วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน

:: จังหวัดลำพูน ::

" พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำใยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวีศรีหริภุญชัย "

จังหวัดลำพูน :: ข้อมูลทั่วไป

ลำพูน เป็นจังหวัดที่เก่าแก่ที่สุดในภาคเหนือ เดิมมีชื่อว่า “นครหริภุญชัย” สร้างเมื่อ พ.ศ. 1200 โดยฤาษีวาสุเทพ ได้เกณฑ์พวกเมงคบุตรเชื้อสายมอญมาสร้างระหว่างแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำปิง และแม่น้ำกวง เมื่อสร้างเสร็จได้เชิญพระธิดาพระมหากษัตริย์แห่งกรุงละโว้ พระนามว่า “จามเทวี” มาครองเมือง มีกษัตริย์ครองเมืองหลายราชวงศ์ จนมาถึงสมัยกรุงธนบุรี เจ้ากาวิละได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้ากรุงธนบุรี ทำการขับไล่พม่าจนสำเร็จได้ไปครองเมืองเชียงใหม่ และให้เจ้าคำฝั้นน้องชายครองเมืองลำพูน ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ลำพูนมีฐานะเป็นเมืองขึ้น มีเจ้าผู้ครองนครสืบต่อกันมาจนถึงพลตรีเจ้าจักรคำขจรศักดิ์เป็นเจ้าผู้ครองนคร และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 จึงได้ยกเลิกตำแหน่งเจ้าผู้ครองนคร

จังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในภาคเหนือ มีเนื้อที่ 4,407 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,800 ฟุต มีแม่น้ำสำคัญไหลผ่าน 4 สาย คือ แม่น้ำปิง แม่น้ำกวง แม่น้ำทา และแม่น้ำลี้

ลำพูน แบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน อำเภอป่าซาง อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอแม่ทา อำเภอลี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอบ้านธิ และกิ่งอำเภอเวียงหนองล่อง

อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสารภี อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอห้างฉัตร อำเภอสบปราบ และ อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง อำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่


ระยะทางจากจังหวัดลำพูนไปสถานที่ใกล้เคียง
ลำพูน-เชียงใหม่ 21 กิโลเมตร
ลำพูน-ลำปาง 71 กิโลเมตร
ลำพูน-ตาก 244 กิโลเมตร

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 053)
สำนักงานจังหวัดลำพูน
511-000

ททท.สำนักงานภาคเหนือเขต 1
248-604 , 248-607 , 241-446

สถานีตำรวจภูธร
511-042

ตำรวจทางหลวง จ.ตาก
(055) 511-340

ตำรวจท่องเที่ยว
1155

ตู้ยามแม่สอด
(055) 532-222

ตู้ยามคลองขลุง
(055) 781-445

ที่ทำการไปรษณีย์
511-041

สถานีรถไฟลำพูน
511-016

สถานีขนส่ง
511-173

รพ.ลำพูน
(054) 511-233 , 511-034

รพ.ลี้
(054) 599-141

รพ.ป่าซาง
(054) 521-222

รพ.บ้านโฮ่ง
(054) 591-232

รพ.แม่ทา
(054) 549-014

รพ.ทุ่งหัวช้าง
(054) 597-020


จังหวัดลำพูน :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก ห่างจากศาลากลางจังหวัดไปทางทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมารได้เสด็จมาทรงเปิดเมื่อ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2525 สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์ของนครหริภุญชัย ผู้ทรงมีคุณธรรม และเป็นนักปราชญ์ผู้กล้า

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย
ตั้งอยู่เยื้องกับวัดพระธาตุหริภุญชัย เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2470 โดยพระยาราชนกุลวิบูลย์ภักดีสมุหเทศาภิบาล มณฑลพายัพ ต่อมากรมศิลปากรได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2517 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคารเมื่อ พ.ศ. 2522 ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปะสมัยหริภุญชัย ซึ่งมีอายุก่อนพุทธศตวรรษที่ 17-19 และศิลปะล้านนา มีอายุในราวกลางพุทธศตรวรรษที่ 19-25 เปิดทำการเวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์ อังคาร และวันนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. (053) 511-186

วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้านคือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทางทิศตะวันออก และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ ภายในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัยยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ

ซุ้มประตู
ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้นๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่ง ยืนเป็นสง่าบนแท่นสูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม

วิหารหลวง
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้ว จะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า “วิหารหลวง” เป็นวิหารหลังใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไป เมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนกิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทองบนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์

พระบรมธาตุหริภุญชัย
(ตั้งอยู่หลังวิหารหลวง) เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้วย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติบัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานบานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือและทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป พระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในวันเพ็ญเดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 1440 พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนครลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำ บรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริมกันต่อมาอีกหลายสมัย ต่อมาในปี พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้ทรงกระทำการปฏิสังขรณ์บูรณะเสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่ การสร้างคราวนี้ได้สร้างโครงขึ้นใหม่เป็นรูปแบบลังกา ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีความสัมพันธ์กับลังกาอยู่มาก

พระสุวรรณเจดีย์
สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางขวาของพระบรมธาตุ สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ภายหลังเมื่อสร้างพระธาตุฯ เสร็จแล้วได้ 4 ปี พระสุวรรณเจดีย์องค์นี้เป็นรูปแบบพระปรางค์ 4 เหลี่ยม ฝีมือช่างละโว้มีพระพุทธรูปประจำซุ้ม ฝีมือและแบบขอมหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่ ภายใต้ฐานล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม ซึ่งเป็นพระเครื่องชนิดหนึ่ง

อนุสาวรีย์สุเทวฤาษี
ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน สุเทวฤาษีเป็นผู้สร้างหริภุญชัย (ลำพูน) เนื่องจากตนเป็นผู้บำเพ็ญสมาบัติ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก จึงไปเชิญพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นพระธิดาของพระยาจักวัติแห่งเมืองละโว้ มาปกครองเมืองหริภุญชัยแทนตน และยังได้ช่วยเหลือพระนางจามเทวี ประดิษฐานพระบวรพุทธศาสนาลงในนครหริภุญชัยอย่างมั่นคง

วัดมหาวัน
อยู่ห่างจากกลางเมืองลำพูนราว 2 กม. เลียบไปตามคูเมืองเก่าด้านตะวันตก มีตำนานการสร้างวัดว่า วัดนี้สร้างมาแต่ครั้งพระนางจามเทวีขึ้นมาครองหริภุญชัย สิ่งที่น่าชมคือ พระพุทธรูปนาคปรกที่เชื่อกันว่าคือ พระพุทธสิกขิ หรือพระศิลาดำ ซึ่งพระนางจามเทวีอัญเชิญมาจากกรุงละโว้ ปัจจุบันชาวเมืองเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระรอดหลวง หรือพระรอดลำพูน ซึ่งมีความสำคัญ และเป็นแบบพิมพ์ในการจำลองทำพระเครื่องที่ลือชื่อกรุหนึ่งคือ พระรอดมหาวัน

วัดจามเทวี
หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดเจดีย์กู่กุด ตั้งอยู่ริมถนนจามเทวี ตำบลในเมือง ห่างจากตัวศาลากลางจังหวัดไปทางทิศตะวันตก 1.5 กม. ตามถนนสายลำพูน-สันป่าตอง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1298 เป็นฝีมือช่างละโว้ ลักษณะพระเจดีย์ภายในวัดเป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย มีพระพุทธรูปปางประทานพรยืนเป็นชั้นๆ ชั้นละ 3 องค์ ด้านหนึ่งมี 5 ชั้น จึงมีพระพุทธรูปด้านละ 15 องค์ ทั้ง 4 ด้าน รวมเป็น 60 องค์ ภายในบรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ตามตำนานเล่าว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางเมื่อปี พ.ศ. 1298 เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบชัด ยอดพระเจดีย์หักหายไปชาวบ้านจึงเรียกว่า “กู่กุด” หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏิ”

นอกจากนั้นยังมีรัตนเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่ทางขวาของวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8 เหลี่ยม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร ตัวเจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์

วัดพระยืน
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดพระธาตุหริภุญชัย ที่บ้านพระยืน ตำบลเวียงทอง ข้ามลำน้ำกวง ไปทางสะพานท่าสิงห์ มีชื่อเดิมว่าวัดพุทธมหาสถาน ซึ่งพระเจ้าธรรมิกราฃ กษัตริย์หริภุญไชยเป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1606-1611 พระเจดีย์วัดพระยืนในสภาพปัจจุบัน เป็นพระเจดีย์ทรงมณฑป คล้ายคลึงกับอานันทเจดีย์ที่เมืองพุกาม และพระเจดีย์วัดป่าสัก จังหวัดเชียงราย

กู่ช้าง-กู่ม้า
เป็นโบราณสถาน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ตั้งอยู่บริเวณชุมชนวัดไก่แก้ว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร กู่ช้างเป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชื่อ “ภูก่ำงาเขียว” ซึ่งหมายถึงช้างผิวสีคล้ำ งาสีเขียวที่ทรงอานุภาพและอิทธิฤทธิ์ในสงคราม ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสของพระนางจามเทวี

อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
ตั้งอยู่เชิงดอยติ บริเวณวัดพระธาตุดอยติ ตำบลป่าสัก อ. เมืองลำพูน ห่างจากตัวเมืองลำพูนประมาณ 5 กม. บนถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง พระครูบาศรีวิชัยเป็นพระเถรเจ้า นักพัฒนาแห่งล้านนาไทย ผู้พัฒนาทั้งด้านจิตใจ และด้านถาวรวัตถุให้แก่ชาวล้านนาไทยไว้อย่างอเนกอนันต์ ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2421-2481 ถิ่นฐานบ้านเดิมของท่านอยู่ที่ ต. แม่ตื่น อ. ลี้ จึงเป็นความภูมิใจอย่างใหญ่หลวงของชาวลำพูน ที่ได้เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา

ศูนย์ศิลปหัตถกรรมผ้าไหมยกดอกเพ็ญศิริ
ตั้งอยู่ที่ถนนนลำพูน-ดอยติ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากตัวเมือง ตำบลเวียงยอง เป็นสถานที่จัดแสดงและอนุรักษ์งานฝีมือผ้าไหมยกดอก ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมท้องถิ่นอันทรงคุณค่า ภายในมีการสาธิตขั้นตอนการผลิตผ้าไหมยกดอก การสาวไหม การย้อมไหมและการทอ ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้เป็นความรู้ เปิดให้เข้าชมทุกวันระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. (053) 537512-3

สวนสานน้ำแร่
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 9 บ้านหนองหล่ม ตำบลศรีบัวบาน ไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ลำปางประมาณ 7 กิโลเมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถอาบน้ำแร่จากธรรมชาติ รับประทานอาหารพื้นเมืองรสอร่อย

ดอยขะม้อ
เป็นชื่อเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง มีรูปทรงสัณฐานคล้ายฝาชี สูงประมาณ 5 เส้น อยู่ในเขตตำบลมะเขือแจ้ อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกประมาณ 20 กม. ตั้งอยู่หลังนิคมอุตสาหกรรมลำพูน เป็นภูเขาไฟโบราณ บนยอดมีปล่องกว้าง 3 เมตร ลึกประมาณ 6 เมตร ตอนล่างเป็นบ่อมีน้ำตลอดปี ประชาชนนับถือกันมาแต่โบราณว่า เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ห้ามผู้หญิงตัก เวลาถึงเทศกาลสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย จะต้องตักน้ำจากบ่อนี้ไปปนกับน้ำพระราชทาน แล้วจึงนำขึ้นสรงองค์พระธาตุ และเวลาพระมหากษัตริย์ไทยเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ จะต้องนำน้ำในบ่อนี้อัญเชิญไปร่วมเป็นน้ำพุทธาภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทุกครั้ง

บ้านหนองช้างคืน
เป็นแหล่งผลิตลำไยที่ใหญ่ที่สุด อยู่ก่อนถึงเมืองลำพูน 8 กม. โดยจะผ่านบ้านป่าเหว มีป้ายบอกทางเลี้ยวขวาเข้าบ้านหนองช้างคืน ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง ตรงเข้าไปประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะถึงหมู่บ้านหนองช้างคืน ตลอดสองฝั่งทางที่ลดเลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านจะเนืองแน่นด้วยสวนลำไย ที่นี่จึงเป็นแหล่งผลิตลำไยที่สำคัญ เดือนสิงหาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลลำไยลำพูน จัดขึ้นในอำเภอเมือง ในงานนี้จะมีการประกวดรถประเภทสวยงามที่ประดับตกแต่งด้วยลำไย ผลิตผลลำไยและธิดาลำไย นับเป็นงานใหญ่งานหนึ่งของภาคเหนือ



:: อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นป่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ และสัตว์ป่า มีทิวเขาทอดยาวเหยียดสลับซับซ้อน ลำห้วยน้อยใหญ่หลายสิบสาขาไหลผ่านที่สำคัญ คือ ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะพื้นที่ป่า ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำปิง ตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีเนื้อที่ประมาณ 627,346 ไร่ หรือ 1,003.7536 ตารางกิโลเมตร

เนื่องจากคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวสภาจังหวัดลำพูน ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2521 เสนอแนะให้จังหวัดลำพูน จัดตั้งวนอุทยานขึ้นครอบคลุมบริเวณจุดท่องเที่ยวต่างๆ ในป่าสงวนแห่งชาติแม่หาด-ป่าแม่ก้อ ท้องที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เพื่อจะได้เข้าไปควบคุม และจัดระเบียบกิจกรรม การพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ในพื้นที่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งทางสำนักงานป่าไม้เขตเชียงใหม่ได้ให้ นายเฉลียว นิ่มนวล ไปสำรวจพื้นที่และมีความเห็นควรจัดเป็นวนอุทยานขึ้น จึงรายงานให้กรมป่าไม้ดำเนินการ ประกอบกับทางจังหวัดลำพูน ได้เสนอให้กรมป่าไม้จัดพื้นที่ป่าแม่หาด-แม่ก้อเป็นแหล่งสงวนพันธุ์สัตว์ป่า หรืออุทยานแห่งชาติเช่นกัน ตามรายงานการสำรวจของ นายจีรเดช บารมี เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 ประจำอำเภอลี้ ดังนั้นในเดือนธันวาคม 2522 กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่ง ที่ 2294/2522 ให้ นายสัมพันธ์ มิเดหวัน เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 ไปทำการสำรวจอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า พื้นที่ป่าแม่หาด-แม่ก้อ เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าสมบูรณ์ดี มีทิวทัศน์สวยงามดีและมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติ ที่สำคัญหลายแห่ง เช่น น้ำตกก้อหลวง ทุ่งหญ้า มีสัตว์ป่าชุกชุม เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานการสำรวจ ที่ กส 0708(มก)/51 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2523

กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้นำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 ให้กำหนดพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าแม่หาดและป่าแม่ก้อ ในท้องที่ตำบลดอยเต่า ตำบลโป่งทุ่ง อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ตำบลแม่ลาน ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และตำบลบ้านนา ตำบลยกกระบัตร อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เนื้อที่ประมาณ 626,875 ไร่ หรือ 1,003 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2524 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 98 ตอนที่ 115 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 32 ของประเทศ

อนึ่งในระหว่างดำเนินการจัดตั้งได้ใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติแม่หาด-แม่ก้อ ต่อมาเมื่อ ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กรมป่าไม้จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เพราะแนวเขตอุทยานแห่งชาติซีกซ้ายทั้งหมดครอบคลุมลำน้ำแม่ปิง ซึ่งเป็นเส้นน้ำสายใหญ่ และมีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นจุดเด่นที่สำคัญของอุทยานแห่งชาติ

ต่อมาได้มีการขยายเขตอุทยานแห่งชาติ ให้ครอบคลุมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1087 ในท้องที่ตำบลแม่ลาน และตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ระยะทาง 14.198 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 471 ไร่ หรือ 0.7536 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้สามารถควบคุม ป้องกัน และปราบปรามการลัดลอบตัดไม้ทำลายป่า ล่าสัตว์ และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 111 ตอนที่ 59 ก ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2537


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทอดแนวจากทิศเหนือในเขตพื้นที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ จรดทิศใต้บริเวณตอนเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ภูเขาส่วนใหญ่ มีความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 400-800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มียอดเขาที่สูงที่สุดชื่อ “ดอนห้วยหลาว” อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสูงประมาณ 1,238 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เทือกเขาเหล่านี้เป็นต้นน้ำลำธารของห้วยแม่หาด ห้วยแม่ก้อ ห้วยโป่งกะ ห้วยม่วง ห้วยขุนเม่น ห้วยไคร้ เป็นต้น ห้วยต่างๆ เหล่านี้จะไหลลงสู่ลำน้ำปิง ที่ทอดยาวตลอดแนวเขตพื้นที่ด้านทิศตะวันตก

สำหรับพื้นน้ำส่วนที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง เริ่มจากอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ไหลลัดเลาะตามหุบเขา โตรกผา ลงมาทางทิศใต้จนถึงตอนบนของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ความกว้างโดยเฉลี่ยของลำน้ำแม่ปิงประมาณ 500 เมตร ความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 30 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุดของลำน้ำแม่ปิงในเขตอุทยานแห่งชาติ อยู่ทางตอนใต้บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เขตอำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีความกว้างประมาณ 6 กิโลเมตร โดยทั่วไปชาวบ้านเรียกว่า “บ่อลม” และ “พระบาทห้วยห้าง”


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
โดยทั่วไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับท้องถิ่นใกล้เคียงของจังหวัดในภาคเหนือ แต่เนื่องจากลักษณะความสูงต่ำของภูมิประเทศ และการมีป่าปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ภูมิอากาศบางส่วนจึงแตกต่างไปจากบริเวณโดยรอบอยู่บ้าง โดยอุณหภูมิเฉลี่ยของพื้นที่ตอนบนของอุทยานแห่งชาติประมาณ 25 องศาเซลเซียส ในขณะที่อุณหภูมิตอนล่างของพื้นที่บริเวณเขื่อนภูมิพล และเขตจังหวัดตากจะสูงกว่าเล็กน้อย ประมาณ 27 องศาเซลเซียส ฝนตกในบริเวณทางตอนเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ มากกว่าทางตอนใต้ เดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีฝนตกมากที่สุด ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,060-1,184 มิลลิเมตรต่อปี


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าผลัดใบ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะตามเทือกเขาที่เป็นดินปนทรายและมีความสูงไม่เกิน 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนที่เหลือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นป่าดงดิบขึ้นอยู่เป็นพื้นที่แคบๆ ตามหุบเขาและริมลำห้วย

ป่าเต็งรัง เป็นสังคมพืชที่มีเนื้อที่มากที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง พบอยู่ทั่วไปทั้งในที่ราบ ตามลาดเขาสูงชัน และบนสันเขา ในระดับความสูงจากน้ำทะเล 450-1,000 พันธุ์ไม้ที่พบบ่อย ได้แก่ เต็ง รัง เหียง แดง มะขามป้อม พลวง กุ๊ก รกฟ้า มะกอกเกลื้อน แสลงใจ ผักหวาน ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เป้ง ปรง กวาวเครือ กล้วยไม้ดิน และหญ้าชนิดต่างๆ

ป่าเบญจพรรณ พบขึ้นไปทั่วทั้งในที่ราบและตามลาดเขา ในระดับความสูงจากน้ำทะเลระหว่าง 450-800 เมตร ชนิดไม้ที่สำคัญได้แก่ สัก แดง กระพี้เขาควาย มะกอกเกลื้อน กระพี้จั่น ประดู่ ตะคร้อ เก็ดแดง ตีนนก ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เสี้ยวป่า ไผ่รวก ไผ่ซางนวล ไผ่หนาม เป้ง กวาวเครือ ถั่ว ปอยาบ เป็นต้น ในบริเวณของป่าผลัดใบทั้งสองชนิดนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของ กระต่ายป่า เก้ง กวางป่า วัวแดง ไก่ป่า นกกระทาทุ่ง นกคุ่ม นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกหัวขวานตะโพกแดง นกขี้เถ้าใหญ่ นกกระจิบหญ้าสีข้างแดง แย้ ตะกวด และงูกะปะ เป็นต้น

ป่าดงดิบ ประกอบด้วยป่าดิบแล้งและป่าดิบชื้น พันธุ์ไม้ที่สำคัญได้แก่ ตะเคียนทอง มะค่าโมง กระบก มะกอก และสมอพิเภก เป็นต้น เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งหลบซ่อนตัวของหมีควาย กวางป่า วัวแดง ลิงลม ลิงวอก ชะนีมือขาว กระรอก นกกาฮัง นกแก๊ก นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ และนกเขียวคราม ในบริเวณทุ่งหญ้า เช่น ทุ่งกิ๊ก และทุ่งนางู ซึ่งเป็นที่ราบบนเนินเขา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 550 เมตร ดินเป็นดินปนทรายหรือลูกรัง มีความลึกพอสมควร มีไฟป่าเกิดเป็นประจำ มีไม้ยืนต้นขนาดเล็กขึ้นกระจายอยู่ห่างๆ ได้แก่ รักขาว รกฟ้า และสมอไทย ส่วนไม้พื้นล่างได้แก่ เป้ง หญ้าคา ถั่ว และกระเจียว เป็นต้น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น กระจ้อน กระแต อ้นเล็ก เก้ง หมูป่า เม่นใหญ่แผงคอสั้น ชะมด อีเห็น นกปรอดสวน นกปรอดก้นแดง นกกะติ๊ดขี้หมู เหยี่ยวขาว นกคุ่มอืด นกเขาใหญ่ นกกระปูดใหญ่ กิ้งก่าสวน จิ้งเหลนบ้าน คางคกบ้าน เขียดหนอง อึ่งอี๊ดต่างๆ เป็นต้น ตามบริเวณยอดเขา หลืบผา ถ้ำ และหน้าผาหินปูน เป็นที่อาศัยของเลียงผา กวางผา เม่นใหญ่แผงคอสั้น อ้นใหญ่ ลิงวอก ชะมด อีเห็น กระรอก ค้างคาว และเป็นที่สร้างรัง วางไข่ของเหยี่ยวชนิดต่างๆ และนางแอ่นตะโพกแดง ในบริเวณริมฝั่งน้ำ พื้นที่ชายน้ำ หรือในแหล่งน้ำเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของนากใหญ่ พังพอนกินปู เสือปลา เหี้ย นกอีล้ำ เป็ดแดง นกกระสานวล นกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางเขียว นกกวัก เต่าหวาย ตะพาบน้ำ งูลายสอ เขียดหนอง เขียดหลังเขียว ปลารากกล้วย ปลาก้าง ปลาดุก ปลาไหล เป็นต้น

สัตว์ป่ามีอยู่ชุกชุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามริมฝั่งแม่น้ำปิง เช่น เก้ง วัวแดง หมูป่า หมีควาย เลียงผา กวางผา เสือปลา ไก่ป่า ชะมดเช็ด ลิง ค่างเทา ชะนี หมาจิ้งจอก กระต่ายป่า กระรอก นอกจากนี้ ยังมีนกชนิดต่างๆ ทั้งนกประจำถิ่น และย้ายถิ่นอีกมากมายภายในเขตอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งยังเป็นแหล่งพันธุ์ปลาน้ำจืดที่สำคัญ เช่น ปลานิล ปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาบู่ ปลาแรด เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
ตู้ ปณ.18 อ. ลี้ จ. ลำพูน 51110
โทรศัพท์ : 0 5351 8060

รถยนต์
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนโดยมีทางแยกจากถนนพหลโยธิน บริเวณอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เข้าไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1087 (ลี้-ก้อ) โดยที่ทำการอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของถนนบริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 20-21

เนื่องจากภายในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่บางส่วนเป็นพื้นน้ำตามลำน้ำปิงยาวประมาณ 100 กิโลเมตร มีสภาพเป็นเกาะ แก่ง หน้าผา หินงอกหินย้อย ตามสองฝั่งแม่น้ำเป็นจำนวนมาก การเดินทางสามารถเดินทางได้จากอ่างเก็บน้ำดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านลำน้ำปิงไปยังอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก หรือจะเดินทางจากอำเภอสามเงา จังหวัดตากไปยังอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้


:: แหล่งท่องเที่ยว :: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
น้ำตกก้อหลวง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 22 กิโลเมตร รถยนต์สามารถเข้าไปถึง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างดีของชาวจังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง น้ำตกก้อหลวงเป็นน้ำตกหินปูนที่เกิดจากลำน้ำในห้วยแม่ก้อ ไหลผ่านหินดินดานเทาดำและหินทรายของหน้าผาที่มีความสูงต่างระดับกันลดหลั่นกันลงมามีทั้งหมด 7 ชั้น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีหินปูนและมีน้ำไหลตลอดปี จึงทำให้บริเวณน้ำตกมีหินงอกหินย้อยมากมาย และมีความสวยงามตามธรรมชาติ บริเวณน้ำตกยังมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สะอาดไม่มีสิ่งใดรบกวน ทำให้มีปลาชนิดต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย


ทุ่งกิ๊ก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 14 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ อยู่ด้านทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ภูมิประเทศเป็นที่ราบเนินเขาปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสลับป่าเต็งรัง มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำพวก เก้ง หมูป่า กระต่ายป่า ไก่ป่า และนกชนิดต่างๆ มากมาย ในช่วงฤดูแล้งดอกไม้ป่าหลายชนิดจะพากันบานเต็มทุ่งกิ๊ก สวยงามน่าชมมาก

บริเวณทุ่งกิ๊กนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบกิจกรรมดูนก ซึ่งมีนกที่พบเห็นได้ง่าย เช่น นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกหัวขวานเขียวป่าไผ่ นกกระทาทุ่ง ฯลฯ จากบริเวณทุ่งกิ๊กเข้าไปอีก 9 กิโลเมตร จะพบน้ำตกก้อน้อย ซึ่งเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ระหว่างทางจะพบกับดงเถาวัลย์ที่สวยงาม


ห้วยถ้ำ อยู่ในเขตท้องที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจุดชมวิวที่อยู่ริมฝั่งลำน้ำแม่ปิง ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติบริเวณอ่างเก็บน้ำดอยเต่าได้อย่างสวยงาม การเข้าถึงสะดวก สามารถรถยนต์สามารถเดินทางเข้าไปถึงบริเวณดังกล่าวได้


ผาดำ-ผาแดง มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยป่าธรรมชาติที่ยังไม่มีการทำลาย จากจุดดังกล่าวสามารถมองเห็นทัศนียภาพชัดเจนระยะไกล การเดินทางต้องใช้วิธีเดินเท้าเท่านั้น


ถ้ำยางวี อยู่ในเขตท้องที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก เป็นที่อาศัยของค้างคาว เม่น และเลียงผา การเดินทางเข้าไปชมต้องใช้ไฟฉายหรือส่องนำทางเข้าไป ไม่ไกลจากบริเวณถ้ำยางวีมีป่าที่มีลักษณะเป็นป่าสนเขา มีลักษณะธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามเรียกว่า “ป่าพระบาทยางวี” ซึ่งเหมาะแก่การอยู่ค่ายพักแรมของผู้รักธรรมชาติและการผจญภัย การเดินทางไปถึงได้เฉพาะการเดินเท้าเท่านั้น


แก่งก้อ เป็นบริเวณอ่างเก็บน้ำที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติได้จัดตั้งที่ทำการหน่วยพิทักษ์แห่งชาติที่ มป.2 (แก่งก้อ) ที่บริเวณแก่งก้อ และจัดสร้างที่พักเรือนแพไว้บริการ จากจุดที่พักแก่งก้อซึ่งอยู่ช่วงกลางระหว่างอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ผู้ไปเที่ยวสามารถนั่งเรือชมความงามของหน้าผาหินปูน ทิวทัศน์ที่สวยงามสองฟากฝั่ง และสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย เช่น น้ำตกอุ้มแป น้ำตกอุ้มปาด เกาะคู่สร้าง-คู่สม ผาเต่า ผาพระนอม ผาคันเบ็ด แก่งสร้อย ถ้ำแก่งสร้อย พระธาตุแก่งสร้อย ถ้ำช้างร้อง พระบาทบ่อลม เขื่อนภูมิพล เป็นต้น


ผาแมว เป็นผาสูงชันริมแม่น้ำปิงบรรยากาศสงบร่มรื่น เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่ดีอีกจุดหนึ่ง เหมาะสำหรับกิจกรรมไต่หน้าผา



:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ที่พักแรม/บ้านพัก บริเวณแก่งก้อ มีเรือนแพพัก 2 หลัง ไว้บริการนักท่องเที่ยว


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ค่ายเยาวชน มีอาคารค่ายเยาวชน สำหรับบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่บริเวณทุ่งกิ๊ก


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.



จังหวัดลำพูน :: การเดินทาง

ทางรถยนต์
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านดอนเมือง รังสิต แยกซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 32 ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท เข้าจังหวัดนครสวรรค์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดตาก ตรงเข้าสู่จังหวัดลำปาง แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 11 เข้าจังหวัดลำพูน รวมระยะทาง 670 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง

ทางรถประจำทาง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถประจำทางทั้งธรรมดาและปรับอากาศบริการทุกวันจากสถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 936-3660, 936-3666 (ลำพูน) โทร. (053) 511-173

บริการรถปรับอากาศวีไอพี
บริษัทอินทราทัวร์ (ผ่านประตูน้ำ) โทร. 208-0840, 208-0580 (ลำพูน) โทร. (053) 511-369
บริษัทสมบัติทัวร์ โทร. 282-3938, 281-4258 (ลำพูน) โทร. (053) 511-372

ผู้โดยสารต้องลงรถที่ดอยติ และต่อรถสองแถวเข้าไปลำพูนประมาณ 5 กิโลเมตร

ทางรถไฟ
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีรถไฟไปจังหวัดลำพูนทุกวัน รายละเอียดสอบถามได้ที่ โทร. 223-7010, 223-7020

ทางเครื่องบิน
โดยสารเครื่องบินสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แล้วต่อรถมาลำพูนอีกทอดหนึ่ง รายละเอียดสอบถามได้ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด โทร. 280-0060, 628-2000 ส่วนรถประจำทางสายเชียงใหม่-ลำพูน มีบริการทุกวัน รถออกที่หน้าประตูเมืองเชียงใหม่ และปลายทางที่พิพิธภัณฑ์เยื้องกับวัดพระธาตุหริภุญชัย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

ระยะทางจากจังหวัดลำพูนไปสถานที่ใกล้เคียง
ลำพูน-เชียงใหม่ 21 กิโลเมตร
ลำพูน-ลำปาง 71 กิโลเมตร
ลำพูน-ตาก 244 กิโลเมตร

ระยะทางภายในจังหวัด
- อ.บ้านธิ 26 กิโลเมตร
- อ.ป่าซาง 11 กิโลเมตร
- อ.แม่ทา 25 กิโลเมตร
- อ.บ้านโฮ่ง 40 กิโลเมตร
- อ.ทุ่งหัวช้าง 105 กิโลเมตร
- อ.ลี้ 105 กิโลเมตร


จังหวัดลำพูน :: สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

อำเภอบ้านธิ

วัดศรีดอนชัย
ตั้งอยู่หมู่ 10 ตำบลบ้านธิ ห่างจากอำเภอบ้านธิประมาณ 5 กิโลเมตร วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาหรือพระพุทธเฉลิมสิริราช (พระเจ้ายืน) สูง 59 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่สูงและใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ สร้างเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ.2536 โดยศรัทธาของประชาชนในประเทศ ประกอบกับเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสเสด็จครองราชย์ปีที่ 50 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

อ่างเก็บน้ำแม่ธิ
อยู่ที่หมู่ 9 บ้านดอยเวียง ห่างจากอำเภอบ้านธิประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้ำขนาด 5 ล้านลูกบาศก์เมตร กว้าง 470 เมตร ยาว 6 กิโลเมตร ใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตรและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงามเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

วัดพระธาตุดอยเวียง
ตั้งอยู่หมู่ 9 บ้านดอย เวียง ห่างจากอำเภอบ้านธิประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณวัดมีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1220 สมัยพระนางจามเทวี ตามจารึกใบลานภาษาพื้นเมืองเล่าว่า ขุนหลวงปาละวิจาได้มาตั้งเมืองที่นี่ สร้างพระวิหารและพระเจดีย์บนภูเขา วัดนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีเรื่องเล่ากันว่า ครั้งหนึ่งฝนแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนเลยนำพระองค์นี้มาแห่ขอฝน ปรากฏว่าฝนตก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อพระองค์นี้ว่า “พระเจ้าสายฝน” นอกจากนี้ยังมีองค์พระเจ้าดำดิน ซึ่งสร้างสมัยพระนางจามเทวี ประดิษฐานไว้บนเขา 1 องค์และข้างล่าง 1 องค์ หน้าตักกว้าง 80 นิ้ว บริเวณวัดมีความร่มรื่น เงียบสงบ

พระธาตุดอยห้างบาตร
อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านธิประมาณ 9 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านห้วยไซใต้ จะเห็นพระธาตุดอยห้างบาตรอยู่ทางขวามือ เป็นเจดีย์รูปทรงจัตุรมุขสีขาว มีฉัตรทองอยู่ยอดเจดีย์ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างเมื่อไร ตามตำนานเล่าว่า สมัยพุทธกาลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมายังดอยลูกนี้ และเตรียมเสด็จออกบิณฑบาต โปรดสัตว์ ซึ่งการเตรียมบาตรภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “ห้างบาตร” ปัจจุบันมีร่องรอยที่ทรงห้างบาตรอยู่เป็นหลุมลึกลงไปในหินดินดานและมีมณฑปครอบไว้ พระธาตุแห่งนี้อยู่บนยอดดอยที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามเบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา


อำเภอแม่ทา

อ่างเก็บน้ำแม่กึม
แยกจากทางหลวงสายท่าจัก-แม่ทาเข้าไป 3 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนในท้องถิ่น มีชื่อเสียงในด้านการตกปลาธรรมชาติ

หมู่บ้านแกะสลักบ้านทา
ไปตามถนนสายแม่ทา-ท่าจักรประมาณ 15 กิโลเมตร หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตไม้แกะสลักเป็นรูปแบบต่าง ๆ เช่น รูปคน รูปสัตว์ หรือแกะสลักเป็นเครื่องใช้ต่าง ๆ เครื่องประดับบ้าน

ถ้ำจำหม่าฟ้า
ไปตามถนนสายแม่ทา-ท่าจักรประมาณ 20 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่คงสภาพตามธรรมชาติอย่างสวยงาม

อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สภาพพื้นที่เป็นป่าเขาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 255 ตารางกิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยทางรถไฟจากลำพูนไปยังสถานีขุนตาล ระยะทาง 22 กม. แล้วต่อด้วยการเดินเท้าอีก 1 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ

สำหรับทางรถยนต์ที่ตัดเข้าสู่ดอยขุนตาลเริ่มต้นจากอำเภอแม่ทา โดยมีทางลูกรังแยกเลี้ยวขวาออกจากถนนพหลโยธิน ที่มุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร

อ่างเก็บน้ำแม่เส้า
อยู่ที่บ้านหลายท่า หมู่ 9 ตำบลทาสบเส้า ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่ทา ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตัวเขื่อนสูง 19 เมตร ยาว 271 เมตร ทางเดินขึ้นหน้าเขื่อนกว้าง 4 เมตร เก็บน้ำได้ประมาณ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างโดยศูนย์ปฏิบัติการ รพช. ภาคเหนือ ภายในบริเวณมีทิวทัศน์สวยงาม พร้อมศาลาพักร้อนให้นั่งพักผ่อน และรับประทานอาหารจานเด็ด คือ ปลาเผาทรงเครื่อง กุ้งเต้นและไก่ทอดทาชมพู


อำเภอป่าซาง

ตลาดสินค้าพื้นเมืองป่าซาง
ตั้งอยู่ริมถนนสายลำพูน-ป่าซาง ประมาณ 11 กิโลเมตร ตรงกันข้ามกับวัดป่าซางงาม เป็นที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง โดยเฉพาะผ้าฝ้าย ผ้าทอมือซึ่งมีแหล่งผลิตจากบ้านหนองเงือก อำเภอป่าซาง อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 4 กิโลเมตร

แหล่งทอผ้าบ้านหนองเงือก
ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเงือก ตำบลแม่แรง เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้ายทอมือและสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ส่งไปจำหน่ายยังแหล่งขายของที่ระลึกอื่น ๆ ในเมืองเชียงใหม่

วัดหนองเงือก
ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเงือก ต. แม่แรง ไปตามถนนสายลำพูน-ลี้ มีถนนลูกรังแยกจากถนนใหญ่ใต้สะพานบ้านมะกอกด้านตะวันตก เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีศิลปกรรมฝีมือช่างพื้นบ้าน สิ่งที่น่าสนใจประกอบด้วย ศิลปะปูนปั้นที่ซุ้มประตูของวัดและหอไตร ซึ่งเป็นศิลปกรรมแบบพม่า มีลักษณะเป็นตึกโบราณสองชั้น ชั้นล่างมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง

วัดป่าเหียง
ตั้งอยู่ที่บ้านกองงาม ต. แม่แรง ไปตามถนนสายสบทา-ท่าลี่ เลี้ยวขวาเข้าบ้านกองงามอยู่ใกล้กับโรงเรียนบ้านกองงาม ตามประวัติว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 2420 มีหอไตรอายุกว่าร้อยปี เป็นโบราณสถานที่น่าสนใจและมีความสวยงามมาก หอไตรนี้สร้างไว้กลางสระ (ปัจจุบันเป็นสระคอนกรีต) เป็นศิลปกรรมแบบล้านนา สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรแล้ว

แหล่งศิลาแลง
อยู่ในท้องที่บ้านพระบาท ต. มะกอก อ. ป่าซาง ศิลาแลงเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องที่จังหวัดลำพูน ที่ผลิตออกจำหน่ายแห่งเดียวในประเทศไทย ใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งบริเวณบ้าน แข็งแรงทนทานและสวยงาม

พระพุทธบาทตากผ้า
อยู่ห่างจากป่าซาง ตามถนนป่าซาง-ลี้ ราว 6.7 กม. แล้วมีทางแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กม. วัดนี้เป็นปูชนียสถานสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน ตามตำนานการสร้างวัดเล่าว่าพระพุทธองค์เคยเสด็จมาประทับที่นี่ แล้วทรงนำจีวรออกตากกับหน้าผาหินแถวนั้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังปรากฏเป็นรอยตารางคล้ายจีวรของพระอยู่จนทุกวันนี้ จากนั้นจึงทรงอธิษฐานเหยียบพระบาท ประดิษฐานรอยไว้บนลานผาลาดซึ่งเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน นอกจากนี้บนม่อนดอยเบื้องหลังวัดได้มีการสร้างพระเจดีย์ ซึ่งเป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย โดยมีบันไดนาคเชื่อมระหว่างเจดีย์บนท่อนดอยกับวัดพระธาตุตากผ้าที่เชิงดอย เมื่อถึงวันเดือนแปดเหนือ แรม 8 ค่ำ ซึ่งตรงกับวันถวายพระเพลิงพระสรีระของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีการสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประเพณีทุกปีในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6

ถ้ำเอราวัณ
ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต. นครเจดีย์ ห่างจากที่ว่าการอำเภอไปประมาณ 30 กม. ตามถนนสายป่าซาง-ลี้ ไปทางทิศใต้ราว 5 กม. แล้วแยกซ้ายมือที่บ้านแม่อาว ตามถนนสายแม่อาว-ห้วยไฟ 15 กม. ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามน่าชมเป็นจำนวนมาก


อำเภอบ้านโฮ่ง

วัดพระเจ้าตนเหลวง
อยู่ที่หมู่ 1 ตำบลเหล่ายาว เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ

หมู่บ้านกะเหรี่ยงพัฒนาห้วยหละ
อยู่ตำบลป่าพลู ตามทางหลวงสายลำพูน-ลี้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านโฮ่งไปทางทิศใต้ 12 กม. เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่ยังคงประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิมไว้ กิจกรรมที่น่าสนใจคือ การทอผ้าแบบดั้งเดิมโดยใช้เอวเป็นกี่ในการทอ

ถ้ำหลวง
อยู่ที่ ต. ป่าพลู ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านโฮ่งไปทางทิศใต้ประมาณ 15 กม. ตามถนนสายลำพูน-บ้านโฮ่ง ภายในมีช่องชั้นคูหางดงามมากมาย มีความยาวภายในถ้ำประมาณ 500 เมตร

น้ำตกวังหลวง
ตั้งอยู่ที่ ต. ป่าพลู ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านโฮ่งไปทางทิศตะวันตก 18 กม. ตามทางหลวงสายบ้านโฮ่ง-ลี้ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่กลางป่า มีน้ำตกไหลลดหลั่นกันอย่างสวยงาม 5 ชั้น


อำเภอลี้

วัดบ้านปาง
เป็นวัดซึ่งครูบาศรีวิชัยบวชเรียนเป็นวัดแรก ตั้งอยู่บนเนินเขาบ้านปาง หมู่ที่ 1 ตำบลศรีวิชัย ห่างจากตัวอำเภอลี้ 38 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเถิน-ลี้-เชียงใหม่ กิโลเมตรที่ 89 ภายในบริเวณวัดนอกจากจะร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีโบสถ์วิหารสวยงาม และยังมีพิพิธภัณฑ์ครูบาศรีวิชัยซึ่งเก็บของใช้ส่วนตัวของท่านไว้อย่างครบถ้วน นับแต่ สบง จีวร หมอน และเครื่องใช้อื่นๆ เช่น กระโถน แจกัน ฯลฯ เป็นต้น

พระธาตุเจดีย์ห้าดวง (เวียงห้าหลัง)
เป็นเจดีย์หมู่ 5 องค์ อยู่ในบริเวณที่สันนิษฐานว่า จะเป็นเวียงเก่าลี้ซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอลี้เพียง 2 กิโลเมตร

วัดพระบาทห้วยต้ม
เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ เป็นวัดประจำหมู่บ้านชาวเขาพระบาทห้วยต้ม ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลนาทราย ห่างจากตัวอำเภอไปทางใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร แยกจากทางหลวงหมายเลข 106 บริเวณกิโลเมตรที่ 46-47 เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณทางเข้ามีอนุสาวรีย์พระครูบาชัยวงศาตั้งอยู่ วัดพระบาทห้วยต้มมีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีสิ่งก่อสร้างทำจากศิลาแลงที่ขุดได้จากบ่อศิลาแลงด้านหลังของวัด และมีองค์พระธาตุที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม บูรณะก่อสร้างจากศรัทธาของบรรดาชาวกะเหรี่ยงที่มีต่อครูบาชัยวงศา พระอาจารย์ชื่อดังทางภาคเหนือ ชาวกะเหรี่ยงเหล่านี้นอกจากจะทำไร่ทำสวนแล้ว ยังมีอาชีพเป็นช่างฝีมือ ทอผ้า ทำสร้อยคอ และเครื่องเงินเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
เดิมชื่อว่าอุทยานแห่งชาติแม่หาด-แม่ก้อ ได้ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,003 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิงตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน โดยมีทางแยกจากทางหลวงมายเลข 106 (สายลำพูน-ลี้-ก้อ) ตรง กม. ที่ 47 เข้าไปตามทางหลวงหมายเลข 1087 เป็นทางลูกรังระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการอุทยานฯ



จังหวัดลำพูน :: เทศกาล งานประเพณี

ประเพณีสรงน้ำพระธาตุหริภุญชัย
เป็นประเพณีเก่าแก่ มีขึ้นในวันเพ็ญเดือนหก หรือที่ชาวลำพูนเรียกว่า วันแปดเป็งของทุกปี โดยมีพิธีสรงน้ำและงานสมโภชพระธาตุหริภุญชัย พระบาทสมเด็จพระเจาอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงพระธาตุเป็นประจำทุกปี นอกจากชาวลำพูนแล้ว ยังมีชาวจังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เข้าชมงานนี้อย่างหนาแน่น

งานเทศกาลลำไย
เป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวจังหวัดลำพูน ซึ่งจะจัดในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี ภายในงานจะมีขบวนแห่รถลำไยที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม การประกวดธิดาลำไย และการออกร้านค้า ประกวดผลิตผลทางการเกษตร และจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง

งานฤดูหนาวและกาชาดจังหวัดลำพูน
จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ณ สนามกีฬากลางจังหวัด ภายในงานมีนิทรรศการของส่วนราชการ การแสดงมหรสพ การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร

งานของดีศรีหริภุญชัย
เป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตผลทางการเกษตร และเกษตรแปรรูปนานาชนิด ซึ่งเกษตรกรและกลุ่มแม่บ้านของจังหวัดเป็นผู้ผลิต ในงานมีขบวนแห่ของกลุ่มแม่บ้าน การแสดงทางศิลปวัฒนธรรม การประกวดเรือนชนบท การออกร้านขายสินค้าหัตถกรรมในราคาย่อมเยา


จังหวัดลำพูน :: ของฝาก ของที่ระลึก

สินค้าพื้นเมือง

ตลาดป่าซาง
อำเภอป่าซาง ซึ่งอยู่ห่างจากลำพูนไปตามเส้นทางสายลำพูน-ป่าซาง 11 กิโลเมตร เป็นที่รวมของสินค้าพื้นเมืองภาคเหนือ มีร้านขายของที่ระลึกอยู่ตลอดสองฟากถนน

ผ้าไหมยกดอก
เป็นศิลปะการทอที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของลำพูน มีลวดลายเฉพาะแบบโบราณ แม้จะมีราคาสูงแต่ความงามของผืนผ้าไหมจากฝีมือหัตถกรรมท้องถิ่น ทำให้ผ้าไหมยกดอกของลำพูนยังได้รับความนิยมทั่วไปและส่งเป็นสินค้าออกต่างประเทศ

ผ้าฝ้ายทอมือบ้านหนองเงือก
มีรูปแบบการทอและลวดลายตกทอดมาจากบรรพบุรุษ สีสันสวยงามเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านเช่น ผ้าม่าน และตุง (ธงที่ใช้ในพิธีกรรมทางเหนือ)

งานไม้แกะสลัก
ที่เน้นให้เห็นลวดลายของเนื้อไม้ฉำฉา แกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ รูปตุ๊กตา เป็นภาชนะใช้สอยในครัวเรือนหรือของใช้ประดับตกแต่งบ้าน แหล่งผลิตอยู่ที่อำเภอแม่ทา ตามถนนสายท่าจักร-แม่ทา ซึ่งแต่ละบ้านล้วนประกอบอาชีพเป็นช่างแกะสลัก

ลำไย
ลำพูนเป็นแหล่งผลิตลำไยมากที่สุดในประเทศ แหล่งผลิตใหญ่ อยู่ที่บ้านหนองช้างคืน อำเภอเมือง พันธุ์ลำไยของที่นี่มีรสชาติหวานกรอบ ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะมีงานเทศกาลลำไย จำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของจังหวัด

หอมกระเทียม
ผลิตผลทางการเกษตรที่ปลูกมาก และจำหน่ายในราคาถูก


ร้านค้าจัดจำหน่าย

คุ้มต้นแก้ว
หลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย ต. ในเมือง อ. เมืองลำพูน โทร. (01) 511-0075 จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง

ร้านสุวรีย์
ตั้งอยู่เลขที่ 250 ถนนป่าซาง-บ้านโฮ่ง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โทร. 521106 จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง

บริษัท วี พี เอ็น คอร์เลคชั่น จำกัด
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 190/1 ถนนลำพูน-ริมปิง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โทร. 511457, 511419 จำหน่ายสินค้าประเภทดอกไม้ประดิษฐ์ด้วยกระดาษสา

ร้านนันทนีย์บาติก
ตั้งอยู่เลขที่ 245 หมู่ที่ 1 ถนนลำพูน-ลี้ ตำบลป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โทร. 521034 จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าบาติก

บ้านหนองเงือก
ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง

ร้านนันทขว้างลายคำ
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 330/1 หมู่ที่ 1 ถนนลำพูน-ลี้ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โทร. 521076, 521330 จำหน่ายสินค้าประเภทผ้าฝ้าย ผ้าพิมพ์ ผ้าบาติก

ร้านนันทขว้าง
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 330 ตลาดป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน โทร. 521001 จำหน่ายสินค้าประเภทผ้าฝ้าย


:: สารบัญเว็บไซท์ ::

:: ข้อมูล สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดลำพูน ::

สารบัญเว็บไซท์ > ท่องเที่ยว > ข้อมูล และสถานที่ท่องเที่ยว > ภาคเหนือ > ลำพูน

จำนวนเว็บไซท์ในหมวดนี้ : 14 [ แนะนำเว็บไซท์ได้ที่นี่ ]


จังหวัดลำพูน
แนะนำข้อมูลทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว จองโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท โรงแรม จังหวัดลำพูน แผนที่ การเดินทาง ร้านอาหาร เทศกาล งานประเพณี ของฝาก ประวัติความเป็นมา คำขวัญประจำจังหวัด
http://www.relaxzy.com/province/lampune/

จังหวัดลำพูน
ข้อมูลจังหวัดลำพูน ประวัติความเป็นมา สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูน ที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร การเ...
http://www.lamphun.go.th

จังหวัดลำพูน
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดลำพูน คำขวัญ ตราประจำจังหวัด ประวัติ อาณาเขต แผนที่ ข้อมูลแหล่งท่องเท...
http://travel.sanook.com/north/lumpoon/

กิ่งอำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน
แนะนำกิ่งอำเภอเวียงหนองล่อง ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของจังหวัดลำพูน ระยะทาง 45 กิโลเมตร ...
http://www.wiangnonglong.lamphun.go.th

อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน
แนะนำกิ่งอำเภอทุ่งหัวช้าง สถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน โดยมีที่ตั้งอยู่ระหว่...
http://www.thunghuachang.lamphun.go.th

อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
แนะนำข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอบ้านธิ ที่ตั้งอำเภอบ้านธิ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ...
http://www.banthi.lamphun.go.th

อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประจำอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน แนะนำอำเภอบ้านโฮ่ง เสนอแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอ...
http://www.banhong.lamphun.go.th

อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประจำอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน แนะนำอำเภอป่าซาง และแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอ
http://www.pasang.lamphun.go.th

อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประจำอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน แนะนำอำเภอและแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอ ที่ตั้งชื่อว่...
http://www.li.lamphun.go.th

อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประจำอำเภอเมืองลำพูน แนะนำอำเภอและแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอเมืองลำพูน ส่วนที่ว่า...
http://www.muang.lamphun.go.th

อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน
เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประจำอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน แนะนำอำเภอ และแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอ อำเภอแม่ทาแ...
http://www.maetha.lamphun.go.th

กัซซัน ขุนตาล กอล์ฟ แอนด์ รีสอร์ต
ดำเนินธุรกิจด้านโรงแรม และกอล์ฟ ตั้งอยู่เลขที่ 222 หมู่ที่ 3 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน 51140 ลำพูน
http://www.gassangolfthailand.com

อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำ...
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=46&lg=1

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภ...
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=57&lg=1



:: อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ::

:: ข้อมูลทั่วไป ::
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สภาพพื้นที่เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ และอุโมงค์ขุนตานซึ่งเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน มีเนื้อที่ประมาณ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร

ป่าดอยขุนตาลแห่งนี้เป็นป่า 1 ใน 14 แห่ง ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2502 ให้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ได้ประกาศให้ป่าดอยขุนตาลในท้องที่บางส่วนของตำบลท่าปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยขุนตาล ตามกฏกระทรวง ฉบับที่ 116 (พ.ศ. 2506) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 80 ตอนที่ 82 วันที่ 13 สิงหาคม 2506 เนื้อที่ 39,206.25 ไร่ และในท้องที่บางส่วนของตำบลเวียงตาล ตำบลวอแก้ว อำเภอห้างฉัตร และตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยขุนตาลตาม กฏกระทรวงฉบับที่ 359 (พ.ศ. 2511) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 85 ตอนที่ 109 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2511 เนื้อที่ 120,625 ไร่

กองบำรุง กรมป่าไม้ ได้มีคำสั่งที่ 40/2508 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2508 ให้นาย วรเทพ เกษมสุวรรณ ไปทำการสำรวจจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติต่อไป ต่อมากรมป่าไม้ได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 5/2517 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2517 ให้กำหนดป่าขุนตาลเป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงมีคำสั่งที่ 1160/2517 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2517 ให้นายนฤทธิ์ ตันสุวรรณ ไปดำเนินการสำรวจหาข้อมูล โดยยึดถือตามแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผลการสำรวจตามบันทึกลงวันที่ 1 ธันวาคม 2517 และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2518 ปรากฎว่า ป่าดอยขุนตาลมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าหลายชนิด เช่น พันธุ์ไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ กล้วยไม้ สมุนไพร สัตว์ป่านานาชนิด บรรยากาศที่ร่มรื่นที่เงียบสงบ และมีอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้ดำเนินการเพิกถอนป่าดอยขุนตาลจากการเป็นป่าสงวนแห่งชาติจัดตั้งป่าดอยขุนตาลเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าดอยขุนตาล ในท้องที่ตำบลท่าปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมืองลำปาง ตำบลเวียงตาล ตำบลวอแก้ว อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เนื้อที่ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 92 ตอนที่ 54 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2518 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 10 ของประเทศไทย


:: ลักษณะภูมิประเทศ ::
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาขุนตาล ซึ่งเป็นเทือกเขาที่แบ่งระหว่างที่ราบลุ่มเชียงใหม่ และที่ราบลุ่มลำปาง เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 325-1,373 เมตร จุดสูงสุดในเขตอุทยานแห่งชาติได้แก่ ดอยขุนตาล มีที่ราบอยู่เพียงเล็กน้อยอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งต้นน้ำส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของพื้นที่ และแม่น้ำวังซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตอุทยานแห่งชาติ ลำน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังได้แก่ น้ำแม่ค่อม น้ำแม่ต๋ำ น้ำแม่ไพร เป็นต้น ส่วนที่ไหลลงสู่น้ำแม่ทา และออกสู่แม่น้ำปิงในที่สุด ได้แก่ ห้วยแม่ป่าข่า ห้วยแม่ยอนหวายหลวง ห้วยทุ่งไผ่ ห้วยสองท่า ห้วยแม่โฮ่งห่าง เป็นต้น


:: ลักษณะภูมิอากาศ ::
พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ตั้งอยู่ภาคเหนือของประเทศ ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดมาจากผืนแผ่นดินใหญ่ของประเทศจีน ทำให้เกิดฤดูกาล 3 ฤดู คือ ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปีอยู่ในช่วง 1,050-1,290 มิลลิเมตร และต่อด้วยฤดูหนาว ซึ่งอยู่ในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และในช่วงเปลี่ยนฤดูมรสุม ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน จะเป็นฤดูร้อน ซึ่งอากาศจะร้อนอบอ้าว ก่อนที่จะเริ่มฤดูฝนต่อไปในเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 26 องศาเซลเซียส เฉลี่ยต่ำสุดในเดือนธันวาคม และสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน


:: พรรณไม้และสัตว์ป่า ::
สังคมพืชของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลสามารถจำแนกออกได้เป็น
ป่าดิบแล้ง ขึ้นครอบคลุมพื้นที่ที่มีความชื้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะตามหุบเขาหรือร่องห้วย เช่น หุบเขาแม่ตาลน้อย ห้วยแม่ไพร ห้วยแม่เฟือง ห้วยแม่ออน ห้วยหลวง และห้วยแม่ค่อม โดยมีระดับความสูงจากน้ำทะเลเฉลี่ย 500-1,000 เมตร ชนิดไม้ที่พบได้แก่ โพบาย ยาง ตะคร้ำ สัตตบรรณ ตะเคียน ยมหอม มะหาด มะม่วงป่า กระท้อน พระเจ้าห้าพระองค์ ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หวาย พืชในวงศ์ขิงข่า ผักกูด ผักหนาม และเฟิน เป็นต้น

ป่าดิบเขา ขึ้นปกคลุมพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ชนิดไม้ที่พบได้แก่ ก่อเดือย ก่อแป้น ก่อหัวหมู ก่อน้ำ มะก่อ ทะโล้ จำปาป่า แหลบุก สารภีป่า รักขาว ลำพูป่า ฯลฯ

ป่าสนเขา พบกระจายเป็นหย่อมเล็กๆ บริเวณ ย.2 ย.3 และ ย.4 ป่าสนเขาในบริเวณนี้เป็นป่าที่ปลูกขึ้นมากว่า 50 ปี ชนิดสนที่พบได้แก่ สนสามใบ นอกจากนี้ยังมีไม้อื่นขึ้นปะปนได้แก่ กางขี้มอด กระพี้เขาควาย มะขามป้อม มะกอกเกลื้อน ประดู่ตะเลน อ้อยช้าง แข้งกวาง เป็นต้น

ป่าเต็งรัง ขึ้นปกคลุมตามเชิงเขาโดยรอบทางทิศตะวันตก และทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีสภาพดินเป็นกรวดหรือดินลูกรัง มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ชนิดไม้ที่พบได้แก่ พลวง เหียง รักใหญ่ เก็ดแดง กาสามปีก รกฟ้า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เป้งเขา และหญ้าชนิดต่างๆ

ป่าเบญจพรรณ เป็นป่าที่ขึ้นระหว่างป่าเต็งรัง และป่าดงดิบ บริเวณเชิงเขาทั้งทางด้านตะวันตก และตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ มีไผ่ซางขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ชนิดไม้ที่พบได้แก่ มะเกลือเลือด แดง มะกอกเกลื้อน สมอพิเภก ตะแบกแดง และงิ้วป่า เป็นต้น

สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ประกอบด้วย เก้ง หมูป่า ชะมดแผงหางปล้อง อ้นเล็ก กระแตเหนือ กระรอกท้องแดง กระเล็นขนปลายหูสั้น กระจ้อน ค้างคาวขอบหูขาวกลาง หนูท้องขาว ไก่ป่า นกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางไฟหัวน้ำตาล นกคุ่มอกลาย นกปากซ่อมหางพัด นกชายเลนน้ำจืด นกเด้าดิน นกเขาไฟ นกอีวาบตั๊กแตนนกบั้งรอกใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกเค้ากู่ นกแอ่นตาล นกกะเต็นน้อย นกจาบคาเล็ก นกตะขาบทุ่ง นกตีทอง นกเด้าลมเหลือง นกเขนน้อยปีกแถบขาว นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า นกปรอดเหลืองหัวจุก นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ นกกินปลีอกเหลือง จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสอสวน งูเขียวหางไหม้ท้องเขียว คางคกบ้าน กบหนอง และอึ่งข้างดำ เป็นต้น


:: ที่ตั้งและการเดินทาง ::
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
หมู่ 8 ต.ทาปลาดุก อ. แม่ทา จ. ลำพูน 51140
โทรศัพท์ : 0 5351 8726

รถยนต์
อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ผู้ที่มาเยือนสามารถเดินทางทางรถยนต์ได้ 2 เส้นทาง คือ

- จากแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 สายลำปาง-เชียงใหม่ บริเวณกิโลเมตรที่ 15 - 16 บริเวณใกล้อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 28 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

- เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แยกขวาระหว่างกิโลเมตรที่ 46 - 47 บริเวณอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เป็นทางลาดยาง ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

หมายเหตุ เส้นทางภายในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเป็นถนนลาดยาง มีความลาดชันสูง บางช่วงมีโค้งหักศอก ควรขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะเวลากลางคืน รถบัสไม่สามารถขึ้นได้


รถไฟ
ตามเส้นทางรถไฟสายเหนือ โดยลงที่สถานีขุนตาลแล้วเดินประมาณ 1.3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล


:: แหล่งท่องเที่ยว ::
ตามยอดเขาสูงของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็นจุดเด่นที่เหมาะสำหรับการเดินศึกษาธรรมชาติ ชมทิวทัศน์ การพักค้างแรม เนื่องจากในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ดอยขุนตาลเป็นดอยยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีการใช้พื้นที่ตามจุดเหล่านี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ สำหรับการปฏิบัติการทางทหาร มีจุดยุทธศาสตร์อยู่ด้วยกัน 4 จุด ปัจจุบันรู้จักกันในนามของ ย.1 ย.2 ย.3 และ ย.4 ซึ่งย่อมาจากคำว่า จุดยุทธศาสตร์ที่ 1 – 4 นั้นเอง นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย


:: ด้านธรรมชาติที่สวยงาม ::
จุดยุทธศาสตร์ที่ 1 "ย.1" เดินทางเท้าจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1,500 เมตร จะถึง ย. 1 บริเวณนี้เป็นที่ตั้งบ้านพักรับรองของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เคยใช้เป็นที่ประทับแรม ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์ ปัจจุบันการรถไฟประเทศไทย เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว


จุดยุทธศาสตร์ที่ 2 "ย.2" ย.2 อยู่ห่างจาก ย.1 ประมาณ 800 เมตร บริเวณนี้มีสนเขาขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้บริเวณนั้นมีความร่มเย็นสวยงามตามธรรมชาติ ในอดีตบริเวณที่ใกล้ๆ ยอดเขาเคยเป็นแค็มป์ของบริษัททำไม้ ซึ่งมาหยุดกิจการช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ซื้อพื้นที่นี้เพื่อสร้างบ้านพัก และปลูกสวนดอกไม้ สวนผลไม้ เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัว มีสวนลิ้นจี่ สถานที่นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จไปพักผ่อนอิริยาบทที่เรือนรับรองนี้ 2 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2512 และ 2516


จุดยุทธศาสตร์ที่ 3 "ย.3" ห่างจาก ย. 2 ประมาณ 3,500 เมตร สภาพร่มรื่นด้วยป่าดิบเขา และมีนกป่าสวยงามให้ชมตลอดทาง เช่น นกสาลิกาเขียว นกพญาไฟใหญ่ นกปีกลายสก็อต นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ ฯลฯ บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่คณะมิชชันนารีอเมริกันคริสตจักร ได้มาสร้างบ้านพักท่ามกลางดงสนเขา ภายหลังจากที่มีการสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว และคณะมิชชันนารีจะเดินทางมาพักผ่อนในเดือนเมษายนเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันบ้านพักอยู่ในการดูแลของมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วไป


จุดยุทธศาสตร์ที่ 4 "ย.4" ย.4 อยู่ห่างจาก ย.3 มาประมาณ 1,000 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาขุนตาล ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสถานที่ส่องกล้องทางไกล ซึ่งเรียกว่า ม่อนส่องกล้อง สามารถมองเห็นทัศนียภาพตัวเมืองลำปางได้อย่างชัดเจน ก่อนถึงยอดเขานี้จะผ่านป่าธรรมชาติที่ร่มรื่น และเย็นสบายตลอดทาง


น้ำตกตาดเหมย น้ำตกนี้อยู่แยกจากเส้นทางด้านซ้ายมือ ระหว่างทางจาก ย. 2 ไป ย. 3 โดยต้องเดินทางลงไปในหุบเขาแม่ยอนหวาย ประมาณ 300 เมตร


น้ำตกแม่ลอง น้ำตกนี้อยู่ทางทิศใต้ของสถานีรถไฟขุนตาน ห่างไปประมาณ 10 กิโลเมตร โดยลงรถไฟที่สถานีแม่ตาลน้อย แล้วเดินเท้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีน้ำตกอยู่ตลอดปี สภาพป่าร่มเย็นตลอดทั้งปี



:: ด้านประวัติศาสตร์ ::
อุโมงค์ขุนตาน เป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในประเทศไทย คือ ยาว 1,352 เมตร มีสวนไม้ดอกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ศาลเจ้าพ่อขุนตาลและอนุสาวรีย์ ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์แก่ Emil Eisenhofer ชาวเยอรมัน ผู้ดำเนินการควบคุมการสร้าง


:: สิ่งอำนวยความสะดวก ::
ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 7 หลัง


สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง


ค่ายเยาวชน มีค่ายพักเยาวชนให้บริการ จำนวน 1 หลัง พักได้ 48 คน


บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

0 ความคิดเห็น: