประมาณ 849 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่มีลักษณะเป็นเขาดิน แร่ที่สำคัญที่มีอยู่บริเวณนี้คือ แร่ดีบุก เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญคือ ลำน้ำคลองยัน ต้นแม่น้ำตาปีทางทิศใต้ และลำน้ำคลองสระ ต้นแม่น้ำหลังสวนด้านทิศเหนือ ซึ่งประกอบด้วยคลองและลำห้วยเล็กๆ มากมาย ได้แก่ คลองสระ คลองชง ห้วยลาชี ห้วยหินโล่ ห้วยเขาแดน ห้วยปลาย ห้วยป่าหมาก และคลองยัน


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าดิบชื้น จึงทำให้มีฝนตกเกือบตลอดทั้งปีและมีอากาศค่อนข้างเย็น


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
เนื่องจากอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนมีปริมาณฝนตกชุก ทำให้คลุมไปด้วยป่าดิบชื้น พันธุ์ไม้ที่พบมากมายทั้งประเภทไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ซึ่งมีค่าทางเศรษฐกิจและน่าศึกษาค้นคว้าทางวิชาการ รวมถึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมาย ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก ไม้พุ่มพืชพื้นล่างชนิดต่างๆ เถาวัลย์ หวาย และปาล์มขึ้นปะปนกันอย่างหนาแน่น

พันธุ์ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่พบมาก ได้แก่ หลุมพอ จำปา และยางชนิดต่างๆ พืชพื้นล่างพวกเฟิน มีขึ้นทั่วไป รวมทั้งกระโถนพระฤาษี เถาวัลย์ชนิดต่างๆ ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ทำให้สภาพป่าแน่นทึบมาก

สัตว์ป่าที่อาศัยในอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ได้แก่ ช้างป่า เสือโคร่ง หมี กระทิง วัวแดง สมเสร็จ ชะนี ลิง ค่าง เก้ง กวางป่า หมูป่า ลิงเสน ค่างดำ นกปรอด นกชนหิน นกแซงแซวปากกา นกเขียวคราม และสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลาน


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง
ตู้ ปณ. 93 อ. กิ่งอำเภอวิภาวดี จ. สุราษฏร์ธานี 84000
โทรศัพท์ : 0 7720 5677

รถยนต์
จากกรุงเทพฯ - สุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร จาก สุราษฎร์ธานี - อำเภอท่าชนะ ระยะทาง 120 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าบ้านคันธุลี ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกบางหอย อยู่ในตำบลบางหอย อำเภอท่าฉาง มี 3 ชั้น มีน้ำตลอดปี


น้ำตกบางจำ อยู่ในตำบลตะกุกเหนือ กิ่งอำเภอวิภาวดี เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีน้ำมากเฉพาะในฤดูฝน เกิดจากธารน้ำสายเล็กสายน้อยที่พาดผ่านหุบเขาในหมู่บ้าน แล้วไหลรวมกันเป็นคลองขนาดย่อม แล้วโจนลงจากหน้าผาหินสู่หุบเขาเบื้องล่าง ก่อนที่จะไหลไปรวมกับคลองยันบริเวณเชี่ยวบางจำ


น้ำตกคลองพา อยู่ในตำบลคลองพา อำเภอท่าชนะ เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 7 ชั้น มีน้ำมากตลอดปี


บ่อน้ำร้อน อยู่ในตำบลตะกุกเหนือ กิ่งอำเภอวิภาวดี เป็นลานกว้าง มีตาน้ำผุดขึ้นมาจากพื้นดิน มีอุณหภูมิของน้ำประมาณ 40องศาเซลเซียส อบอวลด้วยกลิ่นกำมะถัน บริเวณรอบบ่อเป็นดินโป่งขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีโอกาสพบเห็นสัตว์ป่าหลายชนิดลงมากินโป่งน้ำพุร้อน


ลำน้ำคลองยัน อยู่ในตำบลตะกุกเหนือ กิ่งอำเภอวิภาวดี เป็นลำน้ำที่มีเกาะแก่งและธรรมชาติของป่าดิบชื้นริมสองฝั่งน้ำสวยงาม สามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี โดยเริ่มต้นจากตำบลปากหมาก อำเภอไชยา ผ่านเชี่ยวบางจำ เชี่ยวแก่งกรุง สายน้ำจะลดความรุนแรงลงให้ได้ชมความงามของธรรมชาติสองฟากฝั่ง และมาสิ้นสุดที่ตำบลตะกุกเหนือ หน้ากิ่งอำเภอวิภาวดี


ลำน้ำคลองสระ เป็นอีกลำน้ำซึ่งสามารถล่องแก่งได้อย่างเพลิดเพลิน และตื่นเต้นตลอดเส้นทาง


ผาหนุมาน อยู่บนยอดเขาบางจำ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700-800 เมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกและทิวทัศน์ของปาดิบชื้นเทือกเขาบรรทัด



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขาชาย มีห้องสุขาชายให้บริการ


ห้องสุขาหญิง มีห้องสุขาหญิงให้บริการ


ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ที่จอดรถ มีลานจอดรถให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลทั่วไป
เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียก ดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ แห่งที่สอง ของภาคใต้ อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า "เขื่อนรัชชประภา" มีความหมายว่า "แสงสว่างแห่งรัชกาล"

เขื่อนรัชชประภา เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ อีกแห่งหนึ่ง ของการไฟฟ้า ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ได้ประสบผลสำเร็จ ลุล่วงตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ทุกประการ ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือด้วยดี จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐบาล และเอกชน

เนื่องในวโรกาส มหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ และรัชมังคลาภิเษก ในปี ๒๕๓๐ เขื่อนรัชชประภา ได้รับการพิจารณา ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ ตามที่รัฐบาลจัดถวาย นับเป็นเกียรติ อันยิ่งใหญ่ของ กฟผ. และชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะคงความภูมใจ อยู่คู่กับเขื่อนนี้ ตลอดไป


การเดินทาง
การเดินทางสู่เขื่อนรัชชประภา หากไปทางรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวง หมายเลข ๔ ผ่านประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ถึงสุราณฎร์ธานี ระยะทางประมาณ ๖๖๐ กิโลเมตร จากนั้น ใช้เส้นทาง สุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า ระยะทาง ๖๖ กิโลเมตร แล้วแยกขวาไปตามถนน เข้าเขื่อนอีก ๑๔ กิโลเมตร หรือจะใช้บริการของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ก็มีบริการเดินรถ ทุกวัน ลงรถที่สถานีรถไฟ พุนพิน แล้วต่อรถรับจ้าง เข้าเขื่อนระยะทาง ประมาณ ๖๐ กิโลเมตร

หากต้องการความรวดเร็ว ก็สามารถเลือกใช้บริการของ บริษัทการบินไทย จำกัด มีบริการเที่ยวบิน ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ ๖๐ นาที ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. (02) 283-0070-80


สิ่งอำนวยความสะดวก
การสำรองห้องพัก สำหรับท่านที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ต้องการสำรองห้องพักล่วงหน้า ติดต่อสอบถามได้ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นนทบุรี โทร. 436-3179

เมื่อเดินทางถึงเขื่อนรัชชประภา ท่านสามารถจะติดต่อ สอบถามรายละเอียด การเข้าเยี่ยมชมเขื่อน และบริการโดยรอบ หรือการเข้าพักแรมได้ที่ แผนกประชาสัมพันธ์ เขื่อนรัชชประภา โทร.(077) 311-364


ลักษณะเขื่อน
เขื่อนรัชชประภา สร้างปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเขื่อนหินถมดินเหนียว สูง ๙๕ เมตร ความยาวสันเขื่อน ๗๖๑ เมตร มีเขื่อนปิดกั้นช่องเขาอีก ๖ แห่ง อยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ๑ แห่ง และ ฝั่งขวาของแม่น้ำ ๕ แห่ง

อ่างเก็บน้ำ มีความจุ ๕,๖๔๐ ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ ๑๘๕ ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง เฉลี่ยปีละ ๓,๐๕๗ ล้านลูกบาศก์เมตร

โรงไฟฟ้า ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ เป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้า เครื่องละ ๘๐,๐๐๐ กิโลวัตต์ จำนวน ๓ เครื่อง รวมกำลังผลิต ๒๔๐,๐๐๐ กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้า เฉลี่ยปีละประมาณ ๕๕๔ ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

ลานไกไฟฟ้า ตั้งอยู่บนฝั่งซ้าย ของแม่น้ำ ห่างจากโรงไฟฟ้า ประมาณ ๑๐๐ เมตร ทำหน้าที่ส่งพลังไฟฟ้า จากโรงไฟฟ้า ด้วยสายส่งไฟฟ้า ขนาด ๒๓๐ กิโลโวลต์ วงจรคู่ ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูง สุราษฎร์ธานี ระยะทาง ๕๐ กิโลเมตร และขนาด ๑๑๕ กิโลโวลต์ วงจร คู่ไปยังสถานีไฟฟ้าแรงสูง พังงา ระยะทาง ๘๒ กิโลเมตร

เขื่อนรัชชประภา เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ แล้วเสร็จ ในเดือนกันยายน ๒๕๓๐

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนิน เปิดเขื่อน รัชชประภา และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เมื่อวันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๓๐


ประโยชน์
เขื่อนรัชชประภา จัดเป็นเขื่อนประเภทอเนกประสงค์ ซึ่งมีความหมาย ตามพจนานุกรม ฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. ๒๕๓๐ ว่า ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ดังจะเห็นได้จากประโยชน์ ต่างๆ ดังนี้

๑. ด้านการชลประทาน เมื่อมีการปรับปรุงระบบ ชลประทานเสริมแล้ว น้ำที่ปล่อยจากเขื่อน รัชชประภา จะเป็นผลดี ต่อการเพาะปลูก พืชฤดูแล้ง และทำนาปรัง ของราษฎร ในอำเภอบ้านตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอพุนพิน ซึ่งอยู่บริเวณสองฝั่งแม่น้ำด้านท้ายน้ำ

๒. การบรรเทาอุทกภัย การกักเก็บน้ำ ของเขื่อนในฤดูฝน จะช่วยลดความรุนแรง ของภาวะน้ำท่วม ในพื้นที่ตอนล่าง ได้เป็นอย่างดี

๓. การเจือจางน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม สภาพน้ำน้อยของลำน้ำตาปี - พุมดวง ในหน้าแล้ง ทำให้เกิดภาวะ น้ำเน่าเสีย ได้ง่าย ขณะเดียวกัน ที่ปากแม่น้ำ ก็จะมีน้ำเค็มรุกล้ำ ลึกเข้ามาตามลำน้ำ น้ำจากเขื่อนรัชชประภา จะถูกปล่อยออกไปเจือจาง น้ำเสีย และต้านทานการรุกล้ำ ของน้ำเค็ม ที่ปากแม่น้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๔. การประมง อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา เป็นแหล่งประมงน้ำจืด ที่สำคัญ ทำรายได้ ให้กับราษฎร ที่อยู่บริเวณโดยรอบ อ่างเก็บน้ำ สามารถจับปลาได้เฉลี่ย วันละ ๒ ตัน คิดเป็นมูลค่า ปีละกว่า ๕ ล้านบาท

๕. การท่องเที่ยว ทัศนียภาพ โดยรอบบริเวณเขื่อน และอ่างเก็บน้ำ สวยสดงดงาม และสงบร่มรื่น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว เดินทางไปเยี่ยมชม กันอยู่ตลอดเวลา ปีละหลายหมื่นคน

๖. การผลิตไฟฟ้า น้ำที่ปล่อยผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้า เพื่อส่งให้เกษตรกรท้ายน้ำ สามารถผลิตพลังไฟฟ้า ได้ ๒๔๐,๐๐๐ กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้า เฉลี่ยปีละ ๕๕๔ ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้า ในภาคใต้ มีความมั่นคงยิ่งขึ้น


สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
สุราษฎร์ธานี เมืองคนดี ศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัย เป็นจังหวัดใหญ่ และสำคัญที่สุด ของภาคใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ มากมาย ทั้งทะเล เกาะแก่ง ภูเขา สถานที่สำคัญทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี อาทิ

พระบรมธาตุไชยา อยู่ที่วัด พระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อำเภอไชยา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สร้างในสมัยศรีวิชัย มีอายุกว่า ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว อยู่ก่อนถึงตัวเมืองประมาณ ๕๔ กิโลเมตร

สวนโมกขพลาราม หรือวัดธารน้ำไหล
เป็นสำนักสงฆ์ ที่ตั้งอยู่ในอุทยาน ที่สวยงามตามธรรมชาติ และสงบร่มรื่น เหมาะแก่การวิปัสสนาธรรม มีศาลาโรงธรรม ประมวลภาพวาด บทกวี และคติธรรมไว้จำนวนมาก ซึ่งเรียกว่า โรงมหรสพแห่งวิญญาน อยู่ก่อนถึง ตัวเมืองประมาณ ๕๐ กิโลเมตร

วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์
อยู่ก่อนถึงหาดวังหิน ๑ กิโลเมตร จะมีทางแยกเข้าไป จนถึงบริเวณวัด และบนยอดเขาล้าน เป็นที่ ประดิษฐาน พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้มาจากวัดพระเกียรติ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ พระครูสุวรรณ ประดิษฐ์การ หรือหลวงพ่อจ้อย เกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งภาคใต้ เป็นผู้บุกเบิกสร้างขึ้น ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๕

อุทยานแห่งชาติเขาศก
จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า (หมายเลข ๔๐๑) ถึงกิโลเมตรที่ ๑๐๙ มีทางแยกขวามือ เข้าที่ทำการอุทยาน ประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร สภาพทั่วไปเป็นป่าทึบ ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๔ แสนไร่ ภายในบริเวณ มีน้ำตก และถ้ำหลายแห่ง มีบริการบ้านพัก

เกาะสมุย
เป็นที่ตั้งของอำเภอเกาะสมุย มีเนื้อที่ ๒๔๗ ตารางกิโลเมตร มีหมู่เกาะใหญ่น้อย เรียงรายโดยรอบ ประมาณ ๕๓ เกาะ เรียกว่า อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุยอยู่ห่างจากอำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี ราว ๘๔ กิโลเมตร เดินทางโดยเรือประมาณ ๓ ชั่วโมง หรือประมาณ ๒ ชั่วโมง โดยเรือเฟอรี่

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
ห่างจากเกาะสมุย ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะ ที่มีความสวยงาม อุดมไปด้วยทรัพยากร ทางทะเล เช่นประการัง การเดินทาง ไปยังอุทยานฯ จากเกาะสมุย ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที

วัดถ้ำสิงขร
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพุมดวง ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นวัดโบราณ และเก่าแก่มากวัดหนึ่ง สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในถ้ำ มีพระพุทธรูป นั่งประทับห้อยพระบาท ขนาดใหญ่ และโบราณวัดถุ หลายสมัย บริเวณรอบๆ เจดีย์และผนังถ้ำ มีชามสังคโลก จำนวนมากฝังอยู่

เขาหน้าแดง
อยู่ห่างจาก ที่ว่าการอำเภอพนม ประมาณ ๔ กิโลเมตร จากเขาหน้าแดง ท่านสามารถมองเห็นวิว ทิวทัศน์ เบื้องล่างได้ไกล และบนเขานี้ ยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกด้วย

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: การเดินทาง

การเดินทาง

ทางรถยนต์

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4 โดยผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 41 จนถึงสุราษฎร์ธานี รวมระยะทาง 685 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง

บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถระหว่าง กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง รถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 2434 5557-8 (รถธรรมดา) และ 0 2435 1199, 0 2435 1200 (รถปรับอากาศ) www.transport.co.th หรือบริษัทเอกชน โสภณทัวร์ โทร. 0 2435 5023 กรุงสยาม โทร. 0 2435 5024 นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย อีกด้วย

รถไฟ

จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการเดินรถทุกวัน ระยะทาง 650 กิโลเมตร ผู้โดยสารต้องไปลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (อยู่ที่อำเภอพุนพิน) แล้วต่อรถประจำทางหรือแท็กซี่เข้าตัวจังหวัด ระยะทาง 13 กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020 สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน โทร. 0 7731 1213 www.railway.co.th

เครื่องบิน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียด โทร. 1566, 0 2280 0060, 0 2628 2000 สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. 0 7727 2610, 0 7727 3710 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โทร 0 7725 3500 ต่อ 262 http://www.thaiairways.com

นอกจากนี้ บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที สอบถามรายละเอียด โทร. 0 2265 5555 หรือ เกาะสมุย โทร. 0 7742 2512-8 http://www.bangkokairways.com และ สายการบินวันทูโก โทร. 1126 หรือ http://www.fly12go.com


การเดินทางระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานีกับจังหวัดใกล้เคียง

รถโดยสารประจำทาง

จากสุราษฎร์ธานีมีรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต และรถโดยสารธรรมดาไปจังหวัดต่าง ๆ ทุกจังหวัดทางภาคใต้ รายละเอียดติดต่อที่สถานีขนส่ง ถนนสุราษฎร์ธานี-พุนพิน โทร. 0 7720 0032-3

รถไฟ

จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน มีรถไฟไปจังหวัดนราธิวาส ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา ไชยา ชุมพร หัวหิน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 7731 1213

ชุมพร 117 กิโลเมตร
ระนอง 219 กิโลเมตร
นครศรีธรรมราช 356 กิโลเมตร
พังงา 196 กิโลเมตร


การคมนาคมภายในตัวจังหวัด

รถโดยสารประจำทาง

จากสุราษฎร์ธานีมีรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต และรถโดยสารธรรมดาไปจังหวัดต่าง ๆ ทุกจังหวัดทางภาคใต้ รายละเอียดติดต่อที่สถานีขนส่ง ถนนสุราษฎร์ธานี-พุนพิน โทร. 0 7720 0032-3

รถไฟ

จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน มีรถไฟไปจังหวัดนราธิวาส ตรัง นครศรีธรรมราช ยะลา ไชยา ชุมพร หัวหิน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 7731 1213


การเดินทางจากอำเภอเมืองสุราษฏร์ธานีไปยังอำเภอต่างๆ

อำเภอพุนพิน 12 กิโลเมตร
อำเภอกาญจนดิษฐ์ 18 กิโลเมตร
อำเภอท่าฉาง 37 กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาสาร 41 กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาเดิม 50 กิโลเมตร
อำเภอคีรีรัฐนิคม 55 กิโลเมตร
อำเภอดอนสัก 61 กิโลเมตร
อำเภอเคียนซา 61 กิโลเมตร
อำเภอไชยา 68 กิโลเมตร
อำเภอพระแสง 68 กิโลเมตร
อำเภอเวียงสระ 68 กิโลเมตร
อำเภอวิภาวดี 70 กิโลเมตร
อำเภอบ้านตาขุน 71 กิโลเมตร
อำเภอท่าชนะ 78 กิโลเมตร
อำเภอพนม 80 กิโลเมตร
อำเภอเกาะสมุย 84 กิโลเมตร
อำเภอเกาะพะงัน 100 กิโลเมตร
อำเภอชัยบุรี 112 กิโลเมตร


จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอกาญจนดิษฐ์

สถานที่ฝึกลิง หรือ โรงเรียนฝึกลิง
จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช หรือทางหลวงหมายเลข 401 ประมาณ 7 กิโลเมตร และมีทางแยกด้านขวามือเป็นถนนลูกรังสู่ศูนย์ฝึกลิง อีก 2 กิโลเมตร จะเห็นป้าย “วิทยาลัยฝึกลิงเพื่อการเกษตร” อยู่ด้านขวามือ มีการสาธิตและบรรยายหลักสูตรการฝึกลิงกัง จากเริ่มต้นจนสามารถทำงานได้จริง ผู้ประสงค์จะเข้าชมกรุณาติดต่อล่วงหน้าที่ คุณสมพร แซ่โค้ว โทร. (077) 273378

ฟาร์มหอยนางรม
อยู่ที่ปากคลองท่าทองและปากคลองกระแดะ เป็นสถานที่เพาะเลี้ยงหอยนางรมตามธรรมชาติ หอยนางรมที่ได้จากปากคลองนี้มีขนาดใหญ่กว่าแห่งอื่น ผู้ประสงค์จะเดินทางไปชมสามารถเช่าเรือหางยาวขนาดบรรทุก 10 คน ได้ที่ท่าเรือท่าทอง ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที และควรไปในตอนเช้า หรือช่วงที่น้ำลง เพราะสามารถเห็นหอยนางรมที่เกาะตามแท่งซีเมนต์ได้ชัดเจน

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอไชยา

สวนโมกขพลาราม
อยู่บริเวณเขาพุทธทอง แยกจากทางหลวงหมายเลข 41 ก่อนถึงตลาดไชยาเล็กน้อย ตรงหลักกิโลเมตรที่ 71-72 เดิมชื่อวัดธารน้ำไหล มีท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2502 เพื่อเป็นสถานที่แสวงหาความสงบและศึกษาธรรม รอบบริเวณร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นที่ฝึกอบรมจิตใจและศึกษาพุทธศาสนา มีการสอนฝึกสมาธิแก่ชาวต่างประเทศ ทุกวันที่ 1-10 ของทุกเดือน

สวนรุกขชาติเขาพุทธทอง
อยู่ริมถนนบริเวณกิโลเมตรที่ 134 ติดกับสวนโมกขพลาราม เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่มีค่าไว้มาก

วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
ตั้งอยู่ในเขตตำบลเวียง อำเภอไชยา ห่างจากที่ตั้งอำเภอไชยา 1 กิโลเมตร องค์พระเจดีย์เป็นโบราณสถาน ที่สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายาน ตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็กๆ 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ขนาดต่างๆ โดยรอบทั้ง 4 ด้าน พระธาตุไชยานับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา
ตั้งอยู่ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ตำบลเวียง อำเภอไชยา เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประเภทประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาคารหลังแรกด้านหน้าจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสำริดที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ส่วนอาคารที่สอง เป็นที่จัดแสดงหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา นอกจากนี้ยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่างๆ อีกมากมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร ส่วนค่าบริการเข้าชม ชาวไทย 5 บาท ชาวต่างประเทศ 10 บาท

การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลขที่ 41 ประมาณ 50 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายบริเวณ ก.ม. ที่ 134 จะถึงสวนโมกขพลาราม ส่วนวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารตั้งอยู่ห่างจากสวนโมกขพลาราม 3 กิโลเมตร สำหรับรถโดยสารประจำทางที่ผ่านมาแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวได้แก่ รถโดยสารสายสุราษฎร์ธานี-ระนอง และสุราษฎร์ธานี-ชุมพร นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่บริการในเส้นทางสุราษฎร์ธานี-ไชยา อีกด้วย

หมู่บ้านพุมเรียงและแหลมโพธิ์
อยู่ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร ผ้าไหมพุมเรียงเป็นผ้าไหมยกดิ้นเงิน หรือดิ้นทองสวยงาม เป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลยจากหมู่บ้านไป 2 กม. ตามเส้นทางพุมเรียง-ชายทะเล จะถึงแหลมโพธิ์ชายทะเลที่น่าเที่ยวแห่งหนึ่งของตำบลพุมเรียง

จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้บริการรถโดยสารในเส้นทาง สายสุราษฎร์-ระนอง หรือ สุราษฎร์ธานี-ชุมพร จากตัวเมืองไชยาใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายไชยา-พุมเรียง

วัดรัตนาราม หรือวัดแก้ว
ตั้งอยู่ที่บ้านวัดแก้ว เลขที่ 124 หมู่ที่ 2 ตำบลเสม็ด มีเนื้อที่ 12 ไร่เศษ เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าเจดีย์วัดแก้วสร้างร่วมสมัยกับเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยา คือประมาณระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14-15 มีโบราณสถานที่สำคัญเรียกว่า เจดีย์วัดแก้ว เป็นโบราณสถานสถาปัตยกรรมศรีวิชัย สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 14-15 ลักษณะของเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมแบบก่ออิฐไม่ถือปูน ฐานล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุข 4 ด้าน ระหว่างมุขทำเป็นย่อมุมไม้สิบสอง ซุ้มด้านทิศตะวันออก มีทางเดินไปห้องกลางขององค์เจดีย์ ภายในซุ้มมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ทุกซุ้ม กองโบราณคดีกรมศิลปากรได้ขุดแต่งบูรณะในปี พ.ศ. 2519-2522

วัดหลง
ตั้งอยู่ที่บ้านวัดหลง เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าเจดีย์ของวัดนี้สร้างร่วมสมัยกับเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยา คือประมาณระหว่างพุทธศตวรรษที่ 14-15 เป็นเจดีย์ที่ทิ้งร้างมานานจนชำรุดเหลือแต่ซากอิฐและฐานราก กองโบราณคดี กรมศิลปากรได้ขุดแต่งบูรณะปฏิสังขรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2524-2527 ทำให้สภาพของรูปทรงเจดีย์ชัดเจนขึ้น

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเวียงสระ

น้ำตกธารทิพย์
อยู่ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 81 กิโลเมตร กล่าวคือ จากสุราษฎร์ธานีถึงอำเภอเวียงสระ 62 กิโลเมตร และจากอำเภอเวียงสระสู่ตัวน้ำตกอีก 19 กิโลเมตร น้ำตก 3-5-7 อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ซึ่งยังคงเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการพักผ่อน

การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายสุราษฎร์ธานี-กระบี่ ลงที่ตลาดบ้านส้อง จากตลาดบ้านส้องโดยสารรถจักรยานยนต์รับจ้างไปน้ำตกอีก 15 กิโลเมตร

:: อุทยานแห่งชาติเขาสก ::

:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
อุทยานแห่งชาติเขาสกอยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศไทย ระหว่างเส้นรุ้งที่ 08 องศา 50 ลิบดา 43 พิลิบดา – 09 องศา 17 ลิบดา 24 พิลิบดา เหนือ และระหว่างเส้นแวงที่ 98 องศา 30 ลิบดา 44 พิลิบดา – 98 องศา 90 ลิบดา 13 พิลิบดา ตะวันออก มีอาณาเขตทิศเหนือจดเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าคลองแสง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ทิศใต้จดนิคมสหกรณ์พนม ทิศตะวันออกจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง และเขื่อนรัชชประภา และทิศตะวันตกจดอุทยานแห่งชาติศรีพังงา

สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไป เป็นภูเขาดินและภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะช่องแคบเขากาเลาะ มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่มียอดแหลมระเกะระกะ มีแนวหน้าผาสูงชัน บางแห่งเป็นแท่งสูงขึ้นไปในอากาศคล้ายหอคอยสูง ที่ราบมีไม่มาก มีสภาพป่าเป็นป่าดงดิบที่สมบูรณ์มาก เป็นป่าต้นน้ำลำธารของคลองศกและคลองพะแสง ไหลมาบรรจบรวมกันเป็นต้นกำเนิดของคลองพุมดวง ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งที่สำคัญของแม่น้ำตาปี จุดสูงสุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 961 เมตร โดยเฉลี่ยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร และลักษณะดินโดยทั่วไปเป็นดินเหนียวปนทรายมีสีแดง บางแห่งเป็นดินลูกรังแต่มีส่วนน้อย

พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติด้านทิศเหนือเกือบทั้งหมดเป็นทะเลสาบ ที่เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนรัชชประภา ซึ่งสร้างปิดกั้นคลองพะแสง มีขนาดใหญ่ประมาณ 168 ตารางกิโลเมตร ก่อให้เกิดเกาะเล็กเกาะน้อยประมาณ 162 เกาะ พื้นที่ประมาณ 14.06 ตารางกิโลเมตร เกาะเล็กเกาะน้อยนี้ก็คือ ส่วนที่โผล่พ้นน้ำของเขาหินปูนนั่นเอง ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาสก ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งสองฝั่ง คือทั้งด้านมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ฝนจะเริ่มตกตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน จนถึงปลายเดือนธันวาคมของทุกปี และจะตกชุกมากในช่วงเดือนพฤษภาคม - พฤศจิกายน ช่วงที่เหมาะในการเข้าไปชมอุทยานแห่งชาติเขาสกจะอยู่ในระหว่างเดือนธันวาคม - เมษายน ของทุกปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปี 1,636 มิลลิเมตร ฤดูแล้ง เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน อากาศร้อน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย มีฝนตกบ้างไม่มากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 26 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอากาศร้อนที่สุด คือเดือนเมษายน อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดคือ เดือนมกราคม มีอุณหภูมิเฉลี่ย 25 องศาเซลเซียส


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สภาพป่าโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติเขาสกเป็น
ป่าดงดิบชื้น ซึ่งพบเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ ส่วนมากกระจัดกระจายอยู่ตามบริเวณที่มีความชุ่มชื้นมาก ลักษณะสภาพทั่วไปรกทึบ มีเรือนยอดต่อเนื่องจากชั้นบนสุดลงมาถึงพื้นดิน พันธุ์ไม้ที่พบสำคัญได้แก่ ยางเสียน นาคบุตร ตะเคียนทอง จิกเขา ไข่เขียว ตาเสือ ตังหนใบใหญ่ สะตอ คอแห้ง เสียดช่อ เต้าหลวง ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ ปาล์มช้างไห้ หวายขริง หวายเดา เร่ว และปุด เป็นต้น ในบริเวณที่เป็นสันเขาและหน้าผาหินปูนจะพบสังคมพืชของ

ป่าเขาหินปูน พืชพรรณที่สามารถขึ้นอยู่ได้ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้นที่ทนแล้ง รวมไปถึงพืชล้มลุก ที่มีระบบรากยึดเกาะตามหน้าผาได้ดี พืชที่พบได้แก่ จันทน์ผา กำลังหนุมาน เตยเขา มะนาวผี ตะเคียนหิน มลายเขา พลับพลา สลัดไดป่า เป็นต้น จากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาสก จึงเป็นแหล่งรวมพืชหายากและพืชเฉพาะถิ่น เช่น บัวผุด หมากพระราหู ปาล์มเจ้าเมืองถลาง รองเท้านารีเหลืองกร เอื้องฝาหอย มหาสดำ สังวาลย์โนรี เป็นต้น บางส่วนของพื้นที่ป่าต้นน้ำคลองศก เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ารอยต่อของการกระจายพันธุ์พืช เช่น แดง ยวนแหล และตะเคียนชันตาแมว

บัวผุด มีชื่อวิทยาศาสตร์ Rafflesia kerrii Meijer ถือได้ว่าเป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 70-80 เซนติเมตร เป็นกาฝากชนิดหนึ่งที่อาศัยกินน้ำเลี้ยงจากรากและลำต้นของไม้เถาที่ชื่อว่า ย่านไก่ต้ม ( Tetrastigma papillosumplanch ) จะโผล่เฉพาะดอก ซึ่งเป็นดอกเดี่ยวสีแดงคล้ำหรือน้ำตาลปนแดงคล้ำ ขึ้นมาจากพื้นดินในระหว่างฤดูฝน หรือในระยะที่อากาศ และพื้นดินยังมีความชุ่มชื้นสูง คือระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม

อุทยานแห่งชาติเขาสกเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าไม่น้อยกว่า 415 ชนิด ประกอบด้วย สัตว์ป่าสงวน เช่น สมเสร็จ เลียงผา เก้งหม้อ และแมวลายหินอ่อน นอกจากนี้มีสัตว์อื่นๆ เช่น ช้างป่า กระทิง วัวแดง เสือโคร่ง เสือดาว เสือลายเมฆ หมีขอ ค่างดำ ชะนีธรรมดา ไก่ป่า นกคุ่มอกลาย นกเขาหลวง นกอีวาบตั๊กแตน นกบั้งรอกใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกกะเต็นอกขาว นกโพระดกสวน นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกนางแอ่นบ้าน นกปรอดทอง นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ นกจับแมลงหัวเทา นกกระติ๊ดตะโพกขาว ตะพาบน้ำ จิ้งจกหางเรียบ กิ้งก่าบินปีกส้ม จิ้งเหลนภูเขาเกล็ดเรียบ งูลายสอธรรมดา งูสิงธรรมดา งูปล้องทอง งูเขียวดอกหมาก เขียดบัว กบนา อึ่งลายแต้ม ฯลฯ

ในบริเวนอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภา และแหล่งน้ำต่างในอุทยานแห่งชาติเขาสก อุดมไปด้วยปลาน้ำจืดมากมายหลายชนิด เช่น ปลาแปป ปลาแกง ปลาหนามหลัง ปลาใบไม้ ปลาสร้อย ปลาเล็บมือนาง ปลาปากใต้ ปลารากกล้วย ปลาหมูจุด ปลาแขยงหิน ปลากระทุงเหวเมือง ปลาบู่หมาจู ปลาปักเป้า และปลามังกร เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติเขาสก
หมู่ที่ 6 ต.คลองศก อ. พนม จ. สุราษฏร์ธานี 84250
โทรศัพท์ : 0 7739 5154, 0 7739 5155 โทรสาร : 0 7739 5154

รถยนต์
การเดินทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาสก มีสองเส้นทางคือ จากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี หรืออำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) แยกเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ตรงหลักกิโลเมตรที่ 109 ไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

สำหรับการเดินทางไปเขื่อนรัชชประภา ใช้เส้นทางแยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขส.2 (แก่งเชี่ยวหลาน) ระหว่างกิโลเมตรที่ 57-58 และ เข้าสู่ไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงเขื่อนรัชชประภา สามารถนั่งเรือต่อไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำอีก 3 หน่วย ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทาง 780 กิโลเมตร เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี- ตะกั่วป่า) ระยะทาง 91 กิโลเมตรถึงปากทางเข้าที่ทำการอุทยานฯ ที่กิโลเมตรที่ 109 เลี้ยวขวา ระยะประมาณ 1.5 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 8-10 ชั่วโมง


รถไฟ
การรถไฟแห่งประเทศไทยให้บริการเดินรถระหว่างกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน มีทั้งรถด่วนและรถเร็ว และจากสถานีรถไฟพุนพิน และนั่งรถประจำทางสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า - ภูเก็ต ลงรถที่หลักกิโลเมตรที่ 109 จากปากทางเข้าไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) โทร.0-2223-0341 จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (พุนพิน) โทร. 0-7731-1213 *หมายเหตุ ในการเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาสกทั้งโซนทางบกและโซนทางน้ำ ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกในการเดินทาง


รถโดยสารประจำทาง
มีหลายบริษัทให้บริการรถโดยสารจากสถานีขนส่งสายใต้สู่ จ.สุราษฎร์ธานีสอบถามรายละเอียด ได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ โทร.0-2434-7192,0-2434-5557-8 หรือสถานีขนส่งสุราษฎร์ธานี โทร.0-7720-0032-3 จากนั้น โดยสารรถประจำทาง หรือรถทัวร์ที่วิ่งผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 401 คือรถสายสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต *หมายเหตุ ในการเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาสก ทั้งโซนทางบกและโซนทางน้ำ ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกในการเดินทาง

รถตู้ปรับอากาศ สุราษฎร์ธานี - อุทยานแห่งชาติเขาสก *จุดจอดและจำหน่ายตั๋ว ตั้งแต่เวลา 7.30 น. - 17.00 น. - เขาศก สามแยกเข้าอุทยาน โทร. 07-2735907 - พนม ศาลาข้างป้อมตำรวจ โทร. 09-5936099 - ปากทางคริต สามแยกปากทางคริต โทร. 06-2670149 - ตาขุน หลังศาลาตาขุน โทร. 01-0824041 - สามแยกหนองขรี โทร. 01-5367126 - ตลาดเกษตร 2 ร้านข้าวแกงป้าเยาว์ โทร. 077-206217 *ตารางรถตู้ปรับอากาศ สายสุราษฎร์ธานี-เขาศก เขาศก - สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี - เขาศก เที่ยว ออก ถึงตาขุน เที่ยว ออก 1. เขาศก 7.15 8.15 1. บ้านดอน 6.30 2. เขาศก 8.30 9.30 2.บ้านดอน 8.30 3. พนม 10.25 10.40 3. บ้านดอน 10.30 4.เขาศก 12.40 13.40 4. บ้านดอน 12.30 5. พนม 14.20 14.35 5. บ้านดอน 14.30 6. เขาศก 16.30 17.30 6. บ้านดอน 17.00 *อัตราค่าโดยสาร เขาศก - สุราษฎร์ธานี 120 บาท/คน สุราษฎร์ธานี - เขาศก 120 บาท/คน พนม - สุราษฎร์ธานี 80 บาท/คน สุราษฎร์ธานี - พนม 80 บาท/คน ตาขุน - สุราษฎร์ธานี 80 บาท/คน สุราษฎร์ธานี - ตาขุน 80 บาท/คน


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกวิ่งหิน เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้น้ำตกบางหัวแรด ห่างเพียง 120 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 15 เมตร ที่น้ำไหลลงมารวมกับคลองศกที่บริเวณหัวแรด และในคลองศก ด้านล่างของน้ำตกลงมาประมาณ 20 เมตร จะมีก้อนหินก้อนโตๆ วางเรียงรายกันอยู่ในลำคลองเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถที่จะเดินข้ามลำคลองโดยเดินข้ามไปบนก้อนหินได้ จุดนี้เรียกว่า “น้ำตกบางวิ่งหิน” เป็นจุดที่มองดูสวยงามอีกแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 2.8 กิโลเมตร รถยนต์สามารถไปถึงได้ เหนือน้ำตกขึ้นไปประมาณ 40 เมตร จะมีที่สำหรับว่ายน้ำเรียกว่า “วังยาว” เป็นวังที่กว้างและยาว สามารถเล่นน้ำพร้อมกันได้ไม่ต่ำกว่า 500 คน


ตั้งน้ำ มีลักษณะเป็นภูเขาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดออกจากกัน ทำให้กลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองศกไหลลอดผ่านเบื้องล่าง เป็นวังน้ำลึกมาก มีปลาชุกชุม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกวิ่งหินประมาณ 3.2 กิโลเมตร ต้องเดินทางโดยทางเท้าประมาณ 3.2 กิโลเมตร


น้ำตกโตนกลอย เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม เกิดจากคลองศก ลักษณะน้ำตกเป็นน้ำตกชั้นเดียวดิ่งลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร มีน้ำไหลแรงตลอดปี มีลานหินสำหรับพักผ่อนอยู่บนชั้นน้ำตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 7 กิโลเมตร ห่างจากตั้งน้ำ ประมาณ 1 กิโลเมตร


น้ำตกธารสวรรค์ เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยบางพลูจืด ซึ่งไหลลงสู่คลองศก เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกลงมาจากหน้าผาชันพุ่งโค้งแบบรุ้งกินน้ำ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 6 กิโลเมตร ห่างจากตั้งน้ำ ประมาณ 1 กิโลเมตร


น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นน้ำตกที่เกิดจากน้ำในคลองบางแลน ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันมาตามร่องหน้าผา เป็นรูปขั้นบันได 11 ชั้น แต่ละชั้นสูงประมาณ 10 เมตร และห่างกันประมาณ 70 เมตร มีน้ำไหลตลอดปีไม่ขาดสาย ชั้นล่างสวยงามมากที่สุด มีแอ่งน้ำกว้างให้เล่นน้ำ และมีโขดหินวางเรียงรายอยู่ทั่วไปเหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4 กิโลเมตร ต้องเดินทางโดยทางเท้า


น้ำตกแม่ยาย เป็นน้ำตกเพียงแห่งเดียวภายในอุทยานแห่งชาติที่รถยนต์ไปถึงได้ อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี – ตะกั่วป่า) ตรงกิโลเมตร 113 เป็นน้ำตกชั้นเดียวสูงประมาณ 30 เมตร สวยงามมาก โดยเฉพาะฤดูฝนน้ำจะเต็มหน้าผาที่สูงชันกระจัดกระจายแตกฟองขาวโพลน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 5.5 กิโลเมตร


ถ้ำค้างคาว เป็นถ้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ลักษณะภายในถ้ำเป็นเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม อยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขส. 4 (คลองแปะ) ประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 21 กิโลเมตร


เขื่อนรัชชประภา เขื่อนรัชชประภา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สร้างปิดกั้นคลองพระแสง ตัวเขื่อนเป็นหินทิ้งแกนดินเหนียว สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร ระดับสันเขื่อนสูง 100 เมตร อ่างเก็บน้ำครอบคลุมพื้นที่ 165 ตารางกิโลเมตร ภายในอ่างเก็บน้ำมีเกาะมากกว่า 100 เกาะ สามารถล่องเรือชมทัศนยภาพที่สวยงามมาก โดยเฉพาะบริเวณช่องแคบเขากาเลาะ บนสันเขื่อนรัชชประภายังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามของอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะยามดวงอาทิตย์ตก เขื่อนเชี่ยวหลานอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 65 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 57-58 บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 ไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร


ถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำน้ำทะลุ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำน้ำหลุ อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขส. 4 (คลองแปะ) ประมาณ 3 กิโลเมตร ริมอ่างเก็บน้ำเชี่ยวหลาน โดยต้องนั่งเรือจากท่าเรือเขื่อนรัชชประภาไปประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเข้าไปตามคลองแปะอีกประมาณ 15 นาที แล้วเดินเท้าต่อไปประมาณ 2 กิโลเมตร จึงถึงถ้ำทะลุ ที่มีปากถ้ำกว้างใหญ่ถึง 30 เมตร ภายในกว้างขวางมีลำธารไหลผ่านตลอดความยาว 500 เมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย รวมทั้งโขดหินที่เกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำจนมีรูปทรงแปลกตา หรือสามารถเดินเท้าจาก กิโลเมตรที่ 99 เข้าไปถึงถ้ำน้ำทะลุประมาณ 12 กิโลเมตร


น้ำตกบางหัวแรด เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม มีน้ำไหลแรงมาจากคลองศก เป็นน้ำตก 2 ชั้น ชั้นแรกไหลจากบางหัวแรดแล้วไหลลงคลองศก ชั้นที่สองอยู่ในคลองศก บริเวณโดยรอบน้ำตกกว้างขวางมาก เต็มไปด้วยหินเรียงรายตามธรรมชาติสวยงามแปลกตามาก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 3 กิโลเมตร


น้ำตกบางเลียบน้ำ เกิดจากลำคลองศก เป็นน้ำตกชั้นเดียว น้ำไหลตลอดปี ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 4.5 กิโลเมตร อยู่ห่างจากถนนใหญ่กิโลเมตรที่ 112 ประมาณ 8 กิโลเมตร


ถ้ำสี่รู อยู่ห่างจากถ้ำน้ำทะลุประมาณ 2 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเดียวกับถ้ำน้ำทะลุ สมัยก่อนเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ โดยมีทางออกจากถ้ำ 4 ช่องทาง


เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “สันยางร้อย” เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าดิบชื้น ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เส้นทางขึ้นและลงเขาผ่านลำห้วยและผืนป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ ผืนป่าแน่นทึบไปด้วยพืชพรรณทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น เฟิน หวาย เต่าร้าง ยางเสียน กระบาก ฯลฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง จุดเริ่มต้นของทางอยู่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


บัวผุด พืชมหัศจรรย์แห่งเทือกเขาสก ในบรรดาพืชพรรณทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก บัวผุดหรือ Rafflesia ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เพราะบัวผุดชนิด Rafflesia arnoldii ที่สำรวจพบในอินโดนีเซียนั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 100 เซนติเมตร ส่วนบัวผุดพันธุ์ไทย หรือ Fafflesia kerrii มีดอกขนาดเล็กกว่า แต่ก็ยังคงมโหฬารไม่ใช่เล่น คือ 50-90 เซนติเมตร ยามที่มันออกดอกสีปูนแดงสดใสอย่กลางป่าดิบเขียวชอุ่มนั้น ถือเป็นภาพที่น่าตื่นตามาก บัวผุดหรือที่ชาวบ้านทางภาคใต้ของไทยเรียกว่า "บัวตูม" จริง ๆแล้วเป็นพืชกาฝากซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นใยอาศัยอยู่ในรากและลำต้นของเถาไม้เลื้อยวงศ์อง่นป่า ชื่อ "ย่านไก่ต้ม" โดยบัวผุดจะอาศัยดูดกินแร่ธาตุและน้ำจากย่านไก่ต้ม โดยต้นแม่ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ พวกเราจะเห็นบัวผุดได้ก็เฉพาะยามเมื่อมันต้องการผสมพันธุ์กัน คือ จะเริ่มมีตาดอกเป็นปุ่มกลมเล็กๆ โตขึ้นที่ผิวของย่านไก่ต้ม แล้วใช้เวลา 9 เดือน ขยายขนาดจนเท่ากับหัวกะหล่ำยักษ์ จากนั้นก็ใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ในรอบปีให้ดอกบาน ทว่าดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกันอยู่ จึงต้องเหมาะเหม็งมากในช่วงเวลาบานแมลงวันจึงจะช่วยผสมเกสรให้ได้ จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงในการสูญพันธุ์ ชาวป่ามาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงไทย มีความเชื่อว่าดอกตูมของบัวผุด ถ้านำมาต้มให้หญิงหลังคลอดบุตรดื่ม มดลูกจะเข้าอู่เร็วขึ้น ซึ่งได้มีการพิสุจน์ทางการแพทย์แล้วว่า ไม่มีสรรพคุณดังกล่าวแต่อย่างใด ในเมืองไทยจะพบบัวผุดได้ตั้งแต่คอคอดกระ จังหวัดระนอง เรื่อยลงไปตามแนวเทือกเขาภูเก็ต จนสุดชายแดนที่นราธิวาส โดยอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งชมบัวผุดแหล่งใหญ่ที่สุด มีบัวผุดทยอยบานให้ชมทั้งปี แต่เป็นที่นิยมไปชมกันมากในฤดูแล้งช่วงเดือนพฤศจิกายน- เมษายน เพราะดินป่าง่าย แต่เขาสกก็ได้ผ่านบทเรียนอันเจ็บปวดมาแล้วจากอดีตในการสูญเสียบัวผุดที่ควนลูกช้าง เพราะในอดีตยังขาดความเข้าใจในชีวิตอันเปราะบางของมัน จึงมีผู้แห่กันไปชมบัวผุด โดยมีการเหยียบย่ำเถาย่านไก่ต้ม เหยียบย่ำดอกอ่อน และเหยียบย่ำตาดอกขนาดเล็กที่เพิ่งผุดขึ้นมา (โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์) ทั้งนี้เพื่อเข้าไปชมและถ่ายรูปกับดอกบัวผุดให้ใกล้ชิดที่สุด ส่งผลให้บัวผุดสาบสูญไปจากควนลูกช้าง แม้ปัจจุบันบัวผุดบริเวณกิโลเมตรที่ 111 และที่เขาสองน้องก็มีจำนวนดอกลดน้อยลง และขนาดดอกในรอบ 2 ปี (พ.ศ. 2545-2546) ที่ผ่านมาก็เล็กลงจนน่าตกใจทีเดียว อุทยานแห่งชาติเขาสก และทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เล็งเห็นความเร่งด่วนของสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้ออกมาตรการป้องกันรักษาดอกบัวผุด โดยออกสำรวจ เมื่อพบดอกใกล้บานจะทำการล้อมรั้ว ติดป้ายห้ามเข้าใกล้ดอก และสร้างสะพานไม้ยกระดับให้ยืนชมดอกอยู่ห่าง ๆ บนสะพานไม้ ไม่ให้มีการลงไปเหยียบย่ำพื้นดินหรือเถาย่านไก่ต้มอีกต่อไป นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ชาวบ้านเป็นไกด์ท้องถิ่นพานักท่องเที่ยวเข้าชมบัวผุด เพื่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชนอันจะนำมาซึ่งความรัก ความเข้าใจ ความหวงแหน และการอนุรักษ์แหล่งชมดอกบัวผุดได้อย่างยั่งยืนตลอดไป



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ห้องสุขารวม/ห้องอาบน้ำ บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก จะมีห้องสุขา และห้องอาบน้ำให้บริการแก่นักท่องเที่ยว 2 จุดด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามานอนกางเต็นท์ และนักท่องเที่ยวทั่วไป


ที่พักแรม/บ้านพัก บริเวณบ้านพักของอุทานแห่งชาติเขาสก เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว มี 2 โซนด้วยกันคือ - โซนทางน้ำ (เขื่อนรัชชประภา) อยู่ที่อำเภอบ้านตาขุน หลักกิโลเมตรที่ 57-58 จะเป็นแพพักของอุทยานฯ - และโซนทางบก (ที่ทำการอุทานแห่งชาติเขาสก) อยูที่อำเภอพนม หลักกิโลเมตรที่ 109 ( โซนทางน้ำและโซนทางบกจะอยู่ห่างกัน 65 กิโลเมตร) ส่วนด้านนอกของอุทยานแห่งชาติเขาสก มีบังกะโลให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เป็นของผู้ประกอบการเอกชน เปิดให้บริการมากกว่า 30 กว่าแห่ง


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์ และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ที่จอดรถ มีลานจอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว มี 2 จุดด้วยกัน


บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว (โซนทางบก) (ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก) -อาหารเมื้อเช้า 50 บาท/คน -อาหารมื้อเที่ยง 100 บาท/คน -อาหารมื้อเย็น 100 บาท/คน มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว (โซนทางน้ำ)ในเขื่อนรัชชปประภา บริเวณ(แพนางไพร,โตนเตย,ไกรสร) -อาหารเมื้อเช้า 60 บาท/คน -อาหารมื้อเที่ยง 120 บาท/คน -อาหารมื้อเย็น 120 บาท/คน


ร้านขายของที่ระลึก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนอกจากจะเปิดให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวแล้ว บริเวณใกล้ๆ ศูนย์บริการฯ ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เลือกซื้อของที่ระลึกจากอุทยานแห่งชาติเขาสก กลับบ้านติดมือไปด้วย


ท่าเรือ/ท่าเทียบเรือ อุทยานแห่งชาติมีท่าเทียบเรือ ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยว ในเขื่อนรัชชประภา มี 2 ท่าเรือด้วยกันคือ - ท่าเรือแพปลา - ท่าเรือการไฟฟ้า เรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ จะเป็นเรือของผู้ประกอบการเอกชน ท่านสามารถติดต่อได้ที่ท่าเรือแพปลาและท่าเรือการไฟฟ้า


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในอุทยานแห่งชาติเขาสก ท่านสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 18.00 น. และในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ท่านสามารถเข้าชม VCD แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเขาสกได้ในเวลา 10.30 น. เป็นต้นไป

เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลทั่วไป

คำว่า “สมุย” เป็นคำมาจากภาษาใดไม่ปรากฏแน่ชัด มีข้อสันนิษฐานต่างๆ นานา บ้างก็ว่ามาจากภาษาจีนไหหลำ “เช่าบ่วย” แปลว่า “ด่านแรก” หรือ “ประตูแรก” ซึ่งชาวจีนที่มาติดต่อค้าขายกับประเทศไทย ในสมัยก่อนมาแวะพักจอดเรือใช้เรียกเกาะสมุย แล้วออกเสียงเพี้ยนมาเป็น “สมุย” บ้างก็ว่ามาจากภาษาทมิฬ “สมอย” แปลว่าคลื่นลม บ้างก็ว่ามาจากชื่อต้นไม้ที่มีอยู่ทั่วไปในภาคใต้ คือ “ต้นหมุย” บ้างก็ว่า “สมุย” เป็นคำมลายู ซึ่งพวกแขกมลายูที่ติดต่อค้าขายกับประเทศไทยใช้เรียกเกาะสมุย

การเดินทาง

รถโดยสาร
มีบริการรถโดยสารปรับอากาศ และรถโดยสารธรรมดาจากกรุงเทพฯ เดินทางโดยตรงถึงเกาะสมุย โดยคิดราคารวมทั้งค่ารถและค่าเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง รายละเอียดติดต่อ บริษัท ขนส่งจำกัด สถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี โทร. 435-1200, 434-7192 และบริษัทโสภณทัวร์ โทร. 435-5023

เครื่องบิน
บริษัท บางกอกแอร์เวย์ เปิดบริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-หัวหิน-สมุย, ภูเก็ต-เกาะสมุย และอู่ตะเภา-เกาะสมุย บริการอีกด้วย สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 229-3456-65, 229-3434 (กรุงเทพฯ) หรือที่เกาะสมุย โทร. (077) 420133, 425012, 425010

เรือโดยสาร
1. เรือด่วน ของบริษัทส่งเสริมแทรเวิลเซ็นเตอร์ ออกจากท่าเรือท่าทอง ถ.ปากน้ำตาปี (ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร) ไปยังท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุยวันละ 2 เที่ยว เวลา 08.00 น. และ 14.30 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที อัตราค่าโดยสาร 115 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (077) 285124-6 สำนักงานเกาะสมุย โทร. (077) 421228, 421316-9

2. เรือเฟอร์รี่ ของบริษัทสมุยเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือดอนสัก (ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร) ไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ อ่าวท้องยาง เกาะสมุย ทุกวัน วันละ 8 เที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที อัตราค่าโดยสารคนละ 40 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (077) 371151, 371205 สำนักงานเกาะสมุย โทร. (077) 423026

3. เรือนอน ติดต่อได้ที่ท่าเทียบเรือบ้านดอน เรือออกเวลา 23.00 น. ถึงเกาะสมุย เวลา 05.00 น. อัตราค่าโดยสาร 50 และ 80 บาท

การเดินทางบนเกาะสมุย
มีรถสองแถววิ่งบริการรอบเกาะผ่านสถานที่ต่างๆ เช่น ท่าเรือหน้าทอน ท่าเรือเฟอร์รี่ ตลอดจนหาดต่างๆ อัตราค่าโดยสาร 15-35 บาท


ลักษณะภูมิประเทศ

เกาะสมุย ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวไทย เป็นอำเภอหนึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 84 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร กว้าง 21 กิโลเมตร ยาว 25 กิโลเมตร ถนนโดยรอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) ยาว 50 กิโลเมตร พื้นที่ 1 ใน 3 เป็นที่ราบ ล้อมส่วนที่เป็นภูเขาตรงกลางเกาะ

ลักษณะภูมิอากาศ

ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมเขตร้อน มี 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ฤดูหนาวเริ่มเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เป็นช่วงที่มีลมมรสุม และฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ซึ่งคลื่นลมสงบ

จุดเด่นที่น่าสนใจ

ชายหาด
เกาะสมุยมีชายหาดที่สวยงามอยู่หลายแห่งรอบเกาะ ส่วนชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อนกันมาก คือ หาดเฉวง และหาดละไม นอกจากนี้มีชายหาดที่อ่าวบางรัก บ้านบ่อผุด หาดหน้าทอน หาดท้องยาง หาดท้องตะเคียน และหาดเชิงมน เป็นต้น

น้ำตก
มีน้ำตกหินลาดและน้ำตกหน้าเหมือง (วนอุทยานน้ำตกหน้าเหมือง) ห่างจากท่าเรือหน้าทอน 3 กิโลเมตร และ 14 กิโลเมตร ตามลำดับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่นิยมกันมาก ในฤดูฝนมีน้ำมาก การประปาสุขาภิบาลอาศัยน้ำจากน้ำตกหินลาดทำน้ำประปาสำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนในตลาดหน้าทอน และบริเวณใกล้เคียงบริโภค

พระพุทธรูปใหญ่
มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชื่อ “พระพุทธโคดม” ขนาดหน้าตักกว้าง 5 วา 9 นิ้ว บริเวณเกาะฟาน เป็นที่ตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานสำหรับให้ผู้สนใจปฏิบัติธรรมพักอาศัยได้

พระธาตุหินงู
พระบรมสารีริกธาตุเกาะสมุย หรือชาวเกาะสมุยเรียกว่าพระธาตุหินงู หรือพระธาตุศิลางู อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย 17 กิโลเมตร ซึ่งตามประวัติสร้างโดยชาวบ้านตำบลมะเร็ด ชื่อนายศรีทอง และได้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2498 โดยเจ้าคุณพระอรรถทัศสิสุทธิพงศ์แห่งวัดชีโทน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นผู้มอบให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมาทรงนมัสการ เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2505 ชาวเกาะสมุยจึงถือเป็นประเพณีมีงานนมัสการสืบมา

เจดีย์แหลมสอ
เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อแดง พระภิกษุที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งของชาวเกาะสมุย มรณภาพเพราะเรืออับปาง เมื่อ พ.ศ. 2519 องค์พระเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีทองทั้งองค์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ริมทะเลเขตติดต่อระหว่างตำบลตลิ่งงาม-หน้าเมือง

พระพุทธบาทเขาเล่
เป็นพระพุทธบาท 5 รอย สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏ ตั้งอยู่ที่เขาเล่ เขตตำบลมะเร็ด ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย 15 กิโลเมตร

หินตา หินยาย
เป็นโขดหินรูปร่างประหลาด อยู่บริเวณอ่าวละไม ตำบลมะเร็ด มีนิทานท้องถิ่นเล่ากันต่อๆ มาว่า นานมาแล้ว มีตายายคู่หนึ่งชื่อ ตาเครง-ยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อจะไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชาย ครั้นเรือแล่นมาถึงบริเวณแหลมละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายเสียชีวิต คลื่นซัดขึ้นเกยหาดกลายเป็นหินที่เห็นในปัจจุบันนี้

สวนผีเสื้อสมุย
ตั้งอยู่บนเนินเขาติดทะเลทางทิศใต้ของเกาะสมุย บริเวณแหลมนาเทียน ห่างจากหมู่บ้านชาวประมงบ้านหัวถนน 3 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 20 ไร่ ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับนานาชนิด เพื่อเป็นแหล่งอาหารของผีเสื้อ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่จัดเป็นสวนผึ้ง สวนหิน จุดชมวิว พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารพื้นเมือง รวมทั้งมีที่พักไว้บริการด้วย สวนผีเสื้อสมุยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. อัตราค่าเข้าชมคนละ 50 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (077) 424020-22

สนามชนควาย
อยู่ห่างจากหน้าทอนประมาณ 4 กิโลเมตร การชนควายนี้เป็นกีฬาที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราวบนเกาะสมุย คล้ายกับกีฬาชนวัวของจังหวัดสงขลา โดยจะจัดขึ้นในโอกาสที่มีงานมงคล หรือเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่ เป็นต้น ปัจจุบันมีสนามชนควายหลายแห่งรอบเกาะสมุย เช่น สนามชนควายบ้านแม่น้ำ ละไม เฉวง และที่หน้าทอน กำหนดการวันชนควาย ติดต่อสอบถามได้ที่บังกะโลทุกแห่งบนเกาะสมุย

ศูนย์ลิงสมุย
ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเขาพระ หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อผุด มีการแสดง วัฒนธรรมพื้นบ้านไทยและการแสดงการฝึกลิงเปิดแสดงทุกวันๆ ละ 3 รอบ คือ 10.30 น. 14.00 น. และ 16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 80 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. (077) 245140

แหล่งดูปะการัง
อยู่บริเวณชายฝั่งของเกาะสมุย รวมทั้งที่อยู่ติดกับเกาะอื่นๆ เช่น เกาะเต้าปน เกาะส้ม เกาะมัดหลัง เกาะราเทียน และเกาะราหิน การเช่าเรือ และอุปกรณ์ดำน้ำติดต่อที่บังกะโลและบริษัทนำเที่ยวบนเกาะสมุย

เกาะแตน
ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลตลิ่งงาม ทางบริเวณตอนใต้ของเกาะสมุย เป็นเกาะที่งดงามด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ รอบๆ เกาะ และบริเวณเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะมัตสุม มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยงาม การเดินทางต้องเช่าเรือหางยาว จากบริเวณอ่าวท้องกรูด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที บนเกาะมีที่พักบริการ

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: เทศกาล งานประเพณี

ประเพณีชักพระ-ทอดผ้าป่า และแข่งเรือยาว
จัดขึ้นในวันออกพรรษา (แรม 1 ค่ำ เดือน 11) แต่ละวัดจะทำบุษบกหรือพนมพระ ตกแต่งอย่างสวยงาม ตรงกลางบุษบกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ตามคติทางพุทธศาสนาแล้วให้ประชาชนลากไป เมื่อเสร็จพิธีลากพระ (ทั้งบนบกและในน้ำ) จะนำพรไปทำความสะอาดแล้วมีพิธีสงฆ์สมโภชพระลากในตอนค่ำ โดยจะมีพระสงฆ์มาเทศน์เกี่ยวกับการเสด็จของพระพุทธเจ้า จากดาวดึงส์ลงสู่โลกมนุษย์

ส่วนการทอดผ้าป่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
จะแตกต่างไปจากที่อื่นๆ คือ เป็นการทอดผ้าป่าหน้าบ้าน โดยจะเริ่มงานตั้งแต่ 1 นาฬิกาของวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 สำหรับพุ่มผ้าป่าจะตกแต่งอิงเรื่องราวพุทธประวัติ และจะทำพิธีถวายพุ่มผ้าป่าในตอนเช้าของแรม 1 ค่ำ เดือน 11

งานวันเงาะโรงเรียน
จัดขึ้นประมาณต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี เพื่อนำผลิตผลเงาะโรงเรียน และผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ มาแสดงและจำหน่ายแก่ผู้สนใจ

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: ของฝาก ของที่ระลึก

ไข่เค็มไชยา
เป็นไข่เค็มที่มีชื่อเสียงกล่าวขวัญกันทั่วไป การทำไข่เค็มไชยา ใช้ไข่เป็ดจากอำเภอไชยา ซึ่งมีไข่แดงมากและไม่คาวเหมือนไข่เป็ดทั่วไป จากนั้นเอาดินจากจอมปลวกมาตำให้ละเอียด ร่อนเอาเฉพาะที่ละเอียด แยกเอากรวด ทราย ออกให้หมด คลุมด้วยน้ำและเกลือให้ดินค่อนข้างเหนียว แล้วเอาดินนี้หุ้มไข่เป็ด หลังจากนั้นนำไปคลุมกับขี้เถ้าแกลบ เป็นอันเสร็จกระบวนการทำไข่เค็มไชยา แล้วจึงนำมาบรรจุหีบห่อเพื่อจำหน่าย มีฉลากบอกระยะเวลาไว้ว่าเมื่อใดเหมาะสำหรับทอดไข่ดาว เมื่อใดเหมาะสำหรับต้ม

ผ้าไหมพุมเรียง
การทอผ้าไหมพุมเรียงเป็นงานหัตถกรรมที่ทำกันในหมู่บ้านไทยมุสลิม ซึ่งเข้าใจว่าแต่เดิมคงเป็นพวกแขกที่อพยพ หรือถูกกวาดต้อนมาจากไทรบุรี พร้อมๆ กับช่างทอผ้าที่เมืองนครศรีธรรมราช บ้างก็สันนิษฐานว่า ไทยอิสลามที่พุมเรียงอาจจะเป็นชาวปัตตานี เพราะอารยธรรมสูงกว่าที่อื่น แล้วมาอาศัยอยู่ที่ตำบลพุมเรียง การทอผ้าพุมเรียง ชาวบ้านไม่ได้เลี้ยงไหมเอง ไหมที่ใช้ทอเป็นไหมจากญี่ปุ่น และสั่งซื้อจากกรุงเทพฯ โดยนิยมทอผ้าด้วยกี่กระตุก ลวดลายต่างๆ ที่ประดิษฐ์ขึ้นเป็นของชาวบ้านพุมเรียง โดยเฉพาะในปัจจุบัน มี 5 ลาย ได้แก่ ลายราชวัตร ลายดอกพิกุล ลาบดอกโคม ลายนพเก้า และลายยกเบ็ด

ขนมจั้ง
ขนมจั้งนิยมทำกันมากในอำเภอไชยา เครื่องปรุงขนมชนิดนี้ ประกอบด้วยข้าวเหนียว น้ำ และน้ำด่าง โดยนำข้าวสารเหนียวแช่น้ำด่างประมาณ 3-5 ชั่วโมง ต่อจากนั้นนำข้าวสารเหนียวมาห่อด้วยใบไผ่แนะ ห่อเสร็จเรียบร้อยแล้วนำจั้งไปต้มจนกว่าจะสุก ก็จะได้จั้งตามที่ต้องการ ส่วนใหญ่นิยมรับประทานกับน้ำเชื่อม หรือน้ำกะทิก็ได้

หมวกพุมเรียง
หมวกพุมเรียงเป็นงานหัตถกรรม ที่ชาวพุมเรียงทำสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าเริ่มทำกันมาตั้งแต่สมัยใด รู้แต่ว่าทำกันมากในกลุ่มของชาวพุทธซึ่งอยู่กันคนละฝั่งกับชาวไทยมุสลิมในตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา การทำหมวกพุมเรียงทำจาก วัสดุหลายอย่างด้วยกันคือ ปอแก้ว ใบลาน หรือใบตาล ลักษณะของหมวกพุมเรียงที่แปลกไปจากหมวกสานของที่อื่นคือ การสานจะเป็นลักษณะเส้นยาวก่อนแล้วจึงนำมาเย็บเป็นรูปทรงหมวกภายหลัง ซึ่งหมวกลักษณะนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า หมวกรานี

หอยขาวพุมเรียง
เป็นอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงของอำเภอไชยา และสามารถหาบริโภคได้เฉพาะที่พุมเรียงเท่านั้น

หอยนางรม
หอยนางรมสุราษฎร์ธานีเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่นักบริโภคว่าเป็นอาหารทะเลที่รสชาติขึ้นชื่อ คุณสมบัติที่สร้างคุณค่าหอยนางรมคือ เนื้อในขาวสะอาด รสออกหวาน ไม่มีกลิ่นคาว มีคุณค่าทางอาหารสูง หอยนางรมเริ่มเพาะเลี้ยงประมาณปี 2504 ทดลองเลี้ยงที่แหลมซุย อำเภอไชยา ต่อมาได้เพาะเลี้ยงที่บริเวณปากคลองท่าทอง และปากคลองกะแดะ อำเภอกาญจนดิษฐ์

หอยนางรมมี 2 ชนิดคือ ชนิดพันธุ์เล็ก เรียกว่าหอยเจาะ ชนิดพันธุ์ใหญ่ เรียกว่าหอยตะโกรม ลักษณะเป็นหอยมี 2 ฝา พบทั่วไปบริเวณน้ำตื้นชายฝั่ง หอยนางรมจะออกวางไข่ตลอดปี แต่จะพบมากในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน หอยนางรมจะวางไข่ครั้งหนึ่งประมาณ 1-9 ล้านฟอง

เงาะพันธุ์โรงเรียน
เป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และของประเทศ เป็นเงาะที่มีรสชาติหวานและกรอบ ปลูกกันมากในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลมีลักษณะโต เปลือกบาง แม้สุกจัดปลายเส้นขนยังมีสีเขียว ลักษณะต้นเป็นพุ่มไม่สูง

ขนมจีน
เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของสุราษฎร์ธานีอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งหารับประทานได้ง่ายบริเวณตลาดวัดไทร ในตอนกลางคืน

ขนมจิ้นแด้
เป็นขนมที่มีรสชาติอร่อย หาซื้อได้ง่าย บริเวณตลาดวัดไทรในช่วงตอนกลางคืน

สะตอ
เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่อำเภอคีรีรัฐนิคม ซึ่งจะมีชุกในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอดอนสัก

วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์
อยู่ห่างจากชุมชนอำเภอดอนสัก 1 กิโลเมตร จะมีทางราดยางเข้าไปจนถึงบริเวณวัด บนยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้มา จากวัดพระเกียรติ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ พระครูสุวรรณประดิษฐ์การ หรือหลวงพ่อจ้อย เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคใต้เป็นผู้บุกเบิกสร้างขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525

น้ำตกวิภาวดี หรือน้ำตกบ้านใน
อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 401 บริเวณกิโลเมตรที่ 60-61 หรือ 38 กิโลเมตร จากตัวเมืองตรงทางแยกจะเลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอดอนสัก น้ำตกวิภาวดีเป็นน้ำตกขนาดกลาง มีประชาชนนิยมเดินทางมาพักผ่อนกันมากในวันหยุดสุดสัปดาห์

จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี มีรถโดยสารประจำทางผ่าน 2 เส้นทางคือ สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี-ดอนสัก

วังหิน
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ต.ดอนสัก ห่างจากอำเภอดอยสักไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ มีโขดหินตั้งเรียงรายกลมกลืนกับชายฝั่งทะเลเหมาะแก่การไปเที่ยว มีบริการบ้านพักให้เช่าทั้งแบบบ้านตากอากาศ (บังกะโล) และเรือนแถว

ท่าเรือเฟอร์รี่
อยู่บริเวณแหลมกุลา หมู่ที่ 10 ตำบลดอนสัก อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอ ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นท่าเรือข้ามฟากขนาดใหญ่ รับคนโดยสารเดินทางไปเกาะสมุย บริเวณท่าเรือเป็นเนินเขาเตี้ยๆ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ มีถนนตัดเชื่อมระหว่างท่าเรือกับหาดนางกำ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอดอนสัก

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอคีรีรัฐนิยม

วัดถ้ำสิงขร
เป็นวัดที่เก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีถ้ำขนาดใหญ่ หน้าถ้ำมีเจดีย์สร้างเลียนแบบสมัยศรีวิชัย ประดับด้วยถ้วยชามโบราณ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปนั่งห้อยขาขนาดใหญ่ รูปปูนปั้นเทวดา ยักษ์ สัตว์ในเทพนิยาย ส่วนฝาผนัง เพดานถ้ำประดับด้วยถ้วยชามโบราณลวดลายโบราณ

บ่อน้ำร้อน
ก่อนถึงวัดถ้ำสิงขร มีทางแยกซ้ายมือ เป็นทางดินลูกรังประมาณ 1 กม. เป็นที่ตั้งบ่อน้ำร้อนทั้งหมด 8 บ่อ บ่อที่ร้อนที่สุดอุณหภูมิประมาณ 50 องศาเซลเซียส

การเดินทางไปจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ถึง กม. ที่ 34 ทางขวามือ มีป้ายชี้ทางไปวัดถ้ำสิงขร เป็นถนนราดยาง ระยะทาง 3.5 กม.

จังหวัดสุราษฎร์ธานี :: สถานที่ท่องเที่ยว กิ่งอำเภอวิภาวดี

น้ำตกวิภาวดี
ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน หมู่ที่ 8 ตำบลตะกุกใต้ กิ่งอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไปตามทางหลวงหมายเลข 41 ประมาณ 45 กิโลเมตร จะมีป้ายชี้ทางเข้ากิ่งอำเภอวิภาวดี (ก่อนถึงสี่แยกบ้านควนรา-หนองน้ำจืด) เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการกิ่งอำเภอวิภาวดี และจากที่ทำการกิ่งอำเภอฯ ไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาสู่ตัวน้ำตก ตรงป้ายชี้ทางเข้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยันอีกประมาณ 8 กิโลเมตร

เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ข้อมูลทั่วไป

เกาะพะงัน อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ ประมาณ 20 กิโลเมตร และอยู่ห่างตัวจังหวัดประมาณ 100 กิโลเมตร เกาะพะงันมีเนื้อที่ประมาณ 170 ตารางกิโลเมตร

การเดินทาง

สุราษฎร์ธานี-เกาะพะงัน
1. เรือเฟอร์รี่ ของบริษัท เฟอร์รี่ไลน์และส่งเสริม ทราเวลเซ็นเตอร์ ออกจากท่าเรือท่าทอง ถ.ปากน้ำตาปี (ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 5 กิโลเมตร) เวลา 08.30 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง อัตราค่าโดยสาร 105 บาท

2. เรือด่วน ของบริษัท เฟอร์รี่ไลน์และส่งเสริมทราเวลเซ็นเตอร์ ออกจากท่าเรือท่าทอง วันละ 2 เที่ยว เวลา 08.00 น. และ 14.30 น. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง อัตราค่าโดยสาร 145 บาท

3. เรือนอน ติดต่อได้ที่ท่าเทียบเรือบ้านดอน เรือออกเวลา 23.00 น. ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสาร 60 และ 90 บาท

เกาะสมุย-เกาะพะงัน
เรือด่วนของบริษัทเฟอร์รี่ไลน์และส่งเสริมทราเวลเซ็นเตอร์ ออกจากท่าเรือหน้าทอน วันละ 2 เที่ยว เวลา 10.30 น. และ 17.00 น. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที อัตราค่าโดยสาร 65 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อบริษัทเฟอร์รี่ไลน์และส่งเสริมทราเวิลเซ็นเตอร์ โทร. (077) 285124-6 สำนักงานเกาะสมุย โทร. (077) 421228, 421316-9 และสำนักงานเกาะพะงัน โทร. (077) 377046


ลักษณะภูมิประเทศ

ลักษณะภูมิประเทศของเกาะพะงัน มีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบบริเวณทางทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทางทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็กอ่าวน้อยเรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู

ลักษณะภูมิอากาศ

ช่วงมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่าน ซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว

จุดเด่นที่น่าสนใจ

ท้องศาลา
เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอเกาะพะงัน เป็นศูนย์กลางของการติดต่อค้าขายของธุรกิจต่างๆ มีอ่าวจอดเรือที่สวยงาม สถานที่แห่งนี้เป็นตัวอำเภอ แต่ที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจอยู่ห่างจากตลาดประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ ในตลาดมีห้องแถวเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างถนน มีธนาคาร บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และเป็นจุดเริ่มต้นในการไปเที่ยวยังที่ต่างๆ ของอำเภอ

พระพุทธบาทจำลอง
พระพุทธบาทบนภูเขาถ้ำซึ่งชาวบ้านเรียกว่า วัดเขาถ้ำ อันเป็นสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนยอดเขาข้าวแห้ง อยู่ที่หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านใต้ สำนักสงฆ์แห่งนี้เรียกเป็นทางการว่า “สวนสุวรรณโชติการาม” เป็นสถานที่ร่มรื่นสวยงามมาก อากาศเย็นสบาย มีกุฏิพระ ศาลา มีมณฑป พระพุทธบาทจำลองรูปปั้นแม่พระธรณีกำลังหลั่งน้ำอุทกธาร และพระปางป่าเลย์ไลยก์ เมื่อขึ้นไปเที่ยว ณ สำนักสงฆ์แห่งนิ และขึ้นไปบนเนินหินสูงที่สร้างมณฑป จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะได้ ทางไหล่เขาด้านหลังมีคูหา หรือถ้ำซึ่งเป็นเพิงหินเนื่องจากมีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่บนหินสองด้าน ทำให้ตรงกลางได้ก้อนหินใหญ่เป็นคูหา ปัจจุบันได้มีการสร้างเพิ่มเติมสำหรับวิปัสสนากรรมฐาน เนื่องจากมีเพิงหิน หรือถ้ำ เหตุนี้เองจึงได้ชื่อว่า “วัดเขาถ้ำ” นับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักความสงบ

การเดินทางไปยังวัดเขาถ้ำ สามารถเดินทางไปโดยการเช่าเหมารถยนต์และรถจักรยานยนต์จากท้องศาลา ซึ่งมีระยะทางจากท้องศาลาไปถึงปากทางขึ้นวัดเขาถ้ำ ระยะทาง 3 กม. และจากปากทางขึ้นไปบนวัดเขาถ้ำอีก 1 กม.

พระเจดีย์ภูเขาน้อย
ตั้งอยู่บนยอดเขาเช่นกัน นับว่าเป็นปูชนียสถานแห่งหนึ่งของเกาะพะงัน ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อเพชร มีพระเก่าและเจดีย์เก่าๆ อยู่เป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของเกาะพะงัน ซึ่งเดือน 9 ของทุกปี ชาวเกาะพะงันจะไปทำบุญที่วัด

การเดินทาง พระเจดีย์ภูเขาน้อยอยู่ห่างจากตัวอำเภอเกาะพะงัน 2 กม. ซึ่งสามารถเดินทางโดยรถสองแถวและมอเตอร์ไซด์รับจ้างจากท้องศาลา

พระพุทธบาทจำลองบนภูเขาวัดมธุรวราราม (วัดมะเดื่อหวาน)
อยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะพะงัน บนยอดเขานี้มีมณฑปพระพุทธบาทจำลอง จากเชิงเขาจะมีบันไดขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทนับว่าสะดวกสบายมาก สำหรับพระพุทธบาทแห่งนี้ จะมีงานประเพณีนมัสการเป็นประจำทุกปี

การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถสองแถว และมอเตอร์ไซด์รับจ้างจากท้องศาลา ซึ่งมีระยะทางจากท้องศาลาไปพระพุทธบาทจำลอง ระยะทาง 3 กม. ราคาประมาณ 10-15 บาท

เกาะแตใน
เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่หน้าอ่าวท้องศาลา ห่างจากฝั่งท้องศาลาประมาณ 400 เมตร สามารถพายเรือเล็กไปเที่ยวได้ตลอดเวลา บนเกาะจะมีแหลมทรายขาวสะอาดยื่นออกมา กลางทะเล นอกจากนี้ ยังสามารถพายเรือเที่ยวรอบๆ เกาะได้ หากมองลงไปในน้ำจะเห็นความสวยงามใต้ท้องทะเล ซึ่งเต็มไปด้วยฝูงปลาน้อยใหญ่ โขดหินที่ตั้งระเกะระกะ ปะการัง และอื่นๆ มีสีสันแปลกๆ สวยงามมาก ประกอบกับบริเวณรอบเกาะมีถ้ำสวยงามหลายแห่ง ปากถ้ำบางแห่งเป็นที่เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน นับว่าที่แห่งนี้เป็นที่น่าเที่ยวแห่งหนึ่งของเกาะพะงัน

การเดินทาง สามารถนั่งเรือจากท้องศาลาประมาณ 10 นาที ก็ถึงเกาะแตใน ค่าเรือประมาณ 10-15 บาท ระยะทางจากท้องศาลาถึงเกาะแตใน 1 กม. เท่านั้น

วนอุทยานน้ำตกแพง
ที่แห่งนี้ได้ประกาศเป็นวนอุทยาน เมื่อปี พ.ศ. 2520 มีสิ่งสำคัญเช่น น้ำตกแพง เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะพะงัน สถานที่ร่มรื่นด้วยเงาไม้น้อยใหญ่ที่มีอยู่สองฟากลำธาร เมื่อเดินเลาะไปตามลำธารขึ้นไปเหนือน้ำ ก็จะพบผาน้ำตกที่สูง 2-3 แห่ง มีน้ำตกไหลลงมากระทบโขดหินเบื้องล่างน้ำตกแตกกระจายเป็นฝอยสีขาวคล้ายสำลี เป็นภาพที่มองดูสวยงามยิ่งนัก เมื่อก่อนนี้ในฤดูฝนน้ำตกแห่งนี้จะมีเสียงดังไปเกือบทั่วเกาะเลยทีเดียว

การเดินทาง สามารถเดินทางไปได้ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ระยะทางจากท้องศาลาไปประมาณ 5 กม. โดยการเช่าเหมารถ

ต้นยางใหญ่
เป็นต้นไม้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เส้นรอบวงประมาณ 14 เมตร ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใต้ อำเภอเกาะพะงัน ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 5 กิโลเมตร

การเดินทาง สามารถติดต่อรถได้ที่ท้องศาลา ซึ่งจะมีรถสองแถววิ่งอยู่ระหว่างท้องศาลา-บ้านค่าย ค่าโดยสารประมาณคนละ 20-30 บาท

หาดริ้น
ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านใต้ อำเภอเกาะพะงัน ระยะทางห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยที่สุดและมีชื่อเสียงของเกาะพะงัน ความยาวของหาดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปหาดริ้นโดยเรือหางยาว จากท้องศาลาและจากบ้านค่าย ค่าเรือประมาณคนละ 30 บาท และ 20 บาทตามลำดับ ส่วนทางรถยนต์จากท้องศาลาค่าโดยสารประมาณ 50 บาท

น้ำตกธารเสด็จ
น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวมาช้านานแล้ว อยู่ที่ตำบลบ้านใต้ สามารถไปได้ทั้งทางเรือและทางรถ แต่ถ้าไปทางเรือเมื่อเริ่มเข้าอ่าวธารเสด็จจะพบความงามของภูเขาโขดหินที่มีรูปร่างแปลกๆ และหาดทรายสีขาวดุจสีเงินยวง เมื่อขึ้นจากเรือแล้วเดินขึ้นไปไม่ไกลนักก็จะพบกับลำธารมีกระแสน้ำไหลผ่านปะทะแก่งหินที่มีอยู่มากมาย ทำให้เกิดเสียงดังตามความเร็วของกระแสน้ำ เมื่อเดินขึ้นไปตามต้นน้ำจะพบหินก้อนหนึ่งใต้ต้นไม้ ที่หินก้อนนี้มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ปปร. ภปร. ซึ่งได้จารึกเอาไว้เมื่อครั้งพระองค์ได้เสด็จมาที่นี่ น้ำตกธารเสด็จไม่เหมือนน้ำตกแห่งอื่นๆ ด้วยเหตุว่าน้ำตกนี้เป็นธารน้ำไหลจากภูเขาแล้วตกมาเป็นช่วงๆ ตามสภาพของแก่งหินแต่ละตอนจึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปพักผ่อนหย่อนใจยามว่างได้เป็นอย่างดี

การเดินทาง สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางเรือและทางรถ ในช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม ไม่สามารถนั่งเรือไปน้ำตกได้ และถ้าเป็นทางรถจะต้องเป็นรถขนาดใหญ่จึงจะสามารถเดินทางไปได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนการเดินทางจะลำบากมาก เพราะทางที่ผ่านจะเป็นทางลาดชันตลอดและเป็นภูเขาสูง การเดินทางจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

อ่าวท้องนายปาน
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านใต้ อำเภอเกาะพะงัน ระยะทางห่างจากตัวอำเภอประมาณ 23 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยอันดับสองรองจากหาดริ้น สามารถเดินทางไปอ่าวท้องนายปานได้ทั้งทางเรือและทางรถยนต์ แต่ถ้าเป็นฤดูฝนจะเดินทางได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น ค่าเช่ารถและเรือจะต้องติดต่อและตกลงราคากันเองที่ท้องศาลา

บ้านโฉลกหลำ
เป็นอ่าวอยู่ทางทิศเหนือของเกาะพะงัน เป็นอ่าวลึกกำบังคลื่นลมในบางฤดูได้เป็นอย่างดี แต่บางฤดูคลื่นลมจัดมากเรือเข้าจอดเทียบท่าไม่ได้ นับได้ว่าบ้านโฉลกหลำเป็นที่เจริญแห่งหนึ่งของเกาะพะงัน เวลาคลื่นลมสงบจะมีเรือประมงเข้ามาจอดเป็นจำนวนมาก ประมาณ 80-100 ลำ ระยะนี้หมู่บ้านแห่งนี้จะมีความคึกคัก มีประชาชนหนาแน่นทั้งกลางวันและกลางคืน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็จะตั้งร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ เช่นเดียวกับในตลาดใหญ่ สินค้าที่มีชื่อที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อกลับไปฝากคนที่อยู่ทางบ้านได้ก็คือปลาหมึกตากแห้ง

การเดินทาง จากท้องศาลา จะมีรถสองแถวไว้บริการ ค่าโดยสารประมาณคนละ 20 บาท มีรถบริการตลอดทั้งวัน ระยะทางประมาณ 15 กม.

ศาลเจ้าแม่กวนอิม
ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านโฉลกหลำ ระยะทางจากท้องศาลาประมาณ 9 กม. สร้างเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2536 เป็นที่สักการะของคนที่เดินทางผ่านไปผ่านมา เมื่อขึ้นไปถึงหน้าศาลจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะพะงัน ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากจุดหนึ่ง

การเดินทาง สามารถติดต่อรถสองแถวสายท้องศาลา-บ้านโฉลกหลำ ซึ่งเป็นรถประจำทาง ราคาค่าโดยสาร คนละประมาณ 30 บาท

หาดแม่หาด
ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านโฉลกหลำ อำเภอเกาะพะงัน ห่างจากที่ว่าการอำเภอ 15 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามอีกหาดหนึ่งของเกาะพะงัน นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังชายหาดดังกล่าว สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ท้องศาลา ราคาประมาณ 50-100 บาท

อ่าวศรีธนู
ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะพะงัน ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยเป็นอันดับสามของเกาะพะงัน แต่ถ้าเป็นหน้ามรสุมคลื่นลมจะแรงมาก และไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ การเดินทางสามารถติดต่อเช่ารถได้ที่ท้องศาลา ราคาเช่าเหมาประมาณ 200-300 บาท

0 ความคิดเห็น: